รวมข้อมูลเกี่ยวกับ กุนูต (ศุบฮิ) เท่าที่หาได้
Update 25/06/2562
.
عَنْ أَبِي مَالِكٍ الْأَشْجَعِيِّ قَالَ قُلْتُ لِأَبِي يَا أَبَةِ إِنَّكَ قَدْ صَلَّيْتَ خَلْفَ رَسُولِ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ وَأَبِي بَكْرٍ وَعُمَرَ وَعُثْمَانَ وَعَلِيِّ بْنِ أَبِي طَالِبٍ هَا هُنَا بِالْكُوفَةِ نَحْوًا مِنْ خَمْسِ سِنِينَ أَكَانُوا يَقْنُتُونَ قَالَ أَيْ بُنَيَّ مُحْدَثٌ قَالَ أَبُو عِيسَى هَذَا حَدِيثٌ حَسَنٌ صَحِيحٌ وَالْعَمَلُ عَلَيْهِ عِنْدَ أَكْثَرِ أَهْلِ الْعِلْمِ وَقَالَ سُفْيَانُ الثَّوْرِيُّ إِنْ قَنَتَ فِي الْفَجْرِ فَحَسَنٌ وَإِنْ لَمْ يَقْنُتْ فَحَسَنٌ وَاخْتَارَ أَنْ لَا يَقْنُتَ وَلَمْ يَرَ ابْنُ الْمُبَارَكِ الْقُنُوتَ فِي الْفَجْرِ
.
รายงานจากอบีมาลิก อัลอัชญะอีย์ กล่าวว่า
“ฉันได้กล่าวแก่บิดาของฉันว่า “โอ้บิดาของฉัน ความจริงท่านเคยละหมาดตามหลังรซูลุลลอฮ ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ,อบีบักร์ ,อุมัร ,อุษมานและอาลี ทีเมืองกุฟะฮ ประมาณ 5 ปี พวกเขาอ่านดุอากุนูตไหม? เขา(บิดาของฉัน)กล่าวว่า “ โอ้ลูกเอ๋ย มันเป็นสิ่งที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นใหม่(บิดอะฮ)
___
อบูอีซา กล่าวว่า “หะดิษนี้ หะซัน เศาะเฮียะ นักวิชาการส่วนมากปฏิบัติตามหะดิษนี้ และ ซูฟยานอัษเษารีย์ กล่าวว่า
“ หากเขาอ่านกุนูตในละหมาดฟัจญร์ ก็เป็นการดี และถ้าไม่อ่านกุนูต ก็เป็นการดี และเขา(ซุฟยาน) เลือกที่จะไม่อ่านกุนูต และอิบนุอัลมุบารอ็กไม่เห็นว่า ให้อ่านกุนูตในละหมาดฟัจญร์(ซูบฮี)
___
อัลมุบาเราะกาฟูรีย์(محمد بن عبد الرحمن بن عبد الرحيم المباركفوري) กล่าวว่า
وَقَدْ تَقَدَّمَ أَنَّ الْقَوْلَ الرَّاجِحَ هُوَ أَنَّ الْقُنُوتَ مُخْتَصٌّ بِالنَّوَازِلِ ، وَأَنَّهُ يَنْبَغِي عِنْدَ نُزُولِ النَّازِلَةِ أَنْ لَا تُخَصَّ بِهِ صَلَاةٌ دُونَ صَلَاةٍ
และได้กล่าวมาก่อนหน้านี้แล้วว่า แท้จริงทัศนะที่มีน้ำหนัก คือ การอ่านกุนูตนั้น เฉพาะกับเคราะห์ร้ายเกิดขึ้น(กับมุสลิม) และแท้จริงสมควรที่จะอ่านเวลาเคราะห์ร้ายเกิดขึ้น ไม่จำกัดละหมาดหนึ่งโดยไม่อ่านในละหมาดอื่น
- ดูตัวะฟะตุลอะหวะซีย์ เรื่อง باب ما جاء في ترك القنوت
_____
.
หะดิษที่รายงานจากท่านอะนัส ขัดแย้งกันเอง
บ้างก็ว่า ท่านนบี ศอลฯ อ่านกุนูต เพียงเดือนเดียว
บ้างก็บอกว่า อ่านเฉพาะมีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้น
บ้างก็บอกว่า อ่านตลอด หะดิษแบบนี้เขาไม่เอามาเป็นหลักฐานหรอกครับ
.
عَنْ أَنَسٍ أَنَّ النَّبِيَّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قَنَتَ شَهْرًا يَدْعُو عَلَى قَاتِلِي أَصْحَابِهِ بِبِئْرِ مَعُونَةَ ، ثُمَّ تَرَكَ ، فَأَمَّا الصُّبْحُ فَلَمْ يَزَلْ يَقْنُتُ حَتَّى فَارَقَ الدُّنْيَا . وَأَوَّلُ الْحَدِيثِ فِي الصَّحِيحَيْنِ ، وَلَوْ صَحَّ هَذَا لَكَانَ قَاطِعًا لِلنَّزِاعِ وَلَكِنَّهُ مِنْ طَرِيقِ أَبِي جَعْفَرٍ الرَّازِيِّ ، قَالَ فِيهِ عَبْدُ اللَّهِ بْنُ أَحْمَدَ : لَيْسَ بِالْقَوِيِّ : وَقَالَ عَلِيُّ بْنُ الْمَدِينِيِّ : يَخْلِطُ ، وَقَالَ أَبُو زُرْعَةَ : يَهِمُ كَثِيرًا ، وَقَالَ عَمْرُو بْنُ عَلِيٍّ الْفَلَّاسُ : صَدُوقٌ سَيِّئُ الْحِفْظِ ، وَقَالَ ابْنُ مَعِينٍ : ثِقَةٌ لَكِنَّهُ يُخْطِئُ ، وَقَالَ الدَّوْرِيُّ : ثِقَةٌ لَكِنَّهُ يَغْلَطُ وَحَكَى السَّاجِيُّ أَنَّهُ قَالَ : صَدُوقٌ لَيْسَ بِالْمُتْقِنِ ، وَقَدْ وَثَّقَهُ غَيْرُ وَاحِدٍ ، وَلِحَدِيثِهِ هَذَا شَاهِدٌ وَلَكِنَّ فِي إِسْنَادِهِ عَمْرَو بْنَ عُبَيْدٍ وَلَيْسَ بِحُجَّةٍ . قَالَ الْحَافِظُ : وَيُعَكِّرُ عَلَى هَذَا مَا رَوَاهُ الْخَطِيبُ مِنْ طَرِيقِ قَيْسِ بْنِ الرَّبِيعِ عَنْ عَاصِمِ بْنِ سُلَيْمَانَ ، قُلْنَا لِأَنَسٍ : إِنَّ قَوْمًا يَزْعُمُونَ أَنَّ النَّبِيَّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ لَمْ يَزَلْ يَقْنُتُ فِي الْفَجْرِ ، قَالَ : كَذَبُوا إِنَّمَا قَنَتَ شَهْرًا وَاحِدًا يَدْعُو عَلَى حَيٍّ مِنْ أَحْيَاءِ الْمُشْرِكِينَ ، وَقِيسٌ وَإِنْ كَانَ ضَعِيفًا لَكِنَّهُ لَمْ يُتَّهَمْ بِكَذِبٍ . وَرَوَى ابْنُ خُزَيْمَةَ فِي صَحِيحِهِ مِنْ طَرِيقِ سَعِيدٍ عَنْ قَتَادَةَ عَنْ أَنَسٍ أَنَّ النَّبِيَّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ لَمْ يَقْنُتْ إِلَّا إِذَا دَعَا لِقَوْمٍ أَوْ دَعَا فَاخْتَلَفَتِ الْأَحَادِيثُ عَنْ أَنَسٍ وَاضْطَرَبَتْ فَلَا يَقُومُ لِمِثْلِ هَذَا حُجَّةٌ ، انْتَهَى
.
รายงานจากอะนัส ว่า แท้จริง นบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม อ่านกุนูตหนึ่งเดือน ดุอาสาปแช่งบรรดาผู้ที่สังหารบรรดาสาวกของท่านที่บ่อมะอูนะฮ ต่อมาท่านก็ได้ละทิ้ง สำหรับละหมาดศุบฮินั้น ท่านคงอ่านต่อไปจนกระทั้งจากโลกนี้
และในตอนแรกของหะดิษ ปรากฏในเศาะเฮียะบุคอรีและมุสลิม และถ้าหากหะดิษนี้เศาะเฮียะ ก็ตัดปัญหาการขัดแย้งไปได้
แต่...มันเป็นหะดิษจากสายรายงานของ อบียะอฺฟัร อัรรอซีย์ ท่านอับดุลลอฮ บิน อะหมัด กล่าวว่า
“ในตัวเขาผู้นี้ หลักฐานไม่แข็งแรง .
อาลี บิน อัลมะดีนีย์ กล่าวว่า
“ เขาสบสน และ อบูซะรออะฮ กล่าวว่า
“เขาผิดพลาดเป็นอย่างมาก”
และ อัมรุน บิน อาลี อัลฟัลลาส กล่าวว่า
“ เขาเชื่อถือได้ แต่ความจำแย่มากๆ ,
อิบนุมุอีน กล่าวว่า
“ เขาเชื่อถือได้ แต่ ผิดพลาด
และอัดเดารีย์ กล่าวว่า
“เชื่อถือได้ แต่ เขาผิดพลาด
และอัสสาฮีย์ เล่าว่า แท้จริงเขา(อบียะอฺฟัร) เชื่อถือได้ แต่ขาดความประณีต
และแท้จริงมีหลายคน ระมัดระวังสิ่งที่เขารายงาน
และหะดิษของเขา บทนี้ มี หะดิษ(บทอื่นสนับสนุน)
แต่ ในสายรายมีผู้รายงานชื่อ อัมริน บิน อุบัยดิ เอามาเป็นหลักฐานไม่ได้
และอัลหาฟิซ กล่าวว่า
และสิ่งที่ทำให้ดิษบทนี้ดำมืดเข้าไปอีก คือ หะดิษที่รายงานโดย อัลเคาะฏีบ จากสายรายงานของ กัยส์ บิน อัรรอเบียะ จาก อาศิม บิน สุลัยมาน มีใจความ ว่า
“ พวกเรา กล่าวแก่ท่านอะนัสว่า
“คนกลุ่มหนึ่ง เข้าใจว่า ท่านนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม อ่านกุนูตเป็นประจำในละหมาดฟัจญรฺ (ละหมาดซุบฮิ)
ท่านอะนัสกล่าวว่า
“พวกเขาโกหก” ความจริง ท่านอ่านกุนูต เพียงหนึ่งเดือนเท่านั้น โดยดุอาสาปแช่งกลุ่มชนหนึ่ง จากกลุ่มชนมุชริกีน และ (ผู้รายงานที่ชื่อว่า) กัยสฺ แม้เขาจะเป็นผู้ที่หลักฐานอ่อน แต่ ไม่เคยได้รับการตำหนิว่าเป็นคนโกหก
และมีรายงานจาก อิบนุคุซัยมะฮ ในเศาะเฮียะของท่าน จากสายรายงาน สะอีด จากกอตาดะฮ จาก อะนัส ว่า
“ แท้จริง ท่านนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จะไม่อ่านกุนูต นอกจากเพื่อดุอาให้แก่กลุ่มชนใดกลุ่มชนหนึ่ง หรือ ดุอา(สาปแช่ง กลุ่มชนใดกลุ่มชนหนึ่งเท่านั้น,
ดังนั้น บรรดาหะดิษที่รายงานจากอะนัส ขัดแย้งกันเอง
และมีความสับสน หะดิษลักษณะนี้เอามาเป็นหลักฐานอ้างอิงไม่ได้
– ดู ตุหฟะตุลอะหวะซีย์ ชัรหุอัตติรมิซีย์ บทว่าด้วย การอ่านกุนูตในละหมาดฟัจญัร หน้า 362
_____
.
ในเล่มที่ 7 ของฟัตวาคณะกรรมการถาวรเพื่อการวิฉัยวิชาการและตอบปัญหาศาสนา ของประเทศซาอุดีย์ หมายเลข 2452 ระบุว่า
.
لم يصح عن النبي صلى الله عليه وسلم أنه خص الصبح بالقنوت، ولا أنه داوم عليه في صلاة الصبح، وإنما الذي ثبت عنه صلى الله عليه وسلم أنه قنت في النوازل بما يناسبها، فقنت في صلاة الصبح وغيرها من الصلوات يدعو على رعل وذكوان وعُصَيَّة لقتلهم القراء الذين أرسلهم النبي صلى الله عليه وسلم إليهم ليعلموهم دينهم، وثبت في صلاة الصبح وغيرها يدعو للمستضعفين من المؤمنين أن ينجيهم الله من عدوهم، ولم يداوم على ذلك، وسار على ذلك الخلفاء الراشدون من بعده، فخير للإمام ) أن يقتصر على القنوت في النوازل اقتداءً برسول الله صلى الله عليه وسلم فيما ثبت عن أبي مالك الأشجعي قال : قلت لأبي : يا أبت قد صليت خلف رسول الله صلى الله عليه وسلم وخلف أبي بكر وعمر وعثمان وعلي رضي الله عنهم أفكانوا يقنتون في الفجر ؟ فقال : (أي بنيّ مُحدَث) رواه الخمسة إلا أبا داود ( وصححه الألباني في الإرواء 435) ، وإن خير الهدي هدي محمد صلى الله عليه وسلم .
وبالله التوفيق وصلى الله على نبينا محمد وآله وصحبه وسلم
.
