220074 : สงสัยเกี่ยวกับซอฮาบะฮ์(รอดียัลลอฮูอันฮุม)และคำตอบต่อข้อสงสัยเหล่านี้
คำถาม
ในกีตาบ อัซ-ซุนนะฮ์ โดย อิบนุ อาบี อาซิม มันถูกรายงานว่า อีหม่ามอาลี ได้กล่าว: ไม่มีใครจะถูกนำมาที่ฉัน ผู้ที่ให้ความสำคัญต่อฉันมากกว่า อาบู บักร์ และอุมาร์ นอกจากว่าฉันจะโบยเขาด้วยการลงโทษผู้ที่หลอกลวงผู้อื่น. ถ้าหากอีหม่ามอาลีเองยอมรับว่าอาบู บักร์ และอุมาร์(รอดียัลลอฮูอันฮุม)เป็นผู้ที่สมควรกับตำแหน่งคอลีฟะห์มากกว่าเขา,ถ้าเช่นนั้นทำไมเขากับซอฮาบะฮ์บางคนจึงปฏิเสธที่จะให้สัตยาบัน(สาบานว่าจะจงรักภักดี)ต่ออาบู บักร์ในฐานะกาหลิบ(คอลัฟะห์)?
เกี่ยวกับเรื่องที่สอง,มันคือตอนที่'อุษมาน อิบนุ อัฟฟาน(รอดียัลลอฮูอันฮู)เฆี่ยน'อัมมาร อิบนุ ยาซีร(รอดียัลลอฮูอันฮู)สองครั้ง: ครั้งที่หนึ่งเพราะเขาไม่เห็นด้วยกับอุษมานอย่างเปิดเผยในมัสยิดเกี่ยวกับสิทธิของอุษมานที่จะใช้ทรัพย์สิน(สาธารณะ)ของชาวมุสลิม,และเขาเฆี่ยนต่อหน้าอาลี อิบนุ อาบี ตอลิบ,และในครั้งที่สองคือตอนที่เขาส่งข่าวไปยังอุษมานจากผู้เป็นปฏิปักษ์ของเขา,บอกเขาว่าเขาล้มเหลวที่จะทำตามแบบอย่างที่ถูกกำหนดโดยคอลีฟะห์อาบู บักร์และอูมาร์(รอดียัลลอฮูอันฮุม). อาลีเห็นอัมมาร์ กำลังถูกเฆี่ยนโดยไม่ทำอะไรเลยหรือไม่?การเรียกร้องดังกล่าวเป็นอย่างไร?
เกี่ยวกับเรื่องที่สอง,มันคือตอนที่'อุษมาน อิบนุ อัฟฟาน(รอดียัลลอฮูอันฮู)เฆี่ยน'อัมมาร อิบนุ ยาซีร(รอดียัลลอฮูอันฮู)สองครั้ง: ครั้งที่หนึ่งเพราะเขาไม่เห็นด้วยกับอุษมานอย่างเปิดเผยในมัสยิดเกี่ยวกับสิทธิของอุษมานที่จะใช้ทรัพย์สิน(สาธารณะ)ของชาวมุสลิม,และเขาเฆี่ยนต่อหน้าอาลี อิบนุ อาบี ตอลิบ,และในครั้งที่สองคือตอนที่เขาส่งข่าวไปยังอุษมานจากผู้เป็นปฏิปักษ์ของเขา,บอกเขาว่าเขาล้มเหลวที่จะทำตามแบบอย่างที่ถูกกำหนดโดยคอลีฟะห์อาบู บักร์และอูมาร์(รอดียัลลอฮูอันฮุม). อาลีเห็นอัมมาร์ กำลังถูกเฆี่ยนโดยไม่ทำอะไรเลยหรือไม่?การเรียกร้องดังกล่าวเป็นอย่างไร?
ตอบ
มวลการสรรเสริญเป็นของอัลลอฮ์
1.
เหล่าซอฮาบะฮ์(รอดียัลลอฮูอันฮุม) - แม้ว่าพวกเขาจะเป็นประชาชนที่ดีที่สุด - พวกเขาก็เป็นมนุษย์,และเกิดขึ้นในหมู่พวกเขาซึ่งมักเกิดขึ้นในหมู่คนที่มีข้อพิพาทและความคิดเห็นที่แตกต่าง.แต่พวกเขาเป็นคนที่รวดเร็วในการทำความดีและพวกเขาเป็นคนที่มาก่อนในความรู้ของสัจธรรม,ปฏิบัติตามความจริงและคนที่ว่องไวในการยอมรับและแก้ไขข้อผิดพลาดของพวกเขา,หากคนใดคนหนึ่งของพวกเขาทำความผิด,เหมือนมนุษย์คนอื่นๆ.
