วันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2562

การรับรองสถานที่สำหรับอัลลอฮ // อะกีดะฮสะลัฟของแท้(ไม่แอบอ้าง) อะสัน หมัดอะดั้ม

การรับรองสถานที่สำหรับอัลลอฮ

เท่าที่เห็นมาตลอด มีคนกลุ่มหนึ้ง ปฏิเสธหัวชนฝา ว่าอัลลอฮไม่มีสถานที่ ไม่มีทิศสำหรับอัลลอฮ
และพยายามตีความและเปลี่ยนความหมายทุกหลักฐาน ไม่ว่าจะมากจากอัลกุรอ่านและอัสสุนนะฮ เพื่อปฏิเสธความเชื่อแบบนี้
...............
จึงของชี้แจง ด้วยหลักฐานดังต่อไปนี้ว่า อัลลอฮทรงมีสถานที่ นั้นคือ ทรงอยู่เบื้องสูงบนฟากฟ้าเหนืออะรัช เหนือมัคลูค

عَنْ جَابِرِ بْنِ عَبْدِ اللَّهِ الأَنْصَارِيِّ ، أَنَّ رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قَالَ : إِنَّ اللَّهَ يَنْزِلُ كُلَّ لَيْلَةٍ إِلَى السَّمَاءِ الدُّنْيَا لِثُلُثِ اللَّيْلِ ، فَيَقُولُ : " أَلا عَبْدٌ مِنِ عِبَادِي يَدْعُونِي فَأَسْتَجِيبَ لَهُ ، أَوْ ظَالِمٌ لِنَفْسِهِ يَدْعُونِي فَأَغْفِرَ لَهُ ، أَلا مُقَتَّرٌ عَلَيْهِ فَأَرْزُقَهُ ، أَلا مَظْلُومٌ يَسْتَنْصِرُ فَأَنْصُرَهُ ، أَلا عَانٍ يَدْعُونِي فَأَفُكَّ عَنْهُ " ، فَيَكُونُ ذَلِكَ مَكَانَهُ حَتَّى يُصَلَّى الْفَجْرُ ، ثُمَّ يَعْلُو رَبُّنَا عَزَّ وَجَلَّ إِلَى السَّمَاءِ الْعُلْيَا عَلَى كُرْسِيِّهِ .

รายงานจากญาบีร บิน อับดุลลอฮ อันอันศอรีย์ ว่า แท้จริง รซูลุลลอฮ ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมกล่าวว่า
แท้จริง ทุกคืน อัลลอฮทรงเสด็จลงมายังฟากฟ้าดุนยา สำหรับหนึ่งในสามของกลางคืน แล้วพระองค์ตรัสว่า
“ มีไหม บ่าวของข้า ที่วิงวอนต่อข้า แล้วข้าจะได้ตอบรับแก่เขา หรือ มีใหม ผู้อธรรม ต่อตัวเขาเอง วิงวอนต่อข้า แล้วข้าจะได้อภัยโทษแก่เขา , มีไหม ผู้ที่ขัดสน ข้าจะได้ประทานปัจจัยยังชีพแก่เขา ,มีไหม ผู้ที่ถูกอธรรม ขอความช่วยเหลือ ข้าจะได้ให้การช่วยเหลือเขา และมีใหม ผู้ที่เจ็บป่วย แล้วข้าจะได้ให้มันหายจากเขา แล้วดังกล่าวนั้น เป็นสถานที่ของพระองค์ จนกระทั้ง การละหมาดฟะญัร(ละหมาดศุบฮิ)ได้ถูกละหมาด(หมายถึงจนกระทั้งถึงเวลาละหมาดศุบฮี) หลังจากนั้นพระผู้อภิบาลของเรา ผู้ทรงสูงส่ง ทรงเลิศยิ่ง ทรงขึ้นไปยังฟากฟาสูงสุด เหนืออะรัช – ดู หะดิษนูซูล ของอิหม่ามดารุลกุฏนีย์ หะดิษหมายเลข 3
ดูสายรายงานหะดิษ เป็นหะดิษเศาะเฮียะ
(1) عبد الرحمن بن صخر

| (2) همام بن منبه

| | (3) معمر بن راشد

| | | (4) عبد الرزاق بن همام

| | | | (5) إسحاق بن منصور

| | | | | (6) محمد بن إسماعيل

| | | | | | (7) الكتاب: النزول للدارقطني [الحكم: إسناده متصل، رجاله ثقات، على شرط الإمام البخاري]

