การยอมรับชะฮาดะฮฺ ทำให้เลือดเนื้อและทรัพย์สินได้รับการคุ้มครอง นอกจากเป็นเรื่องสิทธิของอิสลาม
وحَدَّثَنا سُوَيْدُ بْنُ سَعِيدٍ، وَابْنُ أَبِي عُمَرَ، قَالَا: حَدَّثَنَا مَرْوَانُ يَعْنِيَانِ الْفَزَارِيَّ، عَنْ أَبِي مَالِكٍ، عَنْ أَبِيهِ، قَالَ: سَمِعْتُ رَسُولَ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ، يَقُولُ
" مَنْ قَالَ: لَا إِلَهَ إِلَّا اللهُ، وَكَفَرَ بِمَا يُعْبَدُ مَنْ دُونِ اللهِ، حَرُمَ مَالُهُ، وَدَمُهُ، وَحِسَابُهُ عَلَى اللهِ "
(م) 37 - (23)
สุวัยด์ บุตรของสะอีด และบุตรของอบูอุมัร ได้เล่าให้เราฟัง ทั้งสองกล่าวว่า มัรวาน ทั้งสองหมายถึง อัล-ฟะซารียฺ จากอบูมาลิก จากบิดาของเขา เล่าว่า ฉันได้ยินท่านศาสนทูตของอัลลอฮฺ ขออัลลอฮฺให้พรและให้สันติแด่ท่าน กล่าวว่า
ผู้ใดกล่าวว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ และปฏิเสธต่อสิ่งที่ถูกสักการะอื่นจากอัลลอฮฺ ทรัพย์สิน และเลือดเนื้อของเขาจะเป็นที่ต้องห้าม (นอกจาก)การชำระบัญชีนั้นเป็นหน้าที่ของอัลลอฮฺ
บันทึกโดยมุสลิม หมายเลข 37
คุณค่าที่ได้รับ
- ทรัพย์สิน และชีวิตของมุสลิมต้องได้รับการคุ้มครอง จะล่วงละเมิดไม่ได้
- มี ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮฺ อย่างเดียวไม่พอ ต้องทำความดีอย่างอื่นด้วย เพราะจะต้องถูกสอบสวน และชำระความในโลกหน้า
- เชื่อว่าอัลลอฮฺเป็นพระเจ้าอย่างเดียวไม่เพียงพอ ต้องปฏิเสธสิ่งถูกสักการะอื่นทั้งหมดด้วย
حَدَّثَني عَمْرُو بْنُ مُحَمَّدٍ، حَدَّثَنَا هُشَيْمٌ، أَخْبَرَنَا حُصَيْنٌ، أَخْبَرَنَا أَبُو ظَبْيَانَ، قَالَ: سَمِعْتُ أُسَامَةَ بْنَ زَيْدٍ رَضِيَ اللَّهُ عَنْهُمَا، يَقُولُ:
بَعَثَنَا رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ إِلَى الحُرَقَةِ، فَصَبَّحْنَا القَوْمَ فَهَزَمْنَاهُمْ، وَلَحِقْتُ أَنَا وَرَجُلٌ مِنَ الأَنْصَارِ رَجُلًا مِنْهُمْ، فَلَمَّا غَشِينَاهُ، قَالَ: لاَ إِلَهَ إِلَّا اللَّهُ فَكَفَّ الأَنْصَارِيُّ فَطَعَنْتُهُ بِرُمْحِي حَتَّى قَتَلْتُهُ، فَلَمَّا قَدِمْنَا بَلَغَ النَّبِيَّ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ، فَقَالَ: «يَا أُسَامَةُ، أَقَتَلْتَهُ بَعْدَ مَا قَالَ لاَ إِلَهَ إِلَّا اللَّهُ» قُلْتُ: كَانَ مُتَعَوِّذًا، فَمَا زَالَ يُكَرِّرُهَا، حَتَّى تَمَنَّيْتُ أَنِّي لَمْ أَكُنْ أَسْلَمْتُ قَبْلَ ذَلِكَ اليَوْمِ
(خ) 4269
อัมรฺ บุตรของมุฮัมมัด ได้เล่าให้ฉันฟังว่า ฮุชัยม์ได้เล่าให้เราฟังว่า ฮุศ็อยน์ได้บอกเราว่า อบูซ็อบยานได้บอกเราว่า ฉันได้ยินอุสามะฮฺ บุตรของซัยด์ ขออัลลอฮฺพอพระทัยทั้งสอง เขาเล่าว่า
