วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2562

อิสลามสนับสนุนการปฏิรูปที่ไม่รุนแรงของผู้ปกครองที่ไม่ยุติธรรม (ตอนที่ 1)

อิสลามสนับสนุนการปฏิรูปที่ไม่รุนแรงของผู้ปกครองที่ไม่ยุติธรรม (ตอนที่ 1)
โดย Abu Amina Elias
ด้วยพระนามของอัลลอฮ์ ผู้ทรงเมตตา ผู้ทรงกรุณา
มันไม่ชอบด้วยกฎหมายสำหรับเราที่จะกบฏต่อผู้ปกครองมุสลิมที่ไม่ยุติธรรมหรือผู้ปกครองใดๆ,ตราบใดที่เราสามารถปฏิบัติขั้นพื้นฐานของอิสลามในความปลอดภัย.แต่มากกว่าที่ชาวมุสลิมควรอดทนและสนับสนุนการปฏิรูปผ่านการกระทำที่ไม่ใช้ความรุนแรง.
การเชื่อฟังต่อกฎหมายของบ้านเมือง,ไม่ว่าอยู่ในประเทศมุสลิมหรือไม่ใช่มุสลิม,เป็นสิ่งจำเป็นตราบเท่าที่เราไม่ถูกบังคับให้กระทำบาป.ถ้าหากผู้ปกครองได้บังคับให้กระทำบาปหรือพวกเขายืนกรานอย่างดื้อรั้นในการกดขี่,เมื่อนั้นเราต้องมุ่งมั่นที่จะปฏิรูปพวกเขาโดยไม่หันไปใช้ความรุนแรงหรือทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง.
อัลลอฮ์ตรัส:
يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا أَطِيعُوا اللَّهَ وَأَطِيعُوا الرَّسُولَ وَأُولِي الْأَمْرِ مِنكُمْ
"ผู้ศรัทธาทั้งหลาย ! จงเชื่อฟังอัลลอฮฺ และเชื่อฟังร่อซูลเถิด และผู้ปกครองในหมู่พวกเจ้าด้วย..."
อัน-นิสาอ์ 4:59

อิบนุ อุมาร์ ได้รายงาน:ท่านนบี(ﷺ),ได้กล่าว:
السَّمْعُ وَالطَّاعَةُ عَلَى الْمَرْءِ الْمُسْلِمِ فِيمَا أَحَبَّ وَكَرِهَ مَا لَمْ يُؤْمَرْ بِمَعْصِيَةٍ فَإِذَا أُمِرَ بِمَعْصِيَةٍ فَلَا سَمْعَ وَلَا طَاعَةَ
การฟังและการเชื่อฟังผู้นำเป็นภาระจำเป็นเหนือมุสลิมคนหนึ่ง,ไม่ว่าเขาชอบมันหรือไม่ชอบมัน,ตราบเท่าที่เขาไม่ได้ถูกบังคับให้ฝ่าฝืนอัลลอฮ์.ถ้าหากเขาถูกบังคับให้ฝ่าฝืน,เมื่อนั้นไม่มีการฟังหรือเชื่อฟัง.

