วันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2562

สาเหตุที่อาชาอีเราะห์อันตรายมากเพราะพวกเขาเอาฟิกฮ์จากหนึ่งของสี่มัซฮับ. ดังนั้นเมื่อประชาชนเห็นอาชาอีเราะห์แบบผิวเผินพวกเขาพูดกับตนเองว่า"ถูกต้อง เขากำลังทำตามมัซฮับหนึ่ง,เขาเป็นซุนนี่ที่ถูกต้อง"

สาเหตุที่อาชาอีเราะห์อันตรายมากเพราะพวกเขาเอาฟิกฮ์จากหนึ่งของสี่มัซฮับ. ดังนั้นเมื่อประชาชนเห็นอาชาอีเราะห์แบบผิวเผินพวกเขาพูดกับตนเองว่า"ถูกต้อง เขากำลังทำตามมัซฮับหนึ่ง,เขาเป็นซุนนี่ที่ถูกต้อง"
แต่สิ่งนี้อยู่ไกลจากความจริง,เพราะพวกเขาตามฟิกฮ์ของสี่อีหม่ามผู้ชอบธรรมเท่านั้น,ไม่ใช่อากีดะห์ของพวกเขา(ความเชื่อ).
ฉันคิดว่าหัวข้อต่อไปนี้เป็นข้อสรุปและเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน...
อาชาอีเราะห์มาจากอะห์ลุซซุนนะห์ วัลญามาอะห์หรือไม่?
จาก: ระเบียบวิธีของอาชาอีเราะห์ในอากีดะห์ หน้า 15-21 โดย ซาฟาร บิน อับดุรรอฮ์มาน อัล-ฮาวาลี
นิยาม อะห์ลุซซุนนะห์ วัลญามาอะห์ ถูกใช้กับสองความหมายที่แตกต่าง:
ก. ความหมายทั่วไป: ซึ่งถูกใช้สำหรับผู้ที่อยู่ตรงข้ามกับชีอะห์,ดังนั้น มันจึงถูกกล่าว:ผู้ที่อ้างถึงการยึดมั่นกับอิสลามแบ่งเป็น 2 ประเภท: อะห์-ลุซซุนนะห์ และชีอะห์. ดังนั้น ชัยคุลอิสลามได้ตั้งชื่อหนังสือของเขาเพื่อตอบโต้รอฝีเฎาะห์ 'มินฮาจ อัซ-ซุนนะห์' และในมันเขาได้ให้ความหมายสองประเภทที่ชัดเจน,และกล่าวอย่างชัดเจนว่าสถานะของกลุ่มหรือนิกายที่อุตริ มาจากอะห์ลุซซุนนะห์กับความหมายเฉพาะเรื่องนี้เท่านั้น[ของอะห์ลุซซุนนะห์ วัลญามาอะห์]. ความหมายนี้ครอบคลุมทุกคนยกเว้นชีอะห์, เช่น อาชาอีเราะห์,โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับเรื่องของซอฮาบัตและคุลาฟะห์(กาหลิบ) อาชาอีเราะห์อยู่ในข้อตกลงในวิธีการระหว่างพวกเขาตามที่จะปฏิบัติตาม.
ข. ความหมายชี้เฉพาะ: ซึ่งถูกใช้สำหรับผู้ที่อยู่ตรงข้ามกับนักอุตริกรรมบิดอะห์และประชาชนของกลุ่มอุตริ,และนี่เป็นการใช้เสมอ.ดังนั้นเมื่ออยู่ในหนังสือวิจารณ์ของผู้รายงานเมื่อชายคนหนึ่งที่เขามาจากอะห์ลุซซุนนะห์และที่คล้ายกัน,เช่นนั้นสิ่งที่หมายถึง คือเขาไม่ได้มาจากกลุ่มใดจากกลุ่มอุตริ เช่น คอวาริจญ์,มุตาซีละห์และชีอะห์ และเขาไม่ได้เป็นคนของอะห์ลุลกาลามและความเชื่ออุตริ.
ดังนั้น สำหรับความหมายนี้แล้ว อาชาอีเราะห์ไม่ได้เข้าไปอยู่ในมันเลย. แต่พวกเขาอยู่ด้านนอกมันและอีหม่ามอะหมัด และ อิบนุ อัล-มาดีนี ได้กล่าวอย่างมีใจความว่า ใครก็ตามเอาตัวเองเข้าไปเกี่ยวกับอิลมุกาลามไม่ได้ถูกนับให้อยู่ในท่ามกลาง อะห์ลุซซุนนะห์, ถึงแม้ว่าเขาจะมาถึงซุนนะฮ์, จนกระทั่งเขาละทิ้งการถกเถียงและยอมจำนนต่อตัวบท.
