เพิ่มเติม
มาดู หะดิษที่ระบุในเศาะเฮียะบุคอรี หมายเลข ๖๙๘๖ เรื่อง อิสรออฺ เมียะรอจญ โดยมีข้อความตอนหนึ่งว่า
فَالْتَفَتَ النَّبِيُّ صلى الله عليه وسلم إِلَى جِبْرِيلَ كَأَنَّهُ يَسْتَشِيرُهُ فِي ذَلِكَ، فَأَشَارَ إِلَيْهِ جِبْرِيلُ أَنْ نَعَمْ إِنْ شِئْتَ. فَعَلاَ بِهِ إِلَى الْجَبَّارِ فَقَالَ وَهْوَ مَكَانَهُ يَا رَبِّ خَفِّفْ عَنَّا، فَإِنَّ أُمَّتِي لاَ تَسْتَطِيعُ هَذَا. فَوَضَعَ عَنْهُ عَشْرَ صَلَوَاتٍ ثُمَّ رَجَعَ إِلَى مُوسَى فَاحْتَبَسَهُ، فَلَمْ يَزَلْ يُرَدِّدُهُ مُوسَى إِلَى رَبِّهِ حَتَّى صَارَتْ إِلَى خَمْسِ صَلَوَاتٍ
So the Prophet turned to Gabriel as if he wanted to consult him about that issue. Gabriel told him of his opinion, saying, "Yes, if you wish." So Gabriel ascended with him to the Irresistible and said while he was in his place, "O Lord, please lighten our burden as my followers cannot do that." So Allah deducted for him ten prayers where upon he returned to Moses who stopped him again and kept on sending him back to his Lord till the enjoined prayers were reduced to only five prayers.
’ ดังนั้น นบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้ ไปพบพบญิบรีล เพื่อขอคำชี้แนะต่อเขาในเรื่องดังกล่าวนั้น แล้ว ญิบรีลได้ชี้แนะแก่ท่านนบี ว่า เชิญ ครับ หากท่านต้องการ แล้ว เขา(ญิบรีล)ได้นำท่านนบีขึ้นไปยัง พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรง อนุภาพ แล้วนบี ได้กล่าว โดยที่พระองค์(พระเจ้าผู้ทรงอนุภาพ)อยู่สถานที่ของพระองค์ ว่า “โอ้พระผู้อภิบาลของข้าพระองค์ ,ได้โปรดลดย่อนจากเรา เพราะแท้จริง อุมมะฮของข้าพระองค์ ไม่สามารถปฏิบัติแบบนี้ได้(หมายละหมาด ๕๐ เวลา) แล้วพระองค์ได้ลดย่อน จากมัน ให้เหลือ สิบเวลา หลังจากนั้น นบีก็ได้กลับไปยังมูซา แล้ว มูซา ได้กับตัวนบีเอาไว้ และมูซาได้ให้นบีกลับไป ยังพระผู้อภิบาลอยู่ตลอดเวลา จนกระทั้ง ละหมาด กลายเป็น(หมายถึงถูกกำหนดให้เป็น)ห้าเวลา....
..........................
จากหะดิษข้างต้น เป็นการยืนยันการอยู่ ณ สถานที่เบื้องสูงของอัลลอฮ อย่างชัดเจน และ ญิบรีล นำท่านนบี ศอ็ลฯ ขึ้นไปยังพระองค์
อิหม่ามอัดดาริมีย์ (ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)ได้อธิบาย หะดิษอัลญารียะฮว่า
وفي قول رسول الله صلى الله عليه وسلم أين الله؟ تكذيب لقول من يقول: هو في كل مكان، ولا يوصف ب أين، لأن شيئا لا يخلو منه مكان يستحيل أن يقال أين هو، ولا يقال أين إلا لمن هو في مكان يخلو منه مكان، ولو كان الأمر على ما يدعي هؤلاء الزائغة لأنكر عليها رسول الله قولها وعلمها، ولكنها علمت به فصدقها رسول الله وشهد لها بالإيمان بذلك،
“และในคำพูดของรซูลุลลอฮที่ว่า “อัลลอฮยู่ใหน? เป็นการยืนยันความเท็จ คำพูดของผู้ที่กล่าวว่า “พระองค์อยู่ทุกสถานที่ ,พระองค์ไม่ทรงคุณลักษณะ ด้วยคำว่า “อยู่ที่ใหน? เพราะแท้จริงสิ่งใดๆ สถานที ย่อมไม่เป็นอิสระจากมัน เป็นไปไม่ได้ที่จะกล่าวว่า “พระองค์อยู่ใหน และจะไม่ถูกกล่าวว่า อยู่ใหน นอกจากผู้ที่เขาอยู่ในสถานที่ ซึ่งสถานที่เป็นอิสระจากเขา และถ้าเรื่องนี้ เป็นไปตามที่พวกเบี่ยงเบนเหล่านี้อ้าง แน่นอน ท่านรซูลุลลอฮ ย่อมจะคัดค้าน คำพูดและการกระทำของนาง(หมายถึงทาสหญิงตามที่ระบุในหะดิษ) แต่ในทางกลับกัน นางรู้ด้วยมัน แล้วรซูลุลลอฮ ก็ยืนยันความถูกต้องแก่นาง และเป็นพยานให้แก่นาง ว่านางมีศรัทธา ด้วยดังกล่าวนั้น – ดู รอดอะลัลญะมียะฮ ของ อิหม่ามอัดดาริมีย์ หน้า 47
..............
ท่านอิหม่ามอัดดารีมีย์ ได้ยืนยันว่า ท่านรซูลุลลอฮ ศอ็ลฯ ให้การรับรอง คำตอบของนางที่ว่า อัลลอฮทรงอยู่บนฟากฟ้า เมื่อท่านถามว่า “อัลลอฮอยู่ใหน เพราะถ้าสิ่งที่นางตอบ ไม่ถูกต้อง ตามที่พวกเบี่ยงเบนบางกลุ่มอ้าง ว่า ไม่มีสถานที่เกี่ยวข้องกับ อัลลอฮ แน่นอนท่านรซูลุลลอฮ ศอ็ลฯต้องคัดค้านคำพูดของนางแล้ว แต่..ท่านไม่ได้ค้าน นอกจากให้การรับรองคำพูดของนางอีกต่างหาก
_________________
จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น