60252: คำตัดสินของอากีกะห์ สำหรับเด็กทารกชายคืออะไร?
มวลการสรรเสริญเป็นของอัลลอฮ์.
อากีกะห์อ้างถึงการพลีที่ถูกเสนอในนามของเด็กเกิดใหม่ในวันที่เจ็ดหลังเกิด.
อากีกะห์เป็นที่รู้จักในหมู่ชาวอาหรับในยุคยาฮีลียะห์. อัลมาวารดี ได้กล่าว:'อากีกะห์อ้างถึงแกะตัวหนึ่งที่ถูกเชือดในวาระของการเกิด; มันเป็นธรรมเนียมปฏิบัติโดยชาวอาหรับก่อนอิสลามมา.
อากีกะห์เป็นที่รู้จักในหมู่ชาวอาหรับในยุคยาฮีลียะห์. อัลมาวารดี ได้กล่าว:'อากีกะห์อ้างถึงแกะตัวหนึ่งที่ถูกเชือดในวาระของการเกิด; มันเป็นธรรมเนียมปฏิบัติโดยชาวอาหรับก่อนอิสลามมา.
อัลฮาวี อัลกาเบียร,15/126
มีฮาดิษซอเฮียะจากท่านนบีมูฮัมมัด ﷺ ซึ่งยืนยันว่าอากีกะห์ถูกบัญญัตในอิสลาม เช่น ดังต่อไปนี้:
1 - มันถูกรายงานว่าบุรัยดะห์(รอดียัลลอฮูอันฮู)ได้กล่าว: ในยุคยาฮีลียะห์,ถ้าเด็กชายเกิดในคนหนึ่งของเรา,เราจะเชือดแกะตัวหนึ่งและป้ายศรีษะของเขาด้วยเลือดของมัน. เมื่ออัลลอฮ์นำอิสลามมา,เราจะเชือดแกะตัวหนึ่งและโกนศรีษะ(ของเด็ก)และป้ายมันด้วยซาฟรอน.
รายงานโดยอาบูดาวูด,2843; ระดับซอเฮียะโดยขัยคฺอัลบานีในซอเฮียะอาบีดาวูด.
ซาฟฟรอนเป็นชนิดของน้ำหอม
2 - มันถูกรายงานจากซัลมาน อิบนุ อามีร (سلمان بن عامر) (รอดียัลลอฮูอันฮู)ว่าท่านนบีมูฮัมมัด ﷺ ได้กล่าวว่า: "สำหรับเด็กผู้ชายควรมี อากีกะห์ ด้วยการหลั่งเลือด(เชือดสัตว์ เช่น แกะ) สำหรับเขาและลบสิ่งสกปรกออกจากเขา.''
รายงานโดยอัลบุคอรี,5154
มันถูกกำหนดให้เชือดแกะสองตัวสำหรับเด็กชายเกิดใหม่และแกะตัวเดียวสำหรับเด็กหญิง,ตามที่ถูกกล่าวในฮาดิษซอเฮียะ เช่นดังต่อไปนี้:
1 – มันถูกรายงานจาก
อุมม์ คาราซ (أم كرز)
ที่เธอได้ถามท่านรอซูลุลลอฮ์ﷺ เกี่ยวกับ อากีกะห์ และท่านได้กล่าวว่า:"สำหรับเด็กชาย,แกะสองตัว,และสำหรับเพศหญิง แกะหนึ่งตัว,และไม่เป็นไรถ้ามันเป็นตัวเมียหรือตัวผู้."
อุมม์ คาราซ (أم كرز)
ที่เธอได้ถามท่านรอซูลุลลอฮ์ﷺ เกี่ยวกับ อากีกะห์ และท่านได้กล่าวว่า:"สำหรับเด็กชาย,แกะสองตัว,และสำหรับเพศหญิง แกะหนึ่งตัว,และไม่เป็นไรถ้ามันเป็นตัวเมียหรือตัวผู้."