ดังนั้นพวกเขาไม่ได้วางลงเป็นเงื่อนไขที่คนหนึ่งเห็นด้วยกับซุนนะฮ์เท่านั้น,แต่ว่าเขาต้องเอาและรับมัน(ลำพัง).
ดังนั้นเขาผู้ที่เกาะจากซุนนะห์จากประชาชนของมันแม้ว่าเขาทำความผิดพลาด,และเขาได้รับจากที่อื่นในความผิดพลาดแม้ว่าในข้อสรุปเขาเห็นด้วยกับมัน. แต่อาชาอีเราะห์ ตามที่คุณจะได้เห็น,ไปเอาและรับมาจากที่อื่นมากกว่าซุนนะห์ และพวกเขาไม่เห็นด้วยกับมันในข้อสรุปของพวกเขา, ดังนั้นพวกเขามาจากประชาชนของมันได้อย่างไร(ประชาชนของซุนนะห์).
ต่อไปนี้เราจะกล่าวถึงคำวินิจฉัยเกี่ยวกับพวกเขาจากนักวิชาการปวงปราชญ์ของสี่มัซฮับของฟิกฮ์,ดังนั้น อะไรคือสิ่งที่คุณคิดว่าเป็นสถานะของซอฮาบัตของฮาดิษ,คำวิพากษ์วิจารณ์ของนักวิชาการฮาดิษ?
1. มัซฮับมาลิกี
บรรดาฮาฟิซจากทิศตะวันตก และนักวิชาการผู้โดดเด่น อิบนุ อับดิล บาร ได้รายงานด้วยสายรายงานของคำรายงานจากนักวิชาการจากมัซฮับมาลิกีจากทิศตะวันออก อิบนุ คุซัยมะห์ ว่าเขากล่าวในหนังสือของการเป็นพยาน(กีตาบ อัซ-ชุฮุดาต)ในคำอธิบายของคำกล่าวของมาลิกว่า มันไม่อนุญาตที่จะให้ยอมรับพยานหลักฐานของประชาชนของอุตริกรรมและกลุ่มอุตริ,และเขากล่าว:
ประชาชนของกลุ่มอุตริในมุมมองของมาลิกและซอฮาบัตบางส่วนของเรา เป็นประชาชนของอิลมุกาลาม.ดังนั้น ทุกคนของอิลมุกาลามมาจากประชาชนของกลุ่มอุตริและการอุตริกรรม:
ไม่ว่าเขาเป็นอาชาอีเราะห์ หรือเป็นอย่างอื่น,และการเป็นพยานของเขาไม่ถูกยอมรับในอิสลาม. จริงๆแล้วเขาต้องถูกตัดสัมพันธ์หรือเนรเทศ,และลงโทษสำหรับการอุตริของเขาและถ้าเขายืนกรานในมันการสำนึกผิดจะต้องแสวงหาจากเขา'
[ญามิ บายาน อิล-อิลมิ วา ฟัดลีฮี(2/117)]
เขา อิบนุ อับดิล บาร รายงานใน[อัล-อิติก๊ออฺ]ด้วย จากสามนักวิชาการ:มาลิก,อาบู ฮานีฟะห์และอัช-ชาฟีอี ว่าพวกเขาห้ามอิลมุกาลาม และพูดอย่างรุนแรงต่อประชาชนของมัน,และว่าพวกเขาเป็นนักอุตริกรรมและต้องถูกลงโทษ. ความเหมือนของมันถูกรายงานโดย อิบนุ อัล-ก๊อยยิมใน[อิจติมาอฺ อัล-ญุยูช อิล-อิสลามียะห์]และอะไรที่อาชาอีเราะห์เป็นอยู่ยกเว้นประชาชนของอิลมุกาลาม?
อีหม่าม อาบุล-อับบาส อิบนุ สุเรจ รู้จักในนาม อัช-ชาฟีอีคนที่สอง และเขาอยู่ร่วมสมัยของอัล-อัชอารี,ได้กล่าว: 'เราไม่พูดกับ ตะวีล(ตีความ)ของ มุตาซีละห์,อาชาอีเราะห์,ญะห์มียะห์,ผู้ปลีกตัวจากศาสนา(บุคคลที่ละทิ้งความเชื่อหรือหลักการทางศาสนา),มุญัซซิมะห์และมุชับบีฮะห์,กลุ่มการามียะห์และเหล่าผู้ที่ประกาศว่าอัลลอฮ์เป็นเหมือนสิ่งที่พระองค์ทรงสร้าง(มุกัยยีฟะห์ - เหล่าผู้ที่ถามเกี่ยวกับรูปแบบวิธีของคุณลักษณะของพระองค์(อัลลอฮ์). แต่เรายอมรับพวกมัน[ตัวบทเกี่ยวกับคุณลักษณะของอัลลอฮ์]โดยไม่ตีความ(ตะวีล)และเราศรัธทาในพวกมันโดยไม่บอกกล่าวความเหมือนใดๆกับสิ่งถูกสร้าง(ตัมซีล).'

