Sunnah Core Salafussalah
ตอบชี้แจงว่า การให้ความหมาย อัลอิสติวาอฺว่า สถิต ตามหลักอะกีดะฮ์ของวะฮ์ฮาบีนั้นนั้นไม่มีสายงานซอฮิห์จากสะลัฟเลยแม้แต่คนเดียว.... และตีความเป็นหลักคิดปรัชญากรีกได้อย่างไร ในเมื่อสะลัฟศอลิห์บางส่วนก็ตีความ หรือแสดงว่า
สะลัฟศอลิห์มีพวกที่ใช้หลักคิดปรัชญากรีกด้วยซิครับ? แต่เวลาวะฮ์ฮาบีให้ความหมาย อิสติวาอฺว่า อัลลอฮ์นั่ง แล้วทำไมคิดบ้างว่าตนเอง ใช้หลักคิดของพวกยิว! เพราะยิวเชื่อแบบนั้นจริงๆ ผมไม่ได้กล่าวหาแต่ประการใด
………………………………
Sunnah Core Salafussalah คงนั่งปิดตาเขียน จึงกล่าวว่า “ว่า การให้ความหมาย อัลอิสติวาอฺว่า สถิต ตามหลักอะกีดะฮ์ของวะฮ์ฮาบีนั้นนั้นไม่มีสายงานซอฮิห์จากสะลัฟเลยแม้แต่คนเดียว..”
ท่านซุนนะฮคอร์ ครับ อย่ากระพริบตานะครับ จงดูต่อไปนี้นะครับ
คำว่า “สถิต” เป็นภาษาไทย ความหมาย[สะถิด] ก. อยู่, ยืนอยู่, ตั้งอยู่ คำนี้ เป็นคำที่ใช้กับใช้เป็นคํายกย่องแก่สิ่งหรือบุคคลที่อยู่ในฐานะสูง
คำว่า “ استقرار มาจากคำว่า استقر แปลว่า อยู่ ความจริง คำว่า “ทรงสถิต หนือบัลลังค์ ความหมาย ก็คือ ทรงอยู่เหนือบัลลังค์ นั้นเอง
ท่านสุนนะฮคอร์คงไม่คอ่ยรู้เรื่อง คำศัพท์ภาษาไทย จึงพูดสุ่มสี่สุ่มหา ปิดตาพูด
ชาวสลัฟเขาเชื่อว่า พระเจ้าอยู่เบื้องสูง บน อะรัช ซึ่ง ก็คือ ความหมาย คำว่า “สถิต (อิสติกร็อร) นั้นเอง
อิบนุอับดุลบีร กล่าวเกี่ยวกับอายะฮอิสติวาอฺว่า
وهذه الآيات كلها واضحات في إبطال قول المعتزلة وأما ادعاؤهم المجاز في الاستواء وقولهم في تأويل استوى استولى فلا معنى له لأنه غير ظاهر في اللغة ومعنى الاستيلاء في اللغة المغالبة والله لا يغالبه ولا يعلوه أحد وهو الواحد الصمد
บรรดาอายะฮเหล่านี้ทั้งหมด ชัดเจน ในการลบล้างคำพูดของพวกมุอฺตะซิละฮ และสำหรับการอ้างของพวกเขาว่า เป็นมะญัซ(คำอุปมา)ในคำว่าอิสติวาอฺ และคำพูดของพวกเขา ในการตีความ คำว่า “อิสตะวา” เป็น “อิสเตาลา”(ครอบครอบ หรือยึดครอง)นั้น ไม่มีความหมายสำหรับมัน เพราะไม่ปรากฏใน หลักภาษา และ ความหมายคำว่า "อิสติลาอฺ"ในทางภาษา หมายถึง การมีชัย ทั้งๆที่อัลลอฮ ไม่มีคนใดต่อสู้กับพระองค์ และไม่มีคนใดชัยชนะพระองค์ได้ และพระองค์ คือผู้ทรงเอกกะ ทรงเป็นที่พึ่ง- อัตตัมฮีด เล่ม 7 หน้า 131
และท่านอิบนุอับดุลบีรกล่าวต่อไปว่า
والاستواء معلوم في اللغة ومفهوم وهو العلو والارتفاع على الشيء والاستقرار والتمكن فيه قال أبو عبيدة في قوله تعالى: {اسْتَوَى} قال علا قال وتقول العرب استويت فوق الدابة
