อย่าอคติกับเรียนศาสนาทางสื่อออนไลน์
มีบางคนโจมตี การเผยแพร่ศาสนาทางโซเซียลเน็ตเวอร์ค (Social Network)ว่า มีการถกเถียงทะเลาะกัน พวกมารยาทไม่ดีเผยแพร่ศาสนา
ขอเรียนว่า ถ้าเราไม่ล้าหลังและตกยุค และงี้เง้า เราจะพบว่าคนทั่วโลกใช้สื่อออนไลน์ ผ่านโทรศัพท์ โน้ตบุค เป็นจำนวนมาก
โดยเฉพาะประเทศไทยมีข้อมูลดังนี้
บัญชีโซเชียลมีเดียของประเทศไทย
ในเดือนมกราคม 2020 มีบัญชี social media 52 ล้านบัญชี
เพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบัญชี (+4.7%) ข้อมูลเมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2019
คนไทยเข้าถึงอินเตอร์เน็ตและมีบัญชีโซเชียลคิดเป็น 75%
คนไทยเล่นโซเชียลเฉลี่ยวันละเกือบ 3 ชั่วโมง
https://www.thinkaboutwealth.com/socialmediastat.../
ปัจจุบัน การเผยแพร่ศาสนาอิสลามทั่วโลกใช้สื่ออินเตอร์เน็ต ทุกๆประเทศ จะเห็นได้จากเว็บไซด์เกี่ยวกับศาสนาอิสลาม และเฟสบุค ตำราต่างๆ เกี่ยวกับศาสนาอิสลามที่มีชื่อเสียง ทุกวิชาจะถูกนำมาบรรจุไว้ ในรูปของ Ebook เกือบจะทุกเล่ม การตอบโต้การบิดเบือนศาสนา และการถกเถียงกันในประเด็นต่างๆ ของศาสนา มีกันทุกประเทศ มันเป็นปกติ
ปัจจุบัน คนที่เรียนศาสนาในโลกโซเซียล มากกว่าคนที่เรียนศาสนาตามมัสยิด เสียอีก เพราะฉะนั้นอย่าโลกสวยแอนตี้การเผยแพร่ศาสนาทางอินเตอร์เน็ต หรือ Social Network
สมัยก่อนบรรดานักวิชาการถกเถียง ตอบโต้เรื่องศาสนากันผ่านการเขียนตำรา และสมัยนี้เป็นยุคการสื่อสารไร้พรมแดนมีการเผยแพร่ศาสนาทางอินเตอร์เน็ต มันเป็นเรื่องปกติ อย่าได้หล้าหลังไดโนเสาร์เต่าพันปีเลย
ทำไม่การถกเถียงกันเรื่องศาสนาผ่านสื่อออนไลน์
ก็เพราะปัจจุบัน ศาสนาถูกบิดเบือนเพื่อหาผลประโยชน์ทางดุนนยา และรักษาผลประโยชน์ทางดุนยาและมีการขายศาสนาเพื่อแลกกับดุนยามากขึ้นในหมู่ผู้รูศาสนา
ชัยค์อิบนุอุษัยมีน (ร.ฮ) ได้แบ่งผู้รู้ เป็น 3 จำพวกคือ
1.ผู้รู้ศาสนา(عالم ملة ) คือผู้รู้ที่ยืนหยัดอยู่บนคำสอนศาสนา เผยแพร่ศาสนาตามคำสอน ไม่ว่าใครจะชอบหรือไม่ชอบก็ตาม
2.ผู้รู้แห่งรัฐ(عالم دولة ) คือผู้รู้ที่ยอมบิดเบือนศาสนาเพื่อเอาใจผู้มีอำนาจปกครอง และต้องการแสวงหาตำแหน่งทางดุนยา
3.ผู้รู้มวลชน(عالم امة ) คือผู้รู้ที่บิดเบือนชงศาสนาเพื่อเอาใจสังคม เอาใจมวลชน เพื่อตนเองจะได้รับการยอมรับ ซึ่งจะนำมาซึ่งผลประโยชน์ทางดุนยา
เพราะฉะนั้น การถกเถียงกันในเรื่องศาสนา การชี้แจงการบิดเบือนศาสนาจึงต้องมีขึ้นผ่านโลกโซเซียลเน็ตเวอร์ค จึงเป็นเรื่องปกติ การนิ่งเฉยกับการบืดเบือนศาสนาและ การปกปิดความจริง คือชัยฏอนใบ้
อบูอาลี อัดดักก็อก อัลนัยสะบูรีย์ ปราชญ์มัซซฮับชาฟิอี (เสียชีวิต ฮ.ศ 406) กล่าวว่า
الساكت عن الحق شيطان أخرس، والمتكلم بالباطل شيطان ناطق،
ผู้ที่นิ่งเงียบจากการความจริง คือ ชัยฏอนใบ้ และผู้ที่พูดด้วยความเท็จคือ ชัยฏอนพูดได้ -จากหนังสือ เอียะลามุลหาอิฎ บิญะวาซ มัสสินมุศฮับ ลิลญุนุบิวัลฮาอิฏ บทนำหน้า 9
พวกเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ เอาตัวรอดปล่อยให้ศาสนาถูกบิดเบือน ปล่อยให้สังคัมไม่เข้าใจศาสนา คือ ชัยฏอนใบ้
อะสัน หมัดอะดั้ม
29/3/64
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น