ไม่มีรายงานที่เศาะเฮียะจากท่านนบี ว่าท่านได้เจาะจงละหมาดศุบฮิด้วยการอ่านกุนูต และไม่มี(รายงานที่เศาะเฮียะ)ว่า ท่านนบีได้อ่านเป็นประจำในละหมาดศุบฮิ และความจริง ที่มีรายงานยืนยันจากท่านนบี นั้น คือ ท่านได้อ่านกุนูต ในภาวะที่ประสบกับเคราห์กรรม ด้วยสิ่งที่เหมาะสมกับมันเท่านั้น
แล้วท่านนบีเคยอ่านกุนูตในละหมาดศุบฮิและละหมาดอื่นจากนั้น จากบรรดาละหมาดฟัรดูห้าเวลา โดยขอดุอาสาปแช่งพวกริอฺล ,พวกซักวานและพวกอุศียยะฮ ที่พวกเขาได้ฆ่า บรรดาผู้มีความรู้ในอัลกุรอ่าน ที่ท่านนบี ส่งไปยังพวกเขา เพื่อสอนศาสนาให้แก่พวกเขา
และได้มีรายงานยืนยันว่า ท่านนบี ได้ขอดุอาให้แก่บรรดามุอฺมีนผู้อ่อนแอ ให้อัลลอฮทรงให้เขาปลอดภัยจากศัตรูของพวกเขา ในละหมาดศุบฮิ โดยที่ท่านไม่ได้ทำดังกล่าวนั้นเป็นประจำ และบรรดาเคาะลิฟะฮอัรรอชิดีน หลังจากท่านก็ได้ดำเนินตามนั้น ดังนั้นทางเลือกสำหรับผู้เป็นอิหม่ามคือ
การให้จำกัดเฉพาะกุนูตนาซิละฮ(กุนูตในยามที่มุสลิมประสบกับเคราะห์กรรม) เพื่อเป็นการปฏิบัติตามท่านรซูลุ้ลลอฮ
ตามที่ปรากฏรายงานยืนยันจากอบีมาลิก อัลอัชญะอีย์ กล่าวว่า
.
قلت لأبي : يا أبت قد صليت خلف رسول الله صلى الله عليه وسلم وخلف أبي بكر وعمر وعثمان وعلي رضي الله عنهم أفكانوا يقنتون في الفجر ؟ فقال : (أي بنيّ مُحدَث
.
ข้าพเจ้าได้กล่าวแก่บิดาของข้าพเจ้าว่า "โอ้บิดาของฉัน แท้จริงท่านเคยละหมาดตามหลังท่านรซูลุ้ลลอฮ ,อบูบักร,อุมัร,อุษมานและ อาลี ขออัลลอฮโปรดประทานความโปรดปรานแก่พวกเขา ,พวกเขาอ่านกุนูตในละหมาดฟัจญริ(ละหมาดศุบฮิ )หรือเปล่าครับ?
เขาจึงตอบว่า "โอ้ลูกของพ่อ มันคือ สิ่งที่ถูกประดิษขึ้นใหม่"- รายงานโดยนักรายงานห้าท่านยกเว้น อบูดาวูด
(อัลบานีย์ระบุในอัล-อิรวาอ์ หะดิษหมายเลข 435
ว่าเป็นหะดิษเศาะเฮียะ )
และแท้จริงทางนำที่ดี คือ ทางนำของท่านนบีมุหัมหมัด
.
_____
.
وأما ما ورد أن النبي صلى الله عليه وسلم داوم على القنوت في الفجر فليس بثابت عند أهل العلم ، والحديث الوارد في ذلك وهو عن أنس رضي الله عنه قال ما زال رسول الله صلى الله عليه وسلم يقنت في الفجر حتى فارق الدنيا ) فهو حديث ضعيف لا تقوم به الحجة . انظر السلسلة الضعيفة 3/384-388
.
และสำหรับสิ่งที่มีรายงานว่าท่านนบี อ่านกุนูตในละหมาดฟัจญัร เป็นประจำ นั้น ไม่เป็นที่ยืนยันจากผู้ทรงความรู้
และหะดิษที่รายงานในเรื่องดังกล่าว
คือ รายงานจากอะนัส(ร.ฎ)กล่าวว่า "รซูลุ้ลลอฮ อ่านกุนูตในละหมาดฟัจญัร(ศุบฮิ)จนกระทั่งได้จากโลกนี้ไป)
มันเป็นหะดิษเฎาะอีฟ เอามาเป็นหลักฐานไม่ได้
- ดูอัสสิลสิละฮ อัฎเฎาะอีฟะฮ 3/384-388
.
_____
.
رَوَى ابْنُ حِبَّانَ وَ الْخَطِيْبُ وَ ابْنُ خُزَيْمَةَ عَنْ أَنَسٍ أَنَّ النَّبِيَّ صلّى الله عليه و سلّم كاَنَ لاَ يَقْنُتُ فِيْ صَلاَةِ الصُّبْحِ إِلاَّ إِذَا دَعاَ لِقَوْمٍ أَوْ دَعاَ عَلَى قَوْمٍ. هَذَا لَفْظُ ابْنُ حِبَّانَ
.
รายงานโดยอิบนุหิบบาน ,เคาะฏีบ และอิบนุคุซัยมะฮ จากอะนัส ว่าแท้จริงนบี Solallah ไม่ได้อ่านกุนูตในละหมาด
ซุบฮิ ยกเว้น เมื่อท่านดุอาให้แก่กลุ่มชนหนึ่ง หรือดุอาสาปแช่งแก่กลุ่มชนหนึ่ง นี้คือ สำนวนรายงานโดย อิบนุหิบบาน
- ดูสุบุลุสสลาม เล่ม 2 หน้า 157
___
.
وَ مِنْ حَدِيْثِ أَبِي هُرَيْرَةَ عِنْدَ ابْنِ حِبَّانَ بِلَفْظٍ كاَنَ لاَ يَقْنُتُ فِي صَلاَةِ الصُّبْحِ إِلاَّ أَنْ يَدْعُوَ ِلأَحَدٍ أَوْ يَدْعُوَ عَلَى أَحَدٍ.
.
และจากหะดิษอบีฮุรัยเราะฮ ตามรายงานของอิบนุหิบบาน ด้วยสำนวนที่ว่า "ปรากฏว่า นบี Solallah ไม่ได้อ่านกุนูตในละหมาดซุบฮิ ยกเว้น เมื่อท่านดุอาให้แก่คนใดคนหนึ่ง หรือดุอาสาปแช่งแก่คนใดคนหนึ่ง
- ดู นัยลุลเอาฏอร เล่ม 4 หน้า 195
.
___
อัลบานีย์ระบุว่า
.
قال صاحب ” التنقيح ” : و سند هذين الحديثين صحيح ، و هما نص في أن القنوت مختص بالنازلة
.
เจ้าของหนังสือ อัตตันกีหฺ กล่าวว่า สายรายงานของสองหะดิษนี้เศาะเฮียะ และทั้งสองเป็นหลักฐาน ว่าการอ่านกุนูตนั้น จำกัดเฉพาะเมื่อมีเหตุการร้ายเกิดขึ้นเท่านั้น
- ดู อัสสิลสิละฮ อัฎเฎาะอีฟะฮะฮ เล่ม 3 หน้า 237
.
___
.
หะดิษจากอะนัสที่ กล่าวถึงกุนูต มีอยู่ สามสำนวน คือ
.
صليت مع النبي صلي الله عليه وسلم فلم يزل يقنت في صلاة الغداة حتى فارقته..الخ
.
ข้าพเจ้าได้ละหมาดตามหลังท่านนบี ศอลฯ
ท่านได้อ่านกุนูตเป็นประจำในละหมาดศุบฮิ
จนกระทั้งข้าพเจ้าได้แยกจากท่านมา”
- อัฏเฏาะหาวีย ได้บันทึกไว้ในหนังสือ ชัรหุ้ลมาอานีย์ เล่ม 1 หน้า 243 ในหะดิษนี้ และในสายรายงาน
มีคนหนึ่งชื่อ อิสมาอีล บินมุสลิมอัลมักกีย์ อิบนุหะญัร อัลอัสเกาะลานีย์ ได้วิจารณ์ ไว้ในหนังสือ อัตตักรีก เล่ม 1 หน้า 74 ว่า “เฎาะอีฟุลหะดิษ”
และอีกสำนวนหนึ่ง บันทึกโดย อัลบัยหะกีย์
เมื่อมาพิจารณาแล้ว เราจะพบว่าหะดิษอะนัส ขัดแย้งกันเองและสับสนจริงๆอย่างที่
ท่านอิบนุหะญัร อัลอัสเกาะลีนีย์เอง กล่าวไว้ในหนังสือ ตัลคีส อัลหะบีร เล่มที่ 1 หน้า 261-262 ว่า
.
فاختلفت الأحاديث عن أنس واضطربت فلايقوم بمثل هذاحجة
บรรดาหะดิษที่รายงานจากอะนัส (ในเรื่องอ่านกุนูตในละหมาดศุบฮิเป็นประจำ) นั้น มีความขัดแย้งกันเอง และสับสน หะดิษลักษณะนี้เอามาเป็นหลักฐานไม่ได้.(ได้อ้างก่อนหน้านี้แล้ว)
.
และหะดิษที่เศาะเหียะกว่ากล่าวว่า
.
عن أنس ابن مالك أن النبي صلى الله عليه وسلم قنت شهرا ثم تركه * ( صحيح ) وأخرجه مسلم .
صحيح سنن أبي داود باختصار السند
.
รายงานจากอะนัส บุตร มาลิก ว่า แท้จริงท่านนบี ศอล ได้อ่านกุนูตหนึ่งเดือน หลังจากนั้นได้ละทิ้ง
– บันทึกโดยมุสลิม ดูเศาะเหียะสุนันอาบีดาวูด ของอัลบานีย์
.
وروى ابن خزيمة في صحيحه من طريق سعيد عن قتادة عن أنس: (أن النبي صلى اللَّه عليه وآله وسلم لم يقنت إلا إذا دعا لقوم أو دعا على قوم
.
รายงานโดยอิบนุคุซัยมะฮ ในเศาะเหียะของท่าน จากสายของสะอีด จาก กอตาดะฮ จากอะนัสว่า “ แท้จริง ท่านบี ศอล์ ฯ ไม่อ่านกุนูต เว้นแต่ เมื่อ ขอดุอาให้แก่กลุ่มชนหนึ่ง
หรือขอดุอาสาปแช่งกลุ่มชนหนึ่ง
...
หะดิษที่ขัดแย้งกันเองและสับสน แบบนี้
ไม่นาจะเอามาเป็นหลักฐานนะครับ
_____
นักหะดิษที่เขาไม่ยอมรับรายงานของอบูยะอฺฟัรอัรรอซีย์ เช่น
.
อิบนุกอ็ยยิมกล่าวว่า
.
وَكَانَ هَدْيُهُ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ الْقُنُوتَ فِي النَّوَازِلِ خَاصَّةً ، وَتَرْكَهُ عِنْدَ عَدِمِهَا ، وَلَمْ يَكُنْ يَخُصُّهُ بِالْفَجْرِ
.
และปรากฏว่าทางนำของนบี Solallah นั้น คือการอ่านกุนูตในกรณีเหตุร้ายที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะเท่านั้น และท่านได้ทิ้งมัน เมื่อมันไม่มี โดยที่ท่านนบี Solallah ไม่ได้จำกัดมันเฉพาะละหมาดฟัจญัร(ละหมาดซุบฮิ)
- ดูซาดุลมะอาด เล่ม 1 หน้า 273
.
และท่านได้กล่าวเพิ่มเติมว่า
.
وَأَمَّا حَدِيثُ أبي جعفر الرازي عَنِ الرَّبِيعِ بْنِ أَنَسٍ ، عَنْ أنس قَالَ ( مَازَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ يَقْنُتُ فِي الْفَجْرِ حَتَّى فَارَقَ الدُّنْيَا ) وَهُوَ فِي " الْمُسْنَدِ " وَالتِّرْمِذِيِّ وَغَيْرِهِمَا ، فأبو جعفر قَدْ ضَعَّفَهُ أحمد وَغَيْرُهُ . وَقَالَ ابْنُ الْمَدِينِيِّ : كَانَ يَخْلِطُ . وَقَالَ أبو زرعة كَانَ يَهِمُ كَثِيرًا . وَقَالَ ابْنُ حِبَّانَ : كَانَ يَنْفَرِدُ بِالْمَنَاكِيرِ عَنِ الْمَشَاهِيرِ
.
และสำหรับหะดิษอบียะอฺฟัรอัรรอซีย์ รายงานจากอัรรอเบียะ บิน อะนัส จาก อะนัส กล่าวว่า
(รซูลุลลอฮ Solallah อ่านกุนูตในละหมาดฟัจญัร จนกระทั่งท่านได้จากโลกนี้ไป )
และมันอยู่ในอัลมุสนัด ,อัตติรมิซีย์ และอื่นจากทั้งสอง
และอบูยะอฺฟัรนั้น อะหมัดและผู้อื่นจากเขา
ได้หุกุมว่าเขาเฎาะอีฟ ,อิบนุอัลมะดีนีย์กล่าวว่า เขาสับสน ,
อบูซะรออะฮ กล่าวว่า ปรากฏว่าเขา(อบูยะอฺฟัร )ผิดพลาดมากมาย และอิบนุหิบบาน กล่าวว่า ":ปรากฏว่า เขา (อบูญะอฺฟัรฺ อัรฺ-รอซีย์) รายงาน “ตามลำพัง” จากบรรดาผู้มีชื่อเสียง ด้วยหะดีษต่างๆที่มุงกัร
- ดูจากตาราเล่มเดียวกันข้างต้น
.
ท่านอิบนุหะญัรฺ อัล-อัสเกาะลานีย์ ได้อ้างคำพูดของท่านอิบนุหิบบานที่วิจารณ์ท่านอบูญะอฺฟัรฺ อัรฺ-รอซีย์ มาดังนี้
.
وَقَالَ ابْنُ حِبَّانَ : كَانَ (مِمَّنْ) يَنْفَرِدُ عَنِ الْمَشَاهِيْرِ بِالْمَنَاكِيْرِ، لاَ يُعْجِبُنِىْ اْلإِحْتِجَاجُ بِحَدِيْثِهِ إِلاَّ فِيْمَاوَافَقَ الثِّقَاتِ
.
ท่านอิบนุหิบบานกล่าวว่า : เขา (อบูญะอฺฟัรฺ อัรฺ-รอซีย์) เป็น(หนึ่งจาก)ผู้ที่มักจะรายงาน “ตามลำพัง” จากบรรดาผู้มีชื่อเสียง ด้วยหะดีษต่างๆที่มุงกัร, ฉันไม่ชอบอ้างหะดีษของเขาเป็นหลักฐาน ยกเว้นที่มันสอดคล้องกับสิ่งซึ่งผู้ที่เชื่อถือได้ (รายงานมา) เท่านั้น
(จากหนังสือ “ตะฮ์ซีบุต ตะฮ์ซีบ” ของท่านอิบนุหะญัรฺ อัล-อัสเกาะลานีย์ เล่มที่ 12 หน้า 60,
.
นอกจากนี้ ท่านอิบนุหิบบาน ยังได้กล่าวไว้อีกตอนหนึ่งว่า ...
.
اَلنَّاسُ يَتَّقُوْنَ مِنْ حَدِيْثِهِ مَاكَانَ مِنْ رِوَايَةِ أَبِىْ جَعْفَرٍعَنْهُ ِلأَنَّ فِىْ أَحَادِيْثِهِ عَنْهُ إِضْطَرَابًا كَثِيْرًا
.
