นักศึกษาควรอ่านครับ (ยาวแต่อยากให้อ่าน)
#การแสวงหาความรู้
____________
#คุณค่าและความสำคัญ
1. อัลลอฮฺ ซุบหานะฮูวะตะอาลา ทรงยกฐานันดรให้แก่ผู้ที่มีอีมานและมีอิลมูหลายระดับชั้น (อัลกุรอาน, อัลมุญาดาละฮฺ :11)
2. หากอัลลอฮฺ ซุบหานะฮูวะตะอาลา ประสงค์ที่จะให้เกิดความดีสำหรับคนหนึ่งๆ พระองค์ก็จะให้เขาเข้าใจศาสนา
(บุคอรี มุสลิม ติรมีซี)
3. ผู้ใดอยู่บนหนทางของการแสวงหาความรู้ แน่แท้อัลลอฮฺ ซุบหานะฮูวะตะอาลา จะทรงประทานหนทางที่ง่ายดายสู่สรวงสวรรค์ให้แก่เขา (ติรมีซี)
4. ผู้ใดที่ออกจากบ้านเพื่อแสวงหาความรู้ ย่อมหมายถึงเขาได้ญิฮาดในวิถีทางแห่งออัลลอฮฺ ซุบหานะฮูวะตะอาลา แล้ว จนกระทั่งเขาเดินทางกลับ (ติรฺมีซี)
5. การแสวงหาความรู้จะนำไปสู่การอภัยบาปให้แก่ผู้เรียน
(อบูดาวูด)
6. ผู้ใดที่ศึกษาหาความรู้เพื่ออัลลอฮฺ ซุบหานะฮูวะตะอาลา ถือเป็นการตักวา การทบทวนมันเป็นอิบาดะฮฺ การร่ำเรียนมันเป็นการตัสเบียะฮฮฺการถกปัญหากันเป้นการญิฮาด การสอนให้กับผู้ที่ไม่รู้เป็นทาน( ศอดาเกาะฮฺ) การสั่งสอนให้แก่ครอบครัวเป็นสร้างความใกล้ชิดกับอัลลอฮฺ ซุบหานะฮูวะตะอาลาซุบหานะฮูวะตะอาลา
(มุอาซ บินญะบัล รอฎิยัลลอฮุอันฮู)
7. บุญกุศล 3 สิ่งที่ไม่ขาดตอนแม้ว่าเราจะตายไปแล้ว กล่าวคือ
7.1 ศอดาเกาะฮฺญารียะฮฺ
7.2 วิชาความรู้ที่มีประโยชน์
7.3 ดุอาอฺของลูกที่ศอลิหฺ
(มุสลิม)
8. การแสวงหาวิชาความรู้เป้นภาระหน้าที่ของมุสลิมทุกคน
(อบู นัศรฺ สะมัรฺก็อนดี)
9. การปฏิเสธที่จะเรียนรู้เรื่องศาสนา จะเป็นสาเหตุให้ตกนรก
(อัลกุรอาน อัลมุลกฺ : 10)
10. ความรู้ดีกว่าทรัพย์สิน ทรัพย์สินเมื่อใช้มันมีแต่จะร่อยหหรอ แต่วิชาความรู้ยิ่งใช้ก็ยิ่งเพิ่ม
(อาลี บิน อบีฎอลิบ)
11. การอิจฉาเป็นสิ่งที่ต้องห้ามทางศาสา ยกเว้น 2 กรณี
11.1 อิจฉาคนที่มีความรู้แล้วเขาก็ได้ปฏิบัติและสอนให้กับผู้อื่น
11.2 อิจฉาคนที่ร่ำรวยแล้วเขาก็ใช้จ่ายมันในหนทางของอัลลอฮฺ ซุบหานะฮูวะตะอาลา
(มุตตะฟะกุนอะลัยฮฺ)
.
#เปรียบเทียบกับอิบาดะฮฺ
1. จงจริงจังกับการแสวงหาความรู้แต่อย่าลืมอิบาดะฮฺ และอย่าทำอิบาดะฮฺโดยปราศจากความรู้
(หะซัน อัลบัศรี)
2. ผู้ที่ทำอิบาดะฮฺโดยปราศจากความรู้จัดอยู่ในหมู่ผู้ที่ขาดทุนแม้ว่าเขาจะได้อิบาดะฮฺประหนึ่งมลาอิกะฮฺก็ตาม(อัลฆอซาลี)
3. ความประเสริฐของผู้มีความรู้เหนือกว่าผู้ทำอิบาดะฮฺก็ประหนึ่งความประเสริฐของนบีที่มีเหนือกว่าผู้ที่ต่ำต้อยที่สุดในอุมมัตนี้ (ตีรฺมีซี)
4. การศึกษาหาความรู้ประเสริฐกว่าการนมาซสุนัตนาฟิล
(อบูดารฺดาอฺ, อัชชาฟีอี)
.
