วันพุธที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2562

อิสลามได้ให้ความเคารพและกล่าวแสดงความยินดีต่อผู้แสวงหาวิชาความรู้ที่ยังประโยชน์อยู่ตลอดเวลา

อิสลามได้ให้ความเคารพและกล่าวแสดงความยินดีต่อผู้แสวงหาวิชาความรู้ที่ยังประโยชน์อยู่ตลอดเวลา
.
ความว่า จากศ็อฟวาน บิน อัสสาล อัลมุรอดีย์ (เราะฎิยัลลอฮุ อันฮุ) เล่าว่า ฉันได้เข้าพบท่านนบี (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม) ในขณะที่ท่านกำลังนอนพิงอยู่บนผ้าห่มสีแดงของท่าน แล้วฉันพูดกับท่านว่า " โอ้ท่านรสูล ! แท้จริงฉันมา(หาท่าน)เพื่อจะแสวงหาวิชาความรู้ " ดังนั้นท่านจึงกล่าวกับฉันว่า
" ขอต้อนรับผู้แสวงหาวิชาความรู้ แท้จริงปีกของบรรดามลาอิกะฮฺจะกางออกและปกคลุมผู้แสวงหาวิชาความรู้ แล้วพวกเขาจะทับซ้อนกันขึ้นจนสูงระฟ้า ของโลก เพราะพวกเขาชอบในