ตักลีด หมายถึง การยึดถือ ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดอยู่ในกฏหุก่มทางศาสนาตามแนวทางของมัซฮับใดมัซอับหนึ่ง
หรือการยอมรับอย่างหลับหูหลับตาตามในคำกล่าวของบุคคลหนึ่งๆโดยมิทราบถึงหลักฐาน หรืออ้างอิงคำกล่าวของเขาโดยไม่ทราบว่าคำกล่าวของเขาโดยไม่ทราบว่าคำกล่าวนั้นมีหลักฐานที่ถูกต้องใดๆรับรองหรือไม่
.
อัลลอฮฺทรงกล่าวตำหนิการปฏิบัติแบบตักลีดเอาไว้หลาย
อายะฮฺ เช่น พระองค์อัลลอฮฺ ศุบฮานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า
.
وَإِذَا قِيلَ لَهُمْ تَعَالَوْا إِلَىٰ مَا أَنزَلَ اللَّهُ وَإِلَى الرَّسُولِ قَالُوا حَسْبُنَا مَا وَجَدْنَا عَلَيْهِ آبَاءَنَا أَوَلَوْ كَانَ آبَاؤُهُمْ لَا يَعْلَمُونَ شَيْئًا وَلَا يَهْتَدُونَ ( 104 ) อัล-มาอิดะฮฺ - Ayaa 104
.
"และเมื่อได้ถูกกล่าวแก่พวกเขาว่า ท่านทั้งหลายจงมาสู้สิ่งที่อัลลอฮ์ ได้ทรงประทานลงมาเถิด และมาสู่ร่อซูลด้วย พวกเขาก็กล่าวว่า เป็นการพอเพียงแก่เราแล้ว สิ่งที่เราได้พบบรรพบุรุษของเราเคยกระทำมันมา ถึงแม้ได้ปรากฏว่าบรรพบุรุษของพวกเขาไม่เข้าใจสิ่งใด และทั้งไม่ได้รับคำแนะนำอีกด้วยกระนั้นหรือ"
(อัลกุรอาน สูเราะฮฺอัล-มาอิดะฮฺ 104)
.
บรรดาอุละมาอฺของชาวสลัฟ รวมทั้งอุละมาอฺมุจญ์ตะฮีดดีนทั้งหลาย ต่างก็ห้ามจากการตักลีด #เนื่องการตักลีดเป็นสาเหตุนำมาซึ่งความขัดแย้งและความอ่อนแอในระหว่างพี่น้องมุสลิม และเอกภาพในการปฏิบัติและการกลับคืนสู่สิ่งที่อัลลอฮฺและท่านรสูลกล่าวในกรณีขัดแย้ง
ด้วยเหตุนี้จึงไม่พบว่าบรรดาเศาะหาบะฮ์ ร่อฎียัลลอฮุอันฮุ
ตักลีดผู้หนึ่งผู้ใดในระหว่างพวกเขาเป็นการเฉพาะในทุกๆเรื่อง เช่นเดียวกับบรรดาอิมามทั้ง 4
ก็ไม่ได้สั่งใช้ให้ยึดติด(ตะอัศศุบ) ทัศนะของพวกเขาเลย
และพวกเขายังเคยละทิ้งทัศนะของตนเนื่องหะดิษหนึ่งของท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม พวกเขาเคยห้ามมิให้ผู้อื่นตักลีดพวกเขา โดยไม่ทราบหลักฐานเสียก่อน
.
อิมามอบูฮะนีฟะฮฺ ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ กล่าวว่า :
.
حَرَامٌ عَلَى مَنْ لَمْ يَعْرِفْ دَلِيْلِيْ أَنْ يُفْتِيَ بِكَلاَمِيْ فَإِنَّنَا بَشَرٌ نَقُولُ اْلقَولَ اْليَومَ نَرْجِعُ عَنْهُ غَدًا
"เป็นที่ต้องห้ามสำหรับผู้ที่ไม่รู้ชัดในหลักฐานที่ฉันอ้างอิง แล้วมาชี้ขาดในคำพูดของฉัน เพราะเรา นั้นก็คือคนธรรมดา เราพูด วันนี้อย่างนี้ พรุ่งนี้เราอาจจะกลับคำพูดใหม่ก็ได้"
.
อิมามมาลิก ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ กล่าวว่า :
.
إِنَّما أَنا بَشَرٌ أُخْطِئُ وأُصِيْبُ فَانْظُرُوْا فِي رَأْيِي فَكُلُّ ما وَافَقَ اْلكِتَابَ وَالسُّنَّةَ فَخُذُوْهُ وَكُلُّ ما لَمْ يُوَافِقِ اْلكِتَابَ وَالسُّنَّةَ فَاتْرُكُوهُ
.
