คนไม่สังกัดมัซฮับคือพวกโจรกรรมทางวิชาการจริงหรือ
Soleah Hongsuwan
และจิงๆแล้วในการที่อ้างว่าไม่ยึดมัสหับนั้นผมคิดว่าเป็นคำพูดที่เป็นไปไม่ได้ถ้าไม่ยึดมัสหับคนพวกนี้จะเอาความรู้มาจากไหน ผมชอบคำของ อ.อับดุลฮากีม วันแอเลาะคำหนึ่งที่ท่านบอกว่าคนพวกนี้เป็นพวกโจรกรรมทางวืชาการผมว่ามันตรงกับคำพูดแกเลย
และจิงๆแล้วในการที่อ้างว่าไม่ยึดมัสหับนั้นผมคิดว่าเป็นคำพูดที่เป็นไปไม่ได้ถ้าไม่ยึดมัสหับคนพวกนี้จะเอาความรู้มาจากไหน ผมชอบคำของ อ.อับดุลฮากีม วันแอเลาะคำหนึ่งที่ท่านบอกว่าคนพวกนี้เป็นพวกโจรกรรมทางวืชาการผมว่ามันตรงกับคำพูดแกเลย
>>>>>>>>>>>>
คุณ Soleah Hongsuwan ไปตั้งกระทู้ถามวะฮบีย์ในห้องอาชาอิเราะฮ สรุปคำถามของท่านนี้คือ ถ้าไม่ตามมัซฮับแล้วเอาวิชาความรู้ศาสนามาจากใคร
ผมไม่ทราบว่า Soleah Hongsuwan เอาหลักฐานมาจากใหนว่า ต้องสังกัดมัซฮับ ถ้าไม่สังกัดมัซฮับ การที่เอาความรู้มาจากปราชญคนใด ก็จะหมายถึง การเป็นโจรขโมยวิชาการ ตามที่เขาอ้างจากปรมาจารย์ดังมีนามข้างต้น
มันเป็นความเขลาแล้วเอาความคิดจากความโง่เขลามาโจมตีคนที่ไม่ผูกขาดและยึดติดกับมัซฮับ
เท่าที่ผมเรียนมาไม่มีในอัลกุรอ่าน ไม่มีในอัสสุนนะฮและในคำสอนบรรดาอิหม่ามทั้งสี่ สั่งให้ผูกขาดมัซฮับ และห้ามไม่ให้นำคำสอนของเขามาอ้างอ้างหากไม่สังกัดมัซฮับ หรือใครไม่สังกัดมัซฮับคือ คนที่เป็นโจรทางวิชาการ คนพูดแบบนี้ ในหัวใจมีอะไรอยู่ ถ้าไม่ใช่อคติที่แสดงการเป็นปฏิปักษ์ต่อคนที่เห็นต่างกับตนจนขาดการยับยั้งชั่งใจ ดูหมิ่นดูแคลน เกลียดชัง คนที่ไม่ผูกขาดมัซฮับจนขี้ขึ้นสมอง
อิบนกอ็ยยิม (ร.ฮ) กล่าวว่า
وَقَدْ نَهَى الْأَئِمَّةُ الْأَرْبَعَةُ عَنْ تَقْلِيدِهِمْ ، وَذَمُّوا مَنْ أَخَذَ أَقْوَالَهُمْ بِغَيْرِ حُجَّةٍ ; فَقَالَ الشَّافِعِيُّ : مَثَلُ الَّذِي يَطْلُبُ الْعِلْمَ بِلَا حُجَّةٍ كَمَثَلِ حَاطِبِ لَيْلٍ ، يَحْمِلُ حُزْمَةَ حَطَبٍ وَفِيهِ أَفْعَى تَلْدَغُهُ وَهُوَ لَا يَدْرِي ، ذَكَرَهُ الْبَيْهَقِيُّ .
