วันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2562

240391: มีมติเอกฉันท์(อิจมาอฺ)บนการอนุญาตของการตักลีดจากหนึ่งในสี่มัซฮับหรือไม่?

240391: มีมติเอกฉันท์(อิจมาอฺ)บนการอนุญาตของการตักลีดจากหนึ่งในสี่มัซฮับหรือไม่?

มีอิจมาอฺ จากนักการศาสนาที่เกี่ยวกับการตักลีดที่สมบูรณ์ของมัซฮับใดมัซฮับหนึ่งจากสี่มัซฮับในศตวรรษที่สามฮิจเราะห์หรือไม่? อายัตนี้หมายความว่าอย่างไร?
"จงเชื่อฟังอัลลอฮ์และรอซูลและต่อผู้ที่ถูกให้อำนาจหน้าที่(ผู้ปกครอง).ถ้าเจ้าไม่เห็นด้วยต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง,จงกลับไปที่อัลลอฮ์และรอซูลชองพระองค์." ฉันอ่านอายัตนี้ดูเหมือนอ้างถึงการตักลีดที่สมบูรณ์ในสี่สำนักคิดและส่วนที่สอง"ในกรณีของการไม่เห็นด้วย"มีสำหรับนักวิชาการศาสนา/มุจาดีด เท่านั้น ไม่ใช่สำหรับคนทั่วไป.
สิ่งนี้หมายความว่ากุรอานและซุนนะห์สามารถเข้าใจได้เฉพาะนักวิชาการหรืออุลามาอฺเท่านั้นหรือไม่?. ประชาชนทั่วไปที่ไม่ใช่นักการศาสนาต้องทำตามสี่สำนักคิดเท่านั้นหรือ.

ตอบ
มวลการสรรเสริญเป็นของอัลลอฮ์

มันไม่มีข้อบังคับสำหรับมุสลิมที่ต้องตามมัซฮับหนึ่งเฉพาะเจาะจง,ไม่ว่าจะเป็นหนึ่งในสี่มัซฮับหรืออื่นๆ
และไม่อนุญาตสำหรับมุสลิมที่จะตามคนใดคนหนึ่งในศาสนาของอัลลอฮ์ ผู้ได้รับการสรรเสริญ, ในแง่ที่ว่าเขาไม่ได้แตกต่างจากเขาในเรื่องเล็กหรือใหญ่(นี่คือสิ่งที่หมายถึงการตักลีดที่สมบูรณ์").

ที่เกี่ยวกับเรื่องนั้น ชัยคฺ อัชชานคีตี(รอฮีมาฮุลลอฮ์)ได้กล่าวใน
أضواء البيان في إيضاح القرآن بالقرآن" (7 / 307):

ที่เกี่ยวกับประเภทของตักลีด(ทำตาม)ในสิ่งที่ผู้คนยุคต่อมาแตกต่างจากซอฮาบัตและผู้คนยุคอื่นๆที่ถูกกล่าว(ในฮาดิษหนึ่ง)ที่ดีที่สุด,มันเป็นการตามคนผู้หนึ่งเฉพาะเจาะจงเป็นการแยกนักวิชาการศาสนาอื่นๆทั้งหมดออกไป.

การตามในลักษณะนี้ไม่ได้ถูกกำหนดในตำราใดๆไม่ว่าจะเป็นกุรอาน หรือซุนนะห์, ไม่ได้ถูกสนับสนุนโดยซอฮาบัตใดๆของท่านรอซูลุลลอฮ์(ﷺ) หรือผู้คนชาวสะลัฟฟุซซอและห์ในยุค 300 ปีแรก.

มันขัดแย้งกับความเห็นของสี่อีมามมัซฮับ(ขออัลลอฮ์เมตตาพวกเขาทั้งหมด).ไม่มีท่านใดในพวกเขาสนับสนุนให้มีการยึดติดต่อความเห็นของผู้ใดผู้หนึ่งเป็นการเฉพาะ (ในลักษณะที่มี)การแยกนักการศาสนามุสลิมอื่นๆออกไป.

เพราะฉะนั้นการตามนักวิชาการศาสนาคนใดคนหนึ่งเป็นพิเศษเป็นหนึ่งในอุตริกรรม(บิดอะห์)ของศตวรรษที่สี่(หลังยุค 300 ปี แรก) และใครที่อ้างเป็นอย่างอื่น,
ให้เขาชี้ให้เราเห็นบุคคลใดบุคคลหนึ่งจากสามชั่วอายุแรก(300 ปีแรก) ที่ยึดติดกับมัซฮับ ของคนใดคนหนึ่งเป็นการเฉพาะ. แต่เขาไม่สามารถที่จะทำได้เช่นนั้น.เพราะมันไม่เคยเกิดขึ้นเลย.
จบคำอ้าง.

สี่อีมามมัซฮับ(ขออัลลอฮ์เมตตาต่อพวกเขา)ได้ห้ามประชาชนตามพวกเขาในแบบตักลีด.อีมามอะห์มัด ได้กล่าว: อย่าตามฉัน,และอย่าตามมาลิกหรือเซารีหรืออัลเอาซาอี. จงเรียนรู้จากแหล่งจากที่พวกเขาได้เรียนรู้. เขายังกล่าวด้วยวว่า: มันเป็นสัญญาณของการขาดความเข้าใจของบุคคลคนหนึ่งที่เขาตามบุคคลอื่นๆในเรื่องศาสนา.

จบคำอ้างจาก
إعلام الموقعين عن رب العالمين " (2 / 139).

ชัยคุลอิสลาม อิบนุ ตัยมียะห์ (รอฮีมาฮุลลอฮ์)ได้ถูกถาม:

อะไรคือสิ่งที่นักวิชาการศาสนาระดับผู้นำกล่าวเกี่ยวกับชายคนหนึ่งที่ถูกถามว่า"มัซฮับของท่านคืออะไร?"
และเขากล่าวว่า,"มุฮัมหมัดดี(มัซฮับนบี(ﷺ)); ฉันตามคัมภีร์ของอัลลอฮ์และซุนนะห์ของรอซูลุลลอฮ์ มุฮัมหมัด ﷺ. "

เมื่อมันถูกกล่าวว่าผู้ศรัธทาทุกคนควรตามมัซฮับหนึ่ง,และใครที่ไม่มีมัซฮับเป็นมารร้าย,เขากล่าว:"มัซฮับของอาบูบักร อัซซิดีค และคอลีฟะห์ภายหลังจากเขา(ขออัลลอฮ์ประทานสันติและอำนวยพรให้กับเขา.)"

และมันถูกกล่าวกับเขา:คุณต้องตามมัซฮับหนึ่งจากมัซฮับเหล่านี้.แบบไหนที่ถูกต้อง?

เขาตอบ:

มวลการสรรเสริญเป็นของอัลลอฮ์. สิ่งที่ทุกคนต้องทำคือการเชื่อฟังอัลลอฮ์และร่อซู้ลﷺ ของพระองค์.

สำหรับบรรดาผู้มีอำนาจ(ผู้ปกครอง) ซึ่งอัลลอฮ์ได้ทรงแนะนำประชาชนให้ปฏิบัติตามคำดำรัส
يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا أَطِيعُوا اللَّهَ وَأَطِيعُوا الرَّسُولَ وَأُولِي الْأَمْرِ مِنكُمْ فَإِن تَنَازَعْتُمْ فِي شَيْءٍ فَرُدُّوهُ إِلَى اللَّهِ وَالرَّسُولِ إِن كُنتُمْ تُؤْمِنُونَ بِاللَّهِ وَالْيَوْمِ الْآخِرِ ذَٰلِكَ خَيْرٌ وَأَحْسَنُ تَأْوِيلًا ( 59 )
ผู้ศรัทธาทั้งหลาย ! จงเชื่อฟังอัลลอฮฺ และเชื่อฟังร่อซูลเถิด และผู้ปกครองในหมู่พวกเจ้าด้วย.... "[อันนีซาอฺ 4:59],
มันเป็นหน้าที่ที่ต้องเชื่อฟังพวกเขาภายใต้กรอบของการเชื่อฟังอัลลอฮ์และร่อซู้ลของพระองค์เท่านั้นและไม่เป็นอิสระจากสิ่งนั้น. แล้วอัลลอฮ์ตรัส:"...แต่ถ้าพวกเจ้าขัดแย้งกันในสิ่งใด ก็จงนำสิ่งนั้นกลับไปยังอัลลอฮฺ และร่อซูล ﷺ หากพวกเจ้าศรัทธาต่ออัลลอฮฺและวันปรโลก นั่นแหละเป็นสิ่งที่ดียิ่งและเป็นการกลับไป ที่สวยยิ่ง"
[อันนีซาอฺ 4:59].

ถ้ามุสลิมถูกเผชิญกับปัญหาใหม่ ถ้างั้นเขาต้องถามบางคนผู้ที่เขาเชื่อว่าจะให้คำชี้ขาดบนพื้นฐานของกฎเกณฑ์ของอัลลอฮ์และรอซูลุลลอฮ์ ﷺ
ไม่สำคัญว่าเขามัซฮับอะไร.ชาวมุสลิมไม่จำเป็นต้องทำตามนักวิชาการคนใดคนหนึ่งในทุกสิ่งที่เขาพูด,และไม่จำเป็นที่มุสลิมต้องยึดติดกับมัซฮับใดเป็นการเฉพาะมากกว่าท่านรอซูลุลลอฮ์(ﷺ)ในทั้งหมดที่เขากำชับและบอกกล่าว. บรรดาความเห็นอาจถูกยอมรับหรือปฏิเสธได้,ยกเว้นมันมาจากรอซูลุลลอฮ์ ﷺ.

สำหรับคนที่กำลังตามมัซฮับของบุคคลเป็น
การเฉพาะเพราะเขาไม่สามารถที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับกฎของอิสลามนอกจากผ่านเขา,สิ่งนี้ยอมรับได้,แต่ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับทุกคน,ถ้าหากว่าคนหนึ่งสามารถที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับกฎของอิสลามด้วยวิธีการอื่นๆ.

แต่ละคนจำเป็นที่ต้องกลัวอัลลอฮ์ให้มากเท่าที่เขาทำได้และแสวงหาความรู้ในสิ่งที่ถูกกำชับโดยอัลลอฮ์และรอซูลุลลอฮ์ﷺ ,เพื่อเขาจะได้กระทำสิ่งที่ถูกกำชับและงดเว้นเสียจากสิ่งที่ต้องห้าม และอัลลอฮ์ทรงรู้ดียิ่ง.

จบคำอ้างจาก
مجموع الفتاوى" (20/208-209) .

ก่อนหน้านี้เราเคยอธิบายว่าใครก็ตามที่มีความสามารถในการรับกฎชารีอะห์โดยตรงจากกุรอานและซุนนะห์ อาจจะอ้างโดยตรงกับทั้งสอง ตามที่ผู้คนที่มาก่อนเคยทำ,และไม่อนุญาตสำหรับเขาที่จะตามคนใดคนหนึ่ง.เขาควรตามในสิ่งที่เขาเชื่อว่าเป็นความจริงมากกว่า,แต่อนุญาตสำหรับเขาที่จะตามผู้อื่นที่เกี่ยวกับสิ่งที่เขาไม่สามารถที่จะรู้และจำเป็นต้องรู้.กรุณาดูคำตอบจากคำถามหมายเลข 21420.

ที่เกี่ยวข้องกับคำดำรัสของอัลลอฮ์ ผู้ทรงได้รับการสรรเสริญ:
يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا أَطِيعُوا اللَّهَ وَأَطِيعُوا الرَّسُولَ وَأُولِي الْأَمْرِ مِنكُمْ فَإِن تَنَازَعْتُمْ فِي شَيْءٍ فَرُدُّوهُ إِلَى اللَّهِ وَالرَّسُولِ إِن كُنتُمْ تُؤْمِنُونَ بِاللَّهِ وَالْيَوْمِ الْآخِرِ ذَٰلِكَ خَيْرٌ وَأَحْسَنُ تَأْوِيلًا ( 59 )
ผู้ศรัทธาทั้งหลาย ! จงเชื่อฟังอัลลอฮฺ และเชื่อฟังร่อซูลเถิด และผู้ปกครองในหมู่พวกเจ้าด้วย แต่ถ้าพวกเจ้าขัดแย้งกันในสิ่งใด ก็จงนำสิ่งนั่นกลับไปยังอัลลอฮฺ และร่อซูล หากพวกเจ้าศรัทธาต่ออัลลอฮฺและวันปรโลก นั่นแหละเป็นสิ่งที่ดียิ่งและเป็นการกลับไป ที่สวยยิ่ง" [อัน นิซาอฺ 4:59],

ไม่มีสิ่งใดในโองการนี้ที่ชี้ให้เห็นว่าคนหนึ่งควรตามสี่อีมามมัซฮับ; แต่มันเป็นคำสั่งที่ต้องเชื่อฟังอัลลอฮ์ ผู้ได้รับการสรรเสริญ และศาสนฑูต(ﷺ)ของพระองค์ และเชื่อฟังเหล่าผู้มีอำนาจ(ผู้ปกครอง).ผู้ปกครองมีอำนาจปกครองตามสิ่งที่อัลลอฮ์ได้ทรงประทานลงมา,และนักวิชาการศาสนาและฟุกอฮะห์ ผู้ปฏิบัติตามคำสั่งของอัลลอฮ์,,พระองค์ผู้ทรงรุ่งโรจน์และได้รับการสรรเสริญ,โดยที่ไม่ไปจำกัดกับนักวิชาการคนใดเป็นการเฉพาะ.

อัล บัยฮากี ได้กล่าวในตัฟซีรของเขา(2/239):

นักวิชาการมีความเห็นที่แตกต่างกันต่อความหมายของ"ใครในพวกท่าน(มุสลิม)เป็นผู้มีอำนาจ(ปกครอง)".อิบนุ อับบาส และญาบิร(ขออัลลอฮ์พอพระทัยต่อพวกเขา)ได้กล่าว: พวกเขาคือฟุกอฮะห์และนักวิชาการที่สอนประชาชนเกี่ยวกับศาสนาของพวกเขา.สิ่งนี้ยังเป็นความเห็นของอัลฮาซัน วัดดุฮาก วามุญาฮิด
الْحَسَنِ وَالضَّحَّاكِ وَمُجَاهِدٍ

หลักฐานในเรื่องนั้นคือโองการที่อัลลอฮ์ ผู้ได้รับการสรรเสริญ ตรัส:"...หากว่าพวกเขาให้มันกลับไปยังร่อซูล และยังผู้ปกครองการงานในหมู่พวกเขาแล้ว แน่นอนบรรดาผู้ที่วินิจฉัยมันในหมู่พวกเขาก็ย่อมรู้มันได้... "[อัน-นิสาอฺ 4:83].
อาบู ฮูรอยเราะห์่ ได้กล่าว: พวกเขาเป็นผู้ปกครองและเจ้าผู้ครองเมือง.' อาลี อิบนุ อาบีฏอลิบ(ขออัลลอฮ์พอพระทัยท่าน)ได้กล่าวว่า: มันเป็นหน้าที่ของผู้ปกครองที่ต้องปกครองตามสิ่งที่อัลลอฮ์ได้ทรงประทานลงมาและปฏิบัติตามความไว้วางใจ. ถ้าเขาทำเช่นนั้น,มันเป็นหน้าที่ของประชาชนที่ต้องฟังเขาและเชื่อฟัง.

จบคำกล่าวอ้าง.

ที่เกี่ยวกับคำดำรัสของอัลลอฮ์ ผู้ได้รับการสรรเสริญ,".....(และ) ถ้าพวกเจ้าขัดแย้งกันในสิ่งใด ก็จงนำสิ่งนั่นกลับไปยังอัลลอฮฺ และร่อซูล หากพวกเจ้าศรัทธาต่ออัลลอฮฺและวันปรโลก นั่นแหละเป็นสิ่งที่ดียิ่งและเป็นการกลับไป ที่สวยยิ่ง"[อัน-นิสาอฺ 4:59],
สิ่งนี้ถูกกล่าวกับทุกคนที่มีคุณสมบัติในการเข้าใจหลักฐาน(อ้างอิงในกุรอานและซุนนะห์).
สำหรับผู้ที่ขาดคุณสมบัติที่จะทำเช่นนั้น,เขาต้องถามประชาชนแห่งความรู้(เช่น นักวิชาการศาสนา)และทำตามคำชี้ขาดที่พวกเขาให้.

อัลอามีดี ได้กล่าวใน
"الإحكام في أصول الأحكام" (4 / 228): "
อัลอิฮฺกาม ฟี อุศูล อัลอะห์กาม(4/228):

สำหรับชาวมุสลิมสามัญชน(ทั่วไป)และคนที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการอิจติฮาด ถึงแม้เขาจะมีความรู้เกี่ยวกับศาสนาอิสลามเพียงเล็กน้อย แต่ก็ต้องปฏิบัติตามมุมมองของมุจตาฮีด และปฏิบัติตามฟัตวา ของเขาตามที่นักวิชาการของอุศูล กล่าว.

จบคำกล่าวอ้าง.

และอัลลอฮ์รู้ดีที่สุด.

เขียนโดย ชัยคฺ ซอและห์ อัลมุนัจจิด
แปลโดย Firdaus Msd
ที่มา https://islamqa.info/en/240391

https://islamqa.info/ar/answers/240391/هل-انعقد-اجماع-على-جواز-التقليد-التام-لاحد-المذاهب-الاربعة

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น