ตอบโต้วาทกรรมสะละฟีย์ซิแย
สะละฟีย์ซิแย อ้างว่า
ใคร่ถาม ?
มีไหมในหน้าประวัติศาสตร์ ไม่ว่ายุคใดสมัยใดที่ชาวซุนนะห์ทิ้งฟัตวาของปราชญ์ซุนนะห์ แล้วหันไปอ้างอิงฟัตวาของพวกบิดอะห์ เช่น ฟัตวาของค่อวาริจญ์ ตะรีกัต หรือแม้แต่พวกอิควาน........
@@@
ชี้แจง
ข้างต้นคือวาทกรรม ของคนทิ้งหลักฐาน มายึดหลักแถ .....ขอถามหน่อยว่า มีไหมที่วาญิบให้ยึดยึดฟัตวา ที่ปราศจากหลักฐาน
ปราชญ์สอนให้ยึดหลักฐานไม่ว่าจะมาจากใครก็ตาม
การรับเอาความรู้ที่เป็นความจริง ที่มีหลักฐานรองรับ เขาไม่ได้พิจารณาที่ตัวบุคคลหรอกท่านเอ๋ย มาดูปราชญ์เขากล่าวไว้ดังนี้
ชัยคุลอิสลามอิบนุตัยมียะฮ (ร.ฮ)กล่าวว่า
والصواب: إنما هو الإقرار بما فيها وفي غيرها من موافقة الكتاب والسنة، والإنكار لما فيها وفي غيرها من مخالفة الكتاب والسنة…..
และที่ถูกต้อง คือ แท้จริง คือการยอมรับ ด้วยสิ่งที่ในมัน (ในแนวทางของพวกเขาและคำพูดของพวกเขา (พวกซูฟีฏอรีกัต) และ ในอื่นจากมัน จากสิ่งที่สอดคล้องกับอัลกิตาบและอัสสุนนะฮ และปฏิเสธ สิ่งที่ ในมัน( ในแนวทางของซูฟีย์ฏอรีกัต)และในอื่นจากมัน จากสิ่งที่ขัดแย้งกับอัลกิตาบและอัสสุนนะฮ-มัจญมัวอัลฟะตาวา 10/82
..............
อิบนุตัยมียะฮ (ร.ฮ) กล่าวว่าที่ถูกต้องให้ยอมรับ พวกแนวคิดซูฟีย์และอื่นจากซูฟีย์ จากสิ่งที่สอดคล้องกับอัลกิตาบและอัสสุนนะฮ และปฏิเสธสิ่งที่ไม่ตรงกับอัลกิตาบและอัสุนนะฮ
1.หลักฐาน ของ ดร. ฮากีม อัลมุฏ็อยรี ที่ค้านการยืนห่างในแถวละหมาด ที่ท่านสะละฟีย์หุกุมตามที่ตักลิดเขามา ว่า "เป็นเคาะวาริจญ์ร่วมสมัย แต่ ณ บัดนี้ไม่มีหลักฐานมาโต้แย้งแม้แต่อักษรเดียว
2. หลักฐานของชัยค์ อัลบาญีย์ ที่ค้านการยื่นห่างในแถวละหมาด ที่ ท่านสะละฟีย์ บอกว่า เป็นซูฟีย์ เป็นอะฮลุลบิดอะฮ แต่บัดนี้ท่านสะละฟีย์ซิแยไม่ได้นำหลักฐานมาโต้แย้งแม้อักษรเดียว มีแต่สร้างวาทกรรมดิสเครดิตหลักฐานยืนชิด ด้วยหลักแถ
อิบนุลก็อยยิม (ร.ฮ) กล่าวว่า
فإن كل طائفة منها؛ معها حق وباطل، فالواجب موافقتهم فيما قالوه من الحق، ورد ما قالوه من الباطل،
เพราะแท้จริงทุกๆกลุ่มจากพวกเขา(จากมัซฮับต่างๆที่กล่าวมา)และพร้อมกับพวกเขา มีความจริงและความเท็จ วาญิบ จะต้องเห็นฟ้องกับพวกเขาในความจริงที่พวกเขากล่าว และปฏิเสธ ความเท็จที่พวกเขากล่าวมัน -เฏารีกอัลฮิจญเราะตัยนฺ หน้า 385-387
..................