“ประชาชนจะระมัดระวังหะดีษของท่านรอเบี๊ยะอฺ บินอนัสในส่วนที่ท่านอบูญะอฺฟัรฺ อัรฺ-รอซีย์ รายงานมาจากท่าน เพราะในบรรดาหะดีษของเขา (อบูญะอฺฟัรฺ) ที่รายงานมาจากท่านรอเบี๊ยะอฺ บินอนัสนั้น จะมีความสับสนอยู่มาก”
-(จากหนังสือ “ตะฮ์ซีบุต ตะฮ์ซีบ” เล่มที่ 3 หน้า 207)
***
หะดีษที่อ้างว่า ท่านนบีย์ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัม
ได้อ่านกุนูตในนมาซซุบห์เป็นประจำจนสิ้นชีวิต ..
ก็เป็นการรายงานของท่านอบูญะอฺฟัรฺ อัรฺ-รอซีย์,
จากท่านรอเบี๊ยะอฺ บิน อนัส ..
หะดีษบทนี้จึงอยู่ในข่ายของหะดีษที่ประชาชนจะต้องระวังเพราะขาดความน่าเชื่อถือตามทัศนะของท่านอิบนุหิบบาน
_____
เรื่องบรรดาคอลีฟะฮ์ทั้ง 4 ท่านเคยอ่านกุนูต -- ไม่ว่าในนมาซซุบห์หรือนมาซอื่น --ไม่ใช่เป็นประเด็นขัดแย้ง
แต่ประเด็นขัดแย้งอยู่ที่ว่า เป็นการอ่านเป็นประจำทุกเช้าในนมาซซุบห์ด้วยดุอา .. อัลลอฮุมมะฮ์ ดินีย์ .. ซึ่งข้อความนี้
จะไม่ปรากฏมีระบุไว้เลยในหะดีษข้างต้นนี้ เลย
.
ท่านอิบนุ้ล ก็อยยิม อัล-ญูซียะฮ์ ได้กล่าวไว้ในหนังสือ
“ซาดุ้ลมะอาด” เล่มที่ 1 หน้า 96 ว่า
.
وَأَمَّا الْمَرْوِىُّ عَنِ الصَّحَابَةِ فَنَوْعَانِ، أَحَدُهُمَا : قُنُوْتٌ عِنْدَ النَّوَازِلِ، كَقُنُوْتِ الصِّدِّيْقِ رَضِىَ اللهُ عَنْهُ فِىْ مُحَارَبَةِ الصَّحَابَةِ لِمُسَيْلَمَةَ، وَعِنْدَ مُحَارَبَةِ أَهْلِ الْكِتَابِ، وَكَذَلِكَ قُنُوْتُ عُمَرَ، وَقُنُوْتُ عَلِىٍّ عِنْدَ مُحَارَبَتِهِ لِمُعَاوِيَةَ وَأَهْلِ الشَّامِ، اَلثَّانِىْ : مُطْلَقٌ مُرَادُ مَنْ حَكَاهُ عَنْهُمْ بِهِ تَطْوِيْلُ هَذَاالرُّكْنِ لِلدُّعَاءِ وَالثَّنَاءِ وَاللهُ أَعْلَمُ
.
“อนึ่ง สิ่งที่มีรายงานมาจากบรรดาเศาะหาบะฮ์ (ในเรื่องกุนูต) จะมี 2 ประเภทคือ ประเภทที่หนึ่ง : เป็นกุนูตนาซิละฮ์ (กุนูตขณะมีเหตุการณ์ต่างๆ) .. ตัวอย่างเช่น การอ่านกุนูตของท่านอบูบักรฺ อัศ-ศิดดีก ร.ฎ.ในตอนทำสงครามระหว่างเศาะหาบะฮ์กับมุซัยลิมะฮ์ อัล-กัซซาบ และตอนทำสงครามกับพวกอะฮ์ลุลกิตาบ, ในทำนองเดียวกัน การอ่านกุนูตของท่านอุมัรฺและการอ่านกุนูตของท่านอะลีย์ ตอนที่ท่านทำสงครามกับท่านมุอาวิยะฮ์และชาวเมืองชาม, ส่วนประเภทที่สองก็คือ กุนูตในยามปกติ .. ซึ่งเจตนารมณ์ของผู้ซึ่งได้เล่าเกี่ยวกับกุนูตประเภทนี้มาจากพวกท่าน จะหมายถึง การยืนนานในรุก่นนี้ (หมายถึงในการยืนเอี๊ยะอฺติดาล) เพื่อขอดุอาและเพื่อยกย่องต่อพระองค์อัลลอฮ์ ซ.บ. วัลลอฮุ อะอฺลัม
.
_____
ซูฟยานอัษเษารีย์ กล่าวว่า
.
“ หากเขาอ่านกุนูตในละหมาดฟัจญร์ ก็เป็นการดี และถ้าไม่อ่านกุนูต ก็เป็นการดี และเขา(ซุฟยาน) เลือกที่จะไม่อ่านกุนูต และอิบนุอัลมุบารอ็กไม่เห็นว่า ให้อ่านกุนูตในละหมาดฟัจญร์(ซูบฮี)
___
อัลมุบาเราะกาฟูรีย์(محمد بن عبد الرحمن بن عبد الرحيم المباركفوري) กล่าวว่า
.
وَقَدْ تَقَدَّمَ أَنَّ الْقَوْلَ الرَّاجِحَ هُوَ أَنَّ الْقُنُوتَ مُخْتَصٌّ بِالنَّوَازِلِ ، وَأَنَّهُ يَنْبَغِي عِنْدَ نُزُولِ النَّازِلَةِ أَنْ لَا تُخَصَّ بِهِ صَلَاةٌ دُونَ صَلَاةٍ
.
และได้กล่าวมาก่อนหน้านี้แล้วว่า แท้จริงทัศนะที่มีน้ำหนัก คือ การอ่านกุนูตนั้น เฉพาะกับเคราะห์ร้ายเกิดขึ้น(กับมุสลิม) และแท้จริงสมควรที่จะอ่านเวลาเคราะห์ร้ายเกิดขึ้น ไม่จำกัดละหมาดหนึ่งโดยไม่อ่านในละหมาดอื่น
- ดูตัวะฟะตุลอะหวะซีย์ เรื่อง باب ما جاء في ترك القنوت
.
_____
ท่านอิบนุคุซัยมะฮ์ (ในหนังสือ “อัศ-เศาะเหี๊ยะฮ์” ของท่าน
หะดีษที่ 620) และท่านอัล-คอฏีบ ได้บันทึกรายงานมาจากท่านมุหัมมัด บินอับดุลลอฮ์ อัล-อันศอรีย์, จากท่านสะอีด บิน อบีย์อะรูบะฮ์ จากท่านเกาะตาดะฮ์, จากท่านอนัส บินมาลิก ร.ฎ. ว่า ...
.
إِنَّ النَّبِىَ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ كَاَن لاَ يَقْنُتُ إِلاَّ إِذَا دَعَا لِقَوْمٍ أَوْ دَعَا عَلَى قَوْمٍ
.
แท้จริงท่านนบีย์ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัมนั้น ตามปกติท่านจะไม่อ่านกุนูต เว้นแต่ในกรณีที่ท่านจะขอพรให้แก่ชนกลุ่มใด หรือจะสาปแช่งชนกลุ่มใดเท่านั้น”
ท่านเจ้าของหนังสือ “อัล-ฟัตหุรฺ ร็อบบานีย์” ได้กล่าวรับรองในหนังสือดังกล่าวเล่มที่ 3 หน้า 304 ว่า สายรายงานของหะดีษนี้ เศาะเหี๊ยะฮ์
.
___
ท่านอิบนุหิบบาน ได้รายงานมาจากท่านอบูสะละมะฮ์, จากท่านอบูฮุร็อยเราะฮ์ ร.ฎ. ว่า ...
.
كَانَ رَسُوْلُ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ لاَ يَقْنُتُ فِىْ صَلاَةِ الصُّبْحِ إِلاَّ أَنْ يَدْعُوَ لِقَوْمٍ أَوْعَلَى قَوْمٍ
.
“ตามปกติ ท่านรอซู้ลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัมจะไม่อ่านกุนูตในนมาซซุบห์ เว้นแต่เมื่อท่านจะขอพรให้แก่ชนกลุ่มใด หรือจะสาปแช่งชนกลุ่มใดเท่านั้น”
(โปรดดูบันทึกการรายงานหะดีษทั้ง 2 บทนี้จากหนังสือ”ตัลคีส อัล-หะบีรฺ” เล่มที่ 1 หน้า 261, หนังสือ “นัศบุรฺ รอยะฮ์” เล่มที่ 2 หน้า 130, หนังสือ “อัล-มันฮัลฯ” เล่มที่ 8 หน้า 84-85, และหนังสือ “ฟิกฮุส ซุนนะฮ์” เล่มที่ 1 หน้า 178 เป็นต้น) .
___
ท่านอัส-ซัยละอีย์ได้กล่าวในหนังสือ “นัศบุรฺ รอยะฮ์” เล่มที่ 2 หน้า 130 หลังจากที่ได้นำหะดีษทั้ง 2 บทนี้มาระบุไว้ โดยท่านกล่าวว่า ...
.
قَالَ صَاحِبُ التَّنْقِيْحِ : وَسَنَدُ هَذَيْنِ الْحَدِيْثَيْنِ صَحِيْحٌ! وَهُمَا نَصٌّ فِىْ أَنَّ الْقُنُوْتَ مُخْتَصٌّ بِالنَّوَازِلِ وَاللهُ أَعْلَمُ
.
“ท่านเจ้าของหนังสือ “อัต-ตันเกี๊ยะห์” ได้กล่าวว่า : สายรายงานของหะดีษทั้ง 2 บทนี้ ถูกต้อง! .. และหะดีษทั้ง 2 บทนี้คือข้อชี้ขาดว่า แท้จริงดุอากุนูตนั้น ถูกกำหนดให้อ่านเฉพาะในภาวะจำเป็นเท่านั้น วัลลอฮุ อะอฺลัม
.
___
ในฟัตหุ้ลบารีย์ ของท่านอิบนุเราะญับ เล่ม 9 หน้า 190 ระบุว่า
.
وقد روى أبو جعفر هذا، عن الربيع بن أنس، عن أنس، قال: ما زال النبي - صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ - يقنت حتى فارق الدنيا.خرجه الإمام أحمد وغيره.وهذا - أيضا - منكر.قال أبو بكر الأثرم: هو حديث ضعيف، مخالف للأحاديث.يشير إلى أن ما ينفرد به أبو جعفر الرازي لا يحتج به، ولا سيما إذا خالف الثقات
.
และแท้จริง อบูยะอฺฟัรคนนี้ ได้รายงานจากอัรรอเบียะ บิน อะนัส จากอะนัส กล่าวว่า "ท่านนบี Solallah อ่านกุนูตเป็นประจำ จนกระทั่งท่านได้จากโลกนี้ไป ,บันทึกโดยอะหมัดและอื่นจากเขา และหะดิษนี้ เป็นหะดิษมุงกัรอีกเช่นกัน ,อบูบักร อัลอัษรอม กล่าวว่า "มันเป็นหะดิษเฎาะอีฟ ขัดแย้งกับบรรดาหะดิษเศาะเฮียะ ชี้ให้เห็นว่า สิ่งที่อบูยะฮฟัร อัรรอซีย์ รายงานเพียงคนเดียวนั้น เอามาเป็นหลักฐานไม่ได้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมันขัดแย้งกับบรรดาผู้รายงานที่น่าเชื่อเชื่อ
.
___
.
عبد الوارث، عن عمرو بن عبيد، عن الحسن قال: ' قيل لأنس: إنما قنت رسول الله [صلى الله عليه وسلم] شهرا؟ قال: ما زال رسول الله يقنت حتى مات، وأبو بكر حتى مات [ق 52 - ب] / وعمر حتى مات '.
عمرو واه.
อับดุลวารีษ รายงานจาก อัมริน บิน อุบัยดิน จากอัลหะซัน กล่าวว่า มีผู้กล่าวแก่อะนัสว่า แท้จริง ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ Solallah ทำการอ่านกุนูต จนกระทั่งเสียชีวิต และท่านอบูบักร(อ่านกุนูต) จนกระทั่งเสียชีวิต และท่านอุมัร(อ่านกุนูต) จนกระทั้งเสียชีวิต
ท่านอิหม่ามอัซซะฮะบีย์ ได้ระบุว่า ผู้รายงานคนหนึ่งชื่อ عمرو بن عبيد، เป็นผู้รายงานที่ เฏาะอีฟ (واه )
- ดู ตันกีหุตตะหกีก ฟี อะหาดิษอัตตะอฺลีก เล่ม 1 หน้า 229
.
___
.
ท่านอิบนุหะญัรฺ อัล-อัสเกาะลานีย์ ได้บันทึกไว้ในหนังสือ “ตะฮ์ซีบุต ตะฮ์ซีบ” เล่มที่ 12 หน้า 59-60 ว่า ...
.
قَالَ الدَّوْرِىُّ عَنِ ابْنِ مَعِيْنٍ : ثِقَةٌ، هُوَ يَغْلَطُ فِيْمَا يَرْوِىْ عَنْ مُغِيْرَةَ ...
“ท่านอัด-เดารีย์ได้รายงานจากท่านยะห์ยา บินมะอีนว่า ท่านอบูญะอฺฟัรฺ อัรฺ-รอซีย์ เชื่อถือได้, แต่เขาจะมีความผิดพลาดในการรายงานมาจากท่านมุฆีเราะฮ์
.
___
.
เรื่องการอ่านกุนูตในนมาซซุบห์ว่า
عَنْ أَبِىْ هُرَيْرَةَ رَضِىَ اللهُ عَنْهُ قَالَ : كَانَ رَسُوْلُ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ إِذَا رَفَعَ رَأْسَهُ مِنَ الرُّكُوْعِ فَىْ صَلاَةِ الصُّبْحِ فِى الرَّكْعَةِ الثَّانِيَةِ رَفَعَ يَدَيْهِ، فَيَدْعُوْ بِهَذَاالدُّعَاءِ اَللَّهُمَّ اهْدِنِىْ فِيْمَنْ هَدَيْتَ ........ اَلْحَدِيْثَ
“มีรายงานจากท่านอบู ฮุร็อยเราะฮ์ ร.ฎ. ซึ่งกล่าวว่า ท่านรอซู้ลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัม เมื่อท่านเงยศีรษะขึ้นมาจากรุกั๊วะอฺในร็อกอะฮ์ที่สองของนมาซซุบห์ ท่านจะยกมือทั้งสองขึ้นขอดุอาดังนี้ .. อัลลอฮุมมะฮ์ดินี ฟีมันฮะดัยต้า ....... จนจบหะดีษ”
ท่านอัล-หากิมได้บันทึกหะดีษบทนี้ในหนังสือ “อัล-อัรฺบะอีน” ของท่านและกล่าวว่า เป็นหะดีษเศาะเหี๊ยะฮ์ ...