ท่านศาสนทูตของอัลลอฮฺ ขออัลลอฮฺให้พรและให้สันติแด่ท่าน ได้ส่งพวกเขาไป(สู้รบ)ที่ฮุเราะเกาะฮฺ พวกเราได้เผชิญหน้ากับพวกเขาในตอนเช้า และทำให้พวกเขาปราชัย ฉันกับชาวอันศอรคนหนึ่งได้ไล่ตามชายคนหนึ่งในหมู่พวกเขาไป จนเมื่อเราได้ล้อมเขาไว้แล้ว เขาก็กล่าวว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ ชาวอันศอรคนนั้นก็หยุด แต่ฉันได้ใช้หอกของฉันแทงเขาจนฉันได้ทำให้เขาเสียชีวิต และเมื่อเราได้กลับไป ข่าวได้ไปถึงท่านศาสดา ขออัลลอฮฺให้พรและให้สันติแด่ท่าน ท่านก็กล่าวว่า อุสามะฮฺ เธอสังหารเขาหลังจากที่เขากล่าวว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ กระนั้นหรือ? ฉันตอบว่า เขาแค่จะเอาตัวรอด ท่านก็ยังคงพูดซ้ำ ๆ จนฉันอยากให้ตัวเองเพิ่งได้เข้ารับอิสลามในวันนั้น
บันทึกโดยบุคอรียฺ หมายเลข 4269
คุณค่าที่ได้รับ
- ผู้ที่กล่าวว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ จะได้รับการคุ้มครองชีวิตทันที
- เราตัดสินคนได้จากภายนอกเท่านั้น ส่วนความคิดข้างในต้องให้อัลลอฮฺเป็นผู้ตัดสิน
حَدَّثَنا أَبُو عَاصِمٍ، عَنِ ابْنِ جُرَيْجٍ، عَنِ الزُّهْرِيِّ، عَنْ عَطَاءِ بْنِ يَزِيدَ، عَنْ عُبَيْدِ اللَّهِ بْنِ عَدِيٍّ، عَنِ المِقْدَادِ بْنِ الأَسْوَدِ، ح حَدَّثَنِي إِسْحَاقُ، حَدَّثَنَا يَعْقُوبُ بْنُ إِبْرَاهِيمَ بْنِ سَعْدٍ، حَدَّثَنَا ابْنُ أَخِي ابْنِ شِهَابٍ، عَنْ عَمِّهِ، قَالَ: أَخْبَرَنِي عَطَاءُ بْنُ يَزِيدَ اللَّيْثِيُّ ثُمَّ الجُنْدَعِيُّ، أَنَّ عُبَيْدَ اللَّهِ بْنَ عَدِيِّ بْنِ الخِيَارِ أَخْبَرَهُ،
أَنَّ المِقْدَادَ بْنَ عَمْرٍو الكِنْدِيَّ، وَكَانَ حَلِيفًا لِبَنِي زُهْرَةَ، وَكَانَ مِمَّنْ شَهِدَ بَدْرًا مَعَ رَسُولِ اللَّهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ أَخْبَرَهُ: أَنَّهُ قَالَ لِرَسُولِ اللَّهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ: أَرَأَيْتَ إِنْ لَقِيتُ رَجُلًا مِنَ الكُفَّارِ فَاقْتَتَلْنَا، فَضَرَبَ إِحْدَى يَدَيَّ بِالسَّيْفِ فَقَطَعَهَا، ثُمَّ لاَذَ مِنِّي بِشَجَرَةٍ، فَقَالَ: أَسْلَمْتُ لِلَّهِ، أَأَقْتُلُهُ يَا رَسُولَ اللَّهِ بَعْدَ أَنْ قَالَهَا؟ فَقَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ: «لاَ تَقْتُلْهُ» فَقَالَ: يَا رَسُولَ اللَّهِ إِنَّهُ قَطَعَ إِحْدَى يَدَيَّ، ثُمَّ قَالَ ذَلِكَ بَعْدَ مَا قَطَعَهَا؟ فَقَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ: «لاَ تَقْتُلْهُ، فَإِنْ قَتَلْتَهُ فَإِنَّهُ بِمَنْزِلَتِكَ قَبْلَ أَنْ تَقْتُلَهُ، وَإِنَّكَ بِمَنْزِلَتِهِ قَبْلَ أَنْ يَقُولَ كَلِمَتَهُ الَّتِي قَالَ»
(خ) 4019
อบูอาศิม ได้เล่าให้เราฟัง จากบุตรของจุร็อยจ์ จากอัซ-ซุฮริ จากอะฏออ์ บุตรของยะซีด จากอุบัยดุลลอฮฺ บุตรของอะดีย์ จากอัล-มิกดาร บุตรของอัล-อัสวัด อีกสายรายงานหนึ่งคือ อิสฮากได้เล่าให้เราฟังว่า ยะอฺกู๊บ บุตรของอิบรอฮีมบุตรของสะอัด ให้เล่าให้เราฟังว่า บุตรของน้องชายฉัน บุตรของชิฮาบได้เล่าให้เราฟังว่า จากลุงของเขา เล่าว่า อะฏออ์ บุตรของยะซีด อัล-ลัยษีย์ และอัลจุนดะอีย์ ได้บอกเราว่า อุบัยดุลลอฮฺ บุตรของอะดีย์ บุตรของอัล-คิยาร ได้บอกเขาว่า