"เราเป็นคนธรรมดา มีผิดมีถูก จงพิจารณาคำพูดของฉันด้วย หากถูกต้องตรงกับอัลกรุอ่านและแบบ ฉบับของท่านร่อซูล ท่านทั้ง หลายจงรับไป แต่ถ้าหากคำพูดของฉันขัดกับอัลกรุอ่านและแบบฉบับ ของท่านร่อซูล ก็จงทิ้งไปเสีย"
.
อิมามชาฟิอี ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ กล่าว่า :
.
إِذَا وَجَدْ تُمْ فِي كِتابِيْ خِلاَفَ سُنَّةِ رَسُوْلِ اللهِ صلى الله عليه وسلم فَقُولُوْا بِسُنَّةِ رَسُول اللهِ صلى الله عليه وسلم وَدَعُوْا ما قُلْتُ
.
"เมื่อพวกท่านพบว่าในหนังสือของฉันขัดกับแบบฉบับของท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม พวกท่านก็จงพูดตามแบบ ฉบับของท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม และจงทิ้งคำพูดของฉันเสีย"
.
อิมามอะหมัด อิบนุฮัมบัล ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ กล่าวว่า :
.
لا تُقَلِّدْنِي وَلا تُقَلِّدْ مالكًا وَلا الشَّافِعِي وَلا اْلأَوْزَاعِي ولا الثَّوْرِي وَخُذْ مِنْ حَيْثُ أَخَذُوْا
.
"อย่าตามฉันหรือตามอิหม่ามมาลิก ชาฟิอี เอาซาอี และเซารี แต่จงเอาจากสิ่งที่พวกเขาเอามา"
.
.
พระองค์อัลลอฮฺ ศุบฮานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า
.
اتَّبِعُوا مَا أُنزِلَ إِلَيْكُم مِّن رَّبِّكُمْ وَلَا تَتَّبِعُوا مِن دُونِهِ أَوْلِيَاءَ قَلِيلًا مَّا تَذَكَّرُونَ ( 3 ) อัล-อะอฺรอฟ - Ayaa 3
.
"พวกเจ้าจงปฏิบัติตามสิ่งที่ถูกประทานลงมาแก่พวกเจ้าจากพระเจ้าของพวกเจ้าเถิด และอย่าปฏิบัติตามบรรดาผู้คุ้มครองใดๆ อื่นจากพระองค์ ส่วนน้อยจากพวกเจ้าเท่านั้นแหละที่จะรำลึก" (อัลกุรอาน สูเราะฮฺอัล-อะอฺรอฟ 3)
والله أعلم بالصواب
หรือการยอมรับอย่างหลับหูหลับตาตามในคำกล่าวของบุคคลหนึ่งๆโดยมิทราบถึงหลักฐาน หรืออ้างอิงคำกล่าวของเขาโดยไม่ทราบว่าคำกล่าวของเขาโดยไม่ทราบว่าคำกล่าวนั้นมีหลักฐานที่ถูกต้องใดๆรับรองหรือไม่
.
อัลลอฮฺทรงกล่าวตำหนิการปฏิบัติแบบตักลีดเอาไว้หลาย
อายะฮฺ เช่น พระองค์อัลลอฮฺ ศุบฮานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า
.
وَإِذَا قِيلَ لَهُمْ تَعَالَوْا إِلَىٰ مَا أَنزَلَ اللَّهُ وَإِلَى الرَّسُولِ قَالُوا حَسْبُنَا مَا وَجَدْنَا عَلَيْهِ آبَاءَنَا أَوَلَوْ كَانَ آبَاؤُهُمْ لَا يَعْلَمُونَ شَيْئًا وَلَا يَهْتَدُونَ ( 104 ) อัล-มาอิดะฮฺ - Ayaa 104
.
"และเมื่อได้ถูกกล่าวแก่พวกเขาว่า ท่านทั้งหลายจงมาสู้สิ่งที่อัลลอฮ์ ได้ทรงประทานลงมาเถิด และมาสู่ร่อซูลด้วย พวกเขาก็กล่าวว่า เป็นการพอเพียงแก่เราแล้ว สิ่งที่เราได้พบบรรพบุรุษของเราเคยกระทำมันมา ถึงแม้ได้ปรากฏว่าบรรพบุรุษของพวกเขาไม่เข้าใจสิ่งใด และทั้งไม่ได้รับคำแนะนำอีกด้วยกระนั้นหรือ"
(อัลกุรอาน สูเราะฮฺอัล-มาอิดะฮฺ 104)
.
