วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2562

เหตุการณ์ในวันฟื้นคืนชีพ: การขึ้นออกมาจากหลุมฝังศพเพื่อการเข้าสวรรค์

เหตุการณ์ในวันฟื้นคืนชีพ:
การขึ้นออกมาจากหลุมฝังศพเพื่อการเข้าสวรรค์
โดย อาบู คอดีญะห์ อับดุล-วาฮิด
Events on the Day of Resurrection: The Rising from the Graves to Entry into Paradise
2nd June 2015 Abu Khadeejah Abdul-Wahid
ถอดความจาก การประชุมอภิปราย หัวข้อ ปรโลก ณ เบอร์มิงแฮม(แอสตัน)สหราชอาณาจักร
23 พฤษภาคม 2015 (ชะอฺบาน ฮ.ศ 1436)
มวลการสรรเสริญเป็นของอัลลอฮ์,เราขอสรรเสริญพระองค์,แสวงหาความช่วยเหลือจากพระองค์ และการอภัยโทษจากพระองค์.
เราขอความปลอดภัยในอัลลอฮ์จากความชั่วร้ายจากจิตวิญญาณของเราและความชั่วร้ายจากการกระทำของเรา.
ใครก็ตามที่อัลลอฮ์นำทาง ไม่มีใครจะทำให้หลงผิด.ฉันถือการเป็นพยานว่าไม่มีพระเจ้าที่ควรค่าต่อการเคารพสักการะยกเว้นอัลลอฮ์เท่านั้น โดยไม่มีภาคีใดๆและฉันถือการเป็นพยานว่ามุฮัมมัด(ﷺ)เป็นบ่าวและศาสนฑูตของพระองค์.
ดำเนินเรื่อง,
يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا اتَّقُوا اللَّهَ حَقَّ تُقَاتِهِ وَلَا تَمُوتُنَّ إِلَّا وَأَنتُم مُّسْلِمُونَ ( 102 )
โอ้ผู้ศรัทธาทั้งหลาย! จงยำเกรงอัลลอฮ์อย่างแท้จริงเถิด และพวกเจ้าจงอย่าตาย เป็นอันขาดนอกจากในฐานะที่พวกเจ้าเป็นผู้นอบน้อมเท่านั้น
(อาล อิมรอน 3:102)
يَا أَيُّهَا النَّاسُ اتَّقُوا رَبَّكُمُ الَّذِي خَلَقَكُم مِّن نَّفْسٍ وَاحِدَةٍ وَخَلَقَ مِنْهَا زَوْجَهَا وَبَثَّ مِنْهُمَا رِجَالًا كَثِيرًا وَنِسَاءً ۚ وَاتَّقُوا اللَّهَ الَّذِي تَسَاءَلُونَ بِهِ وَالْأَرْحَامَ ۚ إِنَّ اللَّهَ كَانَ عَلَيْكُمْ رَقِيبًا ( 1 )
มนุษยชาติทั้งหลาย ! จงยำเกรงพระเจ้าของพวกเจ้าที่ได้บังเกิดพวกเจ้ามาจากชีวิตหนึ่ง และได้ทรงบังเกิดจากชีวิตนั้นซึ่งคู่ครองของเขา และได้ทรงให้แพร่สะพัดไปจากทั้งสองนั้น ซึ่งบรรดาชายและบรรดาหญิงอันมากมาย และจงยำเกรงอัลลอฮฺที่พวกเจ้าต่างขอกัน ด้วยพระองค์ และพึงรักษาเครือญาติ แท้จริงอัลลอฮฺทรงสอดส่องดูพวกเจ้าอยู่เสมอ
(อัน-นิสาอ์ 4:1)
يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا اتَّقُوا اللَّهَ وَقُولُوا قَوْلًا سَدِيدًا ( 70 )
โอ้บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย ! จงยำเกรงอัลลอฮฺ และจงกล่าวถ้อยคำที่เที่ยงธรรมเถิด