มิกดาด บุตรของอัมร์ อัล-กินดีย์ เคยเป็นพันธมิตรกับตระกูลซุฮ์เราะฮฺ และเคยเข้าร่วมในสงครามบะดัรกับท่านศาสนทูตของอัลลอฮฺ ขออัลลอฮฺทรงให้พรและให้สันติแด่ท่าน ว่า เขาได้ถามท่านศาสนทูตของอัลลอฮฺ ขออัลลอฮฺทรงให้พรและให้สันติแด่ท่าน ว่า ท่านเห็นประการใด หากฉันเจอคนกาเฟรคนหนึ่ง และเราได้ต่อสู้กัน และเขาได้ฟันมือฉันด้วยดาบและได้ตัดแขนฉัน หลังจากนั้นได้ไปหลบฉันที่ต้นไม้ต้นหนึ่ง แล้วเขาก็กล่าวว่า ฉันยอมรับอิสลามเพื่ออัลลอฮฺแล้ว ฉันจะสังหารเขาได้ไหมหลังจากที่เขากล่าวมันออกมา โอ้ ท่านศาสนทูตของอัลลอฮฺ ท่านศาสนทูตของอัลลอฮฺ ขออัลลอฮฺทรงให้พรและให้สันติแด่ท่าน ตอบว่า จงอย่าสังหารเขา เพราะหากท่านสังหารเขา เขาจะได้อยู่ในตำแหน่งของท่านก่อนที่ท่านจะสังหารเขา และท่านจะได้อยู่ในตำแหน่งของเขาก่อนที่เขาจะกล่าวคำพูดนั้นออกมา
บันทึกโดย บุคอรีย์ หมายเลข 4019
คุณค่าที่ได้รับ
- เมื่อรับอิสลามแล้ว บาปทั้งหมดที่ผ่านมาจะได้รับการอภัย
- การสังหารมุสลิมถือเป็นบาปใหญ่
- เราไม่สามารถตัดสินคนที่ความคิดข้างในของเขา
- เราต้องปฏิบัติกับคนอื่น ๆ ตามการแสดงออกภายนอกของเขา
حَدَّثَنا عُمَرُ بْنُ حَفْصٍ، حَدَّثَنَا أَبِي، حَدَّثَنَا الأَعْمَشُ، عَنْ عَبْدِ اللَّهِ بْنِ مُرَّةَ، عَنْ مَسْرُوقٍ، عَنْ عَبْدِ اللَّهِ، قَالَ: قَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ:
"لاَ يَحِلُّ دَمُ امْرِئٍ مُسْلِمٍ، يَشْهَدُ أَنْ لاَ إِلَهَ إِلَّا اللَّهُ وَأَنِّي رَسُولُ اللَّهِ، إِلَّا بِإِحْدَى ثَلاَثٍ: النَّفْسُ بِالنَّفْسِ، وَالثَّيِّبُ الزَّانِي، وَالمَارِقُ مِنَ الدِّينِ التَّارِكُ لِلْجَمَاعَةِ "
(خ) 6878
อุมัร บุตรของฮัฟศ์ ได้เล่าให้เราฟังว่า บิดาของฉันได้เล่าให้เราฟังว่า อัล-อะอฺมัช ได้เล่าให้เราฟังว่า จากอับดุลลอฮฺ บุตรของมุรเราะฮฺ จากมัสรูก จากอับดุลลอฮฺ เล่าว่า ท่านศาสนทูตของอัลลอฮฺ ขออัลลอฮฺให้พรและให้สันติแด่ท่าน กล่าวว่า
เลือดของคนมุสลิมที่เขาได้กล่าวว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ และมุฮัมมัด เป็นศาสนทูตของอัลลอฮฺ ไม่เป็นที่อนุญาต นอกจากด้วยสามประการ ชีวิตด้วยชีวิต คนที่เคยแต่งงานแล้วทำผิดประเวณี และคนที่ออกจากศาสนาและทิ้งสังคม(มุสลิม)
บันทึกโดยบุคอรียฺ หมายเลข 6878
คุณค่าที่ได้รับ
- มุสลิมคือผู้ที่กล่าวปฏิญาณว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ และมุฮัมมัดเป็นศาสนทูตของอัลลอฮฺ
- ชีวิตมุสลิมต้องของต้องห้าม จะล่วงละเมิด หรือสังหารเขาไม่ได้
- ยกเว้น 3 ประการทีทำให้สามารถเอาชีวิตมุสลิมได้ คือ เมื่อเขาไปสังหารชีวิตอื่น หรือคนที่เคยแต่งงานแล้วทำผิดประเวณี หรือคนที่ละทิ้งศาสนา และสังคมมุสลิม