และอิสติวาอฺนั้น เป็นที่รู้กันในหลักภาษา และเป็นที่เข้าใจกัน คือ สูง ,ขึ้น บน สิ่งนั้น ,การสถิต และ การดำรงอยู่ ในมัน
อบูอุบัยดะฮ กล่าวในคำตรัสของอัลลอฮ ตะอาลาที่ว่า (อิสตะวา) เขากล่าวว่า “อยู่สูง ,เขากล่าวว่า “และอาหรับกล่าวว่า “ฉันอิสติวาอ์ บน สัตว์พาหนะ – ตำราระบุแล้วข้างต้น
คุณซุนนะฮคอร์ อาจจะใช้ตรรกอริสโตเติลถามผมว่า “ อัลลอฮนั่งติดอยู่บนบัลลังค์ใช่ไหม ? จึงขอตอบล่วงหน้าว่า อิหม่ามมาลิกได้ให้คำตอบแล้ว คือ
الِاسْتِوَاءُ مَعْلُومٌ - يَعْنِي فِي اللُّغَةِ - وَالْكَيْفُ مَجْهُولٌ
อิสติวาอฺ นั้นเป็นที่รู้กัน หมายถึงในด้านภาษา(เป็นที่รู้กัน) และรูปแบบวิธีการนั้น ไม่เป็นที่รู้กัน – ที่มาอ้างแล้วจากตัฟสีรอัลกุรฏุบีย์
และที่พิสูจน์ให้เห็นได้ชัดเจนว่า คุณซุนนะฮคอร์ แค่กอ็ปปี้ จากข้อเขียนของอารีฟีน เท่านั้น โดยไม่ศึกษาเพิ่มเติมคือ คำถามที่ว่า
“การให้ความหมาย อัลอิสติวาอฺว่า สถิต ตามหลักอะกีดะฮ์ของวะฮ์ฮาบีนั้นนั้นไม่มีสายงานซอฮิห์จากสะลัฟเลยแม้แต่คนเดียว....
ขอบบอกให้ท่านซุนนะฮคอร์ทราบว่า “ ชาวสลัฟเขาเชื่อว่าอัลลอฮทรงอยู่เหนืออะรัช ดังตัวอย่าง สัก 2 ตัวอย่างคือ 1. มุญาฮิด ซึ่งเป็นชนยุคตาบิอีน ฮ.ศ. 102)กล่าวว่า
{اسْتَوَى} علا على العرش
(อิสตะวา) หมายถึง อยู่สูง เหนืออะรัช – ดูเศาะเฮียะบุคอรี กิตาบุตเตาฮีด บทว่าด้วยอะรัชของพระองค์อยู่บนน้ำ ِ
2. อิบนุอัลมุบารอ็ก (ฮ.ศ.181) กล่าว เมื่อมีผู้ถามว่า เราจะรู้จักพระเจ้าของเราได้อย่างไร เขาตอบว่า
“ بأنه فوق السماء السابعة على العرش، بائن من خلقه
เพราะแท้จริงพระองค์ อยู่เหนือฟากฟ้าทั้งเจ็ด บน อะรัช แยกจาก มัคลูคของพระองค์ – (1)
...................................................
1) الرد على الجهمية للدارمي (ص39-40) بسند حسن، عن الحسن بن الصباح البزاز ثنا علي بن الحسن بن شقيق. وعبد الله بن أحمد بن حنبل في كتابه "السنة" (ص175) عن عبد الله بن شبويه عن ابن شقيق. ورواها غيرهما كثير بعضهم نقلا عن هؤلاء وبعضهم بأسانيدهم.
-----------------------------
ความจริง อะกีดะฮซุนนะฮคอร์นั้น เป็นอะกีดะฮของอะชาอีเราะฮปลอม ซึ่งเอามาจากแนวคิดของมุอฺตะซิละฮ เลยพยายามดิ้นรน ปฏิเสธการอยู่เบี้องสูงของอัลลอฮ และ เท่าที่สนทนากันมา ไม่มีคำพูดของอิหม่ามอบูหะซัน อะชาอิเราะฮแท้ มาอ้างเป็นหลักฐานแม้แต่อักษรเดียว-
ยังมีอีกครับ โปรดติดตาม ตอนต่อไป
_________________
จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น