يُصْلِحْ لَكُمْ أَعْمَالَكُمْ وَيَغْفِرْ لَكُمْ ذُنُوبَكُمْ ۗ وَمَن يُطِعِ اللَّهَ وَرَسُولَهُ فَقَدْ فَازَ فَوْزًا عَظِيمًا ( 71 )
พระองค์จะทรงปรับปรุงการงานของพวกเจ้าให้ดีขึ้นสำหรับพวกเจ้า และจะทรงอภัยโทษความผิดของพวกเจ้าให้แก่พวกเจ้าและผู้ใดเชื่อฟังปฏิบัติตามอัลลอฮฺแล่ะร่อซูลของพระองค์ แน่นอนเขาได้รับความสำเร็จใหญ่หลวง
(อัล-อะห์ซาบ 33:70-71)
ดำเนินเรื่อง,
ถ้อยคำที่จริงที่สุดคือคัมภีร์ของอัลลอฮ์,และแนวทางที่ดีที่สุดคือแนวทางของมุฮัมมัด(ﷺ). กิจการที่เลวที่สุดคือเรื่องที่ถูกอุตริขึ้นมาใหม่,ทุกเรื่องที่ถูกอุตริขึ้นมาใหม่เป็นอุตริกรรม,ทุกๆอุตริกรรมคือแนวทางที่หลงผิด,และทุกๆความหลงผิดอยู่ในไฟนรก.ดำเนินเรื่องต่อ,
หัวข้อสำหรับการประชุมอภิปรายนี้มีชื่อว่า"ปรโลก",กล่าวถึงเหตุการณ์ทั้งหมดที่จะเกิดขึ้น; ก่อนวันสิ้นโลกถูกอุบัติขึ้น,สุสาน(บัรซากฮ์),วันแห่งการฟื้นคืนชีพ(เยามุลกียามะห์)และภายหลังจากนั้น,การเข้าสู่นรก(ญะฮันนัม)และสวรรค์(ญันนะห์).นี่เป็นหัวข้อที่พี่น้องของเราที่มัสยิด ซุนนะห์ อัน-นาบาวีได้เลือก,ที่นี่คือ แอสตัน(เบอร์มิงแฮม,สหราชอาณาจักร)ที่ตรงกับวันที่ 23 พฤษภาคม 2015 ของสมัยสามัญ (Common Era),ตรงกับเดือน ชะอฺบาน ปี ฮ.ศ 1436.ก่อนหน้าฉันในการบรรยายเป็นพี่น้องของเรา อาบู มุอาซ ตักวีม อัสลาม(Abu Muadh Taqweem Aslam)(ฮาฟิซฮุลลอฮ์)จากนั้นหลังจากเขา เป็นพี่น้องของเรา อาบู อิยาด อัมจาด รอฟิก(Abu Iyaad Amjad Rafiq)(ฮาฟิซฮุลลอฮ์).
ดังนั้น หัวข้อของฉันตามที่ฉันได้อ้างถึงคือ"เหตุการณ์ของวันฟื้นคืนชีพ" - การอภิปรายโดยสังเขปที่เปิดเผย(ตรงไปตรงมา)เพราะทุกประเด็นที่ฉันนำพาคือการบรรยายในตัวของมันเอง. ส่วนใหญ่ของการอภิปรายที่ฉันได้เอามาจากหนังสืออากีดะห์ที่ถูกอธิบายโดยนักวิชาการที่ยิ่งใหญ่ ชัยค์ ซอลิฮ์ อิบนุ เฟาซาน อัล-เฟาซาน.ฉันพยายามรวบรวมระหว่างสิ่งที่เขากล่าวในหนังสือหลายเล่มและจากนั้นฉันได้เพิ่มเติมจุดดีที่พิเศษบางส่วนที่ฉันได้ค้นคว้าจากแหล่งอื่นๆ.
ฉันต้องการเริ่มต้นด้วยสิ่งที่ถูกกล่าวโดยชัยคุลอิสลาม มุฮัมมัด อิบนุ อับดุลวะฮาบ รอฮีมาฮุลลอฮ์.เขาได้กล่าว
"ฉันเชื่อ(หมายถึง: นี่เป็นความเชื่อของอะห์ลุซซุนนะฮ์ วัล-ญามาอะห์) ว่าวิญญาณจะกลับไปยังร่างของพวกเขาหลังจากความตาย.และประชาชนจะยืนเพื่อพระเจ้าแห่งโลกทั้งหลาย.พวกเขาจะยืนเบื้องหน้าพระเจ้าของพวกเขา,ตัวตรง.พวกเขาจะอยู่ในสภาพเท้าเปล่า,เปลือยกายและไม่ได้เข้าสุหนัต.ในวันนั้น,ดวงอาทิตย์จะถูกลากมาอยู่ใกล้พวกเขา."
นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากการเป่าแตรและหลังจากนั้นมนุษย์จะออกมาจากสุสาน. และนั่นคือ "การฟื้นคืนชีพ" - มันถูกรู้จักในฐานะเป็น อัล บาอฺ อัด(al ba’ath)(การกลับคืนหรือการคืนชีพ) และมันเป็นการกลับคืนของวิญญาณสู่ร่างกายของพวกเขา.สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ถูกปฏิเสธโดยคนนอกศาสนา.เมื่อท่านรอซูลุลลอฮ์(ﷺ)เคยกล่าวกับพวกเขา วันฟื้นคืนชีพ,ระยะเวลาหลังจากสุสานและก่อนการเข้าสองที่พำนักนิรันดร์.ดังงั้นสิ่งนั้นเป็นระยะเวลาและสถานที่ที่เรากำลังอ้างถึง(พื้นที่ราบของ เยามุล-กิยามะห์).เป็นเวลาที่วิญญาณจะถูกคืนกลับไปยังร่าง,พวกมุชริกและเอทิสต์ปฏิเสธสิ่งนี้? พวกมุชริกในเวลาของท่านนบี(ﷺ)และเอทิสต์(คนที่ปฏิเสธพระเจ้า),ปฏิเสธว่าวิญญาณจะกลับมายังร่างกาย.
มีหลายข้อพิสูจน์และหลักฐาน
สำหรับการคืนชีพนี้จากกุรอานและซุนนะฮ์. มีหลักฐานทางปัญญาที่ถูกกล่าวถึงในอัลกุรอาน. ดังนั้นพวกมันจึงเป็นความรู้และถ้อยคำเดิม.และจากข้อพิสูจน์เหล่านี้เป็นสิ่งที่ชัยค์ อัล-เฟาซาน(ฮะฟิซฮุลลอฮ์)กล่าวอ้าง:"นั่นคือผู้ที่มีความเดชานุภาพในการเริ่มต้นและทำให้เกิดขึ้น,มีความสามารถในการนำมันกลับมาได้."นี่เป็นหลักฐานที่เป็นความรู้รวมทั้งหลักฐานทางตัวบท,ที่พระองค์ผู้ที่ได้สร้างพวกคุณในสถานที่แรก,พระองค์คือผู้เดียวที่จะนำพวกคุณออกมาจากสุสาน,และยกพวกคุณขึ้นมาเพื่อวันแห่งการฟื้นคืนชีพ(กิยามะฮ์).
ประการที่สอง,จากข้อพิสูจน์คือว่า พระองค์มีความสามารถในการให้ชีวิตกับแผ่นดินโลกหลังจากการตายของมันเช่นกันพระองค์สามารถที่จะให้ชีวิตกับร่างกายหลังจากการตายของพวกเขา.ประการที่สาม,จากหลักฐานคืออัลลอฮ์,ผู้ทรงสมบูรณ์แบบที่สุดและห่างไกลจากความขบขันและการเย้ยหยัน,เป็นอิสระจากความอยุติธรรมทุกประเภท.จงทราบว่าสิ่งนี้เกี่ยวกับพระเจ้าของเรา,ว่าพระองค์ไม่ได้สร้างชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินเพื่อความสนุกสนาน,ดังนั้นไม่มีข้อสงสัยสิ่งนั้นจากความยุติธรรมของอัลลอฮ์ คือ พระองค์จะทำให้กิดความยุติธรรมระหว่างบ่าวของพระองค์และสิ่งนี้จะเกิดขึ้นในวันพิพากษา.มันจะไม่เกิดในโลกนี้,แต่มากกว่าที่มันจะเกิดหลังจากความตายและหลังจากหลุมฝังศพ. อัลลอฮ์ตรัส:
وَنُفِخَ فِي الصُّورِ فَصَعِقَ مَن فِي السَّمَاوَاتِ وَمَن فِي الْأَرْضِ إِلَّا مَن شَاءَ اللَّهُ ..." ( 68 )
"และสังข์ได้ถูกเป่าขึ้น แล้วบรรดาผู้ที่อยู่ในชั้นฟ้าทั้งหลาย และแผ่นดินจะล้มลงตายเว้นแต่ผู้ที่อัลลอฮฺประสงค์ ..."