حَدَّثَنَا عَبْدُ اللَّهِ بْنُ مُحَمَّدٍ المُسْنَدِيُّ، قَالَ: حَدَّثَنَا أَبُو رَوْحٍ الحَرَمِيُّ بْنُ عُمَارَةَ، قَالَ: حَدَّثَنَا شُعْبَةُ، عَنْ وَاقِدِ بْنِ مُحَمَّدٍ، قَالَ: سَمِعْتُ أَبِي يُحَدِّثُ، عَنِ ابْنِ عُمَرَ، أَنَّ رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قَالَ:
«أُمِرْتُ أَنْ أُقَاتِلَ النَّاسَ حَتَّى يَشْهَدُوا أَنْ لاَ إِلَهَ إِلَّا اللَّهُ، وَأَنَّ مُحَمَّدًا رَسُولُ اللَّهِ، وَيُقِيمُوا الصَّلاَةَ، وَيُؤْتُوا الزَّكَاةَ، فَإِذَا فَعَلُوا ذَلِكَ عَصَمُوا مِنِّي دِمَاءَهُمْ وَأَمْوَالَهُمْ إِلَّا بِحَقِّ الإِسْلاَمِ، وَحِسَابُهُمْ عَلَى اللَّهِ»
(خ) 25
อับดุลลอฮฺ บุตรของมุฮัมมัด อัล-มุสนะดีย์ ได้เล่าให้เราฟังว่า อบู เราห์ อัล-ฮะเราะมีย์ บุตรของอุมาเราะฮฺได้เล่าให้เราฟังว่า ชุอฺบะฮฺได้เล่าให้เราฟังว่า จากวากิด บุตรของมุฮัมมัด เล่าว่า ฉันได้ยินบิดาของฉันเล่าให้ฟังว่า จากบุตรของอุมัร ว่าท่านศาสนทูตของอัลลอฮฺ ขออัลลอฮฺให้พรและให้สันติแด่ท่าน กล่าวว่า
ฉันถูกใช้ให้ต่อสู้กับผู้คนทั้งหลายเพื่อให้พวกเขาปฏิญาณว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ และมุฮัมมัดเป็นศาสนทูตของอัลลอฮฺ และดำรงการละหมาดและจ่ายซะกาต และเมื่อพวกเขาได้ทำอย่างนั้นแล้ว เลือดเนื้อและทรัพย์สินของพวกเขาจะได้รับการปกป้องจากฉัน นอกจากด้วยกับสิทธิของอิสลาม และการชำระบัญชีเป็นหน้าที่ของอัลลอฮฺ
บันทึกโดยบุคอรีย์ หมายเลข 25
คุณค่าที่ได้รับ
- ผู้ใดกล่าวว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ และมุฮัมมัดเป็นศาสนทูตของอัลลอฮฺ และดำรงละหมาด และจ่ายซะกาต จะถูกเอาชีวิตไม่ได้ นอกจากด้วยความชอบธรรมเท่านั้น
- เราจะใช้ความรุนแรงกับมุสลิมด้วยกันไม่ได้
حَدَّثَنا قُتَيْبَةُ بْنُ سَعِيدٍ، حَدَّثَنَا يَعْقُوبُ يَعْنِي ابْنَ عَبْدِ الرَّحْمَنِ الْقَارِيَّ، عَنْ سُهَيْلٍ، عَنْ أَبِيهِ، عَنْ أَبِي هُرَيْرَةَ، أَنَّ رَسُولَ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ، قَالَ يَوْمَ خَيْبَرَ
: "لَأُعْطِيَنَّ هَذِهِ الرَّايَةَ رَجُلًا يُحِبُّ اللهَ وَرَسُولَهُ، يَفْتَحُ اللهُ عَلَى يَدَيْهِ" قَالَ عُمَرُ بْنُ الْخَطَّابِ: مَا أَحْبَبْتُ الْإِمَارَةَ إِلَّا يَوْمَئِذٍ، قَالَ فَتَسَاوَرْتُ لَهَا رَجَاءَ أَنْ أُدْعَى لَهَا، قَالَ فَدَعَا رَسُولُ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ عَلِيَّ بْنَ أَبِي طَالِبٍ، فَأَعْطَاهُ إِيَّاهَا، وَقَالَ: "امْشِ، وَلَا تَلْتَفِتْ، حَتَّى يَفْتَحَ اللهُ عَلَيْكَ" قَالَ فَسَارَ عَلِيٌّ شَيْئًا ثُمَّ وَقَفَ وَلَمْ يَلْتَفِتْ، فَصَرَخَ: يَا رَسُولَ اللهِ عَلَى مَاذَا أُقَاتِلُ النَّاسَ؟ قَالَ: "قَاتِلْهُمْ حَتَّى يَشْهَدُوا أَنْ لَا إِلَهَ إِلَّا اللهُ وَأَنَّ مُحَمَّدًا رَسُولُ اللهِ، فَإِذَا فَعَلُوا ذَلِكَ فَقَدْ مَنَعُوا مِنْكَ دِمَاءَهُمْ وَأَمْوَالَهُمْ، إِلَّا بِحَقِّهَا وَحِسَابُهُمْ عَلَى اللهِ"
(م) 33 - (2405)
กุตัยบะฮฺ บินสะอีด ได้เล่าให้ฉันฟังว่า ยะอฺกู๊บ หมายถึง บุตรของอับดุรเราะห์มาน นักท่องจำ ได้เล่าให้เราฟังว่า จากสุฮัยล์ จากบิดาของเขา จากอบูฮุร็อยเราะฮ์ ว่าท่านศาสนทูตของอัลลอฮฺ ขออัลลอฮฺทรงให้พรและให้สันติแด่ท่าน ได้พูดในวัน(สงคราม)ค็อยบัร ว่า
"ฉันจะมอบธงนี้ให้กับชายคนหนึ่งที่เขารักอัลลอฮฺและศาสนทูตของพระองค์ อัลลอฮฺจะให้เกิดชัยชนะด้วยกับมือของเขา" อุมัร บุตรอัลค็อตต๊อบ ได้กล่าวว่า ฉันไม่อยากเป็นผู้นำมาก่อนนอกจากในวันนั้น เขากล่าวว่า ฉันก็พยายามเขย่งตัวขึ้นเพราะหวังให้ตัวฉันถูกเรียก เขาเล่าต่อว่า แล้วท่านศาสนทูตของอัลลอฮฺ ขออัลลอฮฺทรงให้พรและให้สันติแด่ท่าน ได้เรียกอลี บุตรของอบูฏอลิบ และได้มอบมันให้เขา และกล่าวว่า "จงออกเดินทางไป อย่าได้หันซ้ายแลขวา(ลังเล) จนกว่าอัลลอฮฺจะมอบชัยชนะให้เจ้า" เขาเล่าว่า แล้วอลีก็ออกเดินทางไปเล็กน้อย ก็หยุดโดยที่ไม่ได้หันกลับมา และตะโกนว่า โอ้ท่านศาสนทูตของอัลลอฮฺ ฉันจะต่อสู้กับคนอื่นเพื่ออะไรหรือ? ท่านตอบว่า จงต่อสู้กับพวกเขาเพื่อให้พวกเขากล่าวปฏิญาณว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ และมุฮัมมัดเป็นศาสนทูตของอัลลอฮฺ เมื่อพวกเขาได้ทำอย่างนั้นแล้ว พวกเขาก็ได้ยับยั้งท่านไม่ให้ละเมิดเลือดเนื้อและทรัพย์สินของพวกเขา นอกจากด้วยสิทธิของมัน และการชำระบัญชีเป็นหน้าที่ของอัลลอฮฺ
บันทึกโดยมุสลิม หมายเลข 33
คุณค่าที่ได้รับ
- แสดงถึงความประเสริฐของอลี และรับรองว่าเขาเป็นคนที่รักอัลลอฮฺ และศาสนทูตจริง
- เมื่อถึงเวลาต่อสู้ มุสลิมต้องสู้โดยไม่ลังเล และไม่ย่อท้อจนกว่าจะได้รับชัยชนะ
- มุสลิมต่อสู้ ไม่ใช่เพื่อปัจจัยบนโลกนี้ แต่เพื่อนำอิสลามไปให้ถึงมือทุกคน
- ชีวิตและทรัพย์สินของมุสลิม เป็นของต้องห้ามจะละเมิดไม่ได้
- สิทธิในชีวิต เช่น เมื่อไปสังหารผู้อื่นก็ต้องถูกสังหารตาม และสิทธิในทรัพย์สิน เช่น เมื่อถึงเวลาก็ต้องจ่ายซะกาต
حَدَّثَنا عَمْرُو بْنُ عَبَّاسٍ، قَالَ: حَدَّثَنَا ابْنُ المَهْدِيِّ، قَالَ: حَدَّثَنَا مَنْصُورُ بْنُ سَعْدٍ، عَنْ مَيْمُونِ بْنِ سِيَاهٍ، عَنْ أَنَسِ بْنِ مَالِكٍ، قَالَ: قَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ
: «مَنْ صَلَّى صَلاَتَنَا وَاسْتَقْبَلَ قِبْلَتَنَا، وَأَكَلَ ذَبِيحَتَنَا فَذَلِكَ المُسْلِمُ الَّذِي لَهُ ذِمَّةُ اللَّهِ وَذِمَّةُ رَسُولِهِ، فَلاَ تُخْفِرُوا اللَّهَ فِي ذِمَّتِهِ»
, (خ) 391
อัมร์ บุตรของอับบาส ได้เล่าให้เราฟังว่า บุตรของอัล-มะฮ์ดีย์ ได้เล่าให้เราฟังว่า มันศูร บุตรของสะอัด ได้เล่าให้เราฟังว่า จากมัยมูน บุตรของสิยาฮ์ จากอนัส บุตรของมาลิก ได้เล่าว่า ท่านศาสนทูตของอัลลอฮฺ ขออัลลอฮฺทรงให้พรและให้สันติแด่ท่าน
ผู้ใดละหมาดเหมือนกับละหมาดของเรา และหันหน้าไปทางทิศกิ๊บละฮฺเดียวกับเรา และบริโภคแบบเดียวกับสัตว์เชือดของเรา นั่นก็คือมุสลิม ที่เขาได้รับการคุ้มครองจากอัลลอฮฺ และศาสนทูตของพระองค์ ดังนั้นพวกท่านจงอย่าได้ละเมิดอัลลอฮฺ ในบุคคลที่อัลลอฮฺคุ้มครอง
บันทึกโดยบุคอรียฺ หมายเลข 391
คุณค่าที่ได้รับ
- คนที่ละหมาดเหมือนที่ศาสดาละหมาด ใช้กิบละฮฺเดียวกัน และบริโภคสัตว์แบบเดียวกัน ถือว่าเป็นมุสลิม
- มุสลิมจะต้องได้รับการคุ้มครอง จะล่วงละเมิดไม่ได้
- การละเมิดต่อมุสลิม เท่ากับเป็นการละเมิดต่ออัลลอฮฺ
حَدَّثَنا أَبُو اليَمَانِ الحَكَمُ بْنُ نَافِعٍ، أَخْبَرَنَا شُعَيْبُ بْنُ أَبِي حَمْزَةَ، عَنِ الزُّهْرِيِّ، حَدَّثَنَا عُبَيْدُ اللَّهِ بْنُ عَبْدِ اللَّهِ بْنِ عُتْبَةَ بْنِ مَسْعُودٍ، أَنَّ أَبَا هُرَيْرَةَ رَضِيَ اللَّهُ عَنْهُ، قَالَ:
لَمَّا تُوُفِّيَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ وَكَانَ أَبُو بَكْرٍ رَضِيَ اللَّهُ عَنْهُ، وَكَفَرَ مَنْ كَفَرَ مِنَ العَرَبِ، فَقَالَ عُمَرُ رَضِيَ اللَّهُ عَنْهُ: كَيْفَ تُقَاتِلُ النَّاسَ؟ وَقَدْ قَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ: " أُمِرْتُ أَنْ أُقَاتِلَ النَّاسَ حَتَّى يَقُولُوا: لاَ إِلَهَ إِلَّا اللَّهُ، فَمَنْ قَالَهَا فَقَدْ عَصَمَ مِنِّي مَالَهُ وَنَفْسَهُ إِلَّا بِحَقِّهِ، وَحِسَابُهُ عَلَى اللَّهِ " , فَقَالَ: وَاللَّهِ لَأُقَاتِلَنَّ مَنْ فَرَّقَ بَيْنَ الصَّلاَةِ وَالزَّكَاةِ، فَإِنَّ الزَّكَاةَ حَقُّ المَالِ، وَاللَّهِ لَوْ مَنَعُونِي عَنَاقًا كَانُوا يُؤَدُّونَهَا إِلَى رَسُولِ اللَّهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ لَقَاتَلْتُهُمْ عَلَى مَنْعِهَا " قَالَ عُمَرُ رَضِيَ اللَّهُ عَنْهُ: «فَوَاللَّهِ مَا هُوَ إِلَّا أَنْ قَدْ شَرَحَ اللَّهُ صَدْرَ أَبِي بَكْرٍ رَضِيَ اللَّهُ عَنْهُ، فَعَرَفْتُ أَنَّهُ الحَقُّ»
(خ) 1399 , 1400
อบุลยะมาน อัล-ฮะกัม บุตรของนาฟิอฺ ได้เล่าให้เราฟังว่า ชุอัยบ์ บุตรของอบูฮัมซะฮฺได้บอกเราว่า จากอัซ-ซุฮ์รีย์ ว่า อุบัยดุลลอฮฺ บุตรของอับดุลลอฮฺ บุตรของอุตบะฮฺ บุตรของมัสอูดได้เล่าให้เราฟังว่า อบูฮุร็อยเราะฮฺ ขออัลลอฮฺพอพระทัยเขา ได้เล่าว่า
เมื่อศาสนทูตของอัลลอฮฺ -ขออัลลอฮฺให้พรและให้สันติแด่ท่าน- เสียชีวิตไป และเป็นสมัยของอบูบักร -ขออัลลอฮฺพอพระทัยเขา- อาหรับที่อยากปฏิเสธศรัทธาก็ได้ปฏิเสธศรัทธาไป อุมัร -ขออัลลอฮฺพอพระทัยเขา- ได้ถามว่า "ท่านจะต่อสู้กับคนพวกนั้นได้อย่างไร? ขณะที่ท่านศาสนทูตของอัลลอฮฺ -ขออัลลอฮฺให้พรและให้สันติแด่ท่าน- ได้กล่าวว่า ฉันถูกสั่งใช้ให้ต่อสู้กับผู้คนจนกว่าพวกเขาจะพูดว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ และผู้ใดกล่าวมัน เขาก็ได้รับคุ้มครองในทรัพย์สินและชีวิตของเขานอกจากด้วยกับสิทธิของมัน