2. มัซฮับชาฟีอี
อีหม่าม อาบุล-ฮาซัน อัล-กุรญี,หนึ่งในนักวิชาการของมัซฮับชาฟีอีในศตวรรษที่ 5 (ฮิจเราะห์)ได้กล่าวว่า:
บรรดาอีหม่ามของมัซฮับชาฟีอีไม่ได้หยุดยั้งที่จะรังเกียจและชิงชังที่พวกเขาควรจะกำหนดให้ อาชาอีเราะห์ และพวกเขาแยกตัวออกไปจากสิ่งที่อาชาอีเราะห์สร้างขึ้นในมัซฮับของเขา,
และพวกเขาสั่งห้ามบรรดาสหายของพวกเขาและคนที่พวกเขารักจากการเข้าไปใกล้มัน,ตามที่ฉันได้ยินจากชัยคฺและอีหม่ามจำนวนหนึ่ง. แล้วเขาก็ยกตัวอย่างหนึ่งของ ชัยคฺ ของ มัซฮับชาฟีอี ที่อยู่ในช่วงเวลาของเขา คือ อีหม่าม อาบู ฮามิด อัล-อิสฟารีนี ผู้เป็นที่รู้จักในนาม อัช-ชาฟีอีคนที่สาม กล่าว:
ความรุนแรงของ ชัยคฺ ที่มีต่อประชาชนของ อิลมุกาลาม เป็นที่ทราบกันดี,ถึงจุดที่เขาได้สร้างความแตกต่างระหว่างหลักการของฟิกฮ์ของอัช-ชาฟีอี และหลักการของอัชอารี(อาชาอีเราะห์).
บันทึกนี้เพิ่มโดย อาบู บักร อัร-รอซีคานี และมันอยู่กับฉัน.
เขาถูกทำตามในเรื่องนี้โดย ชัยคฺ อาบู อิสฮาก อัช-ชีรอซ(Aboo Ishaaq ash-Sheeraazww) ในหนังสือสองเล่มของเขา,อัล-ลุมาอฺ และ อัต-ตับซีเราะห์'
ถึงจุดที่หากจุดของ อาชาอีเราะห์ เห็นด้วยกับคนหนึ่งพูดในหมู่เพื่อนของเราเขาทำให้เห็นความแตกต่างและกล่าวว่า: มันเป็นคำพูดของอาชาอีเราะห์และเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกเขาในท่ามกล่างสหายของอัช-ชาฟีอี.
พวกเขา(สหายในท่ามกลางมัซฮับชาฟีอี)รังเกียจและหลีกเลี่ยงจากพวกเขา(กลุ่มอาชาอีเราะห์)และมัซฮับของพวกเขาในหลักการของฟิกฮ์ ไม่พูดถึงเกี่ยวกับหลักการของศาสนา."
[อัต-ตีสนิยยะห์(หน้า 238-239) และ ดูที่ 'ชัรฮุล-อัสฟาฮานียะห์(5:31) จากฟัตตาวา อัล-กุบรา]
3. มัซฮับฮานาฟี
ตามที่ทราบกันว่า ผู้เขียนหนังสือ อัต-ฏอฮาวียะห์ และผู้อธิบายของมัน ทั้งสองมาจาก ฮานาฟี, และ อัต-ฏอฮาวียะห์ อยู่ร่วมสมัยกับอัล-อัชอารี,และเขาได้เขียนอากีดะห์ของเขาเพื่ออธิบายอากีดะห์ของอีหม่ามอาบู ฮานีฟะห์และบรรดาสหายของเขา,และมันเหมือนมากกับสิ่งที่ได้พบใน ฟิกฮ์ อัล-อัคบาร จากเขา.พวกเขารายงานจากอีหม่ามว่าเขากล่าวชัดเจนเรื่อง กุฟร์(การปฏิเสธศรัธทา)ของคนหนึ่งผู้ที่กล่าวว่าอัลลอฮ์ ซุบฮานาวาตาอาลา ไม่ได้อยู่บนอารัช(บัลลังก์)หรือคงไว้ซึ่งความเงียบเกี่ยวกับมัน.
