นักฟื้นฟูศาสนาของพระองค์อัลเลาะฮฺ โดย อามีน ลอนา
عَنْ أَبِي هُرَيْرَةَ، فِيمَا أَعْلَمُ، عَنْ رَسُولِ اللَّهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قَالَ: «إِنَّ اللَّهَ يَبْعَثُ لِهَذِهِ الْأُمَّةِ عَلَى رَأْسِ كُلِّ مِائَةِ سَنَةٍ مَنْ يُجَدِّدُ لَهَا دِينَهَا»
“ท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺรายงานว่า ท่านเราะซูลลุลเลาะฮฺกล่าวว่า แท้จริงอัลเลาะฮฺจะส่งมายังประชาชาตินี้ในทุกๆต้นร้อยปี นั่นคือบุรุษผู้ซึ่งจะฟื้นฟูศาสนาของประชาชาตินี้แก่มวลประชามุสลิม”
(สุนันอบูดาวุด, หมายเลข : 4291, อิมามอัลบานีย์รับรองหะดีษนี้ว่าเศาะฮีฮฺ ดู ศ.ญ., หมายเลข : 1874, อิมามอัซซะคอวีย์ รับรองว่าลักษณะสายรายงานและตัวผู้รายงานทั้งหมดของหะดีษนี้เชื่อถือได้ ดู ม.ซ., หน้า 149)[1]
หมายเหตุ : อักษรย่อ
ม.ซ.
มุฮัมมัด บินอับดุรเราะฮฺมาน อัซซะคอวีย์. อัลมะกอศิดอัลฮะซะนะฮฺฟีบะยานิกะษีรมินัลอะฮาดีษอัลมุชตะฮิเราะฮฺอะลาอัลซินะฮฺ. เบรูต: ดารุลกุตตุบอัลอะเราะบีย์, 1414.
อ.ม.
มุฮัมมัด ชัมซุลฮัก อัลอะสี้ม อะบาดีย์. เอานุลมะอฺบูดชัรฮฺสุนันอบูดาวุด. มะดีนะฮฺอัลมุเนาวะเราะฮฺ: มักตะบะฮฺอัซซะละฟียะฮฺ, 1388.
[1]มีบางกลุ่มและบางคนนิยมนำหะดีษนี้มาใช้ในการบรรยายอยู่บ่อยครั้งเพื่อสร้างความฮือฮาอลังการว่าศาสนาอิสลามจะถูกปกป้องอยู่เสมอในทุกยุค ขณะเดียวกันคนกลุ่มนี้กลับไม่ได้สนใจเงื่อนไขและความเข้าใจของปวงปราชญ์เลยว่าพวกเขาอธิบายถึงลักษณะของผู้ฟื้นฟูศาสนาตามหะดีษบทนี้อย่างไร ที่ตลกไปกว่านั้นก็คือบางกลุ่มนิยมนำหะดีษบทนี้มาป่าวประกาศเพื่อเรียกร้องให้เยาวชนคนหนุ่มสาวกระโจนเข้าร่วมการฟื้นฟูศาสนาอิสลามในขณะเดียวกันพวกเขากลับปรามเยาวชนมิให้พูดเรื่องปัญหาบิดอะฮฺและสารพัดปัญหาขัดแย้ง ที่ร้ายไปกว่านั้นบางกลุ่มใช้หะดีษบทนี้แต่ทำตัวลอยเหนือปัญหาบิดอะฮฺพร้อมกับเรียกร้องให้สังคมมุสลิมสมานฉันท์?! ความหมายของหะดีษบทนี้ก็คือ ผู้ฟื้นฟูศาสนา (มุญัดดิ้ด) ผู้นี้จะมาปรากฏตัวขึ้นเมื่อศักราชของอิสลามดำเนินมาจวบจนครบรอบร้อยปี เช่น ฮ.ศ. 1-100 ก็จะมีมุญัดดิ้ดปรากฏออกมาในช่วงเวลาหลังจากนั้น และเมื่อ ฮ.ศ.100-200 ก็จะมีออกมาอีกในยามที่ซุนนะฮฺของท่านนบี สูญหายส่วนความโง่และบิดอะฮฺก็แพร่กระจายไปทั่วสารทิศ หน้าที่ของมุญัดดิ้ดผู้นี้ก็คือการทำให้ ซุนนะฮฺของท่านนบีชัดแจ้งออกมาจากปลักของบิดอะฮฺตลอดจนการทำให้พวกบิดอะฮฺเกิดความอัปยศและอ่อนแอลง ในยุคต้นของอิสลามเมื่อศาสนาเกิดวิกฤติขึ้นก็จะปรากฏมุญัดดิ้ดออกมาทำหน้าที่ปกป้องศาสนาตามหน้าที่ของเขา ดังปรากฏท่านอุมัรบินอับดุลอะซี้ส, ท่านอิมาม อะฮฺมัดอิบนุฮัมบัล, ท่านอิมามชาฟิอีย์ ซึ่งนับว่าเป็นมุญัดดิ้ดในยุคแรกของอิสลามที่ต่อสู้กับบิดอะฮฺและการทำลายอิสลามที่มีอยู่ในเวลานั้น ท่านอิมามอะฮฺมัดเองก็ได้อธิบายว่ามุญัดดิ้ดคือผู้ฟื้นฟูซุนนะฮฺขึ้นแก่ประชาชนและทำลายการอุปโลกน์เรื่องมุสาแก่ท่านนบีมุฮัมมัดในขณะ ที่ท่านอัลฮาฟิซ อิบนุฮะญัร อัลอัซเกาะลานีย์ นักปราชญ์หะดีษคนสำคัญก็อธิบายว่าสำหรับมุญัดดิ้ดเหล่านี้แล้ว ความเห็นหรือคำสอนของเขาจะมีพลังมากกว่านักปราชญ์คนอื่นๆในยุคเดียวกัน เนื่องจากมุญัดดิ้ดเหล่านี้จะมีความรู้ทางด้านศาสนาที่กว้างขวางจนเป็นที่ประจักษ์แก่ประชาชนในยุคของเขา และในขณะเดียวกันในแต่ละยุคนั้นมุญัดดิ้ดอาจจะมีมากกว่าหนึ่งคนก็ได้ (อ.ม.,เล่ม 11 หน้า 385-393)