ท่านอิบนุหะญัรฺ อัล-อัสเกาะลานีย์ ได้กล่าวคัดค้านคำพูดของท่านอัล-หากิมในหนังสือ “ตัลคีส อัล-หะบีรฺ” เล่มที่ 1 หน้า 266 ว่า
หะดีษบทนี้ไม่ใช่หะดีษเศาะเหี๊ยะฮ์ แต่เป็นหะดีษเฎาะอีฟ
เพราะในสายรายงานของมันมีชื่อของท่าน
“อับดุลลอฮ์ บินสะอีด อัล-มกบุรีย์” ซึ่งเป็นผู้รายงานที่เฎาะอีฟมาก
ผมขอเรียนชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานภาพของท่านอับดุลลอฮ์ บินสะอีด อัล-มักบุรีย์ ดังต่อไปนี้
ท่านอัล-ฟัลลาสกล่าวว่า
เขาเป็นผู้ที่รายงานหะดีษมุงกัรฺ (مُنْكَرُ الْحَدِيْثِ)
และเป็นผู้ที่ถูกเมิน (مَتْرُوْكٌ)
ท่านอิหม่ามอะห์มัดกล่าวว่า
เขาเป็นผู้ที่ถูกเมิน (مَتْرُوْكٌ)
ท่านยะห์ยา บินสะอีดกล่าวว่า
ความเท็จของเขา เคยประจักษ์แก่ฉันมาแล้ว ...
ท่านอัด-ดารุกุฏนีย์กล่าวว่าเขาเป็นผู้ที่ถูกเมิน, ไม่มีความหมาย
ท่านบุคอรีย์กล่าวว่า บรรดานักวิชาการหะดีษ ต่างก็เมินเขา (تَرَكُوْهُ)
(จากหนังสือ “มีซาน อัล-เอี๊ยะอฺติดาล” เล่มที่ 2 หน้า 429, หนังสือ “ตะฮ์ซีบุต ตะฮ์ซีบ” เล่มที่ 5 หน้า 209, หนังสือ “อัฎ-ฎุอะฟาอ์ วัลมัตรูกีน” ของท่านอัด-ดารุกุฎนีย์ หน้า 258 เป็นต้น)
.
ท่านอัลบัยฮะกีย์ได้รายงานไว้ใน หนังสือ อัสสุนัน อัลก๊อบรอ ของท่านอีก ว่า
وعن عبد الله بن معقل قال : قنت على رضى الله عنه فى الفجروهذا عن على صحيح مشهور
ความว่า "และรายงานจาก อับดุลเลาะฮฺ บิน มะอฺกิล ซึ่งได้กล่าวว่า ท่านอลี(ร.ฏ.) ได้ทำการอ่านกุนูตในละหมาดซุบหฺ และ(ท่านบัยฮะกีย์กล่าวว่า) หะดิษนี้ ได้รายงานจากท่านอลีนั้น ซอเฮี๊ยะหฺ เป็นที่เลื่องลือ "
- ดู อัสสุนัน อัลก๊อบรอ เล่มที่ 2 หน้าที่ 204
แม้หะดีษบทนี้จะเป็นหะดีษที่ถูกต้องดังคำกล่าวของท่านอัล-บัยฮะกีย์ แต่ก็ไม่อาจจะนำมาอ้างเป็นหลักฐานเรื่องการอ่านกุนูตในนมาซซุบห์เป็นประจำได้ เพราะ
- หะดีษบทนั้น กล่าวลอยๆเพียงว่า ท่านอะลีย์เคยอ่านกุนูตในนมาซซุบห์ แต่ไม่ได้ระบุไว้เลยว่า ท่านอะลีย์ ร.ฎ. จะอ่านกุนูตในนมาซซุบห์ด้วยดุอาที่ว่า อัลลอฮุมมะฮ์ ดินีย์ ฟีมันฮะดัยต้า .. และ/หรืออ่านมันเป็นประจำดังที่พวกเราอ่านกัน
- มีรายงานจากหะดีษบทอื่นระบุชัดเจนว่า กุนูตที่ท่านอะลีย์ บินอบีย์ฏอลิบ ร.ฎ. อ่านในนมาซซุบห์ดังกล่าวนั้น เป็นกุนูตนาซิละฮ์, และท่านก็ไม่เคยอ่านมันมาก่อนนอกจากในครั้งนั้นหรือเพียงบางครั้งเท่านั้น
ท่านอิบนุ อบีย์ชัยบะฮ์ ได้บันทึกในหนังสือ “อัล-มุศ็อนนัฟ” ของท่าน เล่มที่ 2 หน้า 209 ด้วยสายรายงานที่ถูกต้องจากท่านอุรฺวะฮ์ บิน อัล-หาริษ อัล-ฮัมดานีย์จากท่านอัช-ชะอฺบีย์ ว่า
قَالَ الشَّعْبِىُّ : لَمَّا قَنَتَ عَلِىٌّ فِىْ صَلاَةِ الصُّبْحِ أَنْكَرَ النَّاسُ ذَلِكَ، فَقَالَ : إِنَّمَا اسْتَنْصَرْنَا عَلَى عَدُوِّنَا
“ท่านอัช-ชะอฺบีย์กล่าวว่า : เมื่อท่านอะลีย์อ่านกุนูตในนมาซซุบห์ ประชาชน (ชาวเมืองกูฟะฮ์) ก็คัดค้านท่านในเรื่องนี้ ท่านจึงกล่าวว่า : ฉันเพียงแต่ขอ (ดุอา) ให้มีชัยชนะเหนือศัตรูของเรา (คือมุอาวิยะฮ์) เท่านั้น”
นอกจากนี้ ท่านอับดุรฺเราะห์มาน บินมุฆ็อฟฟัล
ก็ได้รายงานมาจากท่านอะลีย์เช่นเดียวกันว่า
ท่านอะลีย์ได้อ่านกุนูตในนมาซซุบห์
และขอดุอาให้มีชัยชนะเหนือท่านมุอาวิยะฮ์, ท่านอัมรฺ บินอัล-อาศ,
ท่านอบูอัซ-ซัลมา และท่านอับดุลลอฮ์ บินก็อยซ์ ตลอดจนผู้สนับสนุนพวกเขาเหล่านี้
-
ดังการบันทึกของท่านอิบนุ อบีย์ชัยบะฮ์ในหนังสือดังกล่าว
เล่มที่ 2 หน้า 216
.
ท่านอัลบัยฮะกีย์ได้รายงานไว้ใน หนังสือ อัสสุนัน อัลก๊อบรอ ของท่าน ว่า
عن العوام بن حمزة قال : سألت أبا عثمان عن القنوت فى الصبح بعد الركوع قلت : عمن ؟ قال عن أبى بكر وعمر وعثمان رضى الله عنه
ความว่า " รายงานจาก อัลเอาวาม บิน หัมซะฮฺ ซึ่งได้กล่าวว่า
ฉันได้ถามอบูอุษมาน เกี่ยวกับเรื่องกุนูตในละหมาดซุบหฺ หลังจากร่อกั๊วะ ฉันกล่าวว่า จากใครหรือ ? เขากล่าวว่า จากอบูบักร , อุมัร และอุษมาน " ท่านอัลบัยฮะกีย์กล่าวว่า หะดิษนี้ หะซัน ดู อัสสุนัน อัลก๊อบรอ เล่ม 2 หน้า 202
หะดิษนี้ก็เช่น กัน เป็นหะดิษเฏาะอีฟ ท่าน อิบนุอัตตัรกะมานีย์(ابن التركماني) ซึ่งวิจารณ์สายรายงานหะดิษนี้ในหนังสือ อัสสุนันกุบรอ
ของอัลบัยฮะกีย์ ข้างต้น โดยท่านค้านว่า เป็นหะดิษเฏาะอีฟ
อัลอะวาม บิน ฮัมซะฮ บุคคลผู้นี้ก็มีจุดบกพร่อง
قال يحيى بن معين : ليس بشيء ، وقال أحمد : له أحاديث مناكير
ยะหยา บิน มุอีน กล่าวว่า “ ไม่มีสิ่งใดเลย” และอะหมัดกล่าวว่า เขามีบรรดาหะดิษมุงกัร (หะดิษที่ถูกปฏิเสธนำมาเป็นหลักฐาน”)
– ดู หาชียะฮอัสสุนัน อัลกุบรอ เล่ม 2 หน้า 288
หะดิษนี้ไม่ได้ระบุว่า อบูบักร์ อุมัร และอุษมาน อ่านกุนูตนะหมาดศุบฮ เป็นประจำแต่อย่างใด
.
หะดีษอีกบทหนึ่งที่นำไปอ้าง กุนูต ในละหมาด ฟัจริ ทุกวันคับ
ท่านอับดุลมะญีด บินอับดุลอะซีซ บิน อบีย์เราวาด,
ได้รายงานมาจากท่านอิบนุญุร็อยจญ์,
จากท่านอับดุรฺเราะห์มาน บินฮุรฺมุซ,
จากท่านบุร็อยด์ บินอบีย์มัรฺยัม ซึ่งกล่าวว่า ...
سَمِعْتُ ابْنَ عَبَّاسٍ وَمُحَمَّدَ بْنَ عَلِىٍّ وَهُوَ ابْنُ الْحَنَفِيَّةِ بِالْخَيْفِ، يَقُوْلاَنِ : كَانَ النَّبِىُّ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ يَقْنُتُ فِىْ صَلاَةِ الصُّبْحِ وَفَىْ وِتْرِ اللَّيْلِ بِهَذِهِ الْكَلِمَاتِ : اَللَّهُمَّ اهْدِنِىْ فِيْمَنْ هَدَيْتَ ......
“ฉันได้ยินท่านอิบนุอับบาส และท่านมุหัมมัด บินอะลีย์ บินอัล-หะนะฟียะฮ์ (เป็นบุตรชายของท่านอะลีย์ บินอบีย์ฏอลิบ ร.ฎ. กับท่านเคาละฮ์) .. ทั้งสองท่านนั้นได้กล่าวขณะอยู่ที่สันดอนกลางร่องน้ำที่เชิงเขาแห่งหนึ่งว่า .. ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เคยอ่านกุนูตในนมาซซุบห์ด้วยถ้อยคำเหล่านี้คือ : “อัลลอฮุมมะฮ์ดินีย์ ฟีมันฮะดัยต้า .........”
(บันทึกโดย ท่านอัล-บัยฮะกีย์ เล่มที่ 2 หน้า 210, ท่านอิบนุนัศรฺ ในหนังสือ “เศาะลาตุ้ล วิตรฺ” หน้า 138, และท่านอับดุรฺ ร็อซซากในหนังสือ “อัล-มุศ็อนนัฟ” เล่มที่ 3 หน้า 108 หรือหะดีษที่ 4957, และหะดีษบทนี้ มีอ้างถึงในหนังสือ “ข้อโต้แย้งปัญหาศาสนา” เล่มที่ 1 หน้า 68)
วิเคราะห์
หะดีษบทนี้ของท่านอิบนุอับบาส ร.ฎ. มีสถานภาพเป็นหะดีษเฎาะอีฟ โดยมีข้อบกพร่องดังต่อไปนี้
ท่านอับดุลมะญีด บินอับดุลอะซีซ บินอับดุลเราวาด
ถูกท่านอบูหาติมกล่าวว่า เขาไม่ใช่ผู้ที่แข็งนักในการรายงานหะดีษ (لَيْسَ بِالْقَوِىِّ), ท่านอัด-ดารุกุฏนีย์กล่าววิจารณ์ว่า หะดีษของเขานำมาทำเป็นหลักฐานไม่ได้ แต่นำมาพิจารณาร่วมกับหะดีษอื่นได้ (لاَ يُحْتَجُّ بِهِ وَيُعْتَبَرُ بِهِ),
ท่านบุคอรีย์กล่าวว่า : ท่านอัล-หุมัยดีย์เคยวิจารณ์ (ความบกพร่อง)ในตัวเขา (كَانَ الْحُمَيْدِىُّ يَتَكَلَّمُ فِيْهِ), และท่านอิบนุหะญัรฺ อัลอัส-เกาะลานีย์ได้กล่าวสรุปว่า เขาพอจะเชื่อถือได้แต่มีความผิดพลาด (صَدُوْقٌ، يُخْطِئُ) ...
(จากหนังสือ “มีซาน อัล-เอี๊ยะอฺติดาล” เล่มที่ 2 หน้า 648. และหนังสือ “ตักรีบุต ตะฮ์ซีบ” เล่มที่ 1 หน้า 517)
ท่านอับดุรฺเราะห์มาน บินฮุรฺมุซ เป็นผู้ที่ไม่มีใครรู้จักและไม่มีใครทราบประวัติ (مَجْهُوْلٌ) ดังกล่าวมาแล้ว
สรุปแล้ว การอ่านกุนูตในนมาซซุบฮิทุกเช้าดังที่ผู้ซึ่งสังกัดมัษฮับชาฟิอีย์ปฏิบัติกัน จึงไม่มีหลักฐานที่ถูกต้องจาก “หะดีษมัรฺฟูอฺ” ..
ไม่ว่าจะเป็นหะดีษบทใด หรือจากการรายงานของเศาะหาบะฮ์ท่านใด มารองรับเลย ...
ดังนั้น ..
สิ่งที่ยังตกค้างและหลงเหลืออยู่ก็คือ
ข้ออ้างที่ว่ามีเศาะหาบะฮ์หลายท่าน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คอลีฟะฮ์ทั้ง 4 ท่าน คือท่านอบูบักรฺ, ท่านอุมัรฺ, ท่านอุษมาน และท่านอะลีย์ ร.ฎ.ได้อ่านดุอากุนูตในนมาซซุบห์
ประเด็นที่จะต้องนำมาพิจารณาจากข้ออ้างดังกล่าวก็คือ การรายงานเหล่านี้ ถูกต้องหรือไม่ ?
และถ้าเป็นรายงานที่ถูกต้อง กุนูตที่พวกท่านอ่านคือกุนูตอะไร ?