อ้างอิง: ซอฮิฮ์ อัล-บุคอรี 2796,
ในหลายคำรายงาน,ท่านนบี(ﷺ)ได้ห้ามเราจากการก่อกบฏต่อต้านผู้ปกครองตราบใดที่พวกเขาละหมาดและอนุญาตให้มุสลิมปฏิบัติศาสนกิจในอิสลามในแผ่นดินของพวกเขา.ความรุนแรงที่นำมาสู่สงครามกลางเมืองก่อให้เกิดสถานการณ์ที่เลวร้ายมากกว่าผู้ปกครองที่ไม่ยุติธรรรมเสมอ.ในขณะที่ผู้ปกครองที่ไม่ยุติธรรมเป็นความชั่วร้ายในตัวมันเอง,ความรุนแรงที่ต้องโค่นล้มเขานั้นยิ่งแย่ลงไปอีก
ฮุไซฟะห์ อิบนุ อัล-ยามาน ได้รายงาน: รอซูลุลลอฮ์ (ﷺ)ได้กล่าว:
يَكُونُ بَعْدِي أَئِمَّةٌ لَا يَهْتَدُونَ بِهُدَايَ وَلَا يَسْتَنُّونَ بِسُنَّتِي وَسَيَقُومُ فِيهِمْ رِجَالٌ قُلُوبُهُمْ قُلُوبُ الشَّيَاطِينِ فِي جُثْمَانِ إِنْسٍ
ผู้ปกครองหลังจากฉันจะมาผู้ซึ่งไม่ทำตามทางนำของฉันและธรรมเนียมปฏิบัติ(ซุนนะฮ์)ของฉัน. บางคนของพวกเขาจะมีหัวใจแห่งความชั่วร้ายในร่างมนุษย์.
ฉันได้กล่าว,"โอ้ รอซูลุลลอฮ์(ﷺ),ฉันควรทำอย่างไรหากฉันมีชีวิตทันเห็นในเวลานั้น?" ท่านนบี ได้กล่าว:
تَسْمَعُ وَتُطِيعُ لِلْأَمِيرِ وَإِنْ ضُرِبَ ظَهْرُكَ وَأُخِذَ مَالُكَ فَاسْمَعْ وَأَطِعْ
ท่านควรฟังและเชื่อฟังพวกเขา หากผู้ปกครองตีที่หลังของท่านและเอาทรัพย์สินของท่าน,คงไว้ซึ่งการฟังและเชื่อฟัง.
อ้างอิง:ซอฮิฮ์มุสลิม 1847,
เอาฟ์ อิบนุ มาลิก ได้รายงาน: ท่านรอซูลุลลอฮ์(ﷺ) ได้กล่าว:
خِيَارُ أَئِمَّتِكُمْ الَّذِينَ تُحِبُّونَهُمْ وَيُحِبُّونَكُمْ وَيُصَلُّونَ عَلَيْكُمْ وَتُصَلُّونَ عَلَيْهِمْ وَشِرَارُ أَئِمَّتِكُمْ الَّذِينَ تُبْغِضُونَهُمْ وَيُبْغِضُونَكُمْ وَتَلْعَنُونَهُمْ وَيَلْعَنُونَكُمْ
ดีที่สุดของผู้ปกครองของท่านคือเหล่าผู้ที่ท่านรักและพวกเขารักท่าน,ผู้ที่อธิษฐานขอเพื่อท่านและท่านอธิษฐานขอเพื่อพวกเขา.เลวที่สุดของผู้ปกครองของท่านคือเหล่าผู้ที่ท่านเกลียดและพวกเขาเกลียดท่าน,ผู้ที่ท่านด่าทอและพวกเขาด่าทอท่าน.
มันถูกกล่าว,"เราจะเผชิญหน้ากับพวกเขาด้วยดาบเหรอ?” ท่านนบีได้กล่าว:
لَا مَا أَقَامُوا فِيكُمْ الصَّلَاةَ وَإِذَا رَأَيْتُمْ مِنْ وُلَاتِكُمْ شَيْئًا تَكْرَهُونَهُ فَاكْرَهُوا عَمَلَهُ وَلَا تَنْزِعُوا يَدًا مِنْ طَاعَةٍ
ไม่,ตราบใดที่พวกเขากำหนดการละหมาดในหมู่พวกท่าน.ถ้าหากท่านพบบางสิ่งที่น่าเกลียดจากพวกเขา,ท่านควรรังเกียจการปฏิบัติของพวกเขาแต่ไม่ถอนมือของท่านจากการเชื่อฟัง.

อ้างอิง:ซอฮิฮ์ มุสลิม 1855,
อุมม์ สาลามะห์ ได้รายงาน:รอซูลุลลอฮ์(ﷺ) ได้กล่าว:
سَتَكُونُ أُمَرَاءُ فَتَعْرِفُونَ وَتُنْكِرُونَ فَمَنْ عَرَفَ بَرِئَ وَمَنْ أَنْكَرَ سَلِمَ وَلَكِنْ مَنْ رَضِيَ وَتَابَعَ
จะมีผู้ปกครองในหมู่พวกท่านจากผู้ที่พวกท่านจะเห็นทั้งความดีและการนำไปทางชั่ว. คนหนึ่งเป็นผู้ที่ตระหนักถึงความชั่วร้ายของพวกเขาและเกลียดมันจะคงไว้ซึ่งความไร้มลทินของเขาไว้ได้ แต่คนที่เป็นผู้ที่พอใจและติดตามพวกเขาจะเป็นคนชั่วร้าย.
มันถูกกล่าว,"เราจะไม่ต่อสู้กับพวกเขาเหรอ?" ท่านนบี(ﷺ)ได้กล่าว:
لَا مَا صَلَّوْا
ไม่,ตราบใดที่พวกเขาละหมาด.

