240391: มีมติเอกฉันท์(อิจมาอฺ)บนกา รอนุญาตของการตักลีดจากหนึ่ งในสี่มัซฮับหรือไม่?
มีอิจมาอฺ จากนักการศาสนาที่เกี่ยวกับ การตักลีดที่สมบูรณ์ของมัซฮ ับใดมัซฮับหนึ่งจากสี่มัซฮั บในศตวรรษที่สามฮิจเราะห์หร ือไม่? อายัตนี้หมายความว่าอย่างไร ?
"จงเชื่อฟังอัลลอฮ์และรอซูล และต่อผู้ที่ถูกให้อำนาจหน้ าที่(ผู้ปกครอง).ถ้าเจ้าไม่ เห็นด้วยต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ,จงกลับไปที่อัลลอฮ์และรอซู ลชองพระองค์." ฉันอ่านอายัตนี้ดูเหมือนอ้างถึงการตักลีดที่สมบูรณ์ใน สี่สำนักคิดและส่วนที่สอง"ใ นกรณีของการไม่เห็นด้วย"มีส ำหรับนักวิชาการศาสนา/ มุจาดีด เท่านั้น ไม่ใช่สำหรับคนทั่วไป.
สิ่งนี้หมายความว่ากุรอานแล ะซุนนะห์สามารถเข้าใจได้เฉพ าะนักวิชาการหรืออุลามาอฺเท ่านั้นหรือไม่?. ประชาชนทั่วไปที่ไม่ใช่นักก ารศาสนาต้องทำตามสี่สำนักคิ ดเท่านั้นหรือ.
ตอบ
มวลการสรรเสริญเป็นของอัลลอ ฮ์
มันไม่มีข้อบังคับสำหรับมุส ลิมที่ต้องตามมัซฮับหนึ่งเฉ พาะเจาะจง,ไม่ว่าจะเป็นหนึ่ งในสี่มัซฮับหรืออื่นๆ
และไม่อนุญาตสำหรับมุสลิมที ่จะตามคนใดคนหนึ่งในศาสนาขอ งอัลลอฮ์ ผู้ได้รับการสรรเสริญ, ในแง่ที่ว่าเขาไม่ได้แตกต่า งจากเขาในเรื่องเล็กหรือใหญ ่(นี่คือสิ่งที่หมายถึงการต ักลีดที่สมบูรณ์").
ที่เกี่ยวกับเรื่องนั้น ชัยคฺ อัชชานคีตี(รอฮีมาฮุลลอฮ์)ไ ด้กล่าวใน
أضواء البيان في إيضاح القرآن بالقرآن" (7 / 307):
ที่เกี่ยวกับประเภทของตักลี ด(ทำตาม)ในสิ่งที่ผู้คนยุคต ่อมาแตกต่างจากซอฮาบัตและผู ้คนยุคอื่นๆที่ถูกกล่าว(ในฮ าดิษหนึ่ง)ที่ดีที่สุด,มันเ ป็นการตามคนผู้หนึ่งเฉพาะเจ าะจงเป็นการแยกนักวิชาการศา สนาอื่นๆทั้งหมดออกไป.
การตามในลักษณะนี้ไม่ได้ถูก กำหนดในตำราใดๆไม่ว่าจะเป็น กุรอาน หรือซุนนะห์, ไม่ได้ถูกสนับสนุนโดยซอฮาบั ตใดๆของท่านรอซูลุลลอฮ์(ﷺ) หรือผู้คนชาวสะลัฟฟุซซอและห ์ในยุค 300 ปีแรก.
มันขัดแย้งกับความเห็นของสี ่อีมามมัซฮับ(ขออัลลอฮ์เมตต าพวกเขาทั้งหมด).ไม่มีท่านใ ดในพวกเขาสนับสนุนให้มีการย ึดติดต่อความเห็นของผู้ใดผู ้หนึ่งเป็นการเฉพาะ (ในลักษณะที่มี)การแยกนักกา รศาสนามุสลิมอื่นๆออกไป.