บรรดาอุละมาอฺของชาวสลัฟ รวมทั้งอุละมาอฺมุจญ์ตะฮีดดีนทั้งหลาย ต่างก็ห้ามจากการตักลีด #เนื่องการตักลีดเป็นสาเหตุนำมาซึ่งความขัดแย้งและความอ่อนแอในระหว่างพี่น้องมุสลิม และเอกภาพในการปฏิบัติและการกลับคืนสู่สิ่งที่อัลลอฮฺและท่านรสูลกล่าวในกรณีขัดแย้ง
ด้วยเหตุนี้จึงไม่พบว่าบรรดาเศาะหาบะฮ์ ร่อฎียัลลอฮุอันฮุ
ตักลีดผู้หนึ่งผู้ใดในระหว่างพวกเขาเป็นการเฉพาะในทุกๆเรื่อง เช่นเดียวกับบรรดาอิมามทั้ง 4
ก็ไม่ได้สั่งใช้ให้ยึดติด(ตะอัศศุบ) ทัศนะของพวกเขาเลย
และพวกเขายังเคยละทิ้งทัศนะของตนเนื่องหะดิษหนึ่งของท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม พวกเขาเคยห้ามมิให้ผู้อื่นตักลีดพวกเขา โดยไม่ทราบหลักฐานเสียก่อน
.
อิมามอบูฮะนีฟะฮฺ ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ กล่าวว่า :
.
حَرَامٌ عَلَى مَنْ لَمْ يَعْرِفْ دَلِيْلِيْ أَنْ يُفْتِيَ بِكَلاَمِيْ فَإِنَّنَا بَشَرٌ نَقُولُ اْلقَولَ اْليَومَ نَرْجِعُ عَنْهُ غَدًا
"เป็นที่ต้องห้ามสำหรับผู้ที่ไม่รู้ชัดในหลักฐานที่ฉันอ้างอิง แล้วมาชี้ขาดในคำพูดของฉัน เพราะเรา นั้นก็คือคนธรรมดา เราพูด วันนี้อย่างนี้ พรุ่งนี้เราอาจจะกลับคำพูดใหม่ก็ได้"
.
อิมามมาลิก ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ กล่าวว่า :
.
إِنَّما أَنا بَشَرٌ أُخْطِئُ وأُصِيْبُ فَانْظُرُوْا فِي رَأْيِي فَكُلُّ ما وَافَقَ اْلكِتَابَ وَالسُّنَّةَ فَخُذُوْهُ وَكُلُّ ما لَمْ يُوَافِقِ اْلكِتَابَ وَالسُّنَّةَ فَاتْرُكُوهُ
.
"เราเป็นคนธรรมดา มีผิดมีถูก จงพิจารณาคำพูดของฉันด้วย หากถูกต้องตรงกับอัลกรุอ่านและแบบ ฉบับของท่านร่อซูล ท่านทั้ง หลายจงรับไป แต่ถ้าหากคำพูดของฉันขัดกับอัลกรุอ่านและแบบฉบับ ของท่านร่อซูล ก็จงทิ้งไปเสีย"
.
อิมามชาฟิอี ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ กล่าว่า :
.
إِذَا وَجَدْ تُمْ فِي كِتابِيْ خِلاَفَ سُنَّةِ رَسُوْلِ اللهِ صلى الله عليه وسلم فَقُولُوْا بِسُنَّةِ رَسُول اللهِ صلى الله عليه وسلم وَدَعُوْا ما قُلْتُ
.
"เมื่อพวกท่านพบว่าในหนังสือของฉันขัดกับแบบฉบับของท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม พวกท่านก็จงพูดตามแบบ ฉบับของท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม และจงทิ้งคำพูดของฉันเสีย"
.
อิมามอะหมัด อิบนุฮัมบัล ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ กล่าวว่า :
.
لا تُقَلِّدْنِي وَلا تُقَلِّدْ مالكًا وَلا الشَّافِعِي وَلا اْلأَوْزَاعِي ولا الثَّوْرِي وَخُذْ مِنْ حَيْثُ أَخَذُوْا
.
"อย่าตามฉันหรือตามอิหม่ามมาลิก ชาฟิอี เอาซาอี และเซารี แต่จงเอาจากสิ่งที่พวกเขาเอามา"
.
.
พระองค์อัลลอฮฺ ศุบฮานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า
.
اتَّبِعُوا مَا أُنزِلَ إِلَيْكُم مِّن رَّبِّكُمْ وَلَا تَتَّبِعُوا مِن دُونِهِ أَوْلِيَاءَ قَلِيلًا مَّا تَذَكَّرُونَ ( 3 ) อัล-อะอฺรอฟ - Ayaa 3
.
"พวกเจ้าจงปฏิบัติตามสิ่งที่ถูกประทานลงมาแก่พวกเจ้าจากพระเจ้าของพวกเจ้าเถิด และอย่าปฏิบัติตามบรรดาผู้คุ้มครองใดๆ อื่นจากพระองค์ ส่วนน้อยจากพวกเจ้าเท่านั้นแหละที่จะรำลึก" (อัลกุรอาน สูเราะฮฺอัล-อะอฺรอฟ 3)
والله أعلم بالصواب
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น