อาจารย์ซุนนะฮสะติวเด้นอ้างว่า
ท่านชัยคุลอิสลาม อัลฮาฟิซฺ อิบนุฮะญัร กล่าวอธิบายความหมาย “ทำการผ่านมันไป” ว่า
وَمَعْنىَ الِإمْرَارِ عَدَمُ الْعِلْمِ بِالْمُرَادِ مِنْهُ مَعَ اعْتِقَادِ التَّنْزِيْهِ
"ความหมาย(อัลอิมร็อร)ทำการผ่านมันไป หมายถึงไม่รู้ถึงจุดมุ่งหมาย(เฉพาะเจาะจง)จาก(ถ้อยคำซีฟัตของอัลเลาะฮ์ที่มีความหมายหลายนัย) พร้อมกับยึดมั่นว่าพระองค์ทรงบริสุทธิ์(จากการไปคล้ายหรือเหมือนกับมัคโลคด้วยความเข้าใจแบบความหมายคำตรงคำแท้)" หนังสือฟัตฮุลบารีย์ : 6/48
http://www.sunnahstudent.com/forum/index.php/topic,3059.0.html
นี้คือตัวอย่างหนึ่ง ที่ครูซุนนะฮสะติวเด้น ตัดมา อิบายเรื่อง อิสติวาอฺ พร้อมกับเสริมแต่งความเห็นตัวเองสอดใส่ในการแปล ซึ่งความจริง หาฟิซอิบนุหะญัร อธิบายเรื่อง หะดิษที่ว่า
عَنْ أَبِي هُرَيْرَةَ رَضِيَ اللَّهُ عَنْهُ أَنَّ رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قَالَ يَضْحَكُ اللَّهُ إِلَى رَجُلَيْنِ يَقْتُلُ أَحَدُهُمَا الْآخَرَ يَدْخُلَانِ الْجَنَّةَ يُقَاتِلُ هَذَا فِي سَبِيلِ اللَّهِ فَيُقْتَلُ ثُمَّ يَتُوبُ اللَّهُ عَلَى الْقَاتِلِ فَيُسْتَشْهَدُ
รายงานจากอบีฮุรัยเราะฮ (ร.ฎ) กล่าวว่า รซูลุลลอฮ กล่าวว่า "อัลลอฮทรงหัวเราะชายสองคน ซึ่งคนหนึ่งได้ฆ่าอีกคนหนึ่ง แล้วเขาทั้งสองได้เข้าสวรรค คนนี้ เขาต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮ แล้วเขาก็ถูกฆ่า ต่อมาอัลลอฮทรงรับการสารภาพผิด(เตาบะฮ) แก่ผู้ที่ฆ่า แล้วเขาได้เข้าอิสลาม ต่อมาเขาได้เสียชีวิตในหนทางของอัลลอฮ (ตายชะฮีด)
.............
ประเด็นข้อความที่ว่า “
يَضْحَكُ اللَّهُ إِلَى رَجُلَيْنِ
อัลลอฮทรงหัวเราะชายสองคน
แล้วท่านหาฟิซอิบนุหะญัร กล่าวว่า
وَقَالَ ابْنُ الْجَوْزِيِّ : أَكْثَرُ السَّلَفِ يَمْتَنِعُونَ مِنْ تَأْوِيلِ مِثْلِ هَذَا وَيُمِرُّونَهُ كَمَا جَاءَ وَهَذَا هُوَ الصَّوَابُ الَّذِي جَرَتْ عَلَيْهِ الْمِلَّةُ وَعَمِلَ بِهِ أَئِمَّتُهَا مِنَ الْعَصْرِ النَّبَوِيِّ إِلَى زَمَنِ الْأَئِمَّةِ الْمَتْبُوعِينَ ، وَالْخُرُوجُ عَنْ هَذِهِ الطَّرِيقَةِ إِلَى التَّأْوِيلِ عُدُولٌ عَنْ طَرِيقَةِ الصَّحَابَةِ وَالتَّابِعِينَ لَهُمْ بِإِحْسَانٍ وَيَنْبَغِي أَنْ يُرَاعَى فِي مِثْلِ هَذَا الْإِمْرَارِ اعْتِقَادُ أَنَّهُ لَا تُشْبِهُ صِفَاتُ اللَّهِ صِفَاتِ الْخَلْقِ ، وَمَعْنَى الْإِمْرَارِ عَدَمُ الْعِلْمِ بِالْمُرَادِ مِنْهُ مَعَ اعْتِقَادِ التَّنْزِيهِ
อิบนุเญาซีย์ กล่าวว่า “ชาวสะลัฟส่วนมาก ห้ามไม่ให้ตีความ เหมือนกับกรณีนี้ และพวกเขาปล่อยให้เป็นไปตามสิ่งที่ได้มีมา และนี้คือ ที่ถูกต้อง ซึ่งแนวทางนี้ได้ดำเนินบนมัน บรรดาผู้นำแห่งมัน(แห่งแนวทางนี้) จากสมัยนบีจนถึงสมัยบรรดาอิหม่ามที่ถูกปฏิบัติตาม และ การออกจากแนวทางนี้ไปสู่การตีความ(ตะอฺวีล)นั้น คือการหันเหออกจากแนวทางของเศาะหาบะฮ และบรรดาผู้เจริญรอยตามพวกเขา ด้วยความดีงาม และสมควรที่จะรักษาในกรณีเหมือนกับการปล่อยให้ผ่านไปแบบนี้ คือ การเชื่อมั่นว่า แท้จริงบรรดาคุณลักษณะของอัลลออ ไม่คล้ายคลึงกับบรรดาลักษณะ(สิฟัต)มัคลูค และ ความหมายของอัลอิมรอ็ร(การปล่อยให้ผ่านไป)หมายถึง การไม่รู้จุดประสงค์จากมัน พร้อมกับเชื่อว่าทรงบริสุทธืจากการคล้ายคลึง(กับมัคลูก) - ดูฟัตหุ้ลาบารีย์ ๖/๔๘
.........................................
ผุ้อ้าง อ้างหลักฐานเพื่อสนับสนุนการตีความความหมาย อิสติวาอฺ เป็น อิสเตาลา หรือ การปกครองโดยไม่แย่งชิง แต่หลักฐานที่นำมาอ้าง เป็นหลักฐาน ห้ามการตีความ(ตะอฺวีล) มาชาอัลลอฮ
คำพุดของอิบนุเญาซีย์ ไม่ได้หมายถึง ไม่ให้แปลความหมายของคำ แต่ หมายถึง เราไม่รู้จุดมุ่งหมายของคำว่าเป็นอย่างไร ลักษณะหรือรูปแบบการหัวเราะเป็นอย่างไรเราไม่รู้ เพราะทรงไม่เหมือนมัคลูค
_________________
จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น