วันเสาร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2564

แล้วใครสอนให้กองนบีไปตักลิดตามอุลามาอฺหรือ?


เห็นวาทกรรม "ใครสอนให้กองอุลามาอฺ " รู้สึกสมเพท ศาสนาสอนให้ตามอุลามาอฺ แต่ไม่ใช่ให้"เลีย" และคลั่งอุลามาอฺ จนดูถูกเหยียดหยามใครต่อใครที่ไม่เลี่ยอุลามาอฺ ว่า พวกกองอุลามาอ์
โง่ หรือ ปัญญานิ่ม ไม่รู้หรือว่า อุลามาอฺ ไม่ว่าจะมีความรู้ครอบจักวาล ก็ไม่มีสิทธิที่จะมากำหนดบทบัญญัติศาสนา ไม่มีสิทธิที่จะมาเปลี่ยนแปลหุกุมอัลลอฮและรอซูล ศ็อลฯ
ซิดดิก ฮะซัน ข่าน ปราชญชาวอินเดีย (ฮ.ศ 1248-1307 )กล่าวว่า

، ولم يجعل الله تعالى لاحد من العباد وإن بلغ في العلم أعلى مبلغ وجمع منه ما لا يجمع غيره أن يقول في هذه الشريعة بشئ لا دليل عليه من كتاب ولا سنة

และอัลลอฮตาอาลา มิทรงให้สิทธิ์ แก่บุคคลหนึ่งบุคคลใด จากบรรดาบ่าว ถึงแม้เขาจะมีวิชาความรู้ขั้นสูงสุดและได้รวบรวมวิชาการต่างๆมากมาย ซึ่งผู้อื่นจากเขาไม่สามารถจะรวบรวมได้ก็ตาม ที่เขาจะ กล่าวสิ่งหนึ่งสิ่งใดในศาสนานี้โดยไม่มีหลักฐาน แสดงบอกบนมันจากคัมภีร์และไม่มีหลักฐานจากสุนนะฮไม่ได้เด็ดขาด -อัตตะอฺลีกอตอัรเราะฎียะฮ ของ ซิดดิก ฮะซัน ข่าน 1/366 และ ตันวีรุลกุลูบ ฟี มุอามะละฮ อัลลามิลอฆูยูบ หน้า 222
.............

สรุปคือ
ผู้รู้ไม่ว่าระดับใหนก็ตามต้องอ้างหลักฐานจากอัลกุรอ่านและอัสสุนนะฮ เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะใช้ความคิดเห็นมาเป็นคำสอนศาสนา
การตามปราชญ์ คือตามในลักษณะของปราชญ์ ที่ถ่ายทอดคำสอนจากนบี ศ็อลฯ ไม่ใช่ยึดความคิดเห็นของปราชญ์มาเป็นศาสนาบัญญัติ แล้วใครไม่ตามฟัตวาปราชญ์ แล้วเที่ยวประชด ประชัน เย้ยหยัน เช่นข้างล่างนี้คือ ลิ้วล้อโต๊ะครูสายเลียปราชญ์ เยาะเย้ยว่า
1.โต๊ะครูสยามบางคนบอกเป็นบิดอะอฺ
2.โต๊ะครูสยามบางคนบอกเปลี่ยนวะฮี(หุก่ม)ของอัลลอฮฺ
3.ทั้งซาอุทำบิดอะอฺ ทั้งซาอุเปลี่ยนวะฮี(หุก่ม)ของอัลลอฮฺ
4.โต๊ะครูสยามเก่งจริงๆ นับถือเลยครับ
.............
โต๊ะครูสร้างวาทกรรมเก่ง ลูกศิษย์ก็ใช่ย่อย
โต๊ะครู เข้าใจว่า ตามอุลามาอฺ หรือเปล่า เข้าใจสถานะอุลามาอฺหรือเปล่า จึงสอนให้ลูกศิษย์เที่ยวมาสร้างวาทกรรมเยาะเย้ยข้างต้น
มีผู้ถามเรื่องการเลือกตามอิหม่ามทั้งสี่เป็นการเฉพาะ มาดูชัยค์บิน บาซ (ร.ฮ) ได้กล่าวแนะนำไว้ดังนี้
ليس لك أن تقلد واحدًا مطلقًا، بل عليك أن تسأل أهل العلم عما أشكل عليك، والتقليد لا يجوز بل يجب على طالب العلم أن ينظر في الأدلة الشرعية ويختار ما تقتضيه الأدلة سواء وافق الأئمة الأربعة أو لم يوافقهم
ไม่อนุญาตให้ท่านตักลิดตาม คนหนึ่งคนใด(จากอิหม่ามสี่) โดยสิ้นเชิง แต่ทว่า จำเป็นท่านจะต้องถามนักวิชาการ จากสิ่งที่สร้างความสงสัยให้แก่ท่าน และการตักลิด (การรับคำพูดคนอื่นโดยปราศจากหลักฐาน)นั้นไม่อนุญาต แต่ทว่า จำเป็นแก่นักศึกษา จะต้องพิจารณา ในบรรดาหลักฐานเกี่ยวกับศาสนบัญญัติ และเลือกสิ่งที่บรรดาหลักฐานต้องการมัน (คือตรงกับหลักฐาน) ไม่ว่าจะสอดคล้อง กับบรรดาอิหม่ามสี่ หรือไม่สอดคล้องกับพวกเขาก็ตาม -https://binbaz.org.sa/.../%D8%AD%D9%83%D9%85-%D8%AA%D9%82...

...........
แปลกเป็นครูบาอาจารย์ ตอบปัญหาออนไลน์กัน กันสนั่นจอ แต่สอนให้คนปิดตาตามปราชญ์ แทนที่จะหาต้นตอของฟัตวาปราชญ์ว่า เอาหลักฐานมาจากอายะฮใด และหะดิษบทใด กลับสอนให้ปิดตาเลียปราชญ์ คลั่งปราชญ์ และตักลิดตามความคิดเห็นปราชญ์ ทั้งที่ปราชญ์สะลัฟสอนให้ศึกษาแหล่งที่มาของทัศนะปราชญ์ว่า เขาเอาหลักฐานอะไรมาสนับสนุนทัศนะของเขา
เช่นอิหม่ามอบูหะนีฟะฮ (ร.ฮ)กล่าวว่า
"لا يحل لأحد أن يأخذ بقولنا، ما لم يعلم من أين أخذناه
ไม่อนุญาตให้แก่คนใด เอาคำพูดของเรา ตราบใดที่เขาไม่รู้ว่า เราเอามันมาจากใหน - เศาะเฮียะฟิกอัสสุนนะฮวะอะดิลละตุฮา ของอบูมาลิก กะมาล บิน อัสสัยยิด สาลิม หน้า 40 (บทนำ)-ดูสำเนาที่แนบมา
......
รู้สึกรำคาญกับวาทกรรมขยะ คลั่งปราชญ์ ที่ลิ่วหล้อโต๊ะครูเรี่ยราดตามหน้าเฟส มาดูถูก เยาะเย้ยเย้ยหยัน จึงชี้แจง ให้ผู้อ่านได้ศึกษา
อะสัน หมัดอะดั้ม
30/3/64

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น