มัซฮับ ตอนที่ 1
โดย อ.รอชิดีน หมัดละ
นิยามของมัซฮับ
ความหมายในทางภาษา คำว่า مَذْهَبٌ (มัซฮับ) เป็นภาษาอาหรับ มีรากศัพท์มาจากกริยาสามอักษรคือ ذَهَبَ แปลว่า “ไป” ในหนังสือศัพท์ภาษาชื่อ ลิสานุลอาหรับ (1) ได้ให้ความหมายว่า الذِّهَابُ : السَّيْرُ وَالمُرُوْرُ แปลว่า การไป : การดำเนินไป, และการสัญจร
เมื่อคำกริยานี้ถูกผันให้อยู่ในรูปคำ مَذْهَبٌ ซึ่งเป็นอาการนามว่า ( مصدر ) จะมีความหมายว่า “ที่ไป” ซึ่งหมายถึง สถานที่ ที่มนุษย์ไปอยู่สม่ำเสมอ อัลกิซาอียฺ ได้กล่าวว่า: มันคือ “สถานที่ถ่ายทุกข์” หรือ ห้องสุขา (2)
ความหมายในทางวิชาการ คำว่า مَذْهَبٌ ถูกใช้ในทางวิชาการ หมายถึง “สิ่งที่ถูกยึดถือ (3)” หรือแนวทางการวิ เคราะห์ปัญหาของบรรดาอิหม่ามต่างๆ ที่ประชาชนได้ยึดถือทั้งด้านความเชื่อและปฏิบัติ
มัซฮับทางด้านความเชื่อมีหลายมัซฮับ เช่น
มัซฮับ มัวอฺตะซีละฮฺ หมายถึงแนวทางการวิเคราะห์ปัญหาของกลุ่มมัวอฺตะซิละฮฺเป็นแนวทางที่นิยมใช้ปัญญา เป็นหลัก โดยมี วาศิล อิบนิ อะฏออฺ เป็นแกนนำ หรือเรียกอีกชื่อหนี่งว่า อัลวาศิลียยะฮฺ (4)
มัซฮับ กอดรียะฮฺ หมายถึงแนวทางการวิเคราะห์ปัญหาของกลุ่ม กอดรียะฮฺเป็นแนวทางวิพากวิจารณ์เรื่อง กอฎอ-กอดัร ปฏิเสธการรู้ล่วงหน้าของอัลลอฮฺ โดยมี มะอฺบัด อัลญุหันนียฺ เป็นแกนนำเสียชีวิต ปีที่ 80 ฮิจญเราะฮฺศักราช (5)
มัซฮับ อะชาอิเราะฮฺ หมายถึงแนวทางการวิเคราะห์ปัญหาของกลุ่ม อะชาอิเราะฮฺเป็นแนวทางการศึกษาการรู้จัก อัลลอฮฺบนพื้นฐานของตรรกะ ซึ่งนำโดย อบูหะซัน อัลอัชอารียฺ เสียชีวิตปีที่ 324 ฮิจญเราะฮฺศักราช (6)
มัซฮับ อะฮฺลิสสุนนะฮฺ หมายถึงแนวทางการวิเคราะห์ปัญหาของกลุ่มอะฮฺลิสสุนนะฮฺเป็นแนวทางที่ยึดอัลกุรอาน และฮะดีษเป็นหลัก ทั้งด้านความเชื่อและการปฏิบัติ (7)
มัซฮับทางด้านการปฏิบัติมีหลายมัซฮับ เช่น
มัซฮับ ฮะนะฟียฺ หมายถึงแนวทางการวิเคราะห์ปัญหาของ อบูหะนีฟะฮฺอิหม่ามหะนะฟียฺ เกิดปีที่ 80 ตายปีที่ 150 ฮิจญเราะฮฺศักราช (8)
มัซฮับ มาลิกี หมายถึง แนวทางการวิเคราะห์ปัญหาของ อิหม่าม มาลิกี เกิดปีที่ 93 ตายปีที่ 179 ฮิจญเราะฮฺศักราช (9)
มัซฮับ ชาฟีอียฺ หมายถึง แนวทางการวิเคราะห์ปัญหาของ อิหม่าม ชาฟีอียฺ เกิดปีที่ 150 ตายปีที่ 204 บางรายงาน ว่า 205 ฮิจญเราะฮฺศักราช (10)
มัซฮับ หัมบะลียฺ หมายถึง แนวทางการวิเคราะห์ปัญหาของ อิหม่าม อะหฺมัด อิบนิ หัมบัล เกิดปีที่ 164 ตายปีที่ 204 ฮิจญเราะฮฺศักราช (11)
