198487: มุสลิมสามัญชนธรรมดา จะทราบได้อย่างไร ว่าใครคือนักวิชาการ(อุลามาอฺ)?
เราทราบอย่างไรว่าใครคืออุลามาอฺ และเราแบ่งแยกระดับความแตกต่างของอุลามาอฺ อย่างไร เช่น มุฟตีหรือไม่ เพื่อที่เราจะสามารถทำให้เขาอยู่ในระดับของเขาและเป็นธรรมต่อตัวเขา. อะไรคือตำแหน่งที่ถูกต้องต่อชัยคฺ อิบนุ บาซ,อิบนุ อุไซมีน และอัลบานี โดยไม่ทำฆูลู(Ghuloo)ที่มีต่อพวกเขา?
คำภาษาอาหรับสำหรับการพูดเกินจริงคือ Ghuloo การพูดเกินจริง (ในศาสนา) หมายถึงเกินขอบเขตที่กำหนดโดยอัลลอฮ์และร่อซู้ลของพระองค์ ﷺ การพูดเกินจริงไม่ว่าจะด้วยความเชื่อหรือการกระทำถูกประณามอย่างรุนแรงในศาสนาอิสลาม
ตอบ
มวลการสรรเสริญเป็นของอัลลอฮ์.
เราไม่เห็นด้วยกับมุมมองของนักวิชาการบางท่าน(อุลามาอฺ)ของอุศุลอัลฟิกฮ์ ผู้ที่กล่าวว่าผู้ที่ไม่เชี่ยวชาญในศาสตร์ของอิสลามจะไม่สามารถสร้างความพยายามเพื่อหาทางออกได้เเละเลือกนักวิชาการผู้ที่มีคุณสมบัติในการข้องเกี่ยวในอิจติฮาด,และแยกความแตกต่างพวกเขาออกจากคนอื่นๆ,
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนนี้เราอยู่ในช่วงเวลาที่ความรู้และการศึกษาได้แพร่หลายไปโดยความกรุณาของอัลลอฮ์,
โดยที่ประชาชนมากมายที่ช่วยนำความคิดของพวกเขาและทำให้พวกเขาสามารถสร้างทางเลือก.
ที่นี่เราอาจชี้เครื่องหมายและข้อบ่งชี้บางอย่างที่จะช่วยในเรื่องนี้ พวกเขาคือ:
ประการที่หนึ่ง:
เครื่องหมายของนักวิชาการและฟาเกียะห์(นักวิชาการด้านฟิกฮ์)ผู้มีคุณสมบัติออกฟัตวา คือ เขาสามารถแสดงหลักฐานข้อพิสูจน์จากโองการในกุรอานและฮาดิษของท่านนบีมุฮัมมัดﷺ ,แยกแยะสิ่งที่ถูกต้องจากสิ่งที่ไม่ถูกต้อง,สิ่งที่ยกเลิก และสิ่งที่ถูกยกเลิก,สิ่งที่มีความหมายเฉพาะและสิ่งที่มีความหมายทั่วไป,และผู้ที่เข้าใจความหมายและบริบทของการลงโองการ(หรือซุนนะห์).นั่นเป็นเพราะนักวิชาการที่แท้จริงคือผู้ที่ให้ความสำคัญกับอัลกุรอานในรายการลำดับความสำคัญของเขา,เพราะมันเป็นแหล่งของความรู้และฟิกฮ์,และเป็นรากฐานของชารีอะห์และการวินิจฉัย.
ประการที่สอง:
อีกเครื่องหมายหนึ่งของนักวิชาการก็คือพวกเขามีความมุ่งมั่นทางศาสนามากและมีทัศนคติที่ดีและพวกเขายังกระตือรือร้นที่จะทำตามตัวอย่างของคนชอบธรรมของคนรุ่นก่อนๆ(สะลัฟฟุซซอและห์),คือบรรดาซอฮาบัตและตาบิอีน,และนักวิชาการในระดับนำ.
ดังนั้นโดยทั่วไปพวกเขาไม่ได้ล่องลอยออกไปจากเส้นทางของพวกเขาและทุก ฟัตวาหรือคำพูดที่พวกเขากล่าว พวกเขาอ้างไปยังนักวิชาการคนหนึ่งจากบรรดานักวิชาการชั้นนำก่อนหน้านี้เช่น อาบู บักร,อุมัร,ซุฟยาน,อัลเอาซาอี,อาบู ฮานีฟะห์,มาลิก,อัชชาฟีอี,อะห์มัด,อัลฆอซาลี, อัลลิซ อิบนุ อับดุซสาลาม,อันนาวาวี,อิบนุ ตัยมียะห์,อิบนุ ก๊อยยิม,อิบนุ กาษิร,อิบนุ ฮาญาร และนักวิชาการอิสลามท่านอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับความเด่น,ความซื่อสัตย์และความจริงใจของผู้ที่มีความรู้ที่มีต่อชาวมุสลิมไม่ต่างกัน.