#เนียต (การตั้งเจตนา)
1. วายิบต้องแสวงหาความรู้ด้วยเจตนาเพื่ออัลลอฮฺ ซุบหานะฮูวะตะอาลา ผู้ใดเจตนาอื่นไปจากการแสวงหาความโปรดปรานจากอัลลอฮฺ ซุบหานะฮูวะตะอาลา ก็จงเตรียมตัวไปสู่นรก ( ติรฺมีซี)
2. ผู้ใดที่มุ่งแสวงหาความรู้เพียงเพื่อความสะดวกสบายบนโลกดุนยาเขาจะไม่ได้รับกลิ่นอายของสวรรค์ (อบูดาวูด)
3. (ละหมาด) 2 รอกาอัตที่ทำโดยผู้รู้ที่อิคลาศ(บริสุทธิ์ใจ) ไม่หวังโชคผลดุนยา ประเสริฐเลิศยิ่งกว่านักอิบาดะฮฺที่คร่ำเคร่งทำอิบาดะฮฺอยู่ตลอดเวลาเสียอีก
( อับดุลลอฮฺ บิน มัสอูด รอฎอยัลลอฮุอันฮู)
4. อย่าแสวงหาความรู้เพื่อสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายและฟิตนะฮฺต่างๆ ผู้รู้ที่ทำเช่นนั้นเป็นที่โกรธกริ้วของอัลลอฮฺ ซุบหานะฮูวะตะอาลา ( อาลี บิน อบีฎอลิบ)
5. ผู้ใดที่แสวงหาความรู้เพื่อเหตุผล 3 ประการนี้จะเป็นชาวนรก
5.1 เพื่อความภาคภูมิใจว่าตนคืออุละมาอฺ
5.2 เพื่อถกเถียงกับผู้ที่โง่เขลา
5.3 เพื่อเรียกร้องความสนใจจากผู้อื่น
(อบู นัศรฺ สะมัรฺก็อนดี)
6. จงแสวงหาความรู้ด้วยการตั้งเจตนาว่า
6.1 เพื่อให้ตนเองพ้นจากความโง่เขลา
6.2 เพื่อจะให้ประโยชน์แก่ผู้อื่น
6.3 เพื่อสร้างชีวิตชีวาให้แก่ความรู้
6.4 เพื่อการปฏิบัติตามเจตนารมณ์แห่งความรู้นั้น
(อบู นัศรฺ สะมัรฺก็อนดี)
7. การแสวงหาความรู้ด้วยหวังในความโปรดปรานจากอัลลอฮฺ ซุบหานะฮูวะตะอาลา และเพื่ออาคิเราะฮฺ เขาจะได้รับความดีทั้งในโลกนี้และโลกหน้าในคราวเดียวกัน
(อบู นัศรฺ สะมัรฺก็อนดี)
8. ผู้ใดอออกจากบ้านเพื่อไปแสวงหาวิชาความรู้ จะทำให้ความดีมากมายกลับมาสู่บ้านของเขา และชัยฏอนจะไม่กล้าเข้าใกล้บ้านหลังนั้น (อบู นัศรฺ สะมัรฺก็อนดี)
.
#วิชาการ
1. อิลมุลหะกีกี (ความรู้ที่เที่ยงแท้) คือ ความรู้ที่ก่อให้เกิดความเชื่อมั่นต่ออัลลอฮฺ ซุบหานะฮูวะตะอาลา เชื่อมั่นว่าความชั่วนั้นเป็นยาพิษที่คอยล่าสั่งหาร และเชื่อมั่นว่าอาคิเราะฮฺนั้นสำคัญกว่าดุนยา (อัลฆอซาลี)
2. มนุษย์ทุกคนวายิบต้องเรียนรู้ 2 วิชา ดังนี้
2.1 อิลมูอุศูล : ความรู้ที่เป็นรากฐาน : คือ ความรู้เกี่ยวกับอะกีดะฮฺ(หลักความเชื่อ) อีมาน(หลักการศรัทธา) เตาฮีด (หลักเอกภาพแห่งพระเจ้า) (อัลกุรอาน , มุหัมมัด : 19 )
2.2 อิลมูอุศูล : ความรู้ที่เป็นสาขา : คือ ความรู้เกี่ยวกับการนมาซ ซะกาต ฮัจญ์ และวิชาเกี่ยวกับสิ่งวายิบ(สิ่งที่อิสลามบังคับปฏิบัติ) อื่นๆ (มุสลิม)
3. ซุนนะฮฺให้เรียนรู้เกี่ยวกับอีมานและความเชื่อมั่นในอัลลอฮฺเสียก่อนการเรียนอัลกุรอานและหุก่มหรือบทบัญญัติต่างๆ ทางศาสนา ( บุคอรี มุสลิม)
4. วายิบต้องเรียนรู้ซุนนะฮฺต่างๆ ของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม (อัลกุรอาน อัลหัชรฺ : 7)
5. วายิบให้เรียนรู้อัลกุรฺอานด้วยวิชาความรู้ อย่าความ(ตัฟซีร)อัลกุรอานด้วยความเห็นของตนเอง (ติรมีซี , อะหมัด)
6. ไม่อนุญาตให้ศึกษาวิเคราะห์คัมภีร์ของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา โดยปราศจากความรู้ ( ติรฺมีซี , นาซาอี)
7. มนุษย์ที่ดีที่สุดคือผู้ที่เรียนอัลกุรอานและสอนอัลกุรฺอาน
(อบู นัศรฺ สะมัรฺก็อนดี)
8. วายิบต้องเรียนรู้ศาสนาก่อนที่จะเป็นผู้นำ
( อุมัร บิน อัลค็อฏฏอบ )
.
#มารยาท
1. ชัยฎอนไม่กล้าที่จะรบกวนผู้มีมารยาทดี(อบู นัศรฺ สะมัรฺก็อนดี)
2. นักเรียน นักศึกษาผู้แสวงหาความรู้ไม่ควรกินอาหารอิ่มเกินไปท้องอิ่มจะทำให้หัวใจกระด้าง หนักตัว ความกระฉับกระเฉงน้อยลง ทำให้ง่วงนอน และอิบาดะฮฺอ่อนแอ (อิมาม อัชชาฟิอี)
3. พยายามชัดเกลานิสัยขี้เกียจ รำคาญเบื่อหน่ายในการหาวิชาความรู้ เพราะนิสัยดังกล่าวนำไปสู่อันตรายและหลงทาง (อัลฆอซาลี)
4. นักศึกษาต้องให้เกียรติวิชาความรู้และพึงพอใจที่จะใช้ชีวิตอย่างรู้จักพอ ละทิ้งสิ่งที่ไร้สาระ ทบทวนบทเรียนกับเพื่อนๆ หรือด้วยตัวเองเสมอๆ (อบู นัศรฺ สะมัรฺก็อนดี)
5. นักศึกษาจะต้องรักษามารยาทต่างๆ อันเป็นการให้เกียรติต่อวิชาความรู้ เช่น
5.1 ไม่วางหนังสือลงบนพื้น
5.2 มีน้ำนมาซและทำความสะอาดมือเมื่อจะจับต้องหนังสือ (อบู นัศรฺ สะมัรฺก็อนดี)
6. นักศึกษาพึงมีคุณสมบัติ 5 ประการดังนี้
6.1 ชอบถาม
6.2 ยอมรับความจริงได้ง่าย
6.3 มีพลังใจที่สูง
6.4 ชอบทำศอดาเกาะฮฺ
6.5 อดทนในทุกๆ สภาวการณ์
(อบู นัศรฺ สะมัรฺก็อนดี)
7. การกระทำ 4 ประกานที่จะทำให้สมองปราดเปรื่องขึ้น
7.1 ละทิ้งสิ่งที่ไร้สาระ
7.2 แปลงฟันอยู่เสมอ
7.3 นั่งร่วมกับคนศอลิหฺ
7.4 นั่งร่วมกับอุละมาอฺ
(อัล ฆอซาลี)
8. จงเข้าร่วมในมัจฐลิส(สถานที่ชุมนุม)ทางวิชาการ หรือมัจญลิสที่มีการเรียนการสอนสาสนาเพราะจะได้รับสะกีนะฮฺ(ความสงบ) เราะหฺมัดจะถูกประทานลงมา มลาอิกะฮฺจะห้อมล้อม และนามชื่อของพวกเขาจะได้รับการเอ่ยถึงจากอัลลอฮฺ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) ณ มัจญลิสของบรรดามลาอิกะฮฺ (บุคอรี มุสลิม)
9. อย่าผสมผสานความรู้กับการหยอกเล่นสนุกสนาน เพราะจะทำให้ความรู้ขย้อนออกมาจากหัวใจ
(อาลี บิน อบีฎอลิบ)
10. นักศึกษาควรรักษาน้ำนมาซอยู่เสมอ เพราะด้วยน้ำนมาซที่สมบูรณ์สามารถขับไล่ชัยฎอนให้ห่างไกล
(อุมัรฺ บิน อัลค็อฎฎอบ)
11. อย่าเอาความรู้มาตามนัฟซู(อารมณ์) แต่จงให้นัฟซูตามความรู้ (อบู ลัยษฺ สะมัรฺก็อนดี)
12. พยายามวิงวอนขอจากอัลลอฮฺ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) อยู่เสมอให้เพิ่มพูนความรู้ที่มีประโยชน์แก่เรา
(อัล กุรอาน ฏอฮา :114)
.