และการสอบสวนเขาเป็นหน้าที่ของอัลลอฮฺ" เขาก็ตอบว่า "ขอสาบานต่ออัลลอฮฺ ฉันจะต้องต่อสู้อย่างแน่นอนกับคนที่แยกละหมาดกับซะกาตออกจากกัน เพราะซะกาตเป็นสิทธิในทรัพย์สิน ขอสาบานต่ออัลลอฮฺ หากพวกเขายับยั้งฉันจากเชือกผูกอูฐเส้นเดียวที่เขาเคยจ่ายมันให้กับศาสนทูตของอัลลอฮฺ -ขออัลลอฮฺให้พรและให้สันติแด่ท่าน- แน่นอนฉันจะต่อสู้กับพวกเขากับการที่เขาไม่ยอมจ่ายมันไว้" อุมัร -ขออัลลอฮฺพอพระทัยเขา- ได้กล่าวว่า "ขอสาบานต่ออัลลอฮฺ มันไม่ใช่อะไรเลยนอกจากว่าอัลลอฮฺได้เปิดใจให้กับอบูบักร -ขออัลลอฮฺพอพระทัยเขา- และฉันก็รู้ว่าเขาทำถูกต้องแล้ว"
บันทึกโดยบุคอรีย์ 1399
คุณค่าที่ได้รับ
- ผู้ปกครองต้องดูแลเรื่องละหมาด และการจ่ายซะกาต และอนุญาตให้ใช้กำลังบังคับได้
- ไม่มีการอะรุ่มอะหร่วยในเรื่องละหมาดและซะกาต
- สิทธิของทรัพย์สิน คือต้องจ่ายซะกาต
- แสดงถึงความประเสริฐของอบูบักรที่สามารถปกป้องอิสลามไม่ให้เปลี่ยนแปลงไว้ได้
- แสดงถึงความอ่อนโยนของอุมัรต่อประชาชาติมุสลิม
- ผู้นำต้องเด็ดขาด แต่ต้องไม่เผด็จการใช้อำนาจโดยไม่ฟังใคร ต้องรู้จักรับฟังและให้เหตุผลที่ดีได้
وحَدَّثَني زُهَيْرُ بْنُ حَرْبٍ، حَدَّثَنَا يَحْيَى يَعْنِي ابْنَ سَعِيدٍ، عَنْ حَمَّادِ بْنِ سَلَمَةَ، حَدَّثَنَا ثَابِتٌ، عَنْ أَنَسِ بْنِ مَالِكٍ، قَالَ:
كَانَ رَسُولُ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ يُغِيرُ إِذَا طَلَعَ الْفَجْرُ، وَكَانَ يَسْتَمِعُ الْأَذَانَ، فَإِنْ سَمِعَ أَذَانًا أَمْسَكَ وَإِلَّا أَغَارَ فَسَمِعَ رَجُلًا يَقُولُ: اللهُ أَكْبَرُ اللهُ أَكْبَرُ، فَقَالَ رَسُولُ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ: "عَلَى الْفِطْرَةِ" ثُمَّ قَالَ: أَشْهَدُ أَنْ لَا إِلَهَ إِلَّا اللهُ أَشْهَدُ أَنْ لَا إِلَهَ إِلَّا اللهُ، فَقَالَ رَسُولُ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ: "خَرَجْتَ مِنَ النَّارِ" فَنَظَرُوا فَإِذَا هُوَ رَاعِي مِعْزًى
(م) 9 - (382)
ซุฮัยร์ บุตรของฮัรบ์ได้เล่าให้ฉันฟังว่า ยะห์ยา หมายถึงบุตรของสะอีด ได้เล่าให้เราฟังว่า จากฮัมมาด บุตรของสะละมะฮ์ ว่า ษาบิตได้เล่าให้เราฟังว่า จากอนัส บุตรของมาลิก ได้เล่าว่า
ท่านศาสนทูตของอัลลอฮฺ -ขออัลลอฮฺให้พรและให้สันติแด่ท่าน- เป็นกังวลเมื่อเข้าเวลา(ละหมาด)ฟัจริ ท่านรอฟังเสียงอาซาน และหากท่านได้ยินเสียงอะซานแล้ว ท่านก็หายกังวล ไม่เช่นนั้นท่านก็ยังคงกังวลอยู่ ท่านได้ยินเสียงชายคนหนึ่งกล่าวว่า "อัลลอฮุอักบัร อัลลอฮุอักบัร" ท่านศาสนทูต -ขออัลลอฮฺให้พรและให้สันติแด่ท่าน- ก็กล่าวว่า "บนธรรมชาติอันบริสุทธิ์" หลังจากนั้นเขาก็พูดว่า "อัชฮะดุอัลลาอิลาฮะอิลลัลลอฮฺ อัชฮะดุอัลลาอิลาฮะอิลลัลลอฮฺ" ท่านศาสนทูต -ขออัลลอฮฺให้พรและให้สันติแด่ท่าน- ก็กล่าวว่า "ท่านได้ออกมาจากนรกแล้ว" พวกเขาก็ไปดู ก็พบว่าเป็นคนเลี้ยงแกะคนหนึ่ง
