20207 : เขาทำอาซีมัตด้วยอายะห์อัลกุรอานสำหรับภรรยาของเขาสวมใส่
คำถาม
เมื่อสองปีก่อน ตามคำขอของภรรยาของฉัน,ฉันได้เตรียมเครื่องราง(อาซีมัต)ซึ่งประกอบด้วยข้อความจากพระคัมภีร์กุรอานที่เธอสวมใส่. ฉันอ่านคำถามหมายเลข 11788. คำตอบได้กล่าวว่ามันเป็นชีริกที่จะกระทำเช่นนั้น.เนื่องจากฉันไม่ทราบว่าเครื่องรางถือเป็น ชีริก ฉันยังคงมีความผิดกับชีริกหรือไม่ กรุณาแนะนำ.
ตอบ
มวลการสรรเสริญเป็นของอัลลอฮ์.
หากมีการทำเครื่องรางกับสิ่งอื่นที่ไม่ใช่คัมภีร์กุรอ่านหรือดุอา ที่ถูกรายงานจากท่านนบี (ﷺ),หรือถ้ามันมีสัญลักษณ์,มัมโบ- จัมโบ้ และถ้อยคำประหลาดที่ไม่สามารถเข้าใจได้,เมื่อนั้นมีมติอิจมาอฺทางวิชาการว่ามันฮารามและเป็นชีริก. แต่ถ้าเครื่องรางถูกทำด้วยอายะห์กุรอานหรือดุอาที่ถูกรายงานจากท่านนบี (ﷺ),ดังนั้นมีมุมมองทางความคิดเห็นที่แตกต่างกันในท่ามกลางชาวสลัฟ,แต่มุมมองที่ถูกต้องคือว่า มันฮาราม.ดูคำถามหมายเลข 10543.
บรรดานักวิชาการของคณะกรรมการเพื่อการออกฟัตตาวา อัล-ลัจนะห์ อัล-ดาอีมะห์ ได้กล่าว:
บรรดานักวิชาการเห็นพ้องกันว่ามันฮารามที่จะสวมใส่เครื่องรางถ้าพวกมันถูกทำด้วยสิ่งอื่นที่ไม่ได้มาจากกุรอาน,แต่พวกเขามีความแตกต่างในความเห็นเกี่ยวกับเครื่องรางที่ถูกทำกับกุรอาน. บางท่านได้กล่าวว่ามันอนุญาตให้สวมใส่พวกมันและบางท่านได้กล่าวว่ามันไม่อนุญาต. มุมมองที่ไม่ได้รับอนุญาตเหมือนว่าจะถูกต้องมากกว่า เพราะความหมายทั่วไปของฮาดิษ,และเพื่อป้องกันวิธีการที่อาจนำไปสู่ชีริก.
ฟัตตาวา อัล-ลัจนะห์ อัล-ดาอีมะห์, 1/212
ดังนั้นคุณและภรรยาของคุณที่ขอจากคุณสำหรับเครื่องรางนี้ ควรเอามันออกทันทีและเผามันทิ้ง. คุณได้กล่าวว่า คุณได้กระทำมัน(หมายถึงทำอาซีมัตให้ภรรยาสวมใส่ เป็นต้น) และคุณไม่รู้ว่ามันเป็นชีริก,ดังนั้นคุณไม่ได้ถูกถือว่าเป็นมุชริก(ผู้กระทำชีริกหรือตั้งภาคี)หรือผู้กระทำความผิดบาป เพราะการกระทำนี้,เนื่องจากคุณไม่ได้ตั้งใจกระทำบาป. อัลลอฮ์ตรัส:
ادْعُوهُمْ لِآبَائِهِمْ هُوَ أَقْسَطُ عِندَ اللَّهِ ۚ فَإِن لَّمْ تَعْلَمُوا آبَاءَهُمْ فَإِخْوَانُكُمْ فِي الدِّينِ وَمَوَالِيكُمْ ۚ وَلَيْسَ عَلَيْكُمْ جُنَاحٌ فِيمَا أَخْطَأْتُم بِهِ وَلَٰكِن مَّا تَعَمَّدَتْ قُلُوبُكُمْ ۚ وَكَانَ اللَّهُ غَفُورًا رَّحِيمًا ( 5 )
"... และไม่เป็นที่น่าตำหนิแก่พวกเจ้าในสิ่งที่พวกเจ้าผิดพลาดในเรื่องนั้น แต่สิ่งที่จิตใจของพวกเจ้ามีความมุ่งหมายต่างหาก และอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงอภัย ผู้ทรงเมตตาเสมอ"
"... และไม่เป็นที่น่าตำหนิแก่พวกเจ้าในสิ่งที่พวกเจ้าผิดพลาดในเรื่องนั้น แต่สิ่งที่จิตใจของพวกเจ้ามีความมุ่งหมายต่างหาก และอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงอภัย ผู้ทรงเมตตาเสมอ"
[อัล-อะห์ซาบ 33:5]
ا يُكَلِّفُ اللَّهُ نَفْسًا إِلَّا وُسْعَهَا ۚ لَهَا مَا كَسَبَتْ وَعَلَيْهَا مَا اكْتَسَبَتْ ۗ رَبَّنَا لَا تُؤَاخِذْنَا إِن نَّسِينَا أَوْ أَخْطَأْنَا ۚ رَبَّنَا وَلَا تَحْمِلْ عَلَيْنَا إِصْرًا كَمَا حَمَلْتَهُ عَلَى الَّذِينَ مِن قَبْلِنَا ۚ رَبَّنَا وَلَا تُحَمِّلْنَا مَا لَا طَاقَةَ لَنَا بِهِ ۖ وَاعْفُ عَنَّا وَاغْفِرْ لَنَا وَارْحَمْنَا ۚ أَنتَ مَوْلَانَا فَانصُرْنَا عَلَى الْقَوْمِ الْكَافِرِينَ ( 286 )
"... โอ้พระเจ้าของพวกเรา! โปรดอย่าเอาโทษแก่เราเลย หากพวกเราลืม หรือผิดพลาดไป ..."
"... โอ้พระเจ้าของพวกเรา! โปรดอย่าเอาโทษแก่เราเลย หากพวกเราลืม หรือผิดพลาดไป ..."
[อัล-บะเกาะเราะฮ 2:286]
และท่านนบี (ﷺ)ได้กล่าว:"อุมมะห์ของฉันถูกยกโทษให้สำหรับความผิดพลาดของพวกเขา,สิ่งที่พวกเขาหลงลืมและสิ่งที่พวกเขาถูกบังคับให้กระทำ."
หลักฐานนี้บ่งชี้ว่าใครก็ตามกระทำความผิดแต่ไม่รู้ว่ามันเป็นบาป,ไม่ใช่เป็นสิ่งที่ต้องตำหนิ,และอัลลอฮ์ได้ยกโทษให้กับเขาแล้ว.
และอัลลอฮ์รู้ดีที่สุด.
Source: Islam Q&A
แปลโดย Firdaus Msd
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น