วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2562

การอาบน้ำญะนาบะห์ หรือที่เรียกว่า اَلْغُسْلُ ( อัลฆุสลุ ) เป็นการอาบน้ำตามข้อบัญญัติของศาสนาเนื่องจากเหตุดังต่อไปนี้คือ

การอาบน้ำญะนาบะห์ หรือที่เรียกว่า اَلْغُسْلُ ( อัลฆุสลุ ) เป็นการอาบน้ำตามข้อบัญญัติของศาสนาเนื่องจากเหตุดังต่อไปนี้คือ
1 – เหตุที่เป็นวาญิบ อันได้แก่ การหลั่งอสุจิ, การมีเพศสัมพันธ์, หมดประจำเดือน, หมดน้ำคาวปลา เพราะเมื่อมีเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นก็ไม่สามารถ ละหมาด,ฎอวาฟ, เอียะติกาฟ อ่านอัลกุรอ่านได้ เพราะฉะนั้นบางคนจึงเรียกการอาบน้ำเนื่องจากเหตุดังกล่าวว่า การอาบน้ำวาญิบ
2 – เหตุที่เป็นซุนนะห์ อันได้แก่ ก่อนละหมาดวันศุกร์, ก่อนละหมาดอีดทั้งสอง, ก่อนการครองเอียะห์ราม, หลังการมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้ง,หลังจากอาบน้ำมัยยิต,หลังการเข้ารับอิสลาม และหลังจากเป็นลมหมดสติ ซึ่งเรามักจะเรียกการอาบน้ำจากเหตุดังกล่าวนี้ว่า การอาบน้ำซุนนะห์
และไม่ว่าการอาบน้ำนี้จะมีเหตุมาจากวาญิบ หรือซุนนะห์ ก็ตาม แต่ก็เป็นการอาบตามคำสั่งใช้และคำสั่งสนับสนุนของศาสนา ดังนั้นจึงมีวิธีการอาบโดยเฉพาะ
วิธีการอาบน้ำญะนาบะห์
1 – กล่าว บิสมิ้ลลาห์ และล้างมือทั้งสองข้าง
2 – ใช้มือซ้ายล้างอวัยวะเพศให้เกลี้ยง
3 – อาบน้ำละหมาดโดยยังไม่ต้องล้างเท้า
4 – เอาน้ำราดศีรษะ 3 ครั้ง และขยี้ให้ทั่วถึงรากผม
5 – เอาน้ำราดตัวโดยเริ่มจากทางขวาก่อนต่อมาเอาน้ำราดตัวทางด้านซ้าย
6 – ชำระล้างร่างกายให้ทั่วโดยเพราะตามซอก เช่น ใบหู,สะดือ,ซอกนิ้วมือนิ้วเท้า
7 – ขยับออกจากที่เดิมเล็กน้อย ล้างเท้าขวา 3 ครั้ง และล้างเท้าซ้าย 3 ครั้ง

การอาบน้ำวาญิบหรืออาบน้ำซุนนะห์ มีวิธีอาบเหมือนกัน แต่เหตุของการอาบต่างกันเท่านั้นเอง และเมื่อเสร็จสิ้นการอาบน้ำญะนาบะห์แล้วก็ไม่จำเป็นต้องอาบน้ำละหมาดอีก ถือว่าเขามีน้ำละหมาดแล้ว ดังมีรายงานจากท่านหญิงอาอิชะห์ว่า
كَانَ رَسُوْلُ اللهِ صَلىَ اللهُ عَليْهِ وَسَلَّمَ لاَ يَتَوَضَّأُ بَعْدَ الْغُسْل
“ท่านรอซูลไม่ได้อาบน้ำละหมาดอีกหลังจากอาบน้ำญะนาบะห์” บันทึกโดยอิหม่ามมุสลิม
เครดิต เพจ ฮาดิษ ซอฮิฮ์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น