___
Update 25/06/2562
Update 25/06/2562
.
عَنْ أَبِي مَالِكٍ الْأَشْجَعِيِّ قَالَ قُلْتُ لِأَبِي يَا أَبَةِ إِنَّكَ قَدْ صَلَّيْتَ خَلْفَ رَسُولِ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ وَأَبِي بَكْرٍ وَعُمَرَ وَعُثْمَانَ وَعَلِيِّ بْنِ أَبِي طَالِبٍ هَا هُنَا بِالْكُوفَةِ نَحْوًا مِنْ خَمْسِ سِنِينَ أَكَانُوا يَقْنُتُونَ قَالَ أَيْ بُنَيَّ مُحْدَثٌ قَالَ أَبُو عِيسَى هَذَا حَدِيثٌ حَسَنٌ صَحِيحٌ وَالْعَمَلُ عَلَيْهِ عِنْدَ أَكْثَرِ أَهْلِ الْعِلْمِ وَقَالَ سُفْيَانُ الثَّوْرِيُّ إِنْ قَنَتَ فِي الْفَجْرِ فَحَسَنٌ وَإِنْ لَمْ يَقْنُتْ فَحَسَنٌ وَاخْتَارَ أَنْ لَا يَقْنُتَ وَلَمْ يَرَ ابْنُ الْمُبَارَكِ الْقُنُوتَ فِي الْفَجْرِ
.
รายงานจากอบีมาลิก อัลอัชญะอีย์ กล่าวว่า
“ฉันได้กล่าวแก่บิดาของฉันว่า “โอ้บิดาของฉัน ความจริงท่านเคยละหมาดตามหลังรซูลุลลอฮ ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ,อบีบักร์ ,อุมัร ,อุษมานและอาลี ทีเมืองกุฟะฮ ประมาณ 5 ปี พวกเขาอ่านดุอากุนูตไหม? เขา(บิดาของฉัน)กล่าวว่า “ โอ้ลูกเอ๋ย มันเป็นสิ่งที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นใหม่(บิดอะฮ)
___
อบูอีซา กล่าวว่า “หะดิษนี้ หะซัน เศาะเฮียะ นักวิชาการส่วนมากปฏิบัติตามหะดิษนี้ และ ซูฟยานอัษเษารีย์ กล่าวว่า
“ หากเขาอ่านกุนูตในละหมาดฟัจญร์ ก็เป็นการดี และถ้าไม่อ่านกุนูต ก็เป็นการดี และเขา(ซุฟยาน) เลือกที่จะไม่อ่านกุนูต และอิบนุอัลมุบารอ็กไม่เห็นว่า ให้อ่านกุนูตในละหมาดฟัจญร์(ซูบฮี)
___
อัลมุบาเราะกาฟูรีย์(محمد بن عبد الرحمن بن عبد الرحيم المباركفوري) กล่าวว่า
وَقَدْ تَقَدَّمَ أَنَّ الْقَوْلَ الرَّاجِحَ هُوَ أَنَّ الْقُنُوتَ مُخْتَصٌّ بِالنَّوَازِلِ ، وَأَنَّهُ يَنْبَغِي عِنْدَ نُزُولِ النَّازِلَةِ أَنْ لَا تُخَصَّ بِهِ صَلَاةٌ دُونَ صَلَاةٍ
และได้กล่าวมาก่อนหน้านี้แล้วว่า แท้จริงทัศนะที่มีน้ำหนัก คือ การอ่านกุนูตนั้น เฉพาะกับเคราะห์ร้ายเกิดขึ้น(กับมุสลิม) และแท้จริงสมควรที่จะอ่านเวลาเคราะห์ร้ายเกิดขึ้น ไม่จำกัดละหมาดหนึ่งโดยไม่อ่านในละหมาดอื่น
- ดูตัวะฟะตุลอะหวะซีย์ เรื่อง باب ما جاء في ترك القنوت
_____
.
หะดิษที่รายงานจากท่านอะนัส ขัดแย้งกันเอง
บ้างก็ว่า ท่านนบี ศอลฯ อ่านกุนูต เพียงเดือนเดียว
บ้างก็บอกว่า อ่านเฉพาะมีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้น
บ้างก็บอกว่า อ่านตลอด หะดิษแบบนี้เขาไม่เอามาเป็นหลักฐานหรอกครับ
.
عَنْ أَنَسٍ أَنَّ النَّبِيَّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قَنَتَ شَهْرًا يَدْعُو عَلَى قَاتِلِي أَصْحَابِهِ بِبِئْرِ مَعُونَةَ ، ثُمَّ تَرَكَ ، فَأَمَّا الصُّبْحُ فَلَمْ يَزَلْ يَقْنُتُ حَتَّى فَارَقَ الدُّنْيَا . وَأَوَّلُ الْحَدِيثِ فِي الصَّحِيحَيْنِ ، وَلَوْ صَحَّ هَذَا لَكَانَ قَاطِعًا لِلنَّزِاعِ وَلَكِنَّهُ مِنْ طَرِيقِ أَبِي جَعْفَرٍ الرَّازِيِّ ، قَالَ فِيهِ عَبْدُ اللَّهِ بْنُ أَحْمَدَ : لَيْسَ بِالْقَوِيِّ : وَقَالَ عَلِيُّ بْنُ الْمَدِينِيِّ : يَخْلِطُ ، وَقَالَ أَبُو زُرْعَةَ : يَهِمُ كَثِيرًا ، وَقَالَ عَمْرُو بْنُ عَلِيٍّ الْفَلَّاسُ : صَدُوقٌ سَيِّئُ الْحِفْظِ ، وَقَالَ ابْنُ مَعِينٍ : ثِقَةٌ لَكِنَّهُ يُخْطِئُ ، وَقَالَ الدَّوْرِيُّ : ثِقَةٌ لَكِنَّهُ يَغْلَطُ وَحَكَى السَّاجِيُّ أَنَّهُ قَالَ : صَدُوقٌ لَيْسَ بِالْمُتْقِنِ ، وَقَدْ وَثَّقَهُ غَيْرُ وَاحِدٍ ، وَلِحَدِيثِهِ هَذَا شَاهِدٌ وَلَكِنَّ فِي إِسْنَادِهِ عَمْرَو بْنَ عُبَيْدٍ وَلَيْسَ بِحُجَّةٍ . قَالَ الْحَافِظُ : وَيُعَكِّرُ عَلَى هَذَا مَا رَوَاهُ الْخَطِيبُ مِنْ طَرِيقِ قَيْسِ بْنِ الرَّبِيعِ عَنْ عَاصِمِ بْنِ سُلَيْمَانَ ، قُلْنَا لِأَنَسٍ : إِنَّ قَوْمًا يَزْعُمُونَ أَنَّ النَّبِيَّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ لَمْ يَزَلْ يَقْنُتُ فِي الْفَجْرِ ، قَالَ : كَذَبُوا إِنَّمَا قَنَتَ شَهْرًا وَاحِدًا يَدْعُو عَلَى حَيٍّ مِنْ أَحْيَاءِ الْمُشْرِكِينَ ، وَقِيسٌ وَإِنْ كَانَ ضَعِيفًا لَكِنَّهُ لَمْ يُتَّهَمْ بِكَذِبٍ . وَرَوَى ابْنُ خُزَيْمَةَ فِي صَحِيحِهِ مِنْ طَرِيقِ سَعِيدٍ عَنْ قَتَادَةَ عَنْ أَنَسٍ أَنَّ النَّبِيَّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ لَمْ يَقْنُتْ إِلَّا إِذَا دَعَا لِقَوْمٍ أَوْ دَعَا فَاخْتَلَفَتِ الْأَحَادِيثُ عَنْ أَنَسٍ وَاضْطَرَبَتْ فَلَا يَقُومُ لِمِثْلِ هَذَا حُجَّةٌ ، انْتَهَى
.
รายงานจากอะนัส ว่า แท้จริง นบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม อ่านกุนูตหนึ่งเดือน ดุอาสาปแช่งบรรดาผู้ที่สังหารบรรดาสาวกของท่านที่บ่อมะอูนะฮ ต่อมาท่านก็ได้ละทิ้ง สำหรับละหมาดศุบฮินั้น ท่านคงอ่านต่อไปจนกระทั้งจากโลกนี้
และในตอนแรกของหะดิษ ปรากฏในเศาะเฮียะบุคอรีและมุสลิม และถ้าหากหะดิษนี้เศาะเฮียะ ก็ตัดปัญหาการขัดแย้งไปได้
แต่...มันเป็นหะดิษจากสายรายงานของ อบียะอฺฟัร อัรรอซีย์ ท่านอับดุลลอฮ บิน อะหมัด กล่าวว่า
“ในตัวเขาผู้นี้ หลักฐานไม่แข็งแรง .
อาลี บิน อัลมะดีนีย์ กล่าวว่า
“ เขาสบสน และ อบูซะรออะฮ กล่าวว่า
“เขาผิดพลาดเป็นอย่างมาก”
และ อัมรุน บิน อาลี อัลฟัลลาส กล่าวว่า
“ เขาเชื่อถือได้ แต่ความจำแย่มากๆ ,
อิบนุมุอีน กล่าวว่า
“ เขาเชื่อถือได้ แต่ ผิดพลาด
และอัดเดารีย์ กล่าวว่า
“เชื่อถือได้ แต่ เขาผิดพลาด
และอัสสาฮีย์ เล่าว่า แท้จริงเขา(อบียะอฺฟัร) เชื่อถือได้ แต่ขาดความประณีต
และแท้จริงมีหลายคน ระมัดระวังสิ่งที่เขารายงาน
และหะดิษของเขา บทนี้ มี หะดิษ(บทอื่นสนับสนุน)
แต่ ในสายรายมีผู้รายงานชื่อ อัมริน บิน อุบัยดิ เอามาเป็นหลักฐานไม่ได้
และอัลหาฟิซ กล่าวว่า
และสิ่งที่ทำให้ดิษบทนี้ดำมืดเข้าไปอีก คือ หะดิษที่รายงานโดย อัลเคาะฏีบ จากสายรายงานของ กัยส์ บิน อัรรอเบียะ จาก อาศิม บิน สุลัยมาน มีใจความ ว่า
“ พวกเรา กล่าวแก่ท่านอะนัสว่า
“คนกลุ่มหนึ่ง เข้าใจว่า ท่านนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม อ่านกุนูตเป็นประจำในละหมาดฟัจญรฺ (ละหมาดซุบฮิ)
ท่านอะนัสกล่าวว่า
“พวกเขาโกหก” ความจริง ท่านอ่านกุนูต เพียงหนึ่งเดือนเท่านั้น โดยดุอาสาปแช่งกลุ่มชนหนึ่ง จากกลุ่มชนมุชริกีน และ (ผู้รายงานที่ชื่อว่า) กัยสฺ แม้เขาจะเป็นผู้ที่หลักฐานอ่อน แต่ ไม่เคยได้รับการตำหนิว่าเป็นคนโกหก
และมีรายงานจาก อิบนุคุซัยมะฮ ในเศาะเฮียะของท่าน จากสายรายงาน สะอีด จากกอตาดะฮ จาก อะนัส ว่า
“ แท้จริง ท่านนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จะไม่อ่านกุนูต นอกจากเพื่อดุอาให้แก่กลุ่มชนใดกลุ่มชนหนึ่ง หรือ ดุอา(สาปแช่ง กลุ่มชนใดกลุ่มชนหนึ่งเท่านั้น,
ดังนั้น บรรดาหะดิษที่รายงานจากอะนัส ขัดแย้งกันเอง
และมีความสับสน หะดิษลักษณะนี้เอามาเป็นหลักฐานอ้างอิงไม่ได้
– ดู ตุหฟะตุลอะหวะซีย์ ชัรหุอัตติรมิซีย์ บทว่าด้วย การอ่านกุนูตในละหมาดฟัจญัร หน้า 362
_____
.
ในเล่มที่ 7 ของฟัตวาคณะกรรมการถาวรเพื่อการวิฉัยวิชาการและตอบปัญหาศาสนา ของประเทศซาอุดีย์ หมายเลข 2452 ระบุว่า
.
لم يصح عن النبي صلى الله عليه وسلم أنه خص الصبح بالقنوت، ولا أنه داوم عليه في صلاة الصبح، وإنما الذي ثبت عنه صلى الله عليه وسلم أنه قنت في النوازل بما يناسبها، فقنت في صلاة الصبح وغيرها من الصلوات يدعو على رعل وذكوان وعُصَيَّة لقتلهم القراء الذين أرسلهم النبي صلى الله عليه وسلم إليهم ليعلموهم دينهم، وثبت في صلاة الصبح وغيرها يدعو للمستضعفين من المؤمنين أن ينجيهم الله من عدوهم، ولم يداوم على ذلك، وسار على ذلك الخلفاء الراشدون من بعده، فخير للإمام ) أن يقتصر على القنوت في النوازل اقتداءً برسول الله صلى الله عليه وسلم فيما ثبت عن أبي مالك الأشجعي قال : قلت لأبي : يا أبت قد صليت خلف رسول الله صلى الله عليه وسلم وخلف أبي بكر وعمر وعثمان وعلي رضي الله عنهم أفكانوا يقنتون في الفجر ؟ فقال : (أي بنيّ مُحدَث) رواه الخمسة إلا أبا داود ( وصححه الألباني في الإرواء 435) ، وإن خير الهدي هدي محمد صلى الله عليه وسلم .
وبالله التوفيق وصلى الله على نبينا محمد وآله وصحبه وسلم
.
ไม่มีรายงานที่เศาะเฮียะจากท่านนบี ว่าท่านได้เจาะจงละหมาดศุบฮิด้วยการอ่านกุนูต และไม่มี(รายงานที่เศาะเฮียะ)ว่า ท่านนบีได้อ่านเป็นประจำในละหมาดศุบฮิ และความจริง ที่มีรายงานยืนยันจากท่านนบี นั้น คือ ท่านได้อ่านกุนูต ในภาวะที่ประสบกับเคราห์กรรม ด้วยสิ่งที่เหมาะสมกับมันเท่านั้น
แล้วท่านนบีเคยอ่านกุนูตในละหมาดศุบฮิและละหมาดอื่นจากนั้น จากบรรดาละหมาดฟัรดูห้าเวลา โดยขอดุอาสาปแช่งพวกริอฺล ,พวกซักวานและพวกอุศียยะฮ ที่พวกเขาได้ฆ่า บรรดาผู้มีความรู้ในอัลกุรอ่าน ที่ท่านนบี ส่งไปยังพวกเขา เพื่อสอนศาสนาให้แก่พวกเขา
และได้มีรายงานยืนยันว่า ท่านนบี ได้ขอดุอาให้แก่บรรดามุอฺมีนผู้อ่อนแอ ให้อัลลอฮทรงให้เขาปลอดภัยจากศัตรูของพวกเขา ในละหมาดศุบฮิ โดยที่ท่านไม่ได้ทำดังกล่าวนั้นเป็นประจำ และบรรดาเคาะลิฟะฮอัรรอชิดีน หลังจากท่านก็ได้ดำเนินตามนั้น ดังนั้นทางเลือกสำหรับผู้เป็นอิหม่ามคือ
การให้จำกัดเฉพาะกุนูตนาซิละฮ(กุนูตในยามที่มุสลิมประสบกับเคราะห์กรรม) เพื่อเป็นการปฏิบัติตามท่านรซูลุ้ลลอฮ
ตามที่ปรากฏรายงานยืนยันจากอบีมาลิก อัลอัชญะอีย์ กล่าวว่า
.
