ศาสนาและสังคมแตกแยกเพราะมาเฟียในวงการศาสนา
เป็นครูบาอาจารย์สอนศาสนา อยากดัง อยากให้ใหญ่คับฟ้า ให้อยู่เหนื่อคนอื่น เหยียบหัวครูรุ่นเก่าเพื่อขึ้นที่สูง แล้วทำตนเป็นมาเฟีย หรือ ก็อดฟาเธอร์ สร้างศิษย์ให้หลงใหลและคลั่งใคล้ตนเอง แล้วคอยขัดขวาง ทำร้าย ทำลายผู้อื่นที่เห็นต่างกับตน นี่คือความหายนะในวงการศาสนา
การหลงใหลคลั่งใคล้ตัวบุคคลจนเลยเถิด คือความหายนะเช่นกัน
อิบนุอับบาส (ร.ฮ) กล่าวว่า ท่านนบี ศ็อลฯกล่าวว่า
إِيَّاكُمْ وَالْغُلُوَّ فِي الدِّينِ فَإِنَّمَا أَهْلَكَ مَنْ كَانَ قَبْلَكُمْ الْغُلُوُّ فِي الدِّينِ
พวกท่านจงห่างใกลความสุดโต่งในเรื่องศาสนา เพราะแท้จริงแล้วความสุดโต่งในเรื่องศาสนานี่แหละ ที่สร้างความพินาศแก่ประชาชาติก่อนหน้าพวกท่าน" (บันทึกโดยอัตติรมิซีย์ หะดีษเลขที่ 3057 โดยเชคอัลบานีย์และท่านอื่นๆ ระบุว่าเป็นหะดีษเศาะฮีหฺ)
คณะกรรมการถาวรเพื่อการฟัตวาแห่งซาอุฯได้กล่าวว่า:
" الغلو في محبة الشخص وتعلق القلب به لذاته حتى لا يستطيع فراقه والإعجاب به إلى حد الغرام ليس من المحبة في الله ، بل ذلك خلل في التوحيد
"ความสุดโต่งในความรักที่มีต่อผู้ใดผู้หนึ่ง ที่นำมาซึ่งความผูกพันในตัวเขาคนนั้นกระทั่งไม่สามารถแยกจากเขาได้ หรือถึงขั้นหลงใหลได้ปลื้มและเพ้อฝัน เช่นนี้ไม่นับว่าเป็นความรักเพื่ออัลลอฮฺ แต่เป็นความบกพร่องในหลักเตาฮีดต่างหาก" (จากหนังสือ ฟะตาวา อัลลัจญะนะฮฺ อัดดาอิมะฮฺ 1/472)
ชัยคุลอิสลามอิบนุตัยมียะฮ(ร.ฮ) กล่าวว่า
"وكثير من الناس فيهم من الغلو في شيوخهم من جنس ما في الشيعة من الغلو في الأئمة
จำนวนมากจากมนุษย์ ในหมู่พวกเขา คือส่วนหนึ่งจากการเลยเถิด (คลั่งใคล้)ในบรรดาอาจารย์ของพวกเขา จากชนิดของสิ่งที่อยู่ในชีอะฮ จากการเลยเถิด(คลั่งใคล้)ในบรรดาอิหม่าม - มินฮาจญอัสสุนนะฮ 6/430
...................
มีคนบางจำพวก ยกย่องอาจารย์ตัวเองว่า เก่งรอบด้าน ไม่มีใครเทียบ ถ้าไม่สอนในแนวอาจารย์ตนเองจะไม่ขอเอาความรู้ อะไรประมาณนี้ นี่คือพฤติกรรมคลั่งอาจารย์ เหมือนชีอะฮคลั่งอิหม่าม
ถ้าไม่แอนตี้ความสุดโต่งในการคลั่งใคล้ครูอาจารย์ และไม่แอนตี้ครูมาเฟีย
สังคมก็จะแตกแยก เป็นศัตรูกันในเรื่องศาสนาไม่จบไม่สิ้น
อะสัน หมัดอะดั้ม
24/3/64
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น