[ อัซ-ซุมัร 39 : 68]
"ศออีเกาะ(صَعِقَ)"นี้ ที่อัลลอฮ์ได้พูดถึง,เป็นการอ้างถึงความตาย.นี่คือการเป่าแตร่ของความตาย,และทุกชีวิตในชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินจะตายยกเว้นผู้ที่อัลลอฮ์ทรงประสงค์.บรรดานักวิชาการได้พูดเกี่ยวกับผู้ที่จะไม่ตายในตอนที่แตรถูกเป่า,และพวกเขามีความเห็นที่แตกต่างเกี่ยวกับสิ่งที่จะแตกดับและสิ่งที่จะไม่(แตกดับ). นักวิชาการบางท่านได้กล่าวว่ามะลาอีกะฮ์จะไม่ตาย,และบางคนได้กล่าวมันเป็นการอ้างถึงฮูรุลอิน(ผู้หญิงแห่งสวรรค์). ในขณะที่คนอื่นๆได้กล่าวว่า"อะห์ลุลญันนะฮ์จะไม่ตาย."ทำไมชาวสวรรค์จะไม่ตาย? เพราะข้อเท็จจริงในเรื่องนั้น ใครก็ตามที่เข้าสวรรค์และอะไรก็ตามอยู่ในสวรรค์เป็นอมตะและจะไม่แตกดับ. ชัยคุลอิสลาม อิบนุ ตัยมียะห์ ได้กล่าวว่า ไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่าอะไรที่จะอยู่รอดและอะไรที่จะตายเมื่อการเป่าของแตร. ภายหลังจากนั้นมะลาอีกะฮ์ อิสรอฟีลจะถูกสั่งให้เป่าเป็นครั้งที่สอง,และมนุษย์จะลุกขึ้นจากสุสานของพวกเขาสำหรับพระเจ้าแห่งโลกทั้งหลาย.วิญญาณของพวกเขาจะบินเข้าสู่ร่างกายของพวกเขา( ณ จุดของการเป่าครั้งที่สอง),ดังที่อัลลอฮ์ได้ตรัส:
"...ثُمَّ نُفِخَ فِيهِ أُخْرَىٰ فَإِذَا هُمْ قِيَامٌ يَنظُرُونَ ( 68 )
"... แล้วสังข์ได้ถูกเป่าขึ้นอีกครั้งหนึ่ง แล้วพวกเขาก็ลุกขึ้นยืนมองดู"
[อัซ-ซุมัร 39 : 68]
และแผ่นดินจะแตกสลายจากพวกเขา:
يَوْمَ تَشَقَّقُ الْأَرْضُ عَنْهُمْ سِرَاعًا ۚ ذَٰلِكَ حَشْرٌ عَلَيْنَا يَسِيرٌ ( 44 )
วันที่แผ่นดินจะแยกออกจากพวกเขา (และพวกเขาจะ)ออกมาอย่างรีบเร่ง ..." [กอฟ 50 : 44]
พวกเขาจะออกมาจากหลุมฝังศพของพวกเขาในวันนั้น,และจะเดินทางสู่สถานที่แห่งการรวมตัว ราวกับว่าพวกเขาเป็นตั๊กแตนกระจายออกไป,กำลังบินไปยังสถานที่ชุมนุม.
فَتَوَلَّ عَنْهُمْ ۘ يَوْمَ يَدْعُ الدَّاعِ إِلَىٰ شَيْءٍ نُّكُرٍ ( 6 )
ดังนั้นเจ้า (มุฮัมมัด) จงผินหลังให้แก่พวกเขา(ปล่อยพวกเขาหรือทิ้งพวกเขาไป) (ใน)วันซึ่งผู้เรียกร้อง (อิสรอฟีล) จะร้องเรียกไปสู่สิ่งที่น่ากลัวสยองขวัญ
خُشَّعًا أَبْصَارُهُمْ يَخْرُجُونَ مِنَ الْأَجْدَاثِ كَأَنَّهُمْ جَرَادٌ مُّنتَشِرٌ ( 7 )
สายตาของพวกเขาจะลดต่ำลงขณะที่พวกเขาออกจากกุบูร(หลุมฝังศพ) เสมือนหนึ่งพวกเขาเป็นตั๊กแตนที่บินว่อน
[อัล-เกาะมัร 54 : 6-7]
ดังนั้นแผ่นดินจะถูกปกคลุมและซ่อนเร้นโดยจำนวนมหาศาลของพวกเขาออกมาจากหลุมฝังศพของพวกเขาอย่างรีบเร่ง.