#มารยาทต่อครูบาอาจารย์
1. นักศึกษาซุนนะฮฺให้มีการขอดุอาอฺให้ครูบาอาจารย์อยู่เสมอ (อะหุมัด บิน หัมบัล)
2. จงทำตัวของเราให้เหมือนเด็ก(นอบน้อมถ่อมตน) ต่อหน้าผู้ใดก็ตามที่สอนเรา แม้ว่าจะเพียงแค่หนึ่งอักษรก็ตาม
(อัตตัรฺฆีบ)
3. วิชาความรู้เป็นสิ่งที่เราต้องขวนขวายแสวงหา (อิบนุมาลิก) มิใช่ให้ความรู้มาหาเรา
4. นักเรียน นักศึกษาจะต้องสุภาพ นอบน้อมต่อครูอาจารย์ ความบะรอกะฮฺจะหายไปหากนักเรียนคนใดไม่มีมารยาทต่อครูอาจารย์ (อบู นัศรฺ สะมัรฺก็อนดี)
5. สิ่งที่ทำให้ความรู้ของคนหนึ่งมีประโยชน์ คือ
5.1 ความถ่อมตน
5.2 กำลังใจที่จะเรียนรู้
5.3 รักษามารยาทต่อครูอาจารย์
(อบู นัศรฺ สะมัรฺก็อนดี)
6. มีบุคคล 3 จำพวกที่มีสิทธิชะฟาอะฮฺ(ช่วยเหลือ)ผู้อื่นในวันกิยามะฮฺ คือ
6.1 บรรดานบี
6.2 อุละมาอฺ (ผู้รู้)
6.3 ชุฮาดาอฺ (ผู้พลีชีพเพื่อศาสนา)
(อบู นัศรฺ สะมัรฺก็อนดี)
7. ผู้ที่สอนศาสนาเป็นบุคคลที่สองที่อัลลอฮฺ ( ซุบฮาะฮูวะตะอาลา ) ทรงรัก รองลงมาจากบรรดานบี ดังนั้นจะต้องให้เกียรติและพึงรักษาสิทธิต่างๆของพวกเขา (ชัยค์ บิน อัสลาม รอฎิยัลลอฮุอันฮู)
8. จงแสวงหาความรู้จากบุคคลที่ซื่อสัตย์และไว้วางใจได้ (อบู นัศรฺ สะมัรฺก็อนดี)
9. อย่าเอาความรู้จากผู้ที่พูดในสิ่งที่ดีแต่ประพฤติเลว (อัลหะซัน)
10. การมอง 3 อย่างต่อไปนี้เป็น อิบาดะฮฺ
10.1 มองหน้าอาลิมอุละมาอฺ
10.2 มองดูอัลกะอฺบะฮฺ
10.3 มองคัมภีร์อัลกุรอาน
(อบู ลัยษฺ สะมัรฺก็อนดี)
.
#นักเรียนนักศึกษา
1. จะต้องจริงจังในการแสวงหาความรู้ ไม่มีใครเกิดมาและมีความรู้ติดตัวมาด้วย ความรู้จะได้มาก็ด้วยการเรียนรู้
(อับดุลลอฮฺ บิน มัสอูด รอฎิยัลลอฮุอัลฮู)
2. การนั่งศึกษาวิชาความรู้เพียงชั่วครู่หนึ่ง เป็นที่รักของอัลลอฮฺ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) ยิ่งกว่าการนมาซสุนัตตลอดคืน (บุคอรี)
3. วิธีการหนึ่งที่ทำให้มีความรู้เพิ่มพูนขึ้นคือ การมุซากาเราะฮฺ (สนทนาแลกเปลี่ยน) มุสลิม)
4. มัสยิดเป็นสถานเรียนรู้ที่ประเสริฐที่สุด (มุสลิม)
5. อย่าได้ละเลยการจดบันทึกเพราะมันเป็นเครื่อมือในการยึดหรือผูกมัดความรู้ (อุมัร บิน ค็อฎฎอบ รอฎิยัลลอฮุอัลฮู)
6. ในการสอน ซุนนะฮฺให้เน้นย้ำ 3 ครั้ง เพื่อให้ความรู้นั้นแม่นยำ และเป้นที่เข้าใจ (บุคอรี)
7. ความพินาศจะประสบกับผู้ที่ไม่สอน ไม่เรียน และไม่ฟัง (อบูดารฺดาฮฺ)
#มัจญลิสอิลมี (การรวมตัวทางวิชาการ)
1. อย่าหลังในมัจญลิส ผู้ใดนอนหลับในมัจญลิส เขาจะพลาดเราะหฺมัดจากอัลลอฮฺ และจะเป้นที่รักของชัยฎอน ( อัลฆอซาลี)
2. การนอน 3 แบบที่อัลลอฮฺ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) ทรงรังเกียจ
2.1 การนอนในมัจญลิสอิลมี
2.2 การนอนหลังนมาซศุบฮิ
2.3 การนอนก่อนนมาซอิชาอฺ
(อบู ลัยษฺ สะมัรฺก็อนดี )
.