แต่ถ้าหากคุณพบคนในสมัยนี้ที่ไม่อ้างต่อนักวิชาการเหล่านี้หรือแสดงความหยิ่งต่อพวกเขา,และไม่ปฏิบัติตามวิธีการทั่วไปของพวกเขาในการทำความเข้าใจตัวบทของอิสลาม,ดังนั้น คุณควรตระหนักว่าเขาไม่ใช่เป็นหนึ่งของผู้ปฏิบัติตาม(คนรุ่นก่อนหรือสะลัฟฟุซซอและห์)ในความจริง; แต่มากกว่าที่ว่าเขาเป็นคนหนึ่งจากผู้ที่ลอยลิ่วออกจากเส้นทางของพวกเขาและเลือกอุตริกรรม.
สิ่งที่ถูกอ้างถึง ณ ตรงนี้ คือการทำตามวิธีที่เหมาะสมในการแสวงหาความรู้,ไม่เลียนแบบอย่างคนตาบอดในทุกเรื่อง ทั้งเรื่องใหญ่และเล็ก, เพราะคำพูดของคนอาจถูกยอมรับหรือปฏิเสธ,ยกเว้นจากท่านนบีมุฮัมมัด ﷺ.
ประการที่สาม:
หนึ่งในเครื่องหมายที่โดดเด่นมากที่สุดของนักวิชาการที่แท้จริงและมุฟตีที่แท้จริง,ที่เราบอกประชาชนคือ พวกเขาไม่อ้างตัวเองไปยังกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งและพวกเขาไม่เรียกตัวเองด้วยชื่อ หรืออ้างถึงการทำตามสิ่งที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของอุมมัตนี้; มากกว่าที่พวกเขา ควรอ้างตัวเองไปยังอุมมัตนี้และถือว่าพวกเขาเองนั้นเป็นส่วนหนึ่งของมัน,ทั้งอดีตและปัจจุบัน,ตลอดประวัติศาสตร์ของศาสนาอิสลาม.สำหรับผู้ที่อ้างสิทธ์ไปยังกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นการเฉพาะด้วยความเชื่อที่เฉพาะ,ดังเช่น กลุ่ม บารีลีวี(كالبريليوية),
ดีโอบันดี(الديوبندية),ก๊อดยานี(القاديانية)
และอื่นๆ,หรือผู้ที่แยกตัวออกจากส่วนใหญ่ของอะห์ลุซซุนนะห์วัลญามาอะห์,ด้วยชื่อที่ถูกอุตริขึ้นมาใหม่หรือบางรูปแบบชนิดพิเศษของอีบาดัต,นี่เป็นเครื่องหมายของอุตริกรรมและการลอยลิ่วออกไปจากเส้นทางของซุนนะห์ตามปกติ. ถ้าความเชื่อที่เขาถือเป็นความเชื่อของมุสลิมของอะห์ลุซซุนนะห์,แล้วทำไมเขาถึงต้องพรรณนาตนเองเป็นบางสิ่งที่เป็นอย่างอื่น หรือเรียกตนเองโดยชื่อหนึ่งที่ไม่ได้เป็นชื่อที่อัลลอฮ์ประทานให้พวกเขา? อัลลอฮ์ ผู้ทรงรุ่งโรจน์ และได้รับการสรรเสริญ ตรัสว่า:
وَجَاهِدُوا فِي اللَّهِ حَقَّ جِهَادِهِ هُوَ اجْتَبَاكُمْ وَمَا جَعَلَ عَلَيْكُمْ فِي الدِّينِ مِنْ حَرَجٍ مِّلَّةَ أَبِيكُمْ إِبْرَاهِيمَ هُوَ سَمَّاكُمُ الْمُسْلِمِينَ مِن قَبْلُ وَفِي هَٰذَا لِيَكُونَ الرَّسُولُ شَهِيدًا عَلَيْكُمْ وَتَكُونُوا شُهَدَاءَ عَلَى النَّاسِ فَأَقِيمُوا الصَّلَاةَ وَآتُوا الزَّكَاةَ وَاعْتَصِمُوا بِاللَّهِ هُوَ مَوْلَاكُمْ فَنِعْمَ الْمَوْلَىٰ وَنِعْمَ النَّصِيرُ ( 78 )
และจงต่อสู้เพื่ออัลลอฮ์ ซึ่งเป็นการต่อสู้ที่แท้จริงเพื่อพระองค์ พระองค์ทรงคัดเลือกพวกเจ้า และพระองค์มิได้ทรงทำให้เป็นการลำบากแก่พวกเจ้าในเรื่องของศาสนา ศาสนา (ที่ไม่ลำบาก) คือศาสนาของอิบรอฮีม บรรพบุรุษของพวกเจ้า พระองค์ทรงเรียกชื่อพวกเจ้าว่ามุสลิมีน ในคัมภีร์ก่อน ๆ และในอัลกุรอานเพื่อร่อซูลจะได้เป็นพยานต่อพวกเจ้า และพวกเจ้าจะได้เป็นพยานต่อมนุษย์ทั่วไป ดังนั้นพวกเจ้าจงดำรงการละหมาด และบริจาคซะกาต และจงยึดมั่นต่ออัลลอฮ์ พระองค์เป็นผู้คุ้มครองพวกเจ้า เพราะพระองค์คือผู้คุ้มครองที่ดีเลิศ และผู้ทรงช่วยเหลือที่ดีเยี่ยม"
[สูเราะฮฺ อัล-หัจญ์ 22:78].
อย่างไรก็ตามสำหรับคนหนึ่งที่อ้างตัวเองไปยังกิจกรรมของดะวะห์โดยมีจุดมุ่งหมายในการทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในเชิงปฏิบัติบางอย่าง,นั่นไม่ใช่สิ่งที่เราหมายถึงตรงนี้และไม่ได้สงวนที่เกี่ยวกับเรื่องนั้น.ในทำนองเดียวกันการอ้างตัวเองว่าเป็นหนึ่งในสี่มัซฮับ ไม่ใช่สิ่งที่เรากำลังพูดถึงที่นี่.
แต่สิ่งที่เราหมายถึงคือยึดติดกับความเชื่อบางอย่างของกลุ่มบางกลุ่มที่ใช้ความเชื่อบางอย่างที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความเชื่อของอะห์ลุซซุนนะห์ วัลญามาอะห์,และพวกเขารวมกันบนพื้นฐานดังกล่าวและถือว่าประชาชนมีทั้งเพื่อนและศัตรูตามลำดับ.
(เช่น ชีอะห์ เป็นต้น ผู้แปลเสริม ค้านได้นะครับ)
ประการที่สี่:
ไม่มีอะไรผิดในการรับการรับรองทางวิชาการ,และถือมันสู่การพิจารณา,โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรับรองปริญญาที่สูงกว่าปริญญาตรีในสาขาพิเศษเฉพาะจากมหาวิทยาลัยที่โดดเด่นที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกมุสลิมในสาขาพิเศษนั้น.ในความเป็นจริงมันเป็นเรื่องสำคัญมาก - เมื่อมีการถามเกี่ยวกับปัญหาหรือประเด็นเฉพาะที่จำเป็นต่อการค้นคว้าและการตรวจสอบ - เพื่อถามว่าใครเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้ในการศึกษาที่สูงกว่าปริญญาตรีของเขา,และเขียนวิทยานิพนธ์ปริญญาโทหรือปริญญาเอกเกี่ยวกับเรื่องนี้.การค้นคว้าวิจัยเช่นนี้บ่อยครั้งที่ทำออกมาดี,เนื่องจากความห่วงใยและการเอาใจใส่ของมหาวิทยาลัยที่เกี่ยวข้อง,และการกำกับดูแลของอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ(ศาสตราจารย์พิเศษ)และความจริงที่ว่านักเขียนต้องถูกอภิปรายและถกเถียงเกี่ยวกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาเขียนไว้.
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าทุกคนที่มีวุฒิการศึกษาในด้านชารีอะห์จากมหาวิทยาลัยใดก็ได้ไปถึงระดับความรู้ที่ถูกต้อง ซึ่งทำให้เขามีคุณสมบัติในการออกฟัตวาปัญหาเกี่ยวกับศาสนา.
นี่ไม่ใช่สิ่งที่เรากำลังพูดถึงที่นี่. เราได้เห็นคนจำนวนมากที่มีระดับปริญญาเช่นนี้ แต่พวกเขาจะไม่รอบรู้ในความรู้หรือในฟิกฮ์,และพวกเขาไม่มีคุณสมบัติพอในการออกฟัตวาเพราะพวกเขาขาดความรู้เพิ่มเติมไปและไม่ได้เพียรพยายามในการรับความรู้เพิ่มเติม.
แต่หมายถึงว่าสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายนี้อาจถือได้ว่าเป็นเครื่องพิสูจน์ที่อยู่ในระดับรอง,หลังจากยืนยันว่าเขามีวุฒิการศึกษาหรือเป็นเครื่องพิสูจน์ยืนยันที่อาจถูกเพิ่มในเครื่องหมายอื่นๆ.
ประการที่ห้า:
หนึ่งในเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ที่สำคัญมากที่สุดที่เราแนะนำประชาชน เพื่อให้ความสนใจคือมุฟตี้หรือนักวิชาการควรเป็นคนที่มีชื่อเสียงในด้านความจริงใจและความรู้ของเขาในวงการวิชาการและวงการเฉพาะสาขาวิชา,ไม่เพียง แต่ในหมู่คนธรรมดาเท่านั้น.
นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญควรให้ความสำคัญกับความเข้าใจและทักษะของเขาและควรยอมรับว่าเขามีประสบการณ์และมุมมองของเขาเป็นพื้นฐานที่ดี.ที่นี่เราจะอ้างเป็นหลักฐานในสิ่งที่นักวิชาการของฮาดิษได้กล่าวเกี่ยวกับวิธีการพิสูจน์ว่าผู้เล่าเรื่อง(ที่รายงาน)มีคุณสมบัติที่ดี. อิบนุ อัลซอและห์ ได้กล่าวว่า: ลักษณะที่ดีของเขาอาจจะถูกยืนยันเมื่อนักวิชาการอื่นๆจำนวนสองท่านกล่าวว่าเขาเป็นคนที่มีพฤติกรรมที่ดี, หรือเป็นเพราะว่าเขามีชื่อเสียงที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง.ถ้าคนหนึ่งเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางว่าเป็นผู้ที่มีความประพฤติที่ดีในหมู่นักวิชาการฮาดิษหรือนักวิชาการอื่นๆ,และเขาถูกยกย่องอย่างกว้างขวางในเรื่องความน่าเชื่อถือและความซื่อสัตย์ของเขา,ไม่จำเป็นต้องมีคำกล่าวจากบุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นการเฉพาะเพื่อเป็นพยานถึงลักษณะที่ดีของเขา.นี่เป็นมุมมองที่ถูกต้องตามมัซฮับชาฟีอี(ขออัลลอฮ์พอพระทัยเขา), และมันเป็นหลักการที่ถูกนำมาใช้ในส่วนของอุศูลอัลฟิกฮ์.
แหล่งอ้างอิง
จบอ้างจาก มุก๊อดดิมะห์ อิบนุ อัซซอละห์(หน้า 105)
مقدمة ابن الصلاح " (ص/105).
การมีชื่อเสียงในด้านความรู้ในแวดวงการศึกษาถือเป็นสัญญาณที่เพียงพอที่จะทำให้นักวิชาการคนใดคนหนึ่งหันมาสนใจเขา และถามเขาเกี่ยวกับประเด็นที่ไม่ชัดเจนในใจของคนหนึ่ง.
แต่ทั้งหมดที่เราได้กล่าวมาข้างต้นไม่เกินกว่าสัญญาณที่อยู่ภายใต้หัวข้อของเครื่องชี้นำ; พวกเขาไม่ได้หมายความว่าจะมั่นใจได้. ความเชื่อมั่นเป็นไปได้เฉพาะสำหรับผู้ที่เชี่ยวชาญในด้านความรู้เดียวกันเท่านั้น.
อิบนุ อัซซอและห์(รอฮีมาฮุลลอฮ์)ได้กล่าว:
คนธรรมดา(ผู้ทำตามนักวิชาการคนหนึ่ง) ต้องค้นคว้าอย่างกระจ่างในเนื้อความหรือข้อเท็จจริงเพื่อที่จะรู้ว่าคนที่เขาถามเป็นคนที่มีคุณสมบัติในการออกฟัตวาหรือไม่,เผื่อว่าเขาไม่ได้มีความรู้ในเรื่องนั้นๆก่อนหน้านี้.ไม่อนุญาตให้เขาถามฟัตวาต่อผู้ใดที่อ้างว่ามีความรู้, แม้ว่าเขาจะมีส่วนร่วมในการสอนหรือการเทศน์ก็ตาม,หรือตำแหน่งอื่น ๆ ของความรู้เพียงเพราะเขาอ้างว่ามีความรู้.
