วันพุธที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2562

เกลียดตัวกินไข่เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง

เกลียดตัวกินไข่เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง




เกลียดตัวกินไข่เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง
อภิวัฒน์ บ้าเหร็ม
ที่ เกาะลันตา จ. กระบี่
19 ธันวาคม เวลา 23:35 น. · Ko Lanta Yai, เทศบาลเมืองกระบี่ ·
แม้กระทั่ง อิบนุตัยมียะห์ ผู้ที่ประเสริฐและมีเกียรติมากของกลุ่มวะห์บีย์คณะใหม่ ให้การยอมรับ และเทิดทูน จนให้ฉายานามว่า "ชัยคุ้ลอิสลาม"ท่านอิบนุตัยมียะห์ ยังตำหนิผู้ที่เข้าใจผิดกับสโลแกนที่ว่า "นบีไม่ทำ ไปทำเป็นบิดอะห์" ท่านกล่าวไว้ในฟาตาวาของท่าน ญุซ 21 หน้า 313 ดังนี้ครับ
في الفتاوى (21/313): (ليس لأحد أن يحتج على كراهة دخولها، أو عدم استحبابه بكون النبي صلى الله عليه وآله وسلم لم يدخلها... إذ عدم الفعل إنما هو عدم دليل واحد من الأدلة الشرعية، وهو أضعف من القول باتفاق العلماء، وسائر الأدلة ـ من أقواله كأمره ونهيه وإذنه، ومن قول الله تعالى ـ هي أقوى وأكبر... فنفي الحكم بالاستحباب لانتفاء دليل معين من غير تأمل باقي الأدلة خطأ عظيم).
“ไม่อนุญาตให้คนใดต่อการที่จะอ้างฮุ่กุ่มว่า มักโระฮ์ เข้าห้องน้ำ หรือไม่ส่งเสริมเข้าห้องน้ำด้วยการอ้างหลักฐานที่ว่าท่านนบี ซ๊อลลั้ลอฮู้อะลัยฮี่ว่าอาลี่ฮี่ว้าซั้ลลัม ไม่เคยเข้าห้องน้ำ เพราะจากการไม่ได้ทำนั้น คือ การไม่มีหลักฐานใดเลยจากบรรดาหลักฐานของศาสนา ซึ่งการไม่ได้ทำนั้นเป็นหลักฐานที่อ่อนกว่าหลักฐานเชิงคำพูดตามความเห็นพร้องของปวงปราชญ์ และอ่อนแอยิ่งกว่าบรรดาหลักฐานอื่นๆ จากบรรดาคำพูดของอัลลอฮ์ เช่น คำสั่งใช้ คำสั่งห้าม และการอนุมัติที่มาจากคำกล่าวของอัลลอฮฺตะอาลา ซึ่งเป็นหลักฐานที่มีน้ำหนักยิ่งกว่าและยิ่งใหญ่กว่า...ดังนั้นการปฏิเสธฮุ่กุ่มเนื่องจากไม่มีหลักฐานที่เจาะจงโดยไม่พิจารณาถึงบรรดาหลักฐานอื่นๆ ที่เหลือ ถือว่าเป็นความผิดพลาดอันใหญ่หลว
@@@@
ชี้แจง
สุภาษิต "เกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง ยังคงใช้ได้กับคนบางกลุ่ม ดังจะเห็นได้ต่อไปนี้
พบบ่อยที่พวกเกลียดอิบนุตัยมียะฮ แต่เอาคำพูดอิบนุตัยมียะฮมาเป็นหลักฐานสนับสนุนกิจกรรมบิดอะฮที่ตัวเองทำ อ้างว่า อิบนุตัยมียะฮส่งเสริมให้ทำเมาลิดบ้าง อ้างว่า อิบนุตัยมียะฮ ตำหนิคนที่บอกว่า นบีไม่ทำเป็นบิดอะฮบ้าง
เพราะฉะนั้น ขอนำหลักฐานคำพูดอิบนุตัยมียะฮ มาตีแสกหน้าคนแอบกินไข่ของท่านอิบนุตัยมียะฮดังนี้
1.ชัยคุลอิสลามอิบนุตัยมียะฮ(ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)กล่าวว่า
وأما اتخاذ موسم غير المواسم الشرعية كبعض ليالي شهر ربيع الأول التي يقال : إنها ليلة المولد , أو بعض ليالي رجب , أو ثامن عشر ذي الحجة , أو أول جمعة من رجب , أو ثامن من شوال الذي يسميه الجهَّال عيد الأبرار : فإنها من البدع التي لم يستحبها السلف , ولم يفعلوها. والله سبحانه وتعالى أعلم