3. ชายคนหนึ่งออกจากบ้านไปและกลับมาในสถาพที่มีบาปเท่ากับภูเขาอุหุด แต่แล้วเมื่อพบมัจญลิสอิลมีเขาก็นั่งลงเรียนรู้ ซึมซับ รู้สึกยำเกรงและขอเตาบัตตัว แน่แท้เขาจะกลับเข้าบ้านโดยบริสุทธิ์สะอาดเนื่องจากบาปต่างๆ ถูกอภัยให้แล้ว (อุมัรฺ บิน ค็อฎฎอบ รอฎิยัลลอฺุอันฮู)
4. การหัวเราะ3 แบบเป็นที่น่ารักเกียจ
4.1 การหัวเราะในมัจญลิสอิลมี
4.2 การหัวเราะข้างหลังมัยยิด
4.3 การหัวเราะ ณ ที่กูบูรฺ
(อบู ลัยษฺ สะมัรฺ ก็อนดี)
.
5. มีความเลวร้ายอยู่ 4 ชนิดที่พึงหลีกห่าง
5.1 พลาดละหมาดตักบีรอตุลอิหฺรอม (ตักบีรครั้งแรก) พร้อมกับอิมาม
5.2 ละทิ้งมัจญลิสอิลมี
5.3 ละทิ้งการญิฮาด
5.4 ละทิ้งการวุกุฟ
(อบู ยะหฺยา อัลวัรฺร็อก)
.
#ความรู้และการปฏิบัติ
1. ผู้ใดที่ปฏิบัติอามัลในสิ่งที่เขารู้ อัลลอฮฺ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) จะเพิ่มพูดความรู้ที่เขายังไม่รู้ให้แก่เขา (อบูนาอีม)
2. ความรู้ที่แท้จริงคือความรู้ที่ก่อให้เกิดความยำเกรงต่ออัลลอฮฺ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) ยิ่งรู้มากยิ่งตักวา(ยำเกรง)มาก (อัลกุรอาน อัลฟาฏิร : 28)
3. คนที่มีความรู้มากมายแต่ใช่ว่าจะมีประโยชน์ต่อพวกเขาทั้งหมด (นบีอีซา อะลัยฮิสลาม)
4. อาลิม(ผู้รู้)ที่ปฏิบัติในความรู้และสอนความรู้ของเขา คือ ผู้ที่มีเกียรติ ณ ทุกๆ ชั้นฟ้า (นบีอิซา อะลัยฮิสลาม)
5. ผู้ใดที่ปฏิบัติในสิ่งที่เขารู้ จะปลอดภัย(อบู นัศรฺ สะมัรฺก็อนดี)
.
#การสอนและการเผยแผ่ความรู้
1. ลูกๆ ที่เรียนอ่าน "บิสมิลฮิรเราะหฺ มานิรฺรอฮีม" อัลลอฮฺ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) จะทรงภัยโทณให้บุคคลที่เกี่ยวข้อง 3 คน
1.1 พ่อของเขา
1.2 แม่ของเขา
1.3 ครูของเขา
(อบู นัศรฺ สะมัรฺก็อนดี)
2. วายิบต้องเผยแผ่ความรู้ให้คนอื่นแม้จะเพียงหนึ่งอายะฮฺก็ตาม (บุคอรี)
3. ด้วยความรู้ จงเชิญชวนผู้อื่นมาสู่ทางนำ ผู้ใดเชิญชวนผู้อื่นมาสู่ทางนำเขาจะได้รับกุศลผลบุญเท่ากับสิ่งที่ผู้ที่เขาเชิญชวนกระทำโดยไม่บกพร่องเลย และผู้ใดที่เชิญชวนผู้อื่นไปสู่ความชั่วแน่แท้เขาก็จะได้รับบาปเฉกเช่นเดียวกับที่ผู้ที่เขาเชิญชวนกระทำโดยไม่พร่องเลยเช่นกัน (ติรฺมีซี)
4. อย่าตัดสินเรื่องหนึ่งๆ (ฟัตวา) โดยไม่มีความรู้ ผู้ใดที่ตัดสินเรื่องหนึ่งให้แก่ผู้อื่นโดยไม่มีความรู้ เท่ากับเขาแบกบาปของผู้นั้นไว้แล้ว (อิบนุมาญะฮฺ)
5. อย่าชี้ทางที่ผิดให้แก่ผู้อื่น ผู้ใดที่ชี้ทางผิดให้แก่ผู้อื่น เขาคือผู้ทำลาย (อิบนุมาญะฮฺ)
6. ผู้ใดสอนอัลกุรอานให้แก่ลูก อัลลอฮฺ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) จะประทานอาภรณ์จากสวรรค์ 3 ผืนให้แก่เขา ซึ่งอาภรณ์ผืนหนึ่งดีกว่าโลกนี้และสรรพสิ่งที่อยู่ในโลกนี้เสียอีก (หะซัน อัลบัศรี)
7. การบริโภคศอดาเกาะฮฺที่ดี่ที่สุดคือการเรียนรู้และสอนวิชาความรู้ให้ผู้อื่น (อบู นัศรฺ สะมัรฺก็อนดี)
