เขาอ้างว่า อิบนุอับบาสตีความ(ตะวีล)
โต๊ะครูเว็บสะติวเด้น กล่าวว่า
ท่านอิมาม อัฏ-ฏอบะรีย์ ได้ทำการอธิบายโองการที่ว่า ..
يوم يكشف عن ساق
“วันที่หน้าแข้ง(ของพระองค์)จะถูกเลิกขึ้น” (ซูเราะฮฺ อัล-เกาะลัม : 42)
จากอายะฮฺนี้ ท่านอิมาม อัฎ-เฏาะบะรีย์ ได้ทำการตีความ อายะฮฺนี้เอาไว้ว่า ..
قال جماعة من الصحابة والتابعين من أهل التأويل : يبدو عن أمر شديد،
บรรดาปวงปราชญ์จากเหล่าเศาะหาบะฮฺและตาบิอีนจากบรรดานักตีความ ได้ให้ความหมายว่า “(ในวันกิยามะฮฺนั้น)จะปรากฏขึ้นซึ่งความรุนแรงอันน่าสะพึงกลัว”
ดู ตำรา تفسير الطبري โดย ท่านอิมาม อิบนุ ญะรีร อัฏ-เฏาะบะรีย์ เล่มที่ 29 หน้าที่ 38
http://www.sunnahstudent.com/forum/index.php/topic,10369.60.html
………………..
ข้าพเจ้า นายอะสัน ขอชี้แจงว่า
ท่านอิบนุอับบาส ไม่ได้ตีความคำว่า ساق หรือเปลี่ยนความหมาย คำว่า ساق แต่ท่านอธิบายถึงเหตุการณ์ในวันกิยามะฮ เพราะอัลลอฮได้กล่าวถึงเหตุการณ์ในวันกิยามะฮ ถ้าคำว่า” สาก” แปลว่าความรุนแรง ก็จะแปลว่า “วันแห่งความรุนแรงจะถูกเลิกขึ้น แบบนี้ ไปกันใหญ่ ยิ่งใกลความจริงเข้าไปอีก คำว่า “ساق ในอายะฮ เป็นอิสมุนากิเราะฮ(สามานยนาม)ไม่ได้ประกอบกับคำใดๆเลย ไม่ได้ระบุว่า ساق الله (หน้าแข้งอัลลอฮ) หรือ ساقه (หรือหน้าแข้งพระองค์) เพราะฉะนั้นสำนวนที่ว่า يوم يكشف عن ساق เป็นนวนที่หมายถึงวันที่มีเหตุการณ์รุนแรง ซึ่งหมายถึงวันกิยามะฮ นั้นเอง
อิบนุกอยยิม กล่าวว่า
"الصحابة متنازعون في تفسير الآية؛ هل المراد الكشف عن الشِّدَّة، أو المراد بها أنَّ الرب تعالى يكشف عن ساقه؟ ولا يحفظ عن الصحابة والتابعين نزاع فيما يذكر أنه من الصفات أم لا في غير هذا الموضع، وليس في ظاهر القرآن ما يدل على أنَّ ذلك صفة الله؛ لأنه سبحانه لم يضف الساق إليه، وإنما ذكره مجرداً عن الإضافة منكراً، والذين أثبتوا ذلك صفة كاليدين والإصبع لم يأخذوا ذلك من ظاهر القرآن، وإنما أثبتوه بحديث أبي سعيد الخدري المتفق على صحته،
เหล่าเศาะหาบะฮ พวกเขามีความเห็นขัดแย้งในการอรรถาธิบายอายะฮนี้ ว่า หมายถึง เปิดเผยความรุนแรง หรือ หมายถึง พระเจ้าผู้ทรงสูงส่ง เลิกหน้าแข้งของพระองค์ หรือไม่?
(คำตอบก็คือ) และไม่ได้มีการบันทึกจาก เหล่าศอหะบะฮ และตาบิอีน ว่ามีการเห็นขัดแย้งในสิ่งที่ถูกระบุว่า มันเป็นส่วนหนึ่งจากบรรดาสิฟัต หรือ ไม่ใช่ ในอื่นจากที่นี้ และในความหมายที่ปรากฏของอัลกุรอ่าน ไม่ใช่เป็นสิ่งแสดงบอกว่า ดังกล่าวนั้น (หมายถึง คำว่า ساق ในอายะฮ- ผู้แปล) เป็นสิฟัตของอัลลอฮ เพราะอัลลอฮ ซุบฮานะฮูว่าตะอาลา ไม่ได้ประกอบคำว่า “ساق (หน้าแข้ง)กับพระองค์ (คือ ไม่ได้กล่าวว่า ساق الله - ผู้แปล) ความจริงมันถูกกล่าว เป็นนามที่ไม่เจาะจง โดยปราศจากการประกอบเป็นคำประสม และความจริง พวกเขา (เหล่าเศาะหาบะฮและตาบิอีน) รับรอง สิฟัตดังกล่าว เช่น สองมือ ,บรรดานิ้ว เป็นต้น พวกเขาไม่ได้เอาจากความหมายที่ปรากฏของอัลกุรอ่าน แต่ความจริง พวกเขารับรองมัน ด้วยหะดิษรายงานโดยอบีสะอีด อัลคุดรีย์ ที่ได้รับการเห็นฟ้องว่าเป็นหะดิษเศาะเฮียะ – ดู الصواعق المرسلة، ابن القيم، 1/252
........
และหะดิษที่อิบนุกอ็ยยิมอ้างถึงคือ
มาดูหะดิษเศาะเฮียะ ที่กล่าวถึง “ หน้าแข้ง”(ساق )
عَنْ أَبِي سَعِيدٍ الْخُدْرِيِّ قَالَ : سَمِعْتُ النَّبِيَّ - صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ - يَقُولُ : " يَكْشِفُ رَبُّنَا عَنْ سَاقِهِ ، فَيَسْجُدُ لَهُ كُلُّ مُؤْمِنٍ وَمُؤْمِنَةٍ ، وَيَبْقَى مَنْ كَانَ يَسْجُدُ فِي الدُّنْيَا رِيَاءً وَسُمْعَةً ، فَيَذْهَبُ لِيَسْجُدَ فَيَعُودُ ظَهْرُهُ طَبَقًا وَاحِدًا "
รายงานจากสะอีดอัลคุดรีย์ กล่าวว่า เขากล่าวว่า “ ฉันได้ยินท่านนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า “พระผู้อภิบาลของเรา เลิกหน้าแข้งของพระองค์ขึ้น แล้วบรรดาผู้ศรัทธาชายและหญิงทุกคนได้สุญูดต่อพระองค์ และยังคงเหลือผู้ที่สุญุดในโลกนี้ ด้วยการโอ้อวดและต้องการชื่อเสียง แล้วเขาไปเพื่อที่จะสุญูด แล้วหลังของเขาแข็งทื่อ(ไม่สามารถที่จะสุญูดได้) – รายงานโดยอิหม่ามบุคอรี
……………..
เพราะฉะนั้น อะชาอิเราะเว็บสะติวเด้น อย่าสับสน ค้านมั่วไปหมด โดยที่ตนเองไม่เข้าใจ
_________________
จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น