"สำหรับการยึดเอาเทศกาลหนึ่งเทศกาลใด(มาเฉลิมฉลอง)อื่นจากบรรดาเทศกาลทางศาสนบัญัติ เช่น บางคืนของเดือนเราะบิอุลเอาวัล ซึ่ง เรียกกันว่า "คืนเมาลิด" หรือ บางคืนของเดือนเราะญับ หรือ คืนที่แปดของเดือนซุลหิจญะฮ หรือ วันศุกร์แรกของเดือนเราะญับ หรือ วันที่แปดของเดือนเชาวาล ที่บรรดาพวกโง่เง่า เรียกว่า "อีดุลอับรอ็ร" นั้น แท้จริงมันเป็นส่วนหนึ่งจากบรรดาบิดอะฮ ที่บรรดาชาวสะลัฟไม่ส่งเสริมให้กระทำและพวกเขาไม่ได้กระทำมัน ,วัลลอฮุซุบหานะฮูวะตะอาลา อะอฺลัม. - มัจญมัวะอัลฟะตาวา เล่ม 25 หน้า 298
.......
อิบนุตัยมียะฮ บอกว่า การเฉลิมฉลองเมาลิดนบีเป็นบิดอะฮ สะลัฟไม่เคยสนับสนุนส่งเสริม และไม่เคยปฏิบัติ จึงถามว่า "ชัยคุลอิสลามอิบนุตัยมียะฮน่ะหรือ ที่ส่งเสริมบิดอะฮ แถ ไม่เนียนพอครับ
ในขณะเดียวกัน ท่านอิบนุตัยมียะฮได้กล่าวถึงกิจกรรมเมาลิดนบีว่า
ولو كان هذا خيراً محضًا، أو راجحاً لكان السلف - رضي الله عنهم - أحق به منا، فإنهم كانوا أشد محبة لرسول الله - صلى الله عليه وسلم - وتعظيماً له منا، وهم على الخير أحرص
และถ้าปรากฏว่า กิจกรรมนี้ดีล้วนๆ หรือ หนักไปในทางที่ดี แน่นอน ชาวสะลัฟ(ร.ฎ) สมควรที่จะปฏิบัติด้วยมันก่อนเราเสียอีก เพราะแท้จริง พวกเขา รักรอซูลุลลอฮ ศอ็ลฯ และให้ความสำคัญต่อท่าน ยิ่งกว่าพวกเรา โดยที่พวกเขามีความปรารถนายิ่งต่อ ความดี - ดูอิกติฏออ อัสสิริตุลมุสตะกีม หน้า 266 เรื่อง
الأعياد الزمانية المبتدعة
.....................
2.มาดูทัศนะของ อิบนุตัยมียะฮซึ่งท่านปฏิเสธเรื่อง บิดอะฮหะสะนะฮในเรื่องศาสนา ดังนี้
ท่านอิบนิตัยมียะฮกล่าวว่า
وَمَعْلُومٌ أَنَّ كُلَّ مَا لَمْ يَسُنَّهُ وَلَا اسْتَحَبَّهُ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ وَلَا أَحَدٌ مِنْ هَؤُلَاءِ الَّذِينَ يَقْتَدِي بِهِمْ الْمُسْلِمُونَ فِي دِينِهِمْ فَإِنَّهُ يَكُونُ مِنْ الْبِدَعِ الْمُنْكَرَاتِ وَلَا يَقُولُ أَحَدٌ فِي مِثْلِ هَذَا إنَّهُ بِدْعَةٌ حَسَنَةٌ
และเป็นที่รู้กันว่า ทุกสิ่งที่ท่านรซูลลุลลอฮ ศ็อลลอ็ลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ไม่ได้ทำแบบอย่างเอาไว้และไม่ได้ส่งเสริมมัน และไม่มีคนหนึ่งคนใดจากพวกเขา (หมายถึงเหล่าเคาะลิฟะฮอัรรอชิดีน)ที่บรรดามวลมุสลิมปฏิบัติตามพวกเขา ในเรื่องศาสนาของพวกเขา (ได้ทำแบบอย่างและส่งเสริมให้กระทำ) ดังนั้นแท้จริงมันเป็นส่วนหนึ่งจากบิดอะฮที่ต้องห้าม และไม่มีคนใดกล่าว ในกรณีแบบนี้ว่า เป็น “บิดอะฮหะสะนะฮ” - มัจญมัวะอัลฟะตาวา เล่ม 27 หน้า 152
และท่านอิบนุตัยมียะฮกล่าวสรุปต่อมาว่า
فَمَنْ اتَّخَذَ عَمَلًا مِنْ الْأَعْمَالِ عِبَادَةً وَدِينًا وَلَيْسَ ذَلِكَ فِي الشَّرِيعَةِ وَاجِبًا وَلَا مُسْتَحَبًّا فَهُوَ ضَالٌّ بِاتِّفَاقِ الْمُسْلِمِينَ .
ดังนั้นผู้ใดก็ตาม ยึดเอาการงานหนึ่งการงานใด จากบรรดาการงาน มาเป็นอิบาดะฮ และเป็นศาสนา และดังกล่าวนั้น ไม่มีในศาสนบัญญัติ ว่าเป็นวาญิบ หรือสุนัต เขาคือ ผู้หลงผิด ด้วยมติของบรรดามุสลิม - ที่มาได้อ้างแล้ว
...............
จากที่กล่าวมาทั้งหมด จะให้ได้ชัดเจนว่า การนำคำพูดอิบนุตัยมียะฮ มาสนับสนุนบิดอะฮนั้น เป็นบิดเบือนทัศนะอิบนุตัยมียะฮ และน่าละอายมากที่มีบางคนบางกลุ่มเอาคพูดอิบนุตัยมียะฮมาเป็นหลักฐาน ทั้งๆที่เกลียดและด่าทอท่านอยู่เป็นประจำ
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
27/12/60

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น