รายงานโดยตีรมีซี,1516,ผู้ที่กล่าวว่านี่เป็นฮาดิษซอเฮียะฮาซัน; และโดยนาซาอี,4217; ระดับซอเฮียะโดยอัลบานีใน อิรวา อัลฆอลีล,4/391
2 - มันถูกรายงานจากอาอีชะห์(รอดียัลลอฮูอันฮา)ว่าท่านรอซูลุลลอฮ์ ﷺ ได้สั่งพวกเขา(ให้เชือด)แกะสองตัวในชนิดเดียวกันสำหรับเด็กชาย และหนึ่งตัวสำหรับเด็กหญิง.
รายงานโดยตีรมีซี,1513,ผู้ที่กล่าวว่ามันเป็นฮาดิษซอเฮียะฮาซัน; ระดับซอเฮียะโดยอัลบานีในซอเฮียะอัลตีรมีซี.
ฮาดิษเหล่านี้ชัดเจนที่แสดงว่ามีความแตกต่างระหว่างเพศชายและเพศหญิงเกี่ยวกับอากีกะห์.
อิบนุ ก๊อยยิม(รอฮีมาฮุลลอฮ์)ได้อธิบายความแตกต่างนี้ระหว่างเพศชายและเพศหญิง
ดังต่อไปนี้:
ดังต่อไปนี้:
นี่เป็นหลักการพื้นฐานของชารีอะห์, เพราะอัลลอฮ์ทรงให้ความแตกต่างระหว่างเพศชายและเพศหญิงและให้หญิงครึ่งหนึ่งมีส่วนแบ่งของชายในแง่ของการรับมรดก,ดียะห์(diyah), ประจักษ์พยาน,การปลดปล่อยทาสและ อากีกะห์,ตามที่มีรายงานโดยตีรมีซีในฮาดิษหนึ่งซึ่งเขาให้สถานะซอเฮียะจากอุมามะห์จากท่านรอซูลุลลอฮ์ﷺ ,ผู้ที่กล่าวว่า:"มุสลิมใดที่ปล่อยมุสลิมคนหนึ่งให้เป็นอิสระ,เขาจะได้รับการไถ่บาปจากไฟนรก,และแขนขาของทาสแต่ละคนจะพอเพียงสำหรับแขนขาของเขา. มุสลิมชายคนใดที่ปล่อยมุสลิมหญิงสองคนเป็นอิสระ,พวกเขาจะเป็นสำหรับไถ่บาปของเขาจากไฟนรก,และแต่ละแขนขาของพวกเขาจะพอเพียงสำหรับแขนขาของเขา.
"รายงานโดยอัลตีรมีซี,1547.
การแสดงให้เห็นความแตกต่างกันนี้เกี่ยวข้องกับอากีกะห์ที่จะนำไปใช้ถึงแม้ว่าจะไม่มีรายงานซุนนะห์ที่ชัดเจนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้น, ดังนั้นแล้วเมื่อซุนนะห์ถูกกำหนดอย่างชัดเจนและแสดงให้เห็นว่ามีความแตกต่างกันนี้? จบอ้าง.
"รายงานโดยอัลตีรมีซี,1547.
การแสดงให้เห็นความแตกต่างกันนี้เกี่ยวข้องกับอากีกะห์ที่จะนำไปใช้ถึงแม้ว่าจะไม่มีรายงานซุนนะห์ที่ชัดเจนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้น, ดังนั้นแล้วเมื่อซุนนะห์ถูกกำหนดอย่างชัดเจนและแสดงให้เห็นว่ามีความแตกต่างกันนี้? จบอ้าง.