บรรดามัซฮับ หรือแนวทางการวิเคราะห์ปัญหานี้มีมากมาย ทั้งที่ยังคงอยู่ตามที่แสดงให้เห็นข้างต้น และสูญหาย ไปแล้วเนื่องจากไม่มีผู้ทำการสืบสานและเผยแพร่ต่อ อย่างเช่น มัซฮับ เอาซาอียฺ อัลนะคออียฺ อัฏฏอบะรียฺ เป็นต้น (12)
กำเนิดมัซฮับทั้งสี่
ในยุคสมัยของตาบิอิตตาบิอีน บรรดาเหตุการณ์และประเด็นปัญหาได้เกิดขึ้นมากมาย บรรดาฟัตวาต่าง ๆ ได้กระจัดกระจาย ดังนั้นพวกเขาจึงทำการรวบบรรดาคำวินิจฉัยทั้งหมด และทำการจดจำหลักนิติศาสตร์ของ ผู้ที่อยู่ก่อนจากนั้น พวกเขาได้ทำการวิเคราะห์การขัดแย้ง และความเห็นสอดคล้องของศอหาบะฮฺและตาบิอีน ซึ่งพวกเขาได้เตือนให้ระวังการแพร่ขยายของกรณีดังกล่าวและการขัดแย้งที่ออกนอกกฎ ดังนั้นพวกเขาจึงทำการ วินิจฉัย โดยการรวบรวมบรรดาสุนนนะฮฺต่างๆ และได้กำหนดบรรดาหลักมูลฐานแห่งนิติศาสตร์ (13) อิสลามขึ้น และเมื่อมีการถูกตั้งคำถามขึ้นมา พวกเขาก็จะทำการตอบและทำการกำหนดบรรดากฎเกณฑ์แห่งนิติศาสตร์วาง แนวทางหลักมูลฐานแห่งนิติศาสตร์ และทำการอธิบายเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นโดยให้อยู่บนหลักการเหล่านั้น แล้วได้มีการประพันธ์ และจัดเรียบเรียงเป็นบทๆขึ้นมาให้แก่ผู้คนทั้งหลาย และพวกเขาทุก ๆ คนก็ได้ปฏิบัติสิ่งที่ อัลลอฮฺทรงเปิดและชี้นำแก่เขา
นับเป็นการตื่นตัวทางวิชาการ ทั้งในศาสตร์ของหะดีษและฟิกฮ์ จนทำให้เกิดมัซฮับต่างๆ มากมาย ทั้งที่ยังคงอยู่ ในปัจจุบันและได้รับเชื่อถือจากประชาชน เช่นมัซฮับทั้งสี่คือ มัซฮับ หานาฟียฺ, มัซฮับ มาลิกี, มัซฮับ ชาฟีอียฺ และมัซฮับ หัมบาลียฺ ส่วนอีกหลายมัซฮับที่สูญหายไปแล้วเนื่องจากไม่มีผู้ทำการสืบสานและเผยแพร่ต่อ อย่างเช่น มัซฮับ เอาซาอียฺ อัลนะคออียฺ อัฏฏอบะรียฺ เป็นต้น
บรรดานักวิชาการที่เป็นเจ้าของมัซฮับเหล่านี้ถูกเรียกว่าเป็น มุจญตะฮิด แห่งยุคนั้นๆ หลายท่านก็เป็นทั้ง มุหัดดีษีน (ผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์หะดีษ) และเป็นทั้ง ฟุกอฮาอฺ (ผู้เชี่ยวชาญทางด้านฟิกฮฺ) ในเวลาเดียวกัน บางท่านจึงมีทั้ง ตำรารวบรวมหะดีษและตำรารวบรวมคำวินิจฉัยทางด้านฟิกฮฺ
ผู้วิจัยขอนำประวัติและผลงานของท่านของอิหม่ามทั้ง 4 ผู้เป็นเจ้าของมัซฮับที่โด่งดัง มากล่าวพอสังเขป ซึ่งเรียงลำดับก่อนและหลังดังนี้
1.อิหม่ามฮะนะฟียฺ
ท่านอิหม่าม อบูหะนีฟะฮฺ หรือ อิหม่ามหะนะฟี มีชื่อเต็มว่า นัวอฺมาน บุตรของ ษาบิต บุตรของ นัวอฺมาน เกิดในปีที่ 80 และเสียชีวิตในปีที่ 150 ฮิจญเราะฮฺศักราช (14)