มาดู หะดิษที่ระบุในเศาะเฮียะบุคอรี หมายเลข ๖๙๘๖ เรื่อง อิสรออฺ เมียะรอจญ โดยมีข้อความตอนหนึ่งว่า

فَالْتَفَتَ النَّبِيُّ صلى الله عليه وسلم إِلَى جِبْرِيلَ كَأَنَّهُ يَسْتَشِيرُهُ فِي ذَلِكَ، فَأَشَارَ إِلَيْهِ جِبْرِيلُ أَنْ نَعَمْ إِنْ شِئْتَ. فَعَلاَ بِهِ إِلَى الْجَبَّارِ فَقَالَ وَهْوَ مَكَانَهُ يَا رَبِّ خَفِّفْ عَنَّا، فَإِنَّ أُمَّتِي لاَ تَسْتَطِيعُ هَذَا. فَوَضَعَ عَنْهُ عَشْرَ صَلَوَاتٍ ثُمَّ رَجَعَ إِلَى مُوسَى فَاحْتَبَسَهُ، فَلَمْ يَزَلْ يُرَدِّدُهُ مُوسَى إِلَى رَبِّهِ حَتَّى صَارَتْ إِلَى خَمْسِ صَلَوَاتٍ

’ ดังนั้น นบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้ ไปพบพบญิบรีล เพื่อขอคำชี้แนะต่อเขาในเรื่องดังกล่าวนั้น แล้ว ญิบรีลได้ชี้แนะแก่ท่านนบี ว่า เชิญ ครับ หากท่านต้องการ แล้ว เขา(ญิบรีล)ได้นำท่านนบีขึ้นไปยัง พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรง อนุภาพ แล้วนบี ได้กล่าว โดยที่พระองค์(พระเจ้าผู้ทรงอนุภาพ)อยู่สถานที่ของพระองค์ ว่า “โอ้พระผู้อภิบาลของข้าพระองค์ ,ได้โปรดลดย่อนจากเรา เพราะแท้จริง อุมมะฮของข้าพระองค์ ไม่สามารถปฏิบัติแบบนี้ได้(หมายละหมาด ๕๐ เวลา) แล้วพระองค์ได้ลดย่อน จากมัน ให้เหลือ สิบเวลา หลังจากนั้น นบีก็ได้กลับไปยังมูซา แล้ว มูซา ได้กับตัวนบีเอาไว้ และมูซาได้ให้นบีกลับไป ยังพระผู้อภิบาลอยู่ตลอดเวลา จนกระทั้ง ละหมาด กลายเป็น(หมายถึงถูกกำหนดให้เป็น)ห้าเวลา....
..........................
จากหะดิษข้างต้น เป็นการยืนยันการอยู่ ณ สถานที่เบื้องสูงของอัลลอฮ อย่างชัดเจน และ ญิบรีล นำท่านนบี ศอ็ลฯ ขึ้นไปยังพระองค์
อิบนุอุษัยมีน กล่าวว่า

.إن الله في جهة العلو؛ لأن الرسول صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ; قال للجارية: (أين الله؟); وأين يستفهم بها عن المكان؛ فقالت: في السماء".

แท้จริง อัลลอฮ อยู่ในทิศเบื้องสูง เพราะว่า รอซูล ศอ็ลฯ ได้กล่าวแก่ ท่าสหญิงคนนั้นว่า (อัลลอฮอยู่ใหน) และคำว่า อัยนะ (อยู่ใหน) เป็นการขอให้นางอธิบายเกี่ยวกับสถานที่ แล้วนางกล่าวตอบว่า “อยู่บนฟ้า”
ดู ฟัตวา อิบนุอุษัยมีน เล่ม 10 คำถามหมายเลข 1131

.............
เพราะฉะนั้น การรับรอง การอยู่บนฟากฟ้าเบื้องสูง เหนืออะรัช เหนื่อมัคลูคทั้งหลายของอัลลอฮนั้น
เป็นอะกีดะฮอิสลาม ไม่ใช่อะกีดะฮเฉพาะศาสนายิว ที่พวกเขาเชื่อตามคัมภีร์เตารอต อย่างเดียว และการเชื่อแบบนี้ ทำให้พี่น้องเราที่ถูกฉายาว่า “วะฮบีย” ถูกบุคคลกลุ่มหนึ่ง กล่าวหาว่า “มีพระเจ้าคนละองค์กับพวกเขา” วัลอิยาซุบิลละฮ
والله أعلم بالصواب
_________________
จะยืนหยัดอยู่บนความจริง แม้ว่าจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น