เป็นที่อนุญาตสำหรับเขาที่จะขอฟัตวา จากคนที่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในหมู่คนที่มีคุณสมบัติในการออกฟัตวา.
ตามที่นักวิชาการบางคนที่มาภายหลังบางท่าน,เขามีชื่อเสียงในการออกฟัตวา, เมื่อมันเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย,อย่าให้ความมั่นใจเกี่ยวกับเขา เว้นแต่มีพยานหลักฐานบางอย่างที่เป็นรูปธรรม. การเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในหมู่คนธรรมดาไม่ใช่สิ่งที่น่าเชื่อถือเพราะมันอาจอยู่บนฐานของความสับสนและข้ออ้างหรือ
ความพยายามที่จะทำให้บางสิ่งบางอย่างที่ไม่ได้เป็นจริงให้เป็นจริง.
นอกจากนี้ยังอนุญาตให้ถามคนที่ได้รับแจ้งว่ามีคุณสมบัติครบถ้วน,
แต่ก็ไม่ควรที่จะถามใครสักคนในปัจจุบันเพียงเพราะเขาให้ฟัตวาหรือเป็นที่รู้จักในการจัดการในเรื่องนั้น, แต่ไม่เป็นที่รู้จักว่าเขามีคุณสมบัติที่จะฟัตวาเรื่องนั้น.
ดูแหล่งอ้างอิง
ดู: อาดาบ อัลมุฟตี วาลมุซตาฟี(หน้า 158). กล่าวอ้างโดย อัลนาวาวี ใน อัลมัจมุ เข่นกัน((1/54) และอิบนุ ตัยมียะห์ ใน อัลมุสตาดราค อาลา มัจมุ อัลฟัตวา (2/259)
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาดูฟัตวาหมายเลข 145071
أدب المفتي والمستفتي " (ص: 158) ، ونقله النووي في " المجموع " (1/54) ، وابن تيمية كما في " المستدرك على مجموع الفتاوى " (2/259) .
وللتوسع يمكن أن تراجع الفتاوى الآتية : (145071)
กับเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ ชัยคฺ อิบนุ บาซ, ชัยคฺ อิบนุ อุไซมีน และชัยคฺ อัลบานี(ขออัลลอฮ์พอพระทัยพวกเขาทั้งหมด), พวกเขามีชื่อเสียงมากและเป็นที่รู้จักในหมู่นักวิชาการและผู้ที่เชี่ยวชาญความรู้ในอิสลาม,และพวกเขาอยู่ท่ามกลางแบบอย่างที่ดีที่สุดที่อธิบายถึงสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายที่อภิปรายด้านบน.พวกเขาเชื่อมโยงคุณสมบัติทั้งความรู้,ความดีและคุณธรรม,ที่ออกมาจากอัลลอฮ์,และหลายคนให้การรับรองยืนยันในเรื่องนั้น.ในเว็บไซตของเรามีหลายคำตอบจากคำพูดของพวกท่านเหล่านั้น,ท่ามกลางนั้นอยู่ในฟัตวาหมายเลข 113687.
ท่ามกล่างหนังสืออ้างอิงที่สำคัญมากที่สุดที่ให้รายละเอียดชีวประวัติของพวกเขา,และการยกย่องของบรรดานักวิชาการต่อพวกเขาและสถานภาพในระดับสูงของพวกเขาในยุคปัจจุบันคือหนังสือดังต่อไปนี้:
1. " إمام العصر "، ناصر الزهراني .
2. " الشيخ ابن باز " مانع الجهني .
3. " الإنجاز في سيرة الإمام عبد العزيز بن باز " عبدالرحمن الرحمة .
4. " الجامع لحياة العلامة محمد بن صالح العثيمين "، وليد الحسن .
5. " ابن عثيمين الإمام الزاهد "، ناصر الزهراني .
6. " حياة الألباني وآثاره وثناء العلماء عليه "، محمد إبراهيم الشيباني .
และอัลลอฮ์รู้ดีที่สุด.
เขียนโดย ชัยคฺ ซอและห์ อัลมุนัจจิด
แปลโดย Firdaus Msd
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น