และความจริง อิหม่ามทั้งสี่ ได้ห้ามตักลีด(เชื่อตาม)พวกเขา และพวกเขาตำหนิผู้ที่ยึดเอาคำพูดของพวกเขาโดยปราศจากหลักฐาน แล้วท่านอิหม่ามชาฟิอีย์กล่าวว่า" อุปมาผู้ที่ศึกษาหาความรู้ โดยไม่มีหลักฐาน อุปมัยดังเช่น คนหาไม้ฟืนยามค่ำคืน ,เขาแบกมัดของไม้ฟืน และในนั้นมีงูจะกัดเขาอยู่ โดยที่เขาไม่รู้ ,อัลบัยฮะกีย์ได้ระบุเอาไว้ - อะอฺลามุลมุวักกิอีน เล่ม 1 หน้า 139
وَقَدْ فَرَّقَ أَحْمَدُ بَيْنَ التَّقْلِيدِ وَالِاتِّبَاعِ فَقَالَ أَبُو دَاوُد : سَمِعَتْهُ يَقُولُ : الِاتِّبَاعُ أَنْ يَتْبَعَ الرَّجُلُ مَا جَاءَ عَنْ النَّبِيِّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ وَعَنْ أَصْحَابِهِ ، ثُمَّ هُوَ مِنْ بَعْدُ فِي التَّابِعِينَ مُخَيَّرٌ ، وَقَالَ أَيْضًا : لَا تُقَلِّدْنِي وَلَا تُقَلِّدْ مَالِكًا وَلَا الثَّوْرِيَّ وَلَا الْأَوْزَاعِيَّ ، وَخُذْ مِنْ حَيْثُ أَخَذُوا
และความจริง อิหม่ามอะหมัด ได้แบ่งแยกระหว่าง การตักลิด(การเชื่อตาม)และ การอิตติบาอฺ(การเจริญรอยตาม) โดยที่ท่านอบูดาวูดได้กล่าวว่า "ข้าพเจ้าได้ยินเขา(อะหมัด)กล่าวว่า "อัลอิตติบาอฺ คือ การที่คนนั้น เขาได้ตามสิ่งที่มาจากท่านนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม และจากบรรดาสาวกของท่าน หลังจากนั้น คือ ผู้ที่อยู่สมัยหลังจากนั้น ในการตามนั้น ให้มีทางเลือก และเขา(อะหมัด)ได้กล่าวไว้อีกว่า"อย่าตักลีดตามข้าพเจ้า,อย่าตักลิดตามมาลิก,อย่าตักลิดตามอัษเษารีย์และอย่าตักลิดตามอัลเอาซาอีย์ และให้เอา ตามที่พวกเขาเอามา -อะอฺลามุลมุวักกิอีน เล่ม 1 หน้า 139
อิหม่ามอัชชันกิฏีย์(ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)กล่าวว่า
وأما التقليد ؛ الذي خالف فيه المتأخرون ؛ الصحابة , وغيرهم ؛ من القرون المفضلة , المشهود لهم بالخير ؛ فهو تقليد رجل واحد معين ؛ دون غيره من جميع العلماء .
สำหรับการตักลิด ที่บรรดาคนยุคหลัง มีความแตกต่าง กับเหล่าเศาะหาบะฮ และอื่นจากพวกเขา จากบรรดาศตวรรษที่ประเสริฐ ที่เป็นประจักษ์ด้วยความดีงามสำหรับพวกเขาคือ การตักลิด(การเชื่อตาม)คนๆเดียวเป็นการเฉพาะ โดยไม่ตามคนอื่นจากเขา(อื่นจากอุลามาอฺที่เขาสังกัดอยู่)จากบรรดาอุลามาอฺทั้งหมด – ดูตัฟสีรอัฎวาอุลบะยาน เล่ม 7 หน้า 307
...............
กล่าวคือ การตักลิดตามของคนในสมัยเศาะหะบะฮ และคนในยุคสะลัฟ เขาไม่ผูกขาด หรือเจาะจงตามเพียงคนเดียว และจะไม่ตามอุลามาอฺคนอื่นๆ เหมือนกับคนยุคหลัง เพราะคนยุคหลังตามมัซฮับแบบผูกขาด มัซฮับใดมัซฮับหนึ่งเป็นการเฉพาะ
...............