قلت لأبي : يا أبت قد صليت خلف رسول الله صلى الله عليه وسلم وخلف أبي بكر وعمر وعثمان وعلي رضي الله عنهم أفكانوا يقنتون في الفجر ؟ فقال : (أي بنيّ مُحدَث
.
ข้าพเจ้าได้กล่าวแก่บิดาของข้าพเจ้าว่า "โอ้บิดาของฉัน แท้จริงท่านเคยละหมาดตามหลังท่านรซูลุ้ลลอฮ ,อบูบักร,อุมัร,อุษมานและ อาลี ขออัลลอฮโปรดประทานความโปรดปรานแก่พวกเขา ,พวกเขาอ่านกุนูตในละหมาดฟัจญริ(ละหมาดศุบฮิ )หรือเปล่าครับ?
เขาจึงตอบว่า "โอ้ลูกของพ่อ มันคือ สิ่งที่ถูกประดิษขึ้นใหม่"- รายงานโดยนักรายงานห้าท่านยกเว้น อบูดาวูด
(อัลบานีย์ระบุในอัล-อิรวาอ์ หะดิษหมายเลข 435
ว่าเป็นหะดิษเศาะเฮียะ )
และแท้จริงทางนำที่ดี คือ ทางนำของท่านนบีมุหัมหมัด
.
_____
.
وأما ما ورد أن النبي صلى الله عليه وسلم داوم على القنوت في الفجر فليس بثابت عند أهل العلم ، والحديث الوارد في ذلك وهو عن أنس رضي الله عنه قال ما زال رسول الله صلى الله عليه وسلم يقنت في الفجر حتى فارق الدنيا ) فهو حديث ضعيف لا تقوم به الحجة . انظر السلسلة الضعيفة 3/384-388
.
และสำหรับสิ่งที่มีรายงานว่าท่านนบี อ่านกุนูตในละหมาดฟัจญัร เป็นประจำ นั้น ไม่เป็นที่ยืนยันจากผู้ทรงความรู้
และหะดิษที่รายงานในเรื่องดังกล่าว
คือ รายงานจากอะนัส(ร.ฎ)กล่าวว่า "รซูลุ้ลลอฮ อ่านกุนูตในละหมาดฟัจญัร(ศุบฮิ)จนกระทั่งได้จากโลกนี้ไป)
มันเป็นหะดิษเฎาะอีฟ เอามาเป็นหลักฐานไม่ได้
- ดูอัสสิลสิละฮ อัฎเฎาะอีฟะฮ 3/384-388
.
_____
.
رَوَى ابْنُ حِبَّانَ وَ الْخَطِيْبُ وَ ابْنُ خُزَيْمَةَ عَنْ أَنَسٍ أَنَّ النَّبِيَّ صلّى الله عليه و سلّم كاَنَ لاَ يَقْنُتُ فِيْ صَلاَةِ الصُّبْحِ إِلاَّ إِذَا دَعاَ لِقَوْمٍ أَوْ دَعاَ عَلَى قَوْمٍ. هَذَا لَفْظُ ابْنُ حِبَّانَ
.
รายงานโดยอิบนุหิบบาน ,เคาะฏีบ และอิบนุคุซัยมะฮ จากอะนัส ว่าแท้จริงนบี Solallah ไม่ได้อ่านกุนูตในละหมาด
ซุบฮิ ยกเว้น เมื่อท่านดุอาให้แก่กลุ่มชนหนึ่ง หรือดุอาสาปแช่งแก่กลุ่มชนหนึ่ง นี้คือ สำนวนรายงานโดย อิบนุหิบบาน
- ดูสุบุลุสสลาม เล่ม 2 หน้า 157
___
.
وَ مِنْ حَدِيْثِ أَبِي هُرَيْرَةَ عِنْدَ ابْنِ حِبَّانَ بِلَفْظٍ كاَنَ لاَ يَقْنُتُ فِي صَلاَةِ الصُّبْحِ إِلاَّ أَنْ يَدْعُوَ ِلأَحَدٍ أَوْ يَدْعُوَ عَلَى أَحَدٍ.
.
และจากหะดิษอบีฮุรัยเราะฮ ตามรายงานของอิบนุหิบบาน ด้วยสำนวนที่ว่า "ปรากฏว่า นบี Solallah ไม่ได้อ่านกุนูตในละหมาดซุบฮิ ยกเว้น เมื่อท่านดุอาให้แก่คนใดคนหนึ่ง หรือดุอาสาปแช่งแก่คนใดคนหนึ่ง
- ดู นัยลุลเอาฏอร เล่ม 4 หน้า 195
.
___
อัลบานีย์ระบุว่า
.
قال صاحب ” التنقيح ” : و سند هذين الحديثين صحيح ، و هما نص في أن القنوت مختص بالنازلة
.
เจ้าของหนังสือ อัตตันกีหฺ กล่าวว่า สายรายงานของสองหะดิษนี้เศาะเฮียะ และทั้งสองเป็นหลักฐาน ว่าการอ่านกุนูตนั้น จำกัดเฉพาะเมื่อมีเหตุการร้ายเกิดขึ้นเท่านั้น
- ดู อัสสิลสิละฮ อัฎเฎาะอีฟะฮะฮ เล่ม 3 หน้า 237
.
___
.
หะดิษจากอะนัสที่ กล่าวถึงกุนูต มีอยู่ สามสำนวน คือ
.
صليت مع النبي صلي الله عليه وسلم فلم يزل يقنت في صلاة الغداة حتى فارقته..الخ
.
ข้าพเจ้าได้ละหมาดตามหลังท่านนบี ศอลฯ
ท่านได้อ่านกุนูตเป็นประจำในละหมาดศุบฮิ
จนกระทั้งข้าพเจ้าได้แยกจากท่านมา”
- อัฏเฏาะหาวีย ได้บันทึกไว้ในหนังสือ ชัรหุ้ลมาอานีย์ เล่ม 1 หน้า 243 ในหะดิษนี้ และในสายรายงาน
มีคนหนึ่งชื่อ อิสมาอีล บินมุสลิมอัลมักกีย์ อิบนุหะญัร อัลอัสเกาะลานีย์ ได้วิจารณ์ ไว้ในหนังสือ อัตตักรีก เล่ม 1 หน้า 74 ว่า “เฎาะอีฟุลหะดิษ”
และอีกสำนวนหนึ่ง บันทึกโดย อัลบัยหะกีย์
เมื่อมาพิจารณาแล้ว เราจะพบว่าหะดิษอะนัส ขัดแย้งกันเองและสับสนจริงๆอย่างที่
ท่านอิบนุหะญัร อัลอัสเกาะลีนีย์เอง กล่าวไว้ในหนังสือ ตัลคีส อัลหะบีร เล่มที่ 1 หน้า 261-262 ว่า
.
فاختلفت الأحاديث عن أنس واضطربت فلايقوم بمثل هذاحجة
บรรดาหะดิษที่รายงานจากอะนัส (ในเรื่องอ่านกุนูตในละหมาดศุบฮิเป็นประจำ) นั้น มีความขัดแย้งกันเอง และสับสน หะดิษลักษณะนี้เอามาเป็นหลักฐานไม่ได้.(ได้อ้างก่อนหน้านี้แล้ว)
.
และหะดิษที่เศาะเหียะกว่ากล่าวว่า
.
عن أنس ابن مالك أن النبي صلى الله عليه وسلم قنت شهرا ثم تركه * ( صحيح ) وأخرجه مسلم .
صحيح سنن أبي داود باختصار السند
.
รายงานจากอะนัส บุตร มาลิก ว่า แท้จริงท่านนบี ศอล ได้อ่านกุนูตหนึ่งเดือน หลังจากนั้นได้ละทิ้ง
– บันทึกโดยมุสลิม ดูเศาะเหียะสุนันอาบีดาวูด ของอัลบานีย์
.
وروى ابن خزيمة في صحيحه من طريق سعيد عن قتادة عن أنس: (أن النبي صلى اللَّه عليه وآله وسلم لم يقنت إلا إذا دعا لقوم أو دعا على قوم
.
รายงานโดยอิบนุคุซัยมะฮ ในเศาะเหียะของท่าน จากสายของสะอีด จาก กอตาดะฮ จากอะนัสว่า “ แท้จริง ท่านบี ศอล์ ฯ ไม่อ่านกุนูต เว้นแต่ เมื่อ ขอดุอาให้แก่กลุ่มชนหนึ่ง
หรือขอดุอาสาปแช่งกลุ่มชนหนึ่ง
...
หะดิษที่ขัดแย้งกันเองและสับสน แบบนี้
ไม่นาจะเอามาเป็นหลักฐานนะครับ
_____
นักหะดิษที่เขาไม่ยอมรับรายงานของอบูยะอฺฟัรอัรรอซีย์ เช่น
.
อิบนุกอ็ยยิมกล่าวว่า
.
وَكَانَ هَدْيُهُ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ الْقُنُوتَ فِي النَّوَازِلِ خَاصَّةً ، وَتَرْكَهُ عِنْدَ عَدِمِهَا ، وَلَمْ يَكُنْ يَخُصُّهُ بِالْفَجْرِ
.
และปรากฏว่าทางนำของนบี Solallah นั้น คือการอ่านกุนูตในกรณีเหตุร้ายที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะเท่านั้น และท่านได้ทิ้งมัน เมื่อมันไม่มี โดยที่ท่านนบี Solallah ไม่ได้จำกัดมันเฉพาะละหมาดฟัจญัร(ละหมาดซุบฮิ)
- ดูซาดุลมะอาด เล่ม 1 หน้า 273
.
และท่านได้กล่าวเพิ่มเติมว่า
.
وَأَمَّا حَدِيثُ أبي جعفر الرازي عَنِ الرَّبِيعِ بْنِ أَنَسٍ ، عَنْ أنس قَالَ ( مَازَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ يَقْنُتُ فِي الْفَجْرِ حَتَّى فَارَقَ الدُّنْيَا ) وَهُوَ فِي " الْمُسْنَدِ " وَالتِّرْمِذِيِّ وَغَيْرِهِمَا ، فأبو جعفر قَدْ ضَعَّفَهُ أحمد وَغَيْرُهُ . وَقَالَ ابْنُ الْمَدِينِيِّ : كَانَ يَخْلِطُ . وَقَالَ أبو زرعة كَانَ يَهِمُ كَثِيرًا . وَقَالَ ابْنُ حِبَّانَ : كَانَ يَنْفَرِدُ بِالْمَنَاكِيرِ عَنِ الْمَشَاهِيرِ
.
และสำหรับหะดิษอบียะอฺฟัรอัรรอซีย์ รายงานจากอัรรอเบียะ บิน อะนัส จาก อะนัส กล่าวว่า
(รซูลุลลอฮ Solallah อ่านกุนูตในละหมาดฟัจญัร จนกระทั่งท่านได้จากโลกนี้ไป )
และมันอยู่ในอัลมุสนัด ,อัตติรมิซีย์ และอื่นจากทั้งสอง
และอบูยะอฺฟัรนั้น อะหมัดและผู้อื่นจากเขา
ได้หุกุมว่าเขาเฎาะอีฟ ,อิบนุอัลมะดีนีย์กล่าวว่า เขาสับสน ,
อบูซะรออะฮ กล่าวว่า ปรากฏว่าเขา(อบูยะอฺฟัร )ผิดพลาดมากมาย และอิบนุหิบบาน กล่าวว่า ":ปรากฏว่า เขา (อบูญะอฺฟัรฺ อัรฺ-รอซีย์) รายงาน “ตามลำพัง” จากบรรดาผู้มีชื่อเสียง ด้วยหะดีษต่างๆที่มุงกัร
- ดูจากตาราเล่มเดียวกันข้างต้น
.
ท่านอิบนุหะญัรฺ อัล-อัสเกาะลานีย์ ได้อ้างคำพูดของท่านอิบนุหิบบานที่วิจารณ์ท่านอบูญะอฺฟัรฺ อัรฺ-รอซีย์ มาดังนี้
.
وَقَالَ ابْنُ حِبَّانَ : كَانَ (مِمَّنْ) يَنْفَرِدُ عَنِ الْمَشَاهِيْرِ بِالْمَنَاكِيْرِ، لاَ يُعْجِبُنِىْ اْلإِحْتِجَاجُ بِحَدِيْثِهِ إِلاَّ فِيْمَاوَافَقَ الثِّقَاتِ
.
ท่านอิบนุหิบบานกล่าวว่า : เขา (อบูญะอฺฟัรฺ อัรฺ-รอซีย์) เป็น(หนึ่งจาก)ผู้ที่มักจะรายงาน “ตามลำพัง” จากบรรดาผู้มีชื่อเสียง ด้วยหะดีษต่างๆที่มุงกัร, ฉันไม่ชอบอ้างหะดีษของเขาเป็นหลักฐาน ยกเว้นที่มันสอดคล้องกับสิ่งซึ่งผู้ที่เชื่อถือได้ (รายงานมา) เท่านั้น
(จากหนังสือ “ตะฮ์ซีบุต ตะฮ์ซีบ” ของท่านอิบนุหะญัรฺ อัล-อัสเกาะลานีย์ เล่มที่ 12 หน้า 60,
.
นอกจากนี้ ท่านอิบนุหิบบาน ยังได้กล่าวไว้อีกตอนหนึ่งว่า ...
.
اَلنَّاسُ يَتَّقُوْنَ مِنْ حَدِيْثِهِ مَاكَانَ مِنْ رِوَايَةِ أَبِىْ جَعْفَرٍعَنْهُ ِلأَنَّ فِىْ أَحَادِيْثِهِ عَنْهُ إِضْطَرَابًا كَثِيْرًا
.
“ประชาชนจะระมัดระวังหะดีษของท่านรอเบี๊ยะอฺ บินอนัสในส่วนที่ท่านอบูญะอฺฟัรฺ อัรฺ-รอซีย์ รายงานมาจากท่าน เพราะในบรรดาหะดีษของเขา (อบูญะอฺฟัรฺ) ที่รายงานมาจากท่านรอเบี๊ยะอฺ บินอนัสนั้น จะมีความสับสนอยู่มาก”
-(จากหนังสือ “ตะฮ์ซีบุต ตะฮ์ซีบ” เล่มที่ 3 หน้า 207)
***
หะดีษที่อ้างว่า ท่านนบีย์ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัม
ได้อ่านกุนูตในนมาซซุบห์เป็นประจำจนสิ้นชีวิต ..
ก็เป็นการรายงานของท่านอบูญะอฺฟัรฺ อัรฺ-รอซีย์,
จากท่านรอเบี๊ยะอฺ บิน อนัส ..
หะดีษบทนี้จึงอยู่ในข่ายของหะดีษที่ประชาชนจะต้องระวังเพราะขาดความน่าเชื่อถือตามทัศนะของท่านอิบนุหิบบาน
_____
เรื่องบรรดาคอลีฟะฮ์ทั้ง 4 ท่านเคยอ่านกุนูต -- ไม่ว่าในนมาซซุบห์หรือนมาซอื่น --ไม่ใช่เป็นประเด็นขัดแย้ง
แต่ประเด็นขัดแย้งอยู่ที่ว่า เป็นการอ่านเป็นประจำทุกเช้าในนมาซซุบห์ด้วยดุอา .. อัลลอฮุมมะฮ์ ดินีย์ .. ซึ่งข้อความนี้
จะไม่ปรากฏมีระบุไว้เลยในหะดีษข้างต้นนี้ เลย
.
ท่านอิบนุ้ล ก็อยยิม อัล-ญูซียะฮ์ ได้กล่าวไว้ในหนังสือ
“ซาดุ้ลมะอาด” เล่มที่ 1 หน้า 96 ว่า
.
وَأَمَّا الْمَرْوِىُّ عَنِ الصَّحَابَةِ فَنَوْعَانِ، أَحَدُهُمَا : قُنُوْتٌ عِنْدَ النَّوَازِلِ، كَقُنُوْتِ الصِّدِّيْقِ رَضِىَ اللهُ عَنْهُ فِىْ مُحَارَبَةِ الصَّحَابَةِ لِمُسَيْلَمَةَ، وَعِنْدَ مُحَارَبَةِ أَهْلِ الْكِتَابِ، وَكَذَلِكَ قُنُوْتُ عُمَرَ، وَقُنُوْتُ عَلِىٍّ عِنْدَ مُحَارَبَتِهِ لِمُعَاوِيَةَ وَأَهْلِ الشَّامِ، اَلثَّانِىْ : مُطْلَقٌ مُرَادُ مَنْ حَكَاهُ عَنْهُمْ بِهِ تَطْوِيْلُ هَذَاالرُّكْنِ لِلدُّعَاءِ وَالثَّنَاءِ وَاللهُ أَعْلَمُ
.
“อนึ่ง สิ่งที่มีรายงานมาจากบรรดาเศาะหาบะฮ์ (ในเรื่องกุนูต) จะมี 2 ประเภทคือ ประเภทที่หนึ่ง : เป็นกุนูตนาซิละฮ์ (กุนูตขณะมีเหตุการณ์ต่างๆ) .. ตัวอย่างเช่น การอ่านกุนูตของท่านอบูบักรฺ อัศ-ศิดดีก ร.ฎ.ในตอนทำสงครามระหว่างเศาะหาบะฮ์กับมุซัยลิมะฮ์ อัล-กัซซาบ และตอนทำสงครามกับพวกอะฮ์ลุลกิตาบ, ในทำนองเดียวกัน การอ่านกุนูตของท่านอุมัรฺและการอ่านกุนูตของท่านอะลีย์ ตอนที่ท่านทำสงครามกับท่านมุอาวิยะฮ์และชาวเมืองชาม, ส่วนประเภทที่สองก็คือ กุนูตในยามปกติ .. ซึ่งเจตนารมณ์ของผู้ซึ่งได้เล่าเกี่ยวกับกุนูตประเภทนี้มาจากพวกท่าน จะหมายถึง การยืนนานในรุก่นนี้ (หมายถึงในการยืนเอี๊ยะอฺติดาล) เพื่อขอดุอาและเพื่อยกย่องต่อพระองค์อัลลอฮ์ ซ.บ. วัลลอฮุ อะอฺลัม
.
_____
ซูฟยานอัษเษารีย์ กล่าวว่า
.
“ หากเขาอ่านกุนูตในละหมาดฟัจญร์ ก็เป็นการดี และถ้าไม่อ่านกุนูต ก็เป็นการดี และเขา(ซุฟยาน) เลือกที่จะไม่อ่านกุนูต และอิบนุอัลมุบารอ็กไม่เห็นว่า ให้อ่านกุนูตในละหมาดฟัจญร์(ซูบฮี)
___
อัลมุบาเราะกาฟูรีย์(محمد بن عبد الرحمن بن عبد الرحيم المباركفوري) กล่าวว่า
.
وَقَدْ تَقَدَّمَ أَنَّ الْقَوْلَ الرَّاجِحَ هُوَ أَنَّ الْقُنُوتَ مُخْتَصٌّ بِالنَّوَازِلِ ، وَأَنَّهُ يَنْبَغِي عِنْدَ نُزُولِ النَّازِلَةِ أَنْ لَا تُخَصَّ بِهِ صَلَاةٌ دُونَ صَلَاةٍ
.
และได้กล่าวมาก่อนหน้านี้แล้วว่า แท้จริงทัศนะที่มีน้ำหนัก คือ การอ่านกุนูตนั้น เฉพาะกับเคราะห์ร้ายเกิดขึ้น(กับมุสลิม) และแท้จริงสมควรที่จะอ่านเวลาเคราะห์ร้ายเกิดขึ้น ไม่จำกัดละหมาดหนึ่งโดยไม่อ่านในละหมาดอื่น
- ดูตัวะฟะตุลอะหวะซีย์ เรื่อง باب ما جاء في ترك القنوت
.
_____
ท่านอิบนุคุซัยมะฮ์ (ในหนังสือ “อัศ-เศาะเหี๊ยะฮ์” ของท่าน
หะดีษที่ 620) และท่านอัล-คอฏีบ ได้บันทึกรายงานมาจากท่านมุหัมมัด บินอับดุลลอฮ์ อัล-อันศอรีย์, จากท่านสะอีด บิน อบีย์อะรูบะฮ์ จากท่านเกาะตาดะฮ์, จากท่านอนัส บินมาลิก ร.ฎ. ว่า ...
.
إِنَّ النَّبِىَ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ كَاَن لاَ يَقْنُتُ إِلاَّ إِذَا دَعَا لِقَوْمٍ أَوْ دَعَا عَلَى قَوْمٍ
.
แท้จริงท่านนบีย์ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัมนั้น ตามปกติท่านจะไม่อ่านกุนูต เว้นแต่ในกรณีที่ท่านจะขอพรให้แก่ชนกลุ่มใด หรือจะสาปแช่งชนกลุ่มใดเท่านั้น”
ท่านเจ้าของหนังสือ “อัล-ฟัตหุรฺ ร็อบบานีย์” ได้กล่าวรับรองในหนังสือดังกล่าวเล่มที่ 3 หน้า 304 ว่า สายรายงานของหะดีษนี้ เศาะเหี๊ยะฮ์
.
___
ท่านอิบนุหิบบาน ได้รายงานมาจากท่านอบูสะละมะฮ์, จากท่านอบูฮุร็อยเราะฮ์ ร.ฎ. ว่า ...
.
كَانَ رَسُوْلُ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ لاَ يَقْنُتُ فِىْ صَلاَةِ الصُّبْحِ إِلاَّ أَنْ يَدْعُوَ لِقَوْمٍ أَوْعَلَى قَوْمٍ
.
“ตามปกติ ท่านรอซู้ลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัมจะไม่อ่านกุนูตในนมาซซุบห์ เว้นแต่เมื่อท่านจะขอพรให้แก่ชนกลุ่มใด หรือจะสาปแช่งชนกลุ่มใดเท่านั้น”
(โปรดดูบันทึกการรายงานหะดีษทั้ง 2 บทนี้จากหนังสือ”ตัลคีส อัล-หะบีรฺ” เล่มที่ 1 หน้า 261, หนังสือ “นัศบุรฺ รอยะฮ์” เล่มที่ 2 หน้า 130, หนังสือ “อัล-มันฮัลฯ” เล่มที่ 8 หน้า 84-85, และหนังสือ “ฟิกฮุส ซุนนะฮ์” เล่มที่ 1 หน้า 178 เป็นต้น) .
___
ท่านอัส-ซัยละอีย์ได้กล่าวในหนังสือ “นัศบุรฺ รอยะฮ์” เล่มที่ 2 หน้า 130 หลังจากที่ได้นำหะดีษทั้ง 2 บทนี้มาระบุไว้ โดยท่านกล่าวว่า ...
.
قَالَ صَاحِبُ التَّنْقِيْحِ : وَسَنَدُ هَذَيْنِ الْحَدِيْثَيْنِ صَحِيْحٌ! وَهُمَا نَصٌّ فِىْ أَنَّ الْقُنُوْتَ مُخْتَصٌّ بِالنَّوَازِلِ وَاللهُ أَعْلَمُ
.
“ท่านเจ้าของหนังสือ “อัต-ตันเกี๊ยะห์” ได้กล่าวว่า : สายรายงานของหะดีษทั้ง 2 บทนี้ ถูกต้อง! .. และหะดีษทั้ง 2 บทนี้คือข้อชี้ขาดว่า แท้จริงดุอากุนูตนั้น ถูกกำหนดให้อ่านเฉพาะในภาวะจำเป็นเท่านั้น วัลลอฮุ อะอฺลัม
.
___
ในฟัตหุ้ลบารีย์ ของท่านอิบนุเราะญับ เล่ม 9 หน้า 190 ระบุว่า
.
وقد روى أبو جعفر هذا، عن الربيع بن أنس، عن أنس، قال: ما زال النبي - صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ - يقنت حتى فارق الدنيا.خرجه الإمام أحمد وغيره.وهذا - أيضا - منكر.قال أبو بكر الأثرم: هو حديث ضعيف، مخالف للأحاديث.يشير إلى أن ما ينفرد به أبو جعفر الرازي لا يحتج به، ولا سيما إذا خالف الثقات
.
และแท้จริง อบูยะอฺฟัรคนนี้ ได้รายงานจากอัรรอเบียะ บิน อะนัส จากอะนัส กล่าวว่า "ท่านนบี Solallah อ่านกุนูตเป็นประจำ จนกระทั่งท่านได้จากโลกนี้ไป ,บันทึกโดยอะหมัดและอื่นจากเขา และหะดิษนี้ เป็นหะดิษมุงกัรอีกเช่นกัน ,อบูบักร อัลอัษรอม กล่าวว่า "มันเป็นหะดิษเฎาะอีฟ ขัดแย้งกับบรรดาหะดิษเศาะเฮียะ ชี้ให้เห็นว่า สิ่งที่อบูยะฮฟัร อัรรอซีย์ รายงานเพียงคนเดียวนั้น เอามาเป็นหลักฐานไม่ได้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมันขัดแย้งกับบรรดาผู้รายงานที่น่าเชื่อเชื่อ
.
___
.
عبد الوارث، عن عمرو بن عبيد، عن الحسن قال: ' قيل لأنس: إنما قنت رسول الله [صلى الله عليه وسلم] شهرا؟ قال: ما زال رسول الله يقنت حتى مات، وأبو بكر حتى مات [ق 52 - ب] / وعمر حتى مات '.
عمرو واه.
อับดุลวารีษ รายงานจาก อัมริน บิน อุบัยดิน จากอัลหะซัน กล่าวว่า มีผู้กล่าวแก่อะนัสว่า แท้จริง ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ Solallah ทำการอ่านกุนูต จนกระทั่งเสียชีวิต และท่านอบูบักร(อ่านกุนูต) จนกระทั่งเสียชีวิต และท่านอุมัร(อ่านกุนูต) จนกระทั้งเสียชีวิต
ท่านอิหม่ามอัซซะฮะบีย์ ได้ระบุว่า ผู้รายงานคนหนึ่งชื่อ عمرو بن عبيد، เป็นผู้รายงานที่ เฏาะอีฟ (واه )
- ดู ตันกีหุตตะหกีก ฟี อะหาดิษอัตตะอฺลีก เล่ม 1 หน้า 229
.
___
.
ท่านอิบนุหะญัรฺ อัล-อัสเกาะลานีย์ ได้บันทึกไว้ในหนังสือ “ตะฮ์ซีบุต ตะฮ์ซีบ” เล่มที่ 12 หน้า 59-60 ว่า ...
.
قَالَ الدَّوْرِىُّ عَنِ ابْنِ مَعِيْنٍ : ثِقَةٌ، هُوَ يَغْلَطُ فِيْمَا يَرْوِىْ عَنْ مُغِيْرَةَ ...
“ท่านอัด-เดารีย์ได้รายงานจากท่านยะห์ยา บินมะอีนว่า ท่านอบูญะอฺฟัรฺ อัรฺ-รอซีย์ เชื่อถือได้, แต่เขาจะมีความผิดพลาดในการรายงานมาจากท่านมุฆีเราะฮ์
.
___
.
เรื่องการอ่านกุนูตในนมาซซุบห์ว่า
عَنْ أَبِىْ هُرَيْرَةَ رَضِىَ اللهُ عَنْهُ قَالَ : كَانَ رَسُوْلُ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ إِذَا رَفَعَ رَأْسَهُ مِنَ الرُّكُوْعِ فَىْ صَلاَةِ الصُّبْحِ فِى الرَّكْعَةِ الثَّانِيَةِ رَفَعَ يَدَيْهِ، فَيَدْعُوْ بِهَذَاالدُّعَاءِ اَللَّهُمَّ اهْدِنِىْ فِيْمَنْ هَدَيْتَ ........ اَلْحَدِيْثَ
“มีรายงานจากท่านอบู ฮุร็อยเราะฮ์ ร.ฎ. ซึ่งกล่าวว่า ท่านรอซู้ลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัม เมื่อท่านเงยศีรษะขึ้นมาจากรุกั๊วะอฺในร็อกอะฮ์ที่สองของนมาซซุบห์ ท่านจะยกมือทั้งสองขึ้นขอดุอาดังนี้ .. อัลลอฮุมมะฮ์ดินี ฟีมันฮะดัยต้า ....... จนจบหะดีษ”
ท่านอัล-หากิมได้บันทึกหะดีษบทนี้ในหนังสือ “อัล-อัรฺบะอีน” ของท่านและกล่าวว่า เป็นหะดีษเศาะเหี๊ยะฮ์ ...