8. หากถูกถามในสิ่งที่เราไม่รู้คำตอบ ซุนนะฮฺให้กล่าวว่า "ฉันไม่รู้" (อบูดาวูด, อะหฺมัด หากิม)
_____
(จากหนังสือ แบบอย่างแห่งศาสนาในวิถีชีวิตมุสลิม หน้า 56-63)
อุสตาซ เอช เอ อับดุรฺเราะหฺมาน อะหมัด : เขียน
มันศูรฺ อัลดุลลอฮฺ : แปลและเรียบเรียง
#การแสวงหาความรู้
____________
#คุณค่าและความสำคัญ
1. อัลลอฮฺ ซุบหานะฮูวะตะอาลา ทรงยกฐานันดรให้แก่ผู้ที่มีอีมานและมีอิลมูหลายระดับชั้น (อัลกุรอาน, อัลมุญาดาละฮฺ :11)
2. หากอัลลอฮฺ ซุบหานะฮูวะตะอาลา ประสงค์ที่จะให้เกิดความดีสำหรับคนหนึ่งๆ พระองค์ก็จะให้เขาเข้าใจศาสนา
(บุคอรี มุสลิม ติรมีซี)
3. ผู้ใดอยู่บนหนทางของการแสวงหาความรู้ แน่แท้อัลลอฮฺ ซุบหานะฮูวะตะอาลา จะทรงประทานหนทางที่ง่ายดายสู่สรวงสวรรค์ให้แก่เขา (ติรมีซี)
4. ผู้ใดที่ออกจากบ้านเพื่อแสวงหาความรู้ ย่อมหมายถึงเขาได้ญิฮาดในวิถีทางแห่งออัลลอฮฺ ซุบหานะฮูวะตะอาลา แล้ว จนกระทั่งเขาเดินทางกลับ (ติรฺมีซี)
5. การแสวงหาความรู้จะนำไปสู่การอภัยบาปให้แก่ผู้เรียน
(อบูดาวูด)
6. ผู้ใดที่ศึกษาหาความรู้เพื่ออัลลอฮฺ ซุบหานะฮูวะตะอาลา ถือเป็นการตักวา การทบทวนมันเป็นอิบาดะฮฺ การร่ำเรียนมันเป็นการตัสเบียะฮฮฺการถกปัญหากันเป้นการญิฮาด การสอนให้กับผู้ที่ไม่รู้เป็นทาน( ศอดาเกาะฮฺ) การสั่งสอนให้แก่ครอบครัวเป็นสร้างความใกล้ชิดกับอัลลอฮฺ ซุบหานะฮูวะตะอาลาซุบหานะฮูวะตะอาลา
(มุอาซ บินญะบัล รอฎิยัลลอฮุอันฮู)
7. บุญกุศล 3 สิ่งที่ไม่ขาดตอนแม้ว่าเราจะตายไปแล้ว กล่าวคือ
7.1 ศอดาเกาะฮฺญารียะฮฺ
7.2 วิชาความรู้ที่มีประโยชน์
7.3 ดุอาอฺของลูกที่ศอลิหฺ
(มุสลิม)
8. การแสวงหาวิชาความรู้เป้นภาระหน้าที่ของมุสลิมทุกคน
(อบู นัศรฺ สะมัรฺก็อนดี)
9. การปฏิเสธที่จะเรียนรู้เรื่องศาสนา จะเป็นสาเหตุให้ตกนรก
(อัลกุรอาน อัลมุลกฺ : 10)
10. ความรู้ดีกว่าทรัพย์สิน ทรัพย์สินเมื่อใช้มันมีแต่จะร่อยหหรอ แต่วิชาความรู้ยิ่งใช้ก็ยิ่งเพิ่ม
(อาลี บิน อบีฎอลิบ)
11. การอิจฉาเป็นสิ่งที่ต้องห้ามทางศาสา ยกเว้น 2 กรณี
11.1 อิจฉาคนที่มีความรู้แล้วเขาก็ได้ปฏิบัติและสอนให้กับผู้อื่น
11.2 อิจฉาคนที่ร่ำรวยแล้วเขาก็ใช้จ่ายมันในหนทางของอัลลอฮฺ ซุบหานะฮูวะตะอาลา
(มุตตะฟะกุนอะลัยฮฺ)
.
#เปรียบเทียบกับอิบาดะฮฺ
1. จงจริงจังกับการแสวงหาความรู้แต่อย่าลืมอิบาดะฮฺ และอย่าทำอิบาดะฮฺโดยปราศจากความรู้
(หะซัน อัลบัศรี)
2. ผู้ที่ทำอิบาดะฮฺโดยปราศจากความรู้จัดอยู่ในหมู่ผู้ที่ขาดทุนแม้ว่าเขาจะได้อิบาดะฮฺประหนึ่งมลาอิกะฮฺก็ตาม(อัลฆอซาลี)
3. ความประเสริฐของผู้มีความรู้เหนือกว่าผู้ทำอิบาดะฮฺก็ประหนึ่งความประเสริฐของนบีที่มีเหนือกว่าผู้ที่ต่ำต้อยที่สุดในอุมมัตนี้ (ตีรฺมีซี)
4. การศึกษาหาความรู้ประเสริฐกว่าการนมาซสุนัตนาฟิล
(อบูดารฺดาอฺ, อัชชาฟีอี)
.
