อิบนุกอ็ยยิม ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน กล่าวว่า
إن السنة في مجادلة أهل الباطل إذا قامت عليهم حجة الله ، و لم يرجعوا ، بل أصروا على العناد ، أن يدعوهم إلى المباهلة ، و قد أمر الله سبحانه ، بذلك رسوله صلى الله عليه و سلم ، و لم يقُل : إن ذلك ليس لأمتك من بعدك . و دعا إليها ابنُ عمه عبد الله بن عباس ، من أنكر عليه بعض مسائل الفروع ، و لم يُنكر عليه الصحابة ، و دعا إليها الأوزاعي سفيان الثوري في مسألة رفع اليدين ، و لم يُنكَر عليه ذلك ، و هذا من تمام الحجة
แท้จริงในกรณีการโต้เถียงกับพวกอธรรม เมื่อหลักฐานของอัลลอฮ
ได้โต้แย้งบนพวกเขาแล้ว และพวกเขาก็ไม่กลับตัว
ตรงกันข้ามพวกเขายังคงดื้อรั้นต่อไป ตามสุนนะฮ ให้เชิญชวนพวกเขาไปสู่
อัลมุบาฮะละฮ( การวิงวอนเพื่อให้พระเจ้าสาปแช่งคนที่กล่าวเท็จ)
และแท้จริงอัลลอฮ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ได้บัญชาแก่รอซูลของพระองค์
ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ด้วยการกระทำดังกล่าวนั้น
โดยที่พระองค์ไม่เคยตรัสว่า “ แท้จริงการกระทำดังกล่าวนั้น
ไม่อนุญาตแก่อุมมะฮของเจ้า หลังจากเจ้า” และลูกพี่ลูกน้องของท่าน คือ
อับดุลลอฮ บิน อับบาส
ได้เชิญชวนผู้ที่คัดค้านเขาในบางประเด็นที่เป็นปัญหาข้อปลีกย่อย
โดยที่บรรดาเหล่าสาวก(คนอื่นๆ)ไม่ได้คัดค้านเขา และ อัลเอาซาอีย์
เคยเชิญชวนท่านอัษเษารีย์ ให้ไปสู่การทำอัลมุบาฮะละฮ
ในประเด็นปัญหาการยกมือทั้งสอง
และเขา(อัษเษารีย์)ก็ไม่ได้คัดค้านเขา(อัลเอาซาอีย์) ต่อการกระทำนั้น
และนี้คือ เป็นส่วนหนึ่งของการทำให้หลังฐาน(ที่นำมาอ้าง)สมบูรณ์ –
ซาดุลมะอาด เล่ม 3 หน้า 643
والله أعلم بالصواب
والله أعلم بالصواب
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น