คือ ทุกกลุ่มคน นั้นมีผิดมีถูก จำเป็นจะต้องเห็นฟ้องกับคำพูดของพวกเขาที่เป็นความจริงและปฏิเสธคำพูดของพวกเขาที่เป็นความเท็จ
ณ เวลานี้ นายสะละฟีย์ซิแยไม่สามารถเอาหลักฐาน มาค้านคนที่ค้านการยืนห่างในแถวละหมาดญะมาอะฮ 1.5 เมตรและ 2 เมตร ได้แม้แต่อักษรเดียว นอกจากสร้างตรรกซื้อเวลารักษาหน้าตัวเอง
อีกอย่าง ขอถามว่าใหนหรือหลักฐานวาญิบต้องตามฟัตวา จากคำพูดสะลัฟและเคาะลัฟในประวัติศาสตร์
อิบนุตัยมียะฮ(ร.ฮ)กล่าวว่า
إذا نزلت بالمسلم نازلة فإنه يستفتي من اعتقد أنه يفتيه بشرع الله ورسوله من أي مذهب كان
เมื่อเหตุการณ์ใดๆเกิดขึ้นกับมุสลิม แท้จริงให้เขาขอคำฟัตวา กับผู้ที่เขาเชื่อว่า เขาผู้นี้ฟัตวา มัน ด้วยบัญญัติของอัลลอฮและรอซูลของพระองค์ จากมัซฮับใหนก็ตามที่เขาอยู่
ولا يجب على أحد من المسلمين تقليد شخص بعينه من العلماء في كل ما يقول، ولا يجب على أحد من المسلمين التزام مذهب شخص معين غير الرسول صلى الله عليه وسلم في كل ما يوجبه ويخبر به، بل كل أحد من الناس يؤخذ من قوله ويترك إلا رسول الله صلى الله عليه وسلم
และไม่จำเป็นแก่คนใด จากบรรดามุสลิม ให้ตักลิดตาม คนหนึ่งคนใดจากอุลามาอฺ(บรรดาปราชญ์) เป็นการเฉพาะ ในทุกๆสิ่งที่เขาพูด และไม่ว่าญิบ แก่คนใด จากบรรดามุสลิม สังกัดมัซฮับ คนหนึ่งคนใดเป็นการเฉพาะเจาะจง อื่นจากรซูลุลลอฮ ศฮ้ลฯ ในทุกสิ่งที่เขากำหนดให้เป็นวาญิบ และที่เขาบอกด้วยมัน ยิ่งไปกว่านั้น ทุกคนจากมนุษย์ คำพูดของเขา ถูกเอาและถูกทิ้ง ยกเว้นรซูลุลลอฮ ศ็อลฯ-มัจญมัวะอัลฟะตาวา 20/208-209
..............
กล่าวคือ
1.ไม่จำเป็นจะต้องตามปราชญ์ในทุกๆสิ่งที่เขาพูด เขากล่าว
2. ไม่วาญิบให้สังกัดมัซฮับคนใดเป็นการเฉพาะ
3. ผู้ที่จำเป็นต้องตามอย่างไม่มีเงื่อนไขคือรซูลุลลอฮ คือ ต้องตาม จะละทิ้งไม่ได้
จึงถามท่านสะละฟีย์ซิแยว่า ใหนหลักฐานให้วาญิบตามฟัตวา และใหนหลักฐานที่ห้ามยึดหลักฐานจากอัลกุรอ่านและอัสสุนนะฮ ที่ผู้อ้างเป็นซูฟีย์ ฏอรีกัต หรือ คนที่รัฐกล่าวหาว่าเป็นเคาะวาริจญ์ เพราะไม่ยอมให้รัฐจูงจมูก
อะสัน หมัดอะดั้ม
23/4/64
- มัจญมัวฟะตาวา 20/208-209
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น