เหล่าซอฮาบะฮ์(รอดียัลลอฮูอันฮุม) - แม้ว่าพวกเขาจะเป็นประชาชนที่ดีที่สุด - พวกเขาก็เป็นมนุษย์,และเกิดขึ้นในหมู่พวกเขาซึ่งมักเกิดขึ้นในหมู่คนที่มีข้อพิพาทและความคิดเห็นที่แตกต่าง.แต่พวกเขาเป็นคนที่รวดเร็วในการทำความดีและพวกเขาเป็นคนที่มาก่อนในความรู้ของสัจธรรม,ปฏิบัติตามความจริงและคนที่ว่องไวในการยอมรับและแก้ไขข้อผิดพลาดของพวกเขา,หากคนใดคนหนึ่งของพวกเขาทำความผิด,เหมือนมนุษย์คนอื่นๆ.
สิ่งที่จำเป็นสำหรับคนใดคนหนึ่งผู้ที่เข้าใจได้คือต้องละเว้นจากการถกเถียงความแตกต่างที่เกิดขึ้นในท่ามกลางบรรดาซอฮาบะฮ์(รอดียัลลอฮูอันฮุม)และคิดบวกกับทุกคนของพวกเขา.
คุณสามารถพบผู้คนผู้ที่ดีกว่าบรรดาเหล่าผู้ที่ตามท่านรอซูลุลลอฮ์ที่ไหนได้,อพยพกับเขา,มุ่งมั่นกับเขาในญิฮาด,และละหมาดข้างหลังเขา?
ดูคำตอบจากคำถามหมายเลข 127028.
2.
มันถูกรายงานโดย อับดุลลอฮ์ อิบนุ อะหมัด ใน อัซซุนนะฮ์ (1312), อิบนุ อาบี อาซิม ใน อัซ-ซุนนะฮ์ (1219) และ อัล-บัยฮากี ใน อัล-อิติก๊อด (หน้า 358)
ว่าอาลี อิบนุ อาบี ตอลิบ ได้กล่าว: ไม่มีใครให้ความสำคัญกับฉันมากกว่าอาบู บักร์ และ อุมาร์(รอดียัลลอฮูอันฮุม)นอกจากว่า ฉันจะโบยเขาด้วยการลงโทษผู้ที่หลอกลวงผู้อื่น.
มันถูกรายงานโดย อับดุลลอฮ์ อิบนุ อะหมัด ใน อัซซุนนะฮ์ (1312), อิบนุ อาบี อาซิม ใน อัซ-ซุนนะฮ์ (1219) และ อัล-บัยฮากี ใน อัล-อิติก๊อด (หน้า 358)
ว่าอาลี อิบนุ อาบี ตอลิบ ได้กล่าว: ไม่มีใครให้ความสำคัญกับฉันมากกว่าอาบู บักร์ และ อุมาร์(รอดียัลลอฮูอันฮุม)นอกจากว่า ฉันจะโบยเขาด้วยการลงโทษผู้ที่หลอกลวงผู้อื่น.
ชัยคุลอิสลาม อิบนุ ตัยมียะห์(รอฮีมาฮุลลอฮ์)ได้กล่าว:
มันถูกพิสูจน์ผ่านอิสนัดจากอาลี ว่าเขาได้กล่าว: ไม่มีใครจะถูกนำมาที่ฉันผู้ที่ให้ความสำคัญที่เหนือกว่าอาบู บักร์ และอุมาร์ นอกจากฉันจะโบยเขาด้วยการลงโทษผู้ที่หลอกลวงผู้อื่น.
จบอ้างจาก มัจมุอฺ อัล-ฟัตตาวา
(4/479).
(4/479).
เขายังกล่าวด้วยว่า:
มันถูกรายงานจากอาลี ผ่านอิสนัด(เส้นทางของการรายงาน)ประมาณ 80 กระแสหรือ มากกว่าที่เขาได้พูดบนมินบัรของกุฟะห์: ดีที่สุดของประชาชาตินี้หลังจากท่านนบี(มุฮัมมัด(ﷺ)) คือ อาบู บักร์ และอุมาร์
จบอ้างจาก มัจมุอฺ อัล-ฟัตตาวา
(4/407).
(4/407).
3.
มันถูกยืนยันใน อัซ-ซอฮีฮัยน์ ว่า อาลี อิบนุ อาบี ตอลิบ ได้ให้สัตยาบันกับอาบู บักร์,แม้ว่ามันล้าช้าไปสองสามเดือน.
มันถูกยืนยันใน อัซ-ซอฮีฮัยน์ ว่า อาลี อิบนุ อาบี ตอลิบ ได้ให้สัตยาบันกับอาบู บักร์,แม้ว่ามันล้าช้าไปสองสามเดือน.