ตุฮฺฟาต อัลเมาดู๊ด,หน้า 53,54
อิบนุ ก๊อยยิม(รอฮีมาฮุลลอฮ์) ได้กล่าวเช่นกันว่า:
อัลลอฮ์ผู้ทรงรุ่งโรจน์และได้รับการสรรเสริญ ได้ทรงโปรดปรานชายเหนือหญิง,ตามที่พระองค์ทรงตรัสในสูเราะฮฺ อาล อิมรอนโองการที่ 36
فَلَمَّا وَضَعَتْهَا قَالَتْ رَبِّ إِنِّي وَضَعْتُهَا أُنثَىٰ وَاللَّهُ أَعْلَمُ بِمَا وَضَعَتْ وَلَيْسَ الذَّكَرُ كَالْأُنثَىٰ وَإِنِّي سَمَّيْتُهَا مَرْيَمَ وَإِنِّي أُعِيذُهَا بِكَ وَذُرِّيَّتَهَا مِنَ الشَّيْطَانِ الرَّجِيمِ
"....และใช่ว่าเพศชายนั้นจะเหมือนกันเพศหญิงก็หาไม่...."
فَلَمَّا وَضَعَتْهَا قَالَتْ رَبِّ إِنِّي وَضَعْتُهَا أُنثَىٰ وَاللَّهُ أَعْلَمُ بِمَا وَضَعَتْ وَلَيْسَ الذَّكَرُ كَالْأُنثَىٰ وَإِنِّي سَمَّيْتُهَا مَرْيَمَ وَإِنِّي أُعِيذُهَا بِكَ وَذُرِّيَّتَهَا مِنَ الشَّيْطَانِ الرَّجِيمِ
"....และใช่ว่าเพศชายนั้นจะเหมือนกันเพศหญิงก็หาไม่...."
ความแตกต่างนี้สะท้อนให้เห็นในคำวินิจฉัยของชาวมุสลิมโดยผู้ชายจะถือว่าเทียบเท่ากับหญิงสองคนในแง่ของการเป็นพยานมรดกและเงินเลือด(ดียะห์),และอากีกะห์ก็มาภายใต้กฎเหล่านี้ด้วย.จบอ้าง
ซาด อัลมะอาด,2/331
ข้อสังเกต:
อิบนุ ก๊อยยิม(รอฮีมาฮุลลอฮ์) ได้กล่าวว่า:
ในบรรดาประโยชน์ที่ได้รับของอากีกะห์ คือการเสียสละที่ถูกนำเสนอในนามของทารกแรกเกิดเมื่อเขาโผล่เข้ามาในโลกนี้เป็นครั้งแรก.
ประโยชน์อื่น ๆ ก็คือ "การปล่อย" ทารกแรกเกิด,สำหรับเขาจะถูกจัดขึ้นในข้อผูกมัด
สำหรับอากีกะห์ ของเขาเพื่อที่เขาจะอาจขอชาฟาอะห์ให้พ่อแม่ของเขา.
สำหรับอากีกะห์ ของเขาเพื่อที่เขาจะอาจขอชาฟาอะห์ให้พ่อแม่ของเขา.
ประโยชน์อีกอย่างคือ มันเป็นการไถ่บาปต่อการจ่ายสำหรับเด็กเกิดใหม่ ตามที่อัลลอฮ์ ผู้ได้รับการสรรเสริญ ได้ไถ่บาปอิสมาแอลด้วยแกะ.
จบอ้าง.
จบอ้าง.
ตุฮฺฟาต อัลเมาดู๊ด,หน้า 69
สำหรับเวลาที่ดีที่สุดในการทำอากีกะห์คือ 7 วันหลังการเกิด,เพราะท่านนบีมุฮัมมัด ﷺได้กล่าวว่า: เด็กทุกคนมีข้อผูกมัดสำหรับอากีกะห์ของเขา,ซึ่งควรถูกเชือดสัตว์พลีในนามของเขาในวันที่ 7 และตั้งชื่อของเขา."รายงานโดย อาบูดาวูด,2838; ระดับซอเฮียะโดยชัยคฺ อัลบานีในซอเฮียะอาบีดาวูด.
ถ้ามันล่าช้าจนกระทั่งล่วงเลยวันที่ 7 ไม่มีบาป และควรถูกกระทำเมื่อมุสลิมมีความสามารถที่จะกระทำมัน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น