ข้าฯขอกล่าวว่า : จากเงื่อนไขทั้งหมดของผู้เป็นมุญัดดิ้ด ท่านผู้อ่านจะพบว่าหน้าที่หลักของมุญัดดิ้ดคือการฟื้นฟูศาสนาและหนทางแก่ประชาชนไปสู่สวรรค์ของพระองค์อัลเลาะฮฺ ด้วยเหตุนี้เองมุญัดดิ้ดซึ่งเปรียบดั่งแสงอาทิตย์อันจรัสจ้าจึงตั้งตัวเป็นปฏิปักษ์กับเหล่าบิดอะฮฺที่ทำให้ซุนนะฮฺของท่านนบีมัวหมอง จึงนับเป็นเรื่องตลกยิ่งนักที่ใครจะกล่าวว่ามุญัดดิ้ดคือผู้ที่ฟื้นฟูสภาพความเจริญก้าวหน้าทางด้านวัตถุและปัจจัยยังชีพแก่ประชาชาติอิสลามโดยที่ไม่แยแสความถูกต้องของหลักศรัทธาตลอดจนซุนนะฮฺของท่านนบี ที่ร้ายไปกว่านั้นบางพวกกลับบอกว่ามุญัดดิ้ดที่ว่าคือผู้ที่สร้างความสมานฉันท์ระหว่างกลุ่มหลงผิดต่างๆให้รวมเป็นหนึ่ง หรือบางพวกเช่นกลุ่มอะชาอิเราะฮฺก็เชื่อว่ามุญัดดิ้ดถูกส่งมาในแต่ละยุคซึ่งประชากรส่วนใหญ่อยู่บนแนวทางซุนนะฮฺอย่างเข้มแข็งหรืออยู่บนหนทางรอดในความเข้าใจของพวกเขาอยู่แล้ว!หมายความว่าประชากรส่วนใหญ่ที่เป็นอะชาอิเราะฮฺซึ่งศรัทธามั่นต่อการตีความคุณลักษณะของพระองค์อัลเลาะฮฺ จนแทบไม่ต่างอะไรมากจากแนวทางมุอฺตะซิละฮฺและ ญะฮฺมียะฮฺ, ยึดมั่นต่อศาสนกิจที่ทำขึ้นจากหะดีษอ่อน, กระทำบิดอะฮฺที่พวกเขาอ้างว่าดีไม่ว่าจะอ่านอัลกุรอานให้คนตาย, เมาลิด,กินบุญและการจมปลักอยู่กับจารีตของแนวทางศูฟีย์ที่แสวงหาความลี้ลับของพิธีกรรมบางอย่างตลอดจนการสร้างสถูปสูงเหนือสุสานและการวิงวอนขอความช่วยเหลือจากคนตายที่เป็นคนดีทั้งหลาย นี่คือสภาพที่พวกเขาเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง และมันก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่ามันคือสภาพของประชากรส่วนใหญ่ในแต่ละยุคสมัยที่อะชาอิเราะฮฺมีอำนาจจนเราไม่เห็นเหตุผลว่านักฟื้นฟูศาสนาจะถูกส่งมาฟื้นฟูอะไร? ทั้งที่สภาพทั้งหมดตามที่กล่าวไปก็แทบไม่มีสักข้ออยู่แล้วที่ไม่มีกระทำกันในหมู่ชีอะฮฺและกลุ่มบิดอะฮฺอื่น! จะให้เข้าใจว่านักฟื้นฟูถูกส่งมาเพื่อสถาปนาการกินบุญคนตาย การสวดศพ 7 วัน 100 วัน ที่กำลังอ่อนแรงลงจากพวกสะละฟีย์ส่วนน้อยกระนั้นฤา! หามิได้มุญัดดิ้ดเหล่านี้จะเปรียบดังบุรุษผู้หาตัวจับยากแห่งยุคสมัย เป็นบุรุษที่เข้ามาทำลายความมัวหมองทางศาสนาที่กระจายอยู่ในหมู่ประชากรส่วนใหญ่ ข้าฯจึงเชื่อว่า ท่านอิมามอิบนุคุซัยมะฮฺ, ท่านชัยคุลอิสลามอิบนุตัยมียะฮฺ, ท่านอิมามมุฮัมมัดบิน อับดุลวะฮาบ และท่านชัยคฺมุฮัมมัด นาศิรุดดีน อัลอัลบานีย์ พวกเขาคือมุญัดดิ้ดในยุคสมัยที่พวกเขามีชีวิตอยู่เพื่อทำหน้าที่ฟื้นฟูศาสนาของพระองค์ขึ้นจากปลักโคลนบิดอะฮฺที่แผ่ขยายไปทั่วหล้า!
หมวดหมู่:
มันฮัจญฺ(แนวทาง)สลัฟ
มันฮัจญฺ(แนวทาง)สลัฟ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น