อาลี ไม่ได้แสดงความไม่เห็นด้วยกับอาบู บักรฺ(รอดียัลลอฮูอันฮู)หรือแสดงความไม่พอใจต่อตำแหน่งคอลีฟะห์ของอาบู บักร์,และไม่เคยแสดงความขัดแย้งใดๆ. แต่มากกว่าที่เขาให้สัตยาบันหรือบัยอะห์กับอาบู บักร์ ล่าช้า.เหตุผลสำหรับเรื่องนั้น(หมายถึงให้บัยอะห์ช้า)เนื่องจากว่า เขาไม่เห็นด้วยกับอาบู บักร์,อูมาร์และท่านอื่นๆในหมู่ซอฮาบะฮ์(รอดียัลลอฮูอันฮุม)ในการตัดสินใจแต่งตั้งตำแหน่งคอลีฟะห์โดยไม่มีเขา,แม้จะมีคุณธรรม,ศักดิ์ศรีและสถานะที่สูงของเขา,เพราะเขามีสิทธิ์ที่จะอยู่และได้รับการปรึกษาหารือเกี่ยวกับเรื่องนั้น,และไม่ควรมีการตัดสินใจโดยไม่มีเขา.
เหตุผลหรือคำอธิบายที่บรรดาซอฮาบะฮ์ได้ให้คือ พวกเขาได้เร่งรีบให้สัตยาบันกับอาบู บักร์ เพื่อที่จะป้องปัดฟิตนะห์และความสับสนอลหม่านในอุมมะห์มุสลิม,เพราะพวกเขาเกรงว่าการพิพาทและความขัดแย้งอาจผุดขึ้นมาถ้าพวกเขาล่าช้าในเรื่องนี้.
อีกเหตุผลหนึ่งสำหรับความล่าช้า [ในการให้สัตยาบันของอาลีกับอาบู บักร์]เป็นความจริงที่ ฟาตีมะห์(รอดียัลลอฮูอันฮา)โกรธกับคำตอบของอาบู บักร์ที่มีกับนาง เมื่อตอนที่นางได้ถามเขาเกี่ยวกับมรดก(จากท่านนบี(ﷺ)),และอาลี คิดว่าเขาควรแสดงความเห็นอกเห็นใจกับนางโดยการออกห่างจากอาบู บักร์,โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่นางต้องผ่านความเศร้าโศก,ความทุกข์และความรวดร้าวในการเสียชีวิตของท่านรอซูลุลลอฮ์(ﷺ).
อาลี(รอดียัลลอฮูอันฮู)ไม่ได้ปฏิเสธที่จะให้สัตยาบันกับอาบู บักรฺ(รอดียัลลอฮูอันฮู); แต่มากกว่าที่เขาล่าช้าในการให้สัตยาบันสำหรับเหตุผลที่ถูกกล่าวถึงข้างต้น.หลังจากนั้นเขาได้มาและให้สัตยาบันกับเขาโดยไม่มีการถูกบังคับให้กระทำเช่นนั้น.
ชัยคุลอิสลาม อิบนุ ตัยมียะห์(รอฮีมาฮุลลอฮ์)ได้กล่าว:
มันเป็นที่ทราบกันดีผ่านคำรายงานระดับมุตาวาตีร ว่าไม่มีใครหน่วงเหนี่ยวจากการให้สัตยาบันกับเขา - คืออาบู บักร์ อัซซิดดีก(รอดียัลลอฮูอันฮู) - ยกเว้น สะอัด อิบนุ อุบาดะห์. ในส่วนของอาลี และบานู ฮาชิม,ทั้งหมดของพวกเขาให้สัตยาบันกับเขา,ตามมติอิจมาอฺ,และไม่มีใครของพวกเขาได้เสียชีวิตจนกระทั่งหลังการให้สัตยาบันกับเขา. แต่มันถูกกล่าวว่าอาลี ได้ล่าช้า ในการให้สัตยาบันกับเขาเป็นเวลาหกเดือน,หรือว่าเขาได้ให้สัตยาบันกับเขาในวันที่สอง.ไม่ว่าในกรณีใดพวกเขาให้สัตยาบัน(สาบานว่าจะจงรักภักดี)ต่อเขาโดยไม่ถูกบังคับให้ทำเช่นนั้น.
จบอ้างจาก มินฮาจ อัซ-ซุนนะฮ์ (8/232).
ดูคำตอบจากคำถามหมายเลข 147540 ด้วย.
(ติดตามต่อในข้อที่ 4 ครับ ในกระทู้ตอนที่สอง)
แปลโดย Firdaus Msd
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น