บันทึกโดยมุสลิม หมายเลข 382
คุณค่าที่ได้รับ
- หัวใจผู้ศรัทธาจะคอยเป็นห่วงเรื่องการละหมาด
- ความประเสริฐของการกล่าวว่า อัชฮะดุอัลลาอิลาฮะอิลลัลลอฮฺ
- การกล่าวว่า อัชฮะดุอัลลาอิลาฮะอิลลัลลอฮฺ เป็นเงื่อนไขเดียวที่ทำให้ออกจากนรกได้
أَخْبَرَنَا عَمْرُو بْنُ يَحْيَى قَالَ: حَدَّثَنَا مَحْبُوبٌ قَالَ: أَنْبَأَنَا أَبُو إِسْحَاقَ، عَنْ سَعِيدٍ الْجُرَيْرِيِّ، عَنْ يَزِيدَ بْنِ الشِّخِّيرِ قَالَ:
بَيْنَا أَنَا مَعَ مُطَرِّفٍ بِالْمِرْبَدِ إِذْ دَخَلَ رَجُلٌ، مَعَهُ قِطْعَةُ أَدَمٍ قَالَ: كَتَبَ لِي هَذِهِ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فَهَلْ أَحَدٌ مِنْكُمْ يَقْرَأُ؟ قَالَ: قُلْتُ: أَنَا أَقْرَأُ، فَإِذَا فِيهَا: "مِنْ مُحَمَّدٍ النَّبِيِّ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ لِبَنِي زُهَيْرِ بْنِ أُقَيْشٍ، أَنَّهُمْ إِنْ شَهِدُوا أَنْ لَا إِلَهَ إِلَّا اللَّهُ، وَأَنَّ مُحَمَّدًا رَسُولُ اللَّهِ، وَفَارَقُوا الْمُشْرِكِينَ، وَأَقَرُّوا بِالْخُمُسِ فِي غَنَائِمِهِمْ، وَسَهْمِ النَّبِيِّ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ وَصَفِيِّهِ، فَإِنَّهُمْ آمِنُونَ بِأَمَانِ اللَّهِ وَرَسُولِهِ"
(س) 4146 [قال الألباني]: صحيح الإسناد
อัมร์ บุตรของยะห์ยา ได้บอกเรา ว่า มะห์บูบ ได้เล่าให้เราฟังว่า อบูอิสฮากได้บอกเราว่า จากสะอีด อัล-จุร็อยรีย์ จากยะซีด บุตรของอัช-ชิคคีร กล่าวว่า
ระหว่างที่ฉันอยู่กับมุฏ็อรริฟที่มิรบัด ได้มีชายคนหนึ่งเข้ามา พร้อมกับแผ่นหนังชิ้นหนึ่ง ได้พูดว่า ศาสนทูตของอัลลอฮฺ -ขออัลลอฮฺทรงให้พรและให้สันติแด่ท่าน- ได้เขียนสานส์นี้มายังฉัน พวกท่านมีคนใดอ่านหนังสือออกไหม? เขาพูดว่า ฉันตอบว่า ฉันอ่านหนังสือได้ ข้างในมีข้อความระบุว่า "จากมุฮัมมัด ผู้เป็นศาสดา -ขออัลลอฮฺทรงให้พรและให้สันติแด่ท่าน- ถึงตระกูลซุฮัยร์ บุตรของอุก็อยช์ ว่า หากพวกเขาปฏิญาณตนว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ และมุฮัมมัดคือศาสนทูตของอัลลอฮฺ และออกห่างบรรดาผู้ตั้งภาคี และยอมรับเรื่องส่วนแบ่งหนึ่งในห้าของทรัพย์เชลย และส่วนแบ่งของศาสดา -ขออัลลอฮฺทรงให้พรและให้สันติแด่ท่าน- พวกเขาจะอยู่อย่างปลอดภัย ด้วยการให้ความปลอดภัยจากอัลลอฮฺและศาสนทูตของพระองค์"
บันทึกโดยนะซาอี 4146 อัล-อัลบานีย์กล่าวว่า สายรายงานถูกต้อง
คุณค่าที่ได้รับ
- มุสลิมคือผู้ที่กล่าวปฏิญาณตนว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ และมุฮัมมัดคือศาสนทูตของพระองค์
- มุสลิมต้องปกป้องมุสลิมคนอื่นที่ถูกละเมิดชีวิต เกียรติ หรือทรัพย์สิน
- การละเมิดต่อมุสลิมเท่ากับการละเมิดต่ออัลลอฮฺ
- ทรัพย์สงครามต้องแบ่งตามที่ได้ระบุไว้ในอัลกุรอาน
- คนในยุคศาสดามีจำนวนน้อยมากที่สามารถอ่านออกเขียนได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น