กล่าวคือ การตักลิดตามของคนในสมัยเศาะหะบะฮ และคนในยุคสะลัฟ เขาไม่ผูกขาด หรือเจาะจงตามเพียงคนเดียว และจะไม่ตามอุลามาอฺคนอื่นๆ เหมือนกับคนยุคหลัง เพราะคนยุคหลังตามมัซฮับแบบผูกขาด มัซฮับใดมัซฮับหนึ่งเป็นการเฉพาะ
อิบนุเราะญับ(ร.ฮ) กล่าวว่า
فالواجب على كل من بلغه أمر الرسول صلى الله عليه وسلم وعرفه أن يبينه للأمة وينصح لهم ويأمرهم باتباع أمره وإن خالف ذلك لأي عظيم من الأمة، فإن أمر الرسول صلى الله عليه وسلم أحق أن يعظم ويقتدى به من رأي معظم
วาญิบ แก่ทุกๆผู้ที่คำสั่งของรซูลุลลอฮ ศอ็ลฯ ได้ถึงมายังเขา และเขารู้จักมัน ให้เขาอธิบายมันแก่อุมมะฮ ,ตักเตือนและสั่งพวกเขาให้ปฏิบัติตามคำสั่งของท่านนบี และถ้าดังกล่าวนั้น (หมายถึง คำสั่งนบี) ขัดแย้งกับคนสำคัญคนใดจากอุมมะฮนี้ ดังนั้น คำสั่งของรซูลุลลอฮ ศอ็ลฯ สมควรที่จะให้ความสำคัญ และปฏิบัติตาม ด้วยมันยิ่งกว่าความเห็นของบุคคลสำคัญใดๆ –
الحكم الجديرة بالإذاعة" للحافظ ابن رجب رحمه الله (ص41 - 42)
จากคำพูดของอิบนุเราะญับสรุปได้ดังนี้
หนึ่ง –วาญิบแก่ผู้รู้ที่ได้รับรู้คำสั่งหรือสุนนะฮนบี ศอ็ลฯ ให้ชี้แจงและตักเตือนชาวบ้านให้ปฏิบัติตาม
สอง – คำสั่งของนบี ศอ็ลฯ หรือสุนนะฮนบี ศอ็ลฯ ย่อมมีความสำคัญกว่าความเห็นของบุคคลสำคัญใดๆก็ตาม
การสังกัดและผูกขาดมัซฮับ คนสังกัดจะเอาหะดิษมาตรวจสอบกับคำอิหม่ามที่ตนผู้กขาด หากหะดิษขัดแย้งกับมัซฮับตัวเอง ก็จะทิ้งหะดิษ หรือไม่ก็ตีความเพื่อให้เข้ากับความเห็นของมัซฮับ นี้คือ อันตราย
.............
จากคำชี้แจงข้างต้น จึงขอถามกลับไปยังคุณ Soleah Hongsuwan ว่า
1. มีหลักฐานอะไรบ้างที่สั่งให้อุมมะฮนบีมุหัมหมัดสังกัดมัซฮับ
2. มีนักปราชญระดับมุจญะตะฮีดคนใดหรือที่บอกว่าคนไม่สังกัดมัซฮับคือคนที่โจรกรรมทางวิชาการ ขอร้องให้มาตอบทางวิชาการ
จากคำพูดของอิบนุเราะญับสรุปได้ดังนี้
หนึ่ง –วาญิบแก่ผู้รู้ที่ได้รับรู้คำสั่งหรือสุนนะฮนบี ศอ็ลฯ ให้ชี้แจงและตักเตือนชาวบ้านให้ปฏิบัติตาม
สอง – คำสั่งของนบี ศอ็ลฯ หรือสุนนะฮนบี ศอ็ลฯ ย่อมมีความสำคัญกว่าความเห็นของบุคคลสำคัญใดๆก็ตาม
การสังกัดและผูกขาดมัซฮับ คนสังกัดจะเอาหะดิษมาตรวจสอบกับคำอิหม่ามที่ตนผู้กขาด หากหะดิษขัดแย้งกับมัซฮับตัวเอง ก็จะทิ้งหะดิษ หรือไม่ก็ตีความเพื่อให้เข้ากับความเห็นของมัซฮับ นี้คือ อันตราย
.............
จากคำชี้แจงข้างต้น จึงขอถามกลับไปยังคุณ Soleah Hongsuwan ว่า
1. มีหลักฐานอะไรบ้างที่สั่งให้อุมมะฮนบีมุหัมหมัดสังกัดมัซฮับ
2. มีนักปราชญระดับมุจญะตะฮีดคนใดหรือที่บอกว่าคนไม่สังกัดมัซฮับคือคนที่โจรกรรมทางวิชาการ ขอร้องให้มาตอบทางวิชาการ
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
18/3/5
อะสัน หมัดอะดั้ม
18/3/5
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น