مُّهْطِعِينَ إِلَى الدَّاعِ ۖ يَقُولُ الْكَافِرُونَ هَٰذَا يَوْمٌ عَسِرٌ ( 8 )
รีบวิ่งไปยังผู้เรียกร้อง พวกปฏิเสธศรัทธาจะกล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่ลำบากยิ่ง
ในส่วนที่ว่า
“รีบวิ่งไปยังผู้เรียกร้อง.” [อัล-เกาะมัร 54 : 8]
ดังนั้นพวกเขาจึงถูกสั่งและขับเคลื่อนไปตาม(ที่กำหนด)และไม่มีใครถูกเลื่อนออกไป(หรือล่าช้า)ทั้งผู้ที่ปฏิเสธศรัธทาหรือมุสลิม. พวกเขาถูกผลักและพวกเขาถูกขับไล่และไม่มีใครท่ามกลางพวกเขาสามารถระงับ(หรือยับยั้ง)เพื่อให้คนใดคนหนึ่งสามารถมาช้าในวันนั้น.อัลลอฮ์กล่าวถึงในอีกโองการ:
يَوْمَ يَخْرُجُونَ مِنَ الْأَجْدَاثِ سِرَاعًا كَأَنَّهُمْ إِلَىٰ نُصُبٍ يُوفِضُونَ ( 43 )
"วันที่พวกเขาจะออกมาจากหลุมฝังศพอย่างรีบเร่งคล้ายกับพวกเขาวิ่งกรูไปยังเป้าหมายที่ถูกสร้างขึ้น(นุศุบ)ของพวกเขา."
[อัล-มะอาริจญ์ 70 :43]
ตามที่นักวิชาการได้กล่าวถึง,"นุศุบ"เป็นธงหนึ่งที่ผู้คนจะมุ่งหน้าไปอย่างรวดเร็ว.และเหล่ามะลาอีกะฮ์จะขับ(หรือต้อน)พวกเขาและไม่มีใครจะถูกให้เหลืออยู่ข้างหลัง.นี่เป็นเพราะเมื่ออัลลอฮ์ต้องการให้ฟื้นคืนชีพบรรดาผู้อยู่ในสุสานของพวกเขา.พระองค์จะส่งฝนลงมาจากฟากฟ้าที่ไม่สามารถถูกกีดกันจากสิ่งใด,ไม่ทั้งเพดานหรือหลังคาหรือสิ่งอื่นนอกจากนั้น.มันจะแทรกซึม(หรือทะลุเข้าไป)พื้นดินและมันจะเข้าสู่ร่างกาย(ของผู้ตาย)ในหลุมฝังศพ.จากนั้นร่างกายเหล่านี้ก็งอกขึ้นเช่นเดียวกับเมล็ดที่งอก(ตามที่ถูกกล่าวถึงในบางฮาดิษ). ร่างกายแตกหน่อและกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง. อัลลอฮ์ได้กล่าวถึงในกุรอาน:
وَمِنْ آيَاتِهِ أَن تَقُومَ السَّمَاءُ وَالْأَرْضُ بِأَمْرِهِ ۚ ثُمَّ إِذَا دَعَاكُمْ دَعْوَةً مِّنَ الْأَرْضِ إِذَا أَنتُمْ تَخْرُجُونَ ( 25 )
"และหนึ่งจากสัญญาณทั้งหลายของพระองค์คือ ชั้นฟ้าและแผ่นดินมั่นคงอยู่ตามพระบัญชาของพระองค์ ครั้นเมื่อพระองค์ทรงร้องเรียกพวกเจ้าอีกครั้งหนึ่งให้ออกจากแผ่นดิน เมื่อนั้นพวกเจ้าก็จะออกมากัน(ทันที)"
[อัร-รูม 30 : 25]
และไม่มีใครสามารถขัดขวางพี่น้องของฉันได้! ในทำนองเดียวกันอัลลอฮ์ก็ได้ตรัสว่า:
وَاسْتَمِعْ يَوْمَ يُنَادِ الْمُنَادِ مِن مَّكَانٍ قَرِيبٍ ( 41 )
"และเจ้าจงฟังวันที่ผู้เรียกร้องจะร้องเรียกจากสถานที่ใกล้ๆ"
[กอฟ 50 : 41]
นักวิชาการกุรอานและตัฟซีรได้กล่าวว่า ผู้เรียกจะร้องเรียกออกไปที่พวกเขา โดยการกล่าว: "โอ้มัดกระดูก, โอ้ เศษชิ้นเนื้อ, โอ้ เส้นผมที่กระจัดกระจาย! อัลลอฮ์ทรงบัญชาพวกท่านให้ออกมาชุมนุม(รวมตัว)กันในวันพิพากษา.”