ท่านอิบนุหะญัรฺ อัล-อัสเกาะลานีย์ ได้กล่าวคัดค้านคำพูดของท่านอัล-หากิมในหนังสือ “ตัลคีส อัล-หะบีรฺ” เล่มที่ 1 หน้า 266 ว่า
หะดีษบทนี้ไม่ใช่หะดีษเศาะเหี๊ยะฮ์ แต่เป็นหะดีษเฎาะอีฟ
เพราะในสายรายงานของมันมีชื่อของท่าน
“อับดุลลอฮ์ บินสะอีด อัล-มกบุรีย์” ซึ่งเป็นผู้รายงานที่เฎาะอีฟมาก
ผมขอเรียนชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานภาพของท่านอับดุลลอฮ์ บินสะอีด อัล-มักบุรีย์ ดังต่อไปนี้
ท่านอัล-ฟัลลาสกล่าวว่า
เขาเป็นผู้ที่รายงานหะดีษมุงกัรฺ (مُنْكَرُ الْحَدِيْثِ)
และเป็นผู้ที่ถูกเมิน (مَتْرُوْكٌ)
ท่านอิหม่ามอะห์มัดกล่าวว่า
เขาเป็นผู้ที่ถูกเมิน (مَتْرُوْكٌ)
ท่านยะห์ยา บินสะอีดกล่าวว่า
ความเท็จของเขา เคยประจักษ์แก่ฉันมาแล้ว ...
ท่านอัด-ดารุกุฏนีย์กล่าวว่าเขาเป็นผู้ที่ถูกเมิน, ไม่มีความหมาย
ท่านบุคอรีย์กล่าวว่า บรรดานักวิชาการหะดีษ ต่างก็เมินเขา (تَرَكُوْهُ)
(จากหนังสือ “มีซาน อัล-เอี๊ยะอฺติดาล” เล่มที่ 2 หน้า 429, หนังสือ “ตะฮ์ซีบุต ตะฮ์ซีบ” เล่มที่ 5 หน้า 209, หนังสือ “อัฎ-ฎุอะฟาอ์ วัลมัตรูกีน” ของท่านอัด-ดารุกุฎนีย์ หน้า 258 เป็นต้น)
.
ท่านอัลบัยฮะกีย์ได้รายงานไว้ใน หนังสือ อัสสุนัน อัลก๊อบรอ ของท่านอีก ว่า
وعن عبد الله بن معقل قال : قنت على رضى الله عنه فى الفجروهذا عن على صحيح مشهور
ความว่า "และรายงานจาก อับดุลเลาะฮฺ บิน มะอฺกิล ซึ่งได้กล่าวว่า ท่านอลี(ร.ฏ.) ได้ทำการอ่านกุนูตในละหมาดซุบหฺ และ(ท่านบัยฮะกีย์กล่าวว่า) หะดิษนี้ ได้รายงานจากท่านอลีนั้น ซอเฮี๊ยะหฺ เป็นที่เลื่องลือ "
- ดู อัสสุนัน อัลก๊อบรอ เล่มที่ 2 หน้าที่ 204
แม้หะดีษบทนี้จะเป็นหะดีษที่ถูกต้องดังคำกล่าวของท่านอัล-บัยฮะกีย์ แต่ก็ไม่อาจจะนำมาอ้างเป็นหลักฐานเรื่องการอ่านกุนูตในนมาซซุบห์เป็นประจำได้ เพราะ
- หะดีษบทนั้น กล่าวลอยๆเพียงว่า ท่านอะลีย์เคยอ่านกุนูตในนมาซซุบห์ แต่ไม่ได้ระบุไว้เลยว่า ท่านอะลีย์ ร.ฎ. จะอ่านกุนูตในนมาซซุบห์ด้วยดุอาที่ว่า อัลลอฮุมมะฮ์ ดินีย์ ฟีมันฮะดัยต้า .. และ/หรืออ่านมันเป็นประจำดังที่พวกเราอ่านกัน
- มีรายงานจากหะดีษบทอื่นระบุชัดเจนว่า กุนูตที่ท่านอะลีย์ บินอบีย์ฏอลิบ ร.ฎ. อ่านในนมาซซุบห์ดังกล่าวนั้น เป็นกุนูตนาซิละฮ์, และท่านก็ไม่เคยอ่านมันมาก่อนนอกจากในครั้งนั้นหรือเพียงบางครั้งเท่านั้น
ท่านอิบนุ อบีย์ชัยบะฮ์ ได้บันทึกในหนังสือ “อัล-มุศ็อนนัฟ” ของท่าน เล่มที่ 2 หน้า 209 ด้วยสายรายงานที่ถูกต้องจากท่านอุรฺวะฮ์ บิน อัล-หาริษ อัล-ฮัมดานีย์จากท่านอัช-ชะอฺบีย์ ว่า
قَالَ الشَّعْبِىُّ : لَمَّا قَنَتَ عَلِىٌّ فِىْ صَلاَةِ الصُّبْحِ أَنْكَرَ النَّاسُ ذَلِكَ، فَقَالَ : إِنَّمَا اسْتَنْصَرْنَا عَلَى عَدُوِّنَا
“ท่านอัช-ชะอฺบีย์กล่าวว่า : เมื่อท่านอะลีย์อ่านกุนูตในนมาซซุบห์ ประชาชน (ชาวเมืองกูฟะฮ์) ก็คัดค้านท่านในเรื่องนี้ ท่านจึงกล่าวว่า : ฉันเพียงแต่ขอ (ดุอา) ให้มีชัยชนะเหนือศัตรูของเรา (คือมุอาวิยะฮ์) เท่านั้น”
นอกจากนี้ ท่านอับดุรฺเราะห์มาน บินมุฆ็อฟฟัล
ก็ได้รายงานมาจากท่านอะลีย์เช่นเดียวกันว่า
ท่านอะลีย์ได้อ่านกุนูตในนมาซซุบห์
และขอดุอาให้มีชัยชนะเหนือท่านมุอาวิยะฮ์, ท่านอัมรฺ บินอัล-อาศ,
ท่านอบูอัซ-ซัลมา และท่านอับดุลลอฮ์ บินก็อยซ์ ตลอดจนผู้สนับสนุนพวกเขาเหล่านี้
-
ดังการบันทึกของท่านอิบนุ อบีย์ชัยบะฮ์ในหนังสือดังกล่าว
เล่มที่ 2 หน้า 216
.
ท่านอัลบัยฮะกีย์ได้รายงานไว้ใน หนังสือ อัสสุนัน อัลก๊อบรอ ของท่าน ว่า
عن العوام بن حمزة قال : سألت أبا عثمان عن القنوت فى الصبح بعد الركوع قلت : عمن ؟ قال عن أبى بكر وعمر وعثمان رضى الله عنه
ความว่า " รายงานจาก อัลเอาวาม บิน หัมซะฮฺ ซึ่งได้กล่าวว่า
ฉันได้ถามอบูอุษมาน เกี่ยวกับเรื่องกุนูตในละหมาดซุบหฺ หลังจากร่อกั๊วะ ฉันกล่าวว่า จากใครหรือ ? เขากล่าวว่า จากอบูบักร , อุมัร และอุษมาน " ท่านอัลบัยฮะกีย์กล่าวว่า หะดิษนี้ หะซัน ดู อัสสุนัน อัลก๊อบรอ เล่ม 2 หน้า 202
หะดิษนี้ก็เช่น กัน เป็นหะดิษเฏาะอีฟ ท่าน อิบนุอัตตัรกะมานีย์(ابن التركماني) ซึ่งวิจารณ์สายรายงานหะดิษนี้ในหนังสือ อัสสุนันกุบรอ
ของอัลบัยฮะกีย์ ข้างต้น โดยท่านค้านว่า เป็นหะดิษเฏาะอีฟ
อัลอะวาม บิน ฮัมซะฮ บุคคลผู้นี้ก็มีจุดบกพร่อง
قال يحيى بن معين : ليس بشيء ، وقال أحمد : له أحاديث مناكير
ยะหยา บิน มุอีน กล่าวว่า “ ไม่มีสิ่งใดเลย” และอะหมัดกล่าวว่า เขามีบรรดาหะดิษมุงกัร (หะดิษที่ถูกปฏิเสธนำมาเป็นหลักฐาน”)
– ดู หาชียะฮอัสสุนัน อัลกุบรอ เล่ม 2 หน้า 288
หะดิษนี้ไม่ได้ระบุว่า อบูบักร์ อุมัร และอุษมาน อ่านกุนูตนะหมาดศุบฮ เป็นประจำแต่อย่างใด
.
หะดีษอีกบทหนึ่งที่นำไปอ้าง กุนูต ในละหมาด ฟัจริ ทุกวันคับ
ท่านอับดุลมะญีด บินอับดุลอะซีซ บิน อบีย์เราวาด,
ได้รายงานมาจากท่านอิบนุญุร็อยจญ์,
จากท่านอับดุรฺเราะห์มาน บินฮุรฺมุซ,
จากท่านบุร็อยด์ บินอบีย์มัรฺยัม ซึ่งกล่าวว่า ...
سَمِعْتُ ابْنَ عَبَّاسٍ وَمُحَمَّدَ بْنَ عَلِىٍّ وَهُوَ ابْنُ الْحَنَفِيَّةِ بِالْخَيْفِ، يَقُوْلاَنِ : كَانَ النَّبِىُّ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ يَقْنُتُ فِىْ صَلاَةِ الصُّبْحِ وَفَىْ وِتْرِ اللَّيْلِ بِهَذِهِ الْكَلِمَاتِ : اَللَّهُمَّ اهْدِنِىْ فِيْمَنْ هَدَيْتَ ......
“ฉันได้ยินท่านอิบนุอับบาส และท่านมุหัมมัด บินอะลีย์ บินอัล-หะนะฟียะฮ์ (เป็นบุตรชายของท่านอะลีย์ บินอบีย์ฏอลิบ ร.ฎ. กับท่านเคาละฮ์) .. ทั้งสองท่านนั้นได้กล่าวขณะอยู่ที่สันดอนกลางร่องน้ำที่เชิงเขาแห่งหนึ่งว่า .. ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เคยอ่านกุนูตในนมาซซุบห์ด้วยถ้อยคำเหล่านี้คือ : “อัลลอฮุมมะฮ์ดินีย์ ฟีมันฮะดัยต้า .........”
(บันทึกโดย ท่านอัล-บัยฮะกีย์ เล่มที่ 2 หน้า 210, ท่านอิบนุนัศรฺ ในหนังสือ “เศาะลาตุ้ล วิตรฺ” หน้า 138, และท่านอับดุรฺ ร็อซซากในหนังสือ “อัล-มุศ็อนนัฟ” เล่มที่ 3 หน้า 108 หรือหะดีษที่ 4957, และหะดีษบทนี้ มีอ้างถึงในหนังสือ “ข้อโต้แย้งปัญหาศาสนา” เล่มที่ 1 หน้า 68)
วิเคราะห์
หะดีษบทนี้ของท่านอิบนุอับบาส ร.ฎ. มีสถานภาพเป็นหะดีษเฎาะอีฟ โดยมีข้อบกพร่องดังต่อไปนี้
ท่านอับดุลมะญีด บินอับดุลอะซีซ บินอับดุลเราวาด
ถูกท่านอบูหาติมกล่าวว่า เขาไม่ใช่ผู้ที่แข็งนักในการรายงานหะดีษ (لَيْسَ بِالْقَوِىِّ), ท่านอัด-ดารุกุฏนีย์กล่าววิจารณ์ว่า หะดีษของเขานำมาทำเป็นหลักฐานไม่ได้ แต่นำมาพิจารณาร่วมกับหะดีษอื่นได้ (لاَ يُحْتَجُّ بِهِ وَيُعْتَبَرُ بِهِ),
ท่านบุคอรีย์กล่าวว่า : ท่านอัล-หุมัยดีย์เคยวิจารณ์ (ความบกพร่อง)ในตัวเขา (كَانَ الْحُمَيْدِىُّ يَتَكَلَّمُ فِيْهِ), และท่านอิบนุหะญัรฺ อัลอัส-เกาะลานีย์ได้กล่าวสรุปว่า เขาพอจะเชื่อถือได้แต่มีความผิดพลาด (صَدُوْقٌ، يُخْطِئُ) ...
(จากหนังสือ “มีซาน อัล-เอี๊ยะอฺติดาล” เล่มที่ 2 หน้า 648. และหนังสือ “ตักรีบุต ตะฮ์ซีบ” เล่มที่ 1 หน้า 517)
ท่านอับดุรฺเราะห์มาน บินฮุรฺมุซ เป็นผู้ที่ไม่มีใครรู้จักและไม่มีใครทราบประวัติ (مَجْهُوْلٌ) ดังกล่าวมาแล้ว
สรุปแล้ว การอ่านกุนูตในนมาซซุบฮิทุกเช้าดังที่ผู้ซึ่งสังกัดมัษฮับชาฟิอีย์ปฏิบัติกัน จึงไม่มีหลักฐานที่ถูกต้องจาก “หะดีษมัรฺฟูอฺ” ..
ไม่ว่าจะเป็นหะดีษบทใด หรือจากการรายงานของเศาะหาบะฮ์ท่านใด มารองรับเลย ...
ดังนั้น ..
สิ่งที่ยังตกค้างและหลงเหลืออยู่ก็คือ
ข้ออ้างที่ว่ามีเศาะหาบะฮ์หลายท่าน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คอลีฟะฮ์ทั้ง 4 ท่าน คือท่านอบูบักรฺ, ท่านอุมัรฺ, ท่านอุษมาน และท่านอะลีย์ ร.ฎ.ได้อ่านดุอากุนูตในนมาซซุบห์
ประเด็นที่จะต้องนำมาพิจารณาจากข้ออ้างดังกล่าวก็คือ การรายงานเหล่านี้ ถูกต้องหรือไม่ ?
และถ้าเป็นรายงานที่ถูกต้อง กุนูตที่พวกท่านอ่านคือกุนูตอะไร ?
___
Update 25/06/2562
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น