ท่านอิหม่าม อบูหะนีฟะฮฺ มีชีวิตอยู่ในระหว่างสองช่วงการปกครอง นั่นคือ ระหว่างการปกครองของราชวงค์ อุมัยยะฮฺ และอับบาสียะฮฺ ท่านเป็นตาบิอิต ตาบิอีน และกล่าวกันว่า ท่านเป็นบุคคลสมัยตาบิอีน (15)
เมื่อกล่าวถึงอิหม่ามหะนะฟียฺ ผู้คนก็จะนึกถึงภาพของท่านว่า เป็นนักฟิกฮฺ เจ้าของมัซฮับ หะนะฟียฺ โดยมีหนังสือ รวบรวมศาสตร์ทางด้านฟิกฮฺ(อุศูลุลฟิกฮฺ)และคำวินิจฉัยของท่านทางด้านฟิกฮฺไว้มากมาย แต่ทั้งหมดนี้ไม่ได้ เป็นงานเขียนด้วยตัวท่านเอง แต่บรรดาสานุศิษย์ของท่านได้รวบรวมไว้เช่น หนังสือ อัลฟิกฮุลอักบัร (16) เป็นต้น
บรรดาสานุศิษย์และปราชญ์มัซฮับหะนะฟียฺ (17)
ท่านอิหม่ามอบูยูซุฟ ท่านอิหม่ามมูหัมมัด บิน อัล-หะซัน อัชชัยบานียฺ ท่านซุฟัร ท่านหะซัน บิน ซิยาด อัลกูฟียฺ และบรรดาปวงปราชญ์อีกหลายพันคนที่ได้ถูกบันทึกไว้ในหนังสือประวัติส่วนบุคคล ในมัซฮับหะนะฟียฺ ที่มีชื่อว่า ฏอบะกอต อัลหะนะฟียะฮฺ ถ้าจะพิจารณาประเทศต่างๆ ที่ปฏิบัติตามมัซฮับหะนะฟียฺโดยส่วนใหญ่แล้ว คือ อินเดีย ปากีสถาน บังคลาเทศ สินธุ อัฟกานิสถาน กลุ่มประเทศอาหรับในแถบเมืองชาม เช่นซีเรีย อิรัก
(1) อิบนุ มันซูร ,ลิสานุลอาหรับ ,ดารุลมะอาริฟ ,ม.ป.ท. ,ม.ป.พ. ,เล่มที่ 3 ,หน้า : 1522
(2) เล่มเดียวกัน.
(3) เล่มเดียวกัน.
(4) ดร.ฆอลิบ บิน อาลี อิวาญี ,ฟิรกุ มุอาศิเราะฮฺ ตันตะสิบุ อิลัลอิสลาม วะบะยาน เมากิฟุลอิสลาม มินฮา ,มักตะบะฮฺ อัลอัศรียฺยะฮฺ อัซซะฮะบียะตียฺ ,ญิดดะฮฺ ,2001 ,หน้า : 1163.
(5) มุหัมมัด บิน นาศิร บิน ศอลีฮฺ อัสสิฮีบานียฺ ,มันหัจญ ชะฮรอสตานี ฟีกิตาบิฮี อัลมิลัลวัลนิฮัล. ,ดารุลวะฏอนี ,ริยาฎ, หน้า : 316.
(6) ดร.ฆอลิบ บิน อาลี อิวาญี ,ฟิรกุ มุอาศิเราะฮฺ ตันตะสิบุ อิลัลอิสลาม วะบะยาน เมากิฟุลอิสลาม มินฮา ,มักตะบะฮฺ อัลอัศรียฺยะฮฺ อัซซะฮะบียะฮฺ ,ญิดดะฮฺ ,2001 ,หน้า : 1206.
(7) เล่มเดียวกัน.
(8) ดร.สุลัยมาน บิน อับดิลลาฮฺ ,อัลมัดคอล อิลา อิลมิลฟิกฮียฺ , ม.ป.ท. ,ริยาฎ,2006 ,หน้า : 121.
(9) เล่มเดียวกัน.
(10) เล่มเดียวกัน.
(11) เล่มเดียวกัน.
(12) ดูหนังสือที่เกี่ยวกับประวัติการกำเนิดมัซฮับต่างๆในอิสลาม.
(13) วิชาอุศูลลุลฟิกฮฺ.
(14) ดร.สุลัยมาน บิน อับดิลลาฮฺ ,อัลมัดคอล อิลา อิลมิลฟิกฮียฺ , ม.ป.ท. ,ริยาฎ,2006 ,หน้า : 131.
(15) เล่มเดียวกัน.
(16) อบู มันศูร อัสสะมัรกันดียฺ ,ชัรหุ ฟิกฮุลกะบีร ,นัฟเกาะชุอูนิดดียยะฮฺ ,กาตาร์ ,ม.ป.พ..
(17) ดร.สุลัยมาน บิน อับดิลลาฮฺ ,อัลมัดคอล อิลา อิลมิลฟิกฮียฺ , ม.ป.ท. ,ริยาฎ,2006 ,หน้า : 131.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น