(ตัฟซีร อีหม่ามอัต-ตอบารี). กระดูกจะถูกเรียก,คนที่ถูกย่อยสลายและถูกทำลายจะถูกเรียก.แม้แต่ขน(หรือเส้นผม)ที่อยู่กระจัดกระจายก็จะมารวมตัวกันตามพระบัญชาของอัลลอฮ์.ดังนั้นบุคคลนั้นจะถูกรวบรวมจากโลก(เช่น ตอนที่ตาย ถูกโปรยลงทะเล และอยู่กระจัดกระจาย เป็นต้น)และเขาจะถูกนำมารวมกันอย่างที่ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นยกเว้นว่าเขาจะไม่มีวิญญาณในช่วงเวลานั้น(หมายถึง ณ เวลา ที่ร่างกายถูกสร้างขึ้นมาอีกครั้ง วิญญาณยังไม่มา เป็นต้น).เขาจะไม่มีวิญญาณในร่างกายของเขา.เขาจะเป็นอย่างนั้นถ้ามีใครรู้จักเขาบนโลกนี้,พวกเขาจะผ่านเขาไปและพูดว่า"โอ้! คนนั้นคือชื่อนั้นและชื่อนี้(หรือลูกคนนั้นคนนี้ เป็นต้น)." ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่เกี่ยวกับรูปลักษณ์ภายนอก. จากนั้นมะลาอีกะฮ์อิสรอฟีลจะถูกสั่งให้เป่าแตร(ลักษณะเหมือนเขาสัตว์)อีกครั้งและเมื่อเขากระทำ,วิญญาณ(อันมากมาย)จะบินออกมาเพราะพวกเขาได้ถูกรวบรวมเข้าด้วยกันในแตร - ดังนั้นพวกเขาจะบินออกไปยังร่างกายของพวกเขาตามลำดับและจะถูกให้ชีวิต.
จากนั้นพวกเขาจะถูกสั่งให้เคลื่อนไปมุ่งหน้าต่อไปยังสถานที่ของการชุมนุม(มะห์ชัร). พวกเขาจะยืนอยู่ที่นั่น,บนเท้าของพวกเขา,อย่างเข้มงวด(อึดอัด,คับแคบ,แน่นหนา)และ ถูกจำกัด(กักตัว,ตีวง,จองจำ,พันธนาการ)(กับ)สถานที่ที่พวกเขามี,ไม่มีที่ว่างสำหรับสิ่งใดๆเลย.พวกเขาจะได้รับความทุกข์ทรมานกับความร้อนที่รุนแรงของวันนั้น.ดวงอาทิตย์จะมาใกล้กับศรีษะของพวกเขาและพวกเขาจะถูกเอาชนะ(หรือฟันฝ่า)โดยเหงื่อและความแออัด(จากมวลมนุษย์เป็นต้น)อย่างรุนแรง,เพราะอัลลอฮ์จะรวบรวมพวกเขาตั้งแต่คนแรกจนคนสุดท้ายบนพื้นที่เปิด(โล่งๆเป็นต้น).พวกเขาจะถูกรวบรวมให้มาชุมนุมและพวกเขาจะขับเหงื่ออย่างมากมายเนื่องจากความหวาดกลัวในวันนั้น,ตามที่ปรากฎขึ้นในหลายฮาดิษ(คำรายงานของท่านนบี(ﷺ)).พวกเขาจะหวาดกลัวและพวกเขาจะไม่มีผู้ช่วยเหลือในวันนั้นนอกจากอัลลอฮ์.พวกเขาจะมีความแตกต่างในแง่ของการขับเหงื่อของพวกเขา,ดังนั้นจะมีจากพวกเขาผู้ที่เหงื่อจะไปถึงข้อเท้า.คนอื่นเหงื่อของพวกเขาจะไปถึงหัวเข่า,คนอื่นๆขึ้นไปถึงคอของพวกเขาในขณะที่คนอื่นๆข้ามไปที่ปากของพวกเขา เนื่องจากพวกเขาเหงื่อออกอย่างล้นเหลือเนื่องจากความหวาดกลัวในวันนั้นและความวิตกกังวลของพวกเขา.พี่น้องชายและพี่น้องมุสลิมะห์ของฉัน,การยืนในวันนั้นจะกินระยะเวลา 50,000 ปี. บรรดาผู้ที่กำลังยืน(ในวันนั้น),ตาของพวกเขาจะถูกเคลือบและเท้าของพวกเขาจะเจ็บ.พวกเขาจะเปลือยกายและไม่ได้คลิปอวัยวะเพศ,ไม่กลัวหรืออับอายในการเปลือยกายของพวกเขา.
(ติดตามตอนต่อไป)
แปลโดย Firdaus Msd

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น