ลูกศิษย์ของเขา อาบู ยูซุฟ ด้วย ประกาศว่า บิชรฺ อัล-มารีซี(Bishr al-Maareesee) เป็นกาฟีร(ผู้ปฏิเสธศรัธทา),และด้วยเหตุที่เป็นที่รับทราบกันดีว่า อาชาอีเราะห์ปฏิเสธการขึ้นของอัลลอฮ์และปฏิเสธว่า พระองค์ ผู้ทรงสูงสุดอยู่เหนืออารัช(บัลลังก์)และ เป็นที่ทราบกันดีด้วยว่าหลักการของพวกเขาถูกเอามาจากบิชรฺ อัล-มารีซี!!
[ดูสิ่งที่ถูกกล่าวถึงใน ซียาร อะลามิน-นุบุลา ในชีวประวัติของ บิชรฺ 910/200-201) และ อัล-ฮามาวียะห์ หน้า 14-15)
4. มัซฮับฮัมบาลี
สถานะของฮัมบาลีกับความเกี่ยวข้องกับอัชอารี(อาชาอีเราะห์)มีชื่อเสียงมากกว่าความจำเป็นที่ต้องกล่าวถึง. ดังนั้น ตั้งแต่ อีหม่ามอะหมัดประกาศว่า อิบนุ กุลาบ เป็นนักอุตริกรรม สั่งให้ถูกตัดสัมพันธ์หรือเนรเทศ,และเขาเป็นตัวจริงของผู้ก่อตั้งมัซฮับอัชอารี(อาชาอีเราะห์).ฮัมบาลี ไม่ได้หยุดที่จะมีส่วนร่วมในการต่อสู้อันยาวนานกับพวกเขา. แม้กระทั่งช่วงเวลาของแคว้นของ นิซาม อัล-มุลค์(Nizaam ul-Mulk)ที่พวกเขาประพฤติไม่ดี,และหลังจากมัน ฮัมบาลีขับทุกผู้พูด ผู้ที่ผสมผสานสิ่งใดสิ่งหนึ่งจากมัซฮับของอัชอารีลงในคำปราศัยของเขา.อิบนุ อัล-กุชัยรี(Ibn ul-Qushairi) เป็นคนหนึ่งจากผู้ที่ได้ประสบกับสิ่งนี้,และเพราะว่ามัซฮับของพวกเขาได้กลายเป็นที่แพร่หลายมาก,
และเนื่องจากการเห็นพ้องกันของบรรดานักวิชาการของรัฐ,โดยเฉพาะ มัซฮับฮัมบาลี ที่เขาควรถูกต่อต้าน,ดังนั้น คอลีฟะห์ อัล-กอดีร ได้ส่ง อัล-อิติก๊อด อัล-กอดีรี ออกไป เพื่อทำให้เห็นความชัดเจนของ อากีดะห์ ซึ่งมีผลผูกมัดกับอุมมัตในปี ฮ.ศ 433.
[ดูที่ อัล-มุนตาซาม ของ อิบนุ เญาซี,เหตุการณ์ของปี ฮ.ศ 433,469&475 -ชุดที่ 8 & 9]
และชัยคุลอิสลาม(อิบนุ ตัยมียะห์)อ้างอิงใน อัล-อิสตีกอมะห์(หน้า 85-86): เมื่อตอนที่ อับดุล-กอดีร อัลญีลานี ถูกถาม: 'เคยมีวลียุลลอฮ์ที่มีอากีดะห์แตกต่างจากอากีดะห์ของ อีหม่ามอะหมัด หรือไม่?' เขาตอบ:'สิ่งนั้นไม่เคยเกิดขึ้นและจะไม่เกิดขึ้น.'
ดังนั้นการวินิจฉัยที่ถูกต้องเกี่ยวกับอาชาอีเราะห์คือ พวกเขามาจากอะห์ลุล-กิบละห์, เกี่ยวกับคำตอบนั้นไม่เป็นที่สงสัย,แต่การเป็นอะห์ลุซ-ซุนนะห์ของพวกเขา,เมื่อนั้น ไม่!
ใครก็ตามที่เกี่ยวพันกับกลุ่มอาชาอีเราะห์ ควรกลัวอัลลอฮ์และละทิ้งอากีดะห์ที่เบียงเบนของเขา, และหยิบเอาอากีดะห์ของท่านรอซูลุลลอฮ์ ﷺ และเหล่าซอฮาบัตของท่านไปใช้
ข้อมูลโดย Bassam Zawadi
ผู้เขียน سفر بن عبد الرحمن الحوالي
ประวัติ ผู้เขียน https://ar.m.wikipedia.org/wiki/سفر_الحوالي
แปลบทความ Firdaus Msd

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น