#เนียต (การตั้งเจตนา)
1. วายิบต้องแสวงหาความรู้ด้วยเจตนาเพื่ออัลลอฮฺ ซุบหานะฮูวะตะอาลา ผู้ใดเจตนาอื่นไปจากการแสวงหาความโปรดปรานจากอัลลอฮฺ ซุบหานะฮูวะตะอาลา ก็จงเตรียมตัวไปสู่นรก ( ติรฺมีซี)
2. ผู้ใดที่มุ่งแสวงหาความรู้เพียงเพื่อความสะดวกสบายบนโลกดุนยาเขาจะไม่ได้รับกลิ่นอายของสวรรค์ (อบูดาวูด)
3. (ละหมาด) 2 รอกาอัตที่ทำโดยผู้รู้ที่อิคลาศ(บริสุทธิ์ใจ) ไม่หวังโชคผลดุนยา ประเสริฐเลิศยิ่งกว่านักอิบาดะฮฺที่คร่ำเคร่งทำอิบาดะฮฺอยู่ตลอดเวลาเสียอีก
( อับดุลลอฮฺ บิน มัสอูด รอฎอยัลลอฮุอันฮู)
4. อย่าแสวงหาความรู้เพื่อสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายและฟิตนะฮฺต่างๆ ผู้รู้ที่ทำเช่นนั้นเป็นที่โกรธกริ้วของอัลลอฮฺ ซุบหานะฮูวะตะอาลา ( อาลี บิน อบีฎอลิบ)
5. ผู้ใดที่แสวงหาความรู้เพื่อเหตุผล 3 ประการนี้จะเป็นชาวนรก
5.1 เพื่อความภาคภูมิใจว่าตนคืออุละมาอฺ
5.2 เพื่อถกเถียงกับผู้ที่โง่เขลา
5.3 เพื่อเรียกร้องความสนใจจากผู้อื่น
(อบู นัศรฺ สะมัรฺก็อนดี)
6. จงแสวงหาความรู้ด้วยการตั้งเจตนาว่า
6.1 เพื่อให้ตนเองพ้นจากความโง่เขลา
6.2 เพื่อจะให้ประโยชน์แก่ผู้อื่น
6.3 เพื่อสร้างชีวิตชีวาให้แก่ความรู้
6.4 เพื่อการปฏิบัติตามเจตนารมณ์แห่งความรู้นั้น
(อบู นัศรฺ สะมัรฺก็อนดี)
7. การแสวงหาความรู้ด้วยหวังในความโปรดปรานจากอัลลอฮฺ ซุบหานะฮูวะตะอาลา และเพื่ออาคิเราะฮฺ เขาจะได้รับความดีทั้งในโลกนี้และโลกหน้าในคราวเดียวกัน
(อบู นัศรฺ สะมัรฺก็อนดี)
8. ผู้ใดอออกจากบ้านเพื่อไปแสวงหาวิชาความรู้ จะทำให้ความดีมากมายกลับมาสู่บ้านของเขา และชัยฏอนจะไม่กล้าเข้าใกล้บ้านหลังนั้น (อบู นัศรฺ สะมัรฺก็อนดี)
.
#วิชาการ
1. อิลมุลหะกีกี (ความรู้ที่เที่ยงแท้) คือ ความรู้ที่ก่อให้เกิดความเชื่อมั่นต่ออัลลอฮฺ ซุบหานะฮูวะตะอาลา เชื่อมั่นว่าความชั่วนั้นเป็นยาพิษที่คอยล่าสั่งหาร และเชื่อมั่นว่าอาคิเราะฮฺนั้นสำคัญกว่าดุนยา (อัลฆอซาลี)
2. มนุษย์ทุกคนวายิบต้องเรียนรู้ 2 วิชา ดังนี้
2.1 อิลมูอุศูล : ความรู้ที่เป็นรากฐาน : คือ ความรู้เกี่ยวกับอะกีดะฮฺ(หลักความเชื่อ) อีมาน(หลักการศรัทธา) เตาฮีด (หลักเอกภาพแห่งพระเจ้า) (อัลกุรอาน , มุหัมมัด : 19 )
2.2 อิลมูอุศูล : ความรู้ที่เป็นสาขา : คือ ความรู้เกี่ยวกับการนมาซ ซะกาต ฮัจญ์ และวิชาเกี่ยวกับสิ่งวายิบ(สิ่งที่อิสลามบังคับปฏิบัติ) อื่นๆ (มุสลิม)
3. ซุนนะฮฺให้เรียนรู้เกี่ยวกับอีมานและความเชื่อมั่นในอัลลอฮฺเสียก่อนการเรียนอัลกุรอานและหุก่มหรือบทบัญญัติต่างๆ ทางศาสนา ( บุคอรี มุสลิม)
4. วายิบต้องเรียนรู้ซุนนะฮฺต่างๆ ของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม (อัลกุรอาน อัลหัชรฺ : 7)
5. วายิบให้เรียนรู้อัลกุรฺอานด้วยวิชาความรู้ อย่าความ(ตัฟซีร)อัลกุรอานด้วยความเห็นของตนเอง (ติรมีซี , อะหมัด)
6. ไม่อนุญาตให้ศึกษาวิเคราะห์คัมภีร์ของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา โดยปราศจากความรู้ ( ติรฺมีซี , นาซาอี)
7. มนุษย์ที่ดีที่สุดคือผู้ที่เรียนอัลกุรอานและสอนอัลกุรฺอาน
(อบู นัศรฺ สะมัรฺก็อนดี)
8. วายิบต้องเรียนรู้ศาสนาก่อนที่จะเป็นผู้นำ
( อุมัร บิน อัลค็อฏฏอบ )
.
#มารยาท
1. ชัยฎอนไม่กล้าที่จะรบกวนผู้มีมารยาทดี(อบู นัศรฺ สะมัรฺก็อนดี)
2. นักเรียน นักศึกษาผู้แสวงหาความรู้ไม่ควรกินอาหารอิ่มเกินไปท้องอิ่มจะทำให้หัวใจกระด้าง หนักตัว ความกระฉับกระเฉงน้อยลง ทำให้ง่วงนอน และอิบาดะฮฺอ่อนแอ (อิมาม อัชชาฟิอี)
3. พยายามชัดเกลานิสัยขี้เกียจ รำคาญเบื่อหน่ายในการหาวิชาความรู้ เพราะนิสัยดังกล่าวนำไปสู่อันตรายและหลงทาง (อัลฆอซาลี)
4. นักศึกษาต้องให้เกียรติวิชาความรู้และพึงพอใจที่จะใช้ชีวิตอย่างรู้จักพอ ละทิ้งสิ่งที่ไร้สาระ ทบทวนบทเรียนกับเพื่อนๆ หรือด้วยตัวเองเสมอๆ (อบู นัศรฺ สะมัรฺก็อนดี)
5. นักศึกษาจะต้องรักษามารยาทต่างๆ อันเป็นการให้เกียรติต่อวิชาความรู้ เช่น
5.1 ไม่วางหนังสือลงบนพื้น
5.2 มีน้ำนมาซและทำความสะอาดมือเมื่อจะจับต้องหนังสือ (อบู นัศรฺ สะมัรฺก็อนดี)
6. นักศึกษาพึงมีคุณสมบัติ 5 ประการดังนี้
6.1 ชอบถาม
6.2 ยอมรับความจริงได้ง่าย
6.3 มีพลังใจที่สูง
6.4 ชอบทำศอดาเกาะฮฺ
6.5 อดทนในทุกๆ สภาวการณ์
(อบู นัศรฺ สะมัรฺก็อนดี)
7. การกระทำ 4 ประกานที่จะทำให้สมองปราดเปรื่องขึ้น
7.1 ละทิ้งสิ่งที่ไร้สาระ
7.2 แปลงฟันอยู่เสมอ
7.3 นั่งร่วมกับคนศอลิหฺ
7.4 นั่งร่วมกับอุละมาอฺ
(อัล ฆอซาลี)
8. จงเข้าร่วมในมัจฐลิส(สถานที่ชุมนุม)ทางวิชาการ หรือมัจญลิสที่มีการเรียนการสอนสาสนาเพราะจะได้รับสะกีนะฮฺ(ความสงบ) เราะหฺมัดจะถูกประทานลงมา มลาอิกะฮฺจะห้อมล้อม และนามชื่อของพวกเขาจะได้รับการเอ่ยถึงจากอัลลอฮฺ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) ณ มัจญลิสของบรรดามลาอิกะฮฺ (บุคอรี มุสลิม)
9. อย่าผสมผสานความรู้กับการหยอกเล่นสนุกสนาน เพราะจะทำให้ความรู้ขย้อนออกมาจากหัวใจ
(อาลี บิน อบีฎอลิบ)
10. นักศึกษาควรรักษาน้ำนมาซอยู่เสมอ เพราะด้วยน้ำนมาซที่สมบูรณ์สามารถขับไล่ชัยฎอนให้ห่างไกล
(อุมัรฺ บิน อัลค็อฎฎอบ)
11. อย่าเอาความรู้มาตามนัฟซู(อารมณ์) แต่จงให้นัฟซูตามความรู้ (อบู ลัยษฺ สะมัรฺก็อนดี)
12. พยายามวิงวอนขอจากอัลลอฮฺ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) อยู่เสมอให้เพิ่มพูนความรู้ที่มีประโยชน์แก่เรา
(อัล กุรอาน ฏอฮา :114)
.
#มารยาทต่อครูบาอาจารย์
1. นักศึกษาซุนนะฮฺให้มีการขอดุอาอฺให้ครูบาอาจารย์อยู่เสมอ (อะหุมัด บิน หัมบัล)
2. จงทำตัวของเราให้เหมือนเด็ก(นอบน้อมถ่อมตน) ต่อหน้าผู้ใดก็ตามที่สอนเรา แม้ว่าจะเพียงแค่หนึ่งอักษรก็ตาม
(อัตตัรฺฆีบ)
3. วิชาความรู้เป็นสิ่งที่เราต้องขวนขวายแสวงหา (อิบนุมาลิก) มิใช่ให้ความรู้มาหาเรา
4. นักเรียน นักศึกษาจะต้องสุภาพ นอบน้อมต่อครูอาจารย์ ความบะรอกะฮฺจะหายไปหากนักเรียนคนใดไม่มีมารยาทต่อครูอาจารย์ (อบู นัศรฺ สะมัรฺก็อนดี)
5. สิ่งที่ทำให้ความรู้ของคนหนึ่งมีประโยชน์ คือ
5.1 ความถ่อมตน
5.2 กำลังใจที่จะเรียนรู้
5.3 รักษามารยาทต่อครูอาจารย์
(อบู นัศรฺ สะมัรฺก็อนดี)
6. มีบุคคล 3 จำพวกที่มีสิทธิชะฟาอะฮฺ(ช่วยเหลือ)ผู้อื่นในวันกิยามะฮฺ คือ
6.1 บรรดานบี
6.2 อุละมาอฺ (ผู้รู้)
6.3 ชุฮาดาอฺ (ผู้พลีชีพเพื่อศาสนา)
(อบู นัศรฺ สะมัรฺก็อนดี)
7. ผู้ที่สอนศาสนาเป็นบุคคลที่สองที่อัลลอฮฺ ( ซุบฮาะฮูวะตะอาลา ) ทรงรัก รองลงมาจากบรรดานบี ดังนั้นจะต้องให้เกียรติและพึงรักษาสิทธิต่างๆของพวกเขา (ชัยค์ บิน อัสลาม รอฎิยัลลอฮุอันฮู)
8. จงแสวงหาความรู้จากบุคคลที่ซื่อสัตย์และไว้วางใจได้ (อบู นัศรฺ สะมัรฺก็อนดี)
9. อย่าเอาความรู้จากผู้ที่พูดในสิ่งที่ดีแต่ประพฤติเลว (อัลหะซัน)
10. การมอง 3 อย่างต่อไปนี้เป็น อิบาดะฮฺ
10.1 มองหน้าอาลิมอุละมาอฺ
10.2 มองดูอัลกะอฺบะฮฺ
10.3 มองคัมภีร์อัลกุรอาน
(อบู ลัยษฺ สะมัรฺก็อนดี)
.
#นักเรียนนักศึกษา
1. จะต้องจริงจังในการแสวงหาความรู้ ไม่มีใครเกิดมาและมีความรู้ติดตัวมาด้วย ความรู้จะได้มาก็ด้วยการเรียนรู้
(อับดุลลอฮฺ บิน มัสอูด รอฎิยัลลอฮุอัลฮู)
2. การนั่งศึกษาวิชาความรู้เพียงชั่วครู่หนึ่ง เป็นที่รักของอัลลอฮฺ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) ยิ่งกว่าการนมาซสุนัตตลอดคืน (บุคอรี)
3. วิธีการหนึ่งที่ทำให้มีความรู้เพิ่มพูนขึ้นคือ การมุซากาเราะฮฺ (สนทนาแลกเปลี่ยน) มุสลิม)
4. มัสยิดเป็นสถานเรียนรู้ที่ประเสริฐที่สุด (มุสลิม)
5. อย่าได้ละเลยการจดบันทึกเพราะมันเป็นเครื่อมือในการยึดหรือผูกมัดความรู้ (อุมัร บิน ค็อฎฎอบ รอฎิยัลลอฮุอัลฮู)
6. ในการสอน ซุนนะฮฺให้เน้นย้ำ 3 ครั้ง เพื่อให้ความรู้นั้นแม่นยำ และเป้นที่เข้าใจ (บุคอรี)
7. ความพินาศจะประสบกับผู้ที่ไม่สอน ไม่เรียน และไม่ฟัง (อบูดารฺดาฮฺ)
#มัจญลิสอิลมี (การรวมตัวทางวิชาการ)
1. อย่าหลังในมัจญลิส ผู้ใดนอนหลับในมัจญลิส เขาจะพลาดเราะหฺมัดจากอัลลอฮฺ และจะเป้นที่รักของชัยฎอน ( อัลฆอซาลี)
2. การนอน 3 แบบที่อัลลอฮฺ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) ทรงรังเกียจ
2.1 การนอนในมัจญลิสอิลมี
2.2 การนอนหลังนมาซศุบฮิ
2.3 การนอนก่อนนมาซอิชาอฺ
(อบู ลัยษฺ สะมัรฺก็อนดี )
.
3. ชายคนหนึ่งออกจากบ้านไปและกลับมาในสถาพที่มีบาปเท่ากับภูเขาอุหุด แต่แล้วเมื่อพบมัจญลิสอิลมีเขาก็นั่งลงเรียนรู้ ซึมซับ รู้สึกยำเกรงและขอเตาบัตตัว แน่แท้เขาจะกลับเข้าบ้านโดยบริสุทธิ์สะอาดเนื่องจากบาปต่างๆ ถูกอภัยให้แล้ว (อุมัรฺ บิน ค็อฎฎอบ รอฎิยัลลอฺุอันฮู)
4. การหัวเราะ3 แบบเป็นที่น่ารักเกียจ
4.1 การหัวเราะในมัจญลิสอิลมี
4.2 การหัวเราะข้างหลังมัยยิด
4.3 การหัวเราะ ณ ที่กูบูรฺ
(อบู ลัยษฺ สะมัรฺ ก็อนดี)
.
5. มีความเลวร้ายอยู่ 4 ชนิดที่พึงหลีกห่าง
5.1 พลาดละหมาดตักบีรอตุลอิหฺรอม (ตักบีรครั้งแรก) พร้อมกับอิมาม
5.2 ละทิ้งมัจญลิสอิลมี
5.3 ละทิ้งการญิฮาด
5.4 ละทิ้งการวุกุฟ
(อบู ยะหฺยา อัลวัรฺร็อก)
.
#ความรู้และการปฏิบัติ
1. ผู้ใดที่ปฏิบัติอามัลในสิ่งที่เขารู้ อัลลอฮฺ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) จะเพิ่มพูดความรู้ที่เขายังไม่รู้ให้แก่เขา (อบูนาอีม)
2. ความรู้ที่แท้จริงคือความรู้ที่ก่อให้เกิดความยำเกรงต่ออัลลอฮฺ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) ยิ่งรู้มากยิ่งตักวา(ยำเกรง)มาก (อัลกุรอาน อัลฟาฏิร : 28)
3. คนที่มีความรู้มากมายแต่ใช่ว่าจะมีประโยชน์ต่อพวกเขาทั้งหมด (นบีอีซา อะลัยฮิสลาม)
4. อาลิม(ผู้รู้)ที่ปฏิบัติในความรู้และสอนความรู้ของเขา คือ ผู้ที่มีเกียรติ ณ ทุกๆ ชั้นฟ้า (นบีอิซา อะลัยฮิสลาม)
5. ผู้ใดที่ปฏิบัติในสิ่งที่เขารู้ จะปลอดภัย(อบู นัศรฺ สะมัรฺก็อนดี)
.
#การสอนและการเผยแผ่ความรู้
1. ลูกๆ ที่เรียนอ่าน "บิสมิลฮิรเราะหฺ มานิรฺรอฮีม" อัลลอฮฺ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) จะทรงภัยโทณให้บุคคลที่เกี่ยวข้อง 3 คน
1.1 พ่อของเขา
1.2 แม่ของเขา
1.3 ครูของเขา
(อบู นัศรฺ สะมัรฺก็อนดี)
2. วายิบต้องเผยแผ่ความรู้ให้คนอื่นแม้จะเพียงหนึ่งอายะฮฺก็ตาม (บุคอรี)
3. ด้วยความรู้ จงเชิญชวนผู้อื่นมาสู่ทางนำ ผู้ใดเชิญชวนผู้อื่นมาสู่ทางนำเขาจะได้รับกุศลผลบุญเท่ากับสิ่งที่ผู้ที่เขาเชิญชวนกระทำโดยไม่บกพร่องเลย และผู้ใดที่เชิญชวนผู้อื่นไปสู่ความชั่วแน่แท้เขาก็จะได้รับบาปเฉกเช่นเดียวกับที่ผู้ที่เขาเชิญชวนกระทำโดยไม่พร่องเลยเช่นกัน (ติรฺมีซี)
4. อย่าตัดสินเรื่องหนึ่งๆ (ฟัตวา) โดยไม่มีความรู้ ผู้ใดที่ตัดสินเรื่องหนึ่งให้แก่ผู้อื่นโดยไม่มีความรู้ เท่ากับเขาแบกบาปของผู้นั้นไว้แล้ว (อิบนุมาญะฮฺ)
5. อย่าชี้ทางที่ผิดให้แก่ผู้อื่น ผู้ใดที่ชี้ทางผิดให้แก่ผู้อื่น เขาคือผู้ทำลาย (อิบนุมาญะฮฺ)
6. ผู้ใดสอนอัลกุรอานให้แก่ลูก อัลลอฮฺ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) จะประทานอาภรณ์จากสวรรค์ 3 ผืนให้แก่เขา ซึ่งอาภรณ์ผืนหนึ่งดีกว่าโลกนี้และสรรพสิ่งที่อยู่ในโลกนี้เสียอีก (หะซัน อัลบัศรี)
7. การบริโภคศอดาเกาะฮฺที่ดี่ที่สุดคือการเรียนรู้และสอนวิชาความรู้ให้ผู้อื่น (อบู นัศรฺ สะมัรฺก็อนดี)
8. หากถูกถามในสิ่งที่เราไม่รู้คำตอบ ซุนนะฮฺให้กล่าวว่า "ฉันไม่รู้" (อบูดาวูด, อะหฺมัด หากิม)
_____
(จากหนังสือ แบบอย่างแห่งศาสนาในวิถีชีวิตมุสลิม หน้า 56-63)
อุสตาซ เอช เอ อับดุรฺเราะหฺมาน อะหมัด : เขียน
มันศูรฺ อัลดุลลอฮฺ : แปลและเรียบเรียง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น