อ้างอิง:ซอฮิฮ์มุสลิม 1854,
หลายคนที่เรียกร้องให้ก่อการกบฏอย่างรุนแรงได้ใช้วิธีการก่อการร้ายกับพลเรือนผู้บริสุทธิ์เพื่อทำให้รัฐบาลเสียเสถียรภาพทำให้เกิดความไม่สงบ. การกระทำดังกล่าวถูกห้ามอย่างสิ้นเชิงในอิสลาม.ท่านนบี(ﷺ)ได้เตือนอย่างรุนแรงต่อผู้ที่มีส่วนร่วมในการไม่เชื่อฟังของพลเรือนที่ผิดกฎหมายและการกระทำที่ใช้ความรุนแรงอย่างประมาทและไม่เลือกปฏิบัติ,บอกว่าพวกเขาไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับอิสลามและจะตายจากความตายของความโง่เขลา(ญาฮีลียะห์).
อาบู ฮูรอยเราะห์ ได้รายงาน: ท่านรอซูลุลลอฮ์(ﷺ) ได้กล่าว:
مَنْ خَرَجَ مِنَ الطَّاعَةِ وَفَارَقَ الْجَمَاعَةَ فَمَاتَ مَاتَ مِيتَةً جَاهِلِيَّةً وَمَنْ قَاتَلَ تَحْتَ رَايَةٍ عُمِّيَّةٍ يَغْضَبُ لِعَصَبَةٍ أَوْ يَدْعُو إِلَى عَصَبَةٍ أَوْ يَنْصُرُ عَصَبَةً فَقُتِلَ فَقِتْلَةٌ جَاهِلِيَّةٌ وَمَنْ خَرَجَ عَلَى أُمَّتِي يَضْرِبُ بَرَّهَا وَفَاجِرَهَا وَلاَ يَتَحَاشَ مِنْ مُؤْمِنِهَا وَلاَ يَفِي لِذِي عَهْدٍ عَهْدَهُ فَلَيْسَ مِنِّي وَلَسْتُ مِنْهُ
ใครก็ตามปฏิเสธความเชื่อฟังกับผู้ปกครองและแบ่งแยกอุมมัตและตายจะได้ตายบนความโง่เขลา(ญาฮีลียะห์).ใครก็ตามที่ต่อสู้ภายใต้ร่มธงของคนที่ไม่มีทางออก(เข้าใจยากหรือลักษณะตาบอด),ที่บ้าคลั่งเพื่อเห็นแก่ชนเผ่า,หรือเรียกร้องเพื่อเผ่าพันธุ์หรือสนับสนุนเผ่าพันธุ์,และถูกฆ่าตายจะตายบนความโง่เขลา(ญาฮีลียะห์).ใครก็ตามที่ก่อกบฏ(ต่อต้าน,ขัดขืน,ลุกฮือ)ต่ออุมมัตของฉัน,ปะทะคนดีและคนชั่วคล้ายกันและไม่เว้นแม้แต่ผู้ศรัธทาและไม่ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาของความปลอดภัย,เมื่อนั้นเขาไม่มีความเกี่ยวข้องกับฉันและฉันก็ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเขา.
อ้างอิง: ซอฮิฮ์ มุสลิม 1848,
(ติดตามตอนต่อไปจากมุมมองของคนรุ่นก่อนที่ชอบธรรม(สะลัฟฟุซซอลิฮ์)ผู้ที่ตามมาภายหลังเหล่าซอฮาบะฮ์)
============

แปลโดย Firdaus Msd

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น