เพราะฉะนั้นการตามนักวิชากา รศาสนาคนใดคนหนึ่งเป็นพิเศษ เป็นหนึ่งในอุตริกรรม(บิดอะ ห์)ของศตวรรษที่สี่(หลังยุค 300 ปี แรก) และใครที่อ้างเป็นอย่างอื่น ,
ให้เขาชี้ให้เราเห็นบุคคลใด บุคคลหนึ่งจากสามชั่วอายุแร ก(300 ปีแรก) ที่ยึดติดกับมัซฮับ ของคนใดคนหนึ่งเป็นการเฉพาะ . แต่เขาไม่สามารถที่จะทำได้เ ช่นนั้น.เพราะมันไม่เคยเกิด ขึ้นเลย.
จบคำอ้าง.
สี่อีมามมัซฮับ(ขออัลลอฮ์เม ตตาต่อพวกเขา)ได้ห้ามประชาช นตามพวกเขาในแบบตักลีด.อีมา มอะห์มัด ได้กล่าว: อย่าตามฉัน,และอย่าตามมาลิก หรือเซารีหรืออัลเอาซาอี. จงเรียนรู้จากแหล่งจากที่พว กเขาได้เรียนรู้. เขายังกล่าวด้วยวว่า: มันเป็นสัญญาณของการขาดความ เข้าใจของบุคคลคนหนึ่งที่เข าตามบุคคลอื่นๆในเรื่องศาสน า.
จบคำอ้างจาก
إعلام الموقعين عن رب العالمين " (2 / 139).
ชัยคุลอิสลาม อิบนุ ตัยมียะห์ (รอฮีมาฮุลลอฮ์)ได้ถูกถาม:
อะไรคือสิ่งที่นักวิชาการศา สนาระดับผู้นำกล่าวเกี่ยวกั บชายคนหนึ่งที่ถูกถามว่า"มั ซฮับของท่านคืออะไร?"
และเขากล่าวว่า,"มุฮัมหมัดด ี(มัซฮับนบี(ﷺ)); ฉันตามคัมภีร์ของอัลลอฮ์และ ซุนนะห์ของรอซูลุลลอฮ์ มุฮัมหมัด ﷺ. "
เมื่อมันถูกกล่าวว่าผู้ศรัธ ทาทุกคนควรตามมัซฮับหนึ่ง,แ ละใครที่ไม่มีมัซฮับเป็นมาร ร้าย,เขากล่าว:"มัซฮับของอา บูบักร อัซซิดีค และคอลีฟะห์ภายหลังจากเขา(ข ออัลลอฮ์ประทานสันติและอำนว ยพรให้กับเขา.)"
และมันถูกกล่าวกับเขา:คุณต้ องตามมัซฮับหนึ่งจากมัซฮับเ หล่านี้.แบบไหนที่ถูกต้อง?
เขาตอบ:
มวลการสรรเสริญเป็นของอัลลอ ฮ์. สิ่งที่ทุกคนต้องทำคือการเช ื่อฟังอัลลอฮ์และร่อซู้ลﷺ ของพระองค์.
สำหรับบรรดาผู้มีอำนาจ(ผู้ป กครอง) ซึ่งอัลลอฮ์ได้ทรงแนะนำประช าชนให้ปฏิบัติตามคำดำรัส
يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا أَطِيعُوا اللَّهَ وَأَطِيعُوا الرَّسُولَ وَأُولِي الْأَمْرِ مِنكُمْ فَإِن تَنَازَعْتُمْ فِي شَيْءٍ فَرُدُّوهُ إِلَى اللَّهِ وَالرَّسُولِ إِن كُنتُمْ تُؤْمِنُونَ بِاللَّهِ وَالْيَوْمِ الْآخِرِ ذَٰلِكَ خَيْرٌ وَأَحْسَنُ تَأْوِيلًا ( 59 )
ผู้ศรัทธาทั้งหลาย ! จงเชื่อฟังอัลลอฮฺ และเชื่อฟังร่อซูลเถิด และผู้ปกครองในหมู่พวกเจ้าด ้วย.... "[อันนีซาอฺ 4:59],
มันเป็นหน้าที่ที่ต้องเชื่อ ฟังพวกเขาภายใต้กรอบของการเ ชื่อฟังอัลลอฮ์และร่อซู้ลขอ งพระองค์เท่านั้นและไม่เป็น อิสระจากสิ่งนั้น. แล้วอัลลอฮ์ตรัส:"...แต่ถ้า พวกเจ้าขัดแย้งกันในสิ่งใด ก็จงนำสิ่งนั้นกลับไปยังอัล ลอฮฺ และร่อซูล ﷺ หากพวกเจ้าศรัทธาต่ออัลลอฮฺ และวันปรโลก นั่นแหละเป็นสิ่งที่ดียิ่งแ ละเป็นการกลับไป ที่สวยยิ่ง"
[อันนีซาอฺ 4:59].
ถ้ามุสลิมถูกเผชิญกับปัญหาใ หม่ ถ้างั้นเขาต้องถามบางคนผู้ท ี่เขาเชื่อว่าจะให้คำชี้ขาด บนพื้นฐานของกฎเกณฑ์ของอัลล อฮ์และรอซูลุลลอฮ์ ﷺ
ไม่สำคัญว่าเขามัซฮับอะไร.ช าวมุสลิมไม่จำเป็นต้องทำตาม นักวิชาการคนใดคนหนึ่งในทุก สิ่งที่เขาพูด,และไม่จำเป็น ที่มุสลิมต้องยึดติดกับมัซฮ ับใดเป็นการเฉพาะมากกว่าท่า นรอซูลุลลอฮ์(ﷺ)ในทั้งหมดที ่เขากำชับและบอกกล่าว. บรรดาความเห็นอาจถูกยอมรับห รือปฏิเสธได้,ยกเว้นมันมาจา กรอซูลุลลอฮ์ ﷺ.
สำหรับคนที่กำลังตามมัซฮับข องบุคคลเป็น
การเฉพาะเพราะเขาไม่สามารถท ี่จะเรียนรู้เกี่ยวกับกฎของ อิสลามนอกจากผ่านเขา,สิ่งนี ้ยอมรับได้,แต่ไม่ใช่เป็นสิ ่งที่จำเป็นสำหรับทุกคน,ถ้า หากว่าคนหนึ่งสามารถที่จะเร ียนรู้เกี่ยวกับกฎของอิสลาม ด้วยวิธีการอื่นๆ.
แต่ละคนจำเป็นที่ต้องกลัวอั ลลอฮ์ให้มากเท่าที่เขาทำได้ และแสวงหาความรู้ในสิ่งที่ถ ูกกำชับโดยอัลลอฮ์และรอซูลุ ลลอฮ์ﷺ ,เพื่อเขาจะได้กระทำสิ่งที่ ถูกกำชับและงดเว้นเสียจากสิ ่งที่ต้องห้าม และอัลลอฮ์ทรงรู้ดียิ่ง.
จบคำอ้างจาก
مجموع الفتاوى" (20/208-209) .
ก่อนหน้านี้เราเคยอธิบายว่า ใครก็ตามที่มีความสามารถในก ารรับกฎชารีอะห์โดยตรงจากกุ รอานและซุนนะห์ อาจจะอ้างโดยตรงกับทั้งสอง ตามที่ผู้คนที่มาก่อนเคยทำ, และไม่อนุญาตสำหรับเขาที่จะ ตามคนใดคนหนึ่ง.เขาควรตามใน สิ่งที่เขาเชื่อว่าเป็นความ จริงมากกว่า,แต่อนุญาตสำหรั บเขาที่จะตามผู้อื่นที่เกี่ ยวกับสิ่งที่เขาไม่สามารถที ่จะรู้และจำเป็นต้องรู้.กรุ ณาดูคำตอบจากคำถามหมายเลข 21420.
ที่เกี่ยวข้องกับคำดำรัสของ อัลลอฮ์ ผู้ทรงได้รับการสรรเสริญ:
يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا أَطِيعُوا اللَّهَ وَأَطِيعُوا الرَّسُولَ وَأُولِي الْأَمْرِ مِنكُمْ فَإِن تَنَازَعْتُمْ فِي شَيْءٍ فَرُدُّوهُ إِلَى اللَّهِ وَالرَّسُولِ إِن كُنتُمْ تُؤْمِنُونَ بِاللَّهِ وَالْيَوْمِ الْآخِرِ ذَٰلِكَ خَيْرٌ وَأَحْسَنُ تَأْوِيلًا ( 59 )
ผู้ศรัทธาทั้งหลาย ! จงเชื่อฟังอัลลอฮฺ และเชื่อฟังร่อซูลเถิด และผู้ปกครองในหมู่พวกเจ้าด ้วย แต่ถ้าพวกเจ้าขัดแย้งกันในส ิ่งใด ก็จงนำสิ่งนั่นกลับไปยังอัล ลอฮฺ และร่อซูล หากพวกเจ้าศรัทธาต่ออัลลอฮฺ และวันปรโลก นั่นแหละเป็นสิ่งที่ดียิ่งแ ละเป็นการกลับไป ที่สวยยิ่ง" [อัน นิซาอฺ 4:59],
ไม่มีสิ่งใดในโองการนี้ที่ช ี้ให้เห็นว่าคนหนึ่งควรตามส ี่อีมามมัซฮับ; แต่มันเป็นคำสั่งที่ต้องเชื ่อฟังอัลลอฮ์ ผู้ได้รับการสรรเสริญ และศาสนฑูต(ﷺ)ของพระองค์ และเชื่อฟังเหล่าผู้มีอำนาจ (ผู้ปกครอง).ผู้ปกครองมีอำน าจปกครองตามสิ่งที่อัลลอฮ์ไ ด้ทรงประทานลงมา,และนักวิชา การศาสนาและฟุกอฮะห์ ผู้ปฏิบัติตามคำสั่งของอัลล อฮ์,,พระองค์ผู้ทรงรุ่งโรจน ์และได้รับการสรรเสริญ,โดยท ี่ไม่ไปจำกัดกับนักวิชาการค นใดเป็นการเฉพาะ.
อัล บัยฮากี ได้กล่าวในตัฟซีรของเขา(2/ 239):
นักวิชาการมีความเห็นที่แตก ต่างกันต่อความหมายของ"ใครใ นพวกท่าน(มุสลิม)เป็นผู้มีอ ำนาจ(ปกครอง)".อิบนุ อับบาส และญาบิร(ขออัลลอฮ์พอพระทัย ต่อพวกเขา)ได้กล่าว: พวกเขาคือฟุกอฮะห์และนักวิช าการที่สอนประชาชนเกี่ยวกับ ศาสนาของพวกเขา.สิ่งนี้ยังเ ป็นความเห็นของอัลฮาซัน วัดดุฮาก วามุญาฮิด
الْحَسَنِ وَالضَّحَّاكِ وَمُجَاهِدٍ
หลักฐานในเรื่องนั้นคือโองก ารที่อัลลอฮ์ ผู้ได้รับการสรรเสริญ ตรัส:"...หากว่าพวกเขาให้มั นกลับไปยังร่อซูล และยังผู้ปกครองการงานในหมู ่พวกเขาแล้ว แน่นอนบรรดาผู้ที่วินิจฉัยม ันในหมู่พวกเขาก็ย่อมรู้มัน ได้... "[อัน-นิสาอฺ 4:83].
อาบู ฮูรอยเราะห์่ ได้กล่าว: พวกเขาเป็นผู้ปกครองและเจ้า ผู้ครองเมือง.' อาลี อิบนุ อาบีฏอลิบ(ขออัลลอฮ์พอพระทั ยท่าน)ได้กล่าวว่า: มันเป็นหน้าที่ของผู้ปกครอง ที่ต้องปกครองตามสิ่งที่อัล ลอฮ์ได้ทรงประทานลงมาและปฏิ บัติตามความไว้วางใจ. ถ้าเขาทำเช่นนั้น,มันเป็นหน ้าที่ของประชาชนที่ต้องฟังเ ขาและเชื่อฟัง.
จบคำกล่าวอ้าง.
ที่เกี่ยวกับคำดำรัสของอัลล อฮ์ ผู้ได้รับการสรรเสริญ,".... .(และ) ถ้าพวกเจ้าขัดแย้งกันในสิ่ง ใด ก็จงนำสิ่งนั่นกลับไปยังอัล ลอฮฺ และร่อซูล หากพวกเจ้าศรัทธาต่ออัลลอฮฺ และวันปรโลก นั่นแหละเป็นสิ่งที่ดียิ่งแ ละเป็นการกลับไป ที่สวยยิ่ง"[อัน-นิสาอฺ 4:59],
สิ่งนี้ถูกกล่าวกับทุกคนที่ มีคุณสมบัติในการเข้าใจหลัก ฐาน(อ้างอิงในกุรอานและซุนน ะห์).
สำหรับผู้ที่ขาดคุณสมบัติที ่จะทำเช่นนั้น,เขาต้องถามปร ะชาชนแห่งความรู้(เช่น นักวิชาการศาสนา)และทำตามคำ ชี้ขาดที่พวกเขาให้.
อัลอามีดี ได้กล่าวใน
"الإحكام في أصول الأحكام" (4 / 228): "
อัลอิฮฺกาม ฟี อุศูล อัลอะห์กาม(4/228):
สำหรับชาวมุสลิมสามัญชน(ทั่ วไป)และคนที่ไม่ได้มีส่วนร่ วมในการอิจติฮาด ถึงแม้เขาจะมีความรู้เกี่ยว กับศาสนาอิสลามเพียงเล็กน้อ ย แต่ก็ต้องปฏิบัติตามมุมมองข องมุจตาฮีด และปฏิบัติตามฟัตวา ของเขาตามที่นักวิชาการของอ ุศูล กล่าว.
จบคำกล่าวอ้าง.
และอัลลอฮ์รู้ดีที่สุด.
เขียนโดย ชัยคฺ ซอและห์ อัลมุนัจจิด
แปลโดย Firdaus Msd
ที่มา https://islamqa.info/en/ 240391
https://islamqa.info/ar/ answers/240391/ هل-انعقد-اجماع-على-جواز-الت قليد-التام-لاحد-المذاهب-ال اربعة
มีอิจมาอฺ จากนักการศาสนาที่เกี่ยวกับ
"จงเชื่อฟังอัลลอฮ์และรอซูล
สิ่งนี้หมายความว่ากุรอานแล
ตอบ
มวลการสรรเสริญเป็นของอัลลอ
มันไม่มีข้อบังคับสำหรับมุส
และไม่อนุญาตสำหรับมุสลิมที
ที่เกี่ยวกับเรื่องนั้น ชัยคฺ อัชชานคีตี(รอฮีมาฮุลลอฮ์)ไ
أضواء البيان في إيضاح القرآن بالقرآن" (7 / 307):
ที่เกี่ยวกับประเภทของตักลี
การตามในลักษณะนี้ไม่ได้ถูก
มันขัดแย้งกับความเห็นของสี
เพราะฉะนั้นการตามนักวิชากา
ให้เขาชี้ให้เราเห็นบุคคลใด
จบคำอ้าง.
สี่อีมามมัซฮับ(ขออัลลอฮ์เม
จบคำอ้างจาก
إعلام الموقعين عن رب العالمين " (2 / 139).
ชัยคุลอิสลาม อิบนุ ตัยมียะห์ (รอฮีมาฮุลลอฮ์)ได้ถูกถาม:
อะไรคือสิ่งที่นักวิชาการศา
และเขากล่าวว่า,"มุฮัมหมัดด
เมื่อมันถูกกล่าวว่าผู้ศรัธ
และมันถูกกล่าวกับเขา:คุณต้
เขาตอบ:
มวลการสรรเสริญเป็นของอัลลอ
สำหรับบรรดาผู้มีอำนาจ(ผู้ป
يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا أَطِيعُوا اللَّهَ وَأَطِيعُوا الرَّسُولَ وَأُولِي الْأَمْرِ مِنكُمْ فَإِن تَنَازَعْتُمْ فِي شَيْءٍ فَرُدُّوهُ إِلَى اللَّهِ وَالرَّسُولِ إِن كُنتُمْ تُؤْمِنُونَ بِاللَّهِ وَالْيَوْمِ الْآخِرِ ذَٰلِكَ خَيْرٌ وَأَحْسَنُ تَأْوِيلًا ( 59 )
ผู้ศรัทธาทั้งหลาย ! จงเชื่อฟังอัลลอฮฺ และเชื่อฟังร่อซูลเถิด และผู้ปกครองในหมู่พวกเจ้าด
มันเป็นหน้าที่ที่ต้องเชื่อ
[อันนีซาอฺ 4:59].
ถ้ามุสลิมถูกเผชิญกับปัญหาใ
ไม่สำคัญว่าเขามัซฮับอะไร.ช
สำหรับคนที่กำลังตามมัซฮับข
การเฉพาะเพราะเขาไม่สามารถท
แต่ละคนจำเป็นที่ต้องกลัวอั
จบคำอ้างจาก
مجموع الفتاوى" (20/208-209) .
ก่อนหน้านี้เราเคยอธิบายว่า
ที่เกี่ยวข้องกับคำดำรัสของ
يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا أَطِيعُوا اللَّهَ وَأَطِيعُوا الرَّسُولَ وَأُولِي الْأَمْرِ مِنكُمْ فَإِن تَنَازَعْتُمْ فِي شَيْءٍ فَرُدُّوهُ إِلَى اللَّهِ وَالرَّسُولِ إِن كُنتُمْ تُؤْمِنُونَ بِاللَّهِ وَالْيَوْمِ الْآخِرِ ذَٰلِكَ خَيْرٌ وَأَحْسَنُ تَأْوِيلًا ( 59 )
ผู้ศรัทธาทั้งหลาย ! จงเชื่อฟังอัลลอฮฺ และเชื่อฟังร่อซูลเถิด และผู้ปกครองในหมู่พวกเจ้าด
ไม่มีสิ่งใดในโองการนี้ที่ช
อัล บัยฮากี ได้กล่าวในตัฟซีรของเขา(2/
นักวิชาการมีความเห็นที่แตก
الْحَسَنِ وَالضَّحَّاكِ وَمُجَاهِدٍ
หลักฐานในเรื่องนั้นคือโองก
อาบู ฮูรอยเราะห์่ ได้กล่าว: พวกเขาเป็นผู้ปกครองและเจ้า
จบคำกล่าวอ้าง.
ที่เกี่ยวกับคำดำรัสของอัลล
สิ่งนี้ถูกกล่าวกับทุกคนที่
สำหรับผู้ที่ขาดคุณสมบัติที
อัลอามีดี ได้กล่าวใน
"الإحكام في أصول الأحكام" (4 / 228): "
อัลอิฮฺกาม ฟี อุศูล อัลอะห์กาม(4/228):
สำหรับชาวมุสลิมสามัญชน(ทั่
จบคำกล่าวอ้าง.
และอัลลอฮ์รู้ดีที่สุด.
เขียนโดย ชัยคฺ ซอและห์ อัลมุนัจจิด
แปลโดย Firdaus Msd
ที่มา https://islamqa.info/en/
https://islamqa.info/ar/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น