ตรรกป่วยถามหาว่าอิบนุตัยมียะฮยึดฟัตวาอะฮลุลบิดอะฮไหม

 ตรรกป่วยถามหาว่าอิบนุตัยมียะฮยึดฟัตวาอะฮลุลบิดอะฮไหม

ท่านเจ้าเก่า อ้างว่า

ทวนคำถามอีกครั้ง

ชาวซุนนะห์ยุคใดสมัยใดที่ทิ้งฟัตวาปราชญ์ซุนนะห์ ไปยึดฟัตวาของพวกบิดอะห์ เหตุเพราะหาความถูกต้องไม่ได้ในหมู่ปราชญ์ซุนนะห์

การยกคำพูดของชัยคุ้ลอิสลามมาสนับสนุนการกระทำของตนเอง คือเท่ากับว่าชัยคุ้ลอิสลามอิบนุตัยมียะห์ก็เห็นแบบที่ตนเห็น

@@@

ยิ่งว่ายยิ่งลึก ขอบอกว่า ชัยคุลอิสลามอิบนุตัยมียะฮ ไม่ใช่นักตักลิดฟัตวาความคิดเห็นของปราชญ์ จะปราชญ์ชาวสุนนะฮหรือปราชญ์ชาวบิดอะฮ ก็ตามแต่ท่านพูดคือให้ยึดความจริง ไม่ว่าจะมาจากใครก็ตาม

กฏเกณฑ์เกี่ยวกับการยอมรับความจริงและปฏิเสธความเท็จ

القاعدة الثالثة الحق يقبل من أي جهة جاء الحق يقبل لكونه موافقًا للدليل، فلا أثر للمتكلم به في قبوله أو رفضه؛ ولهذا كان أهل السنة يقبلون ما عند جميع الطوائف من الحق، ويردون ما عندها من الباطل، بغض النظر عن الموالي منها أو المعادي.

กฏเกณฑ์ข้อที่สาม : ความจริง(ความถูกต้อง)จะได้รับการยอมรับจากด้านใดก็ตาม ที่ความจริงได้มา มันได้รับการยอมรับเพราะมันตรงกับหลักฐานดังนั้นคนที่พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ จึงไม่มีผลในการยอมรับหรือปฏิเสธ เพราะเหตุนี้ ชาวซุนนะฮ พวกเขายอมรับความจริงของทุกหมู่ชน และพวกเขาปฏิเสธความเท็จของพวกเขาโดยไม่คำนึงถึงผู้เป็นมิตร หรือศัตรู- ฟิกฮฮุลคิลาฟ วะอะษะรุฮูฟิลกอฎอ อะลัลอิรฮาบ หน้า 16

.............

ความจริงหรือความถูกต้อง คือวัดกันที่มันตรงกับหลักฐาน ใครก็ได้ที่นำความจริงที่ตรงกับหลักฐานก็จะต้องยอมรับจะมาจากมิตรหรือศัตรูก็ตาม

อิบนุตัยมียะฮ สอนให้ยึดหลักฐาน ส่วนตรรกที่ถามหาหลักฐานว่า อิบนุตัยมียะฮ เอาฟัตวาอะฮลุลบิดอะฮไหม? นี่คือคำถามตรรก

จึงถามบ้างว่า อิบนุตัยมียะฮ เอาฟัตวาที่ไม่มีหลักฐานของชาวสุนนะฮ มาสอนให้มุสลิมปฏิบัติบ้างไหม? ลองหามาซิ

สำหรับ อิบตัยมียะฮ ในมัจญมัวะฟะตาวา ซึ่งเป็นตำรารวบรวมฟัตวาอิบนุตัยมียะฮ มีตรงใหนที่ท่านสอนให้ปฏิบัติตามความคิดเห็นโดยปราชญ์จากหลักฐาน และมีสักประโยคไหมที่อิบนุตัยมียะฮ สอนว่า การยืนเว้นระยะห่างในแถวละหมาด คือสิ่งที่อนุญาต เพื่อป้องกันโรค มีไหม?

เราพยายามพูดเรื่องประเด็นให้ยึดหลักฐาน แต่สาลาฟีซิแย เอาตรรก มาผลิตวาทกรรมโต้แย้ง นี่หรือสะละฟีย์

อิบนุตัยมียะฮ (ร.ฮ)กล่าวว่า

الْحَمْدُ لِلَّهِ ، قَدْ ثَبَتَ بِالْكِتَابِ وَالسُّنَّةِ وَالْإِجْمَاعِ أَنَّ اللَّهَ سُبْحَانَهُ وَتَعَالَى فَرَضَ عَلَى الْخَلْقِ طَاعَتَهُ وَطَاعَةَ رَسُولِهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ , (وَلَمْ يُوجِبْ عَلَى هَذِهِ الْأُمَّةِ طَاعَةَ أَحَدٍ بِعَيْنِهِ فِي كُلِّ مَا يَأْمُرُ بِهِ وَيَنْهَى عَنْهُ إلَّا رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ)

มวลการสรรเสริญเป็นของอัลลอฮ แท้จริงได้ยืนยันในอัลกิตาบและอัสสุนนะฮและอัลอิจญมาอฺ ว่า แท้จริงอัลลอฮ(ซ.บ)ทรงกำหนดให้เป็นข้อบังคับ เหนือ มัคลูค ให้เชื่อฟังพระองค์ และเชื่อฟังรอซูลของพระองค์ ศ็อลฯ และไม่วาญิบ บนอุมมะฮนี้ ให้เชื่อฟังคนหนึ่งคนใดเป็นการเฉพาะ ในทุกๆสิ่งที่เขาสั่ง ด้วยมันและเขาห้ามจากมัน นอกจากรซูลลุลลอฮ ศ็อลฯ -มัจญมัวะอัลฟะตาวา 20/210

..............

จึงถามสะละฟีย์สิแยว่า

1.ใหนคือหลักฐานวาญิบให้ตามทุกฟัตวาของปราชญ์

2.ใหนคำสอนอิบนุตัยมียะฮให้ตามฟัตวาปราชญ์โดยปราศจากหลักฐาน

แปลก..ไม่มีหลักฐานแล้วสร้างวาทกรรมแถไหลไปไหลมา หาว่า เอาฟัตวาชาวบิดอะฮ และทิ้งฟัตวาชาวสุนนะฮ ขอบอกว่า ฟัตวาใดๆ ของใครก็ดูที่หลักฐาน ใหนหลักฐานรับรองการยืนห่าง 1.5 เมตร รอมาเป็นปี ไม่เขียนเป็นเรื่องเป็นราวมาสักที คงไม่กล้า สู้ ใช้วาทกรรมปลาไหลไปเรื่อยๆจะดีกว่า

อะสัน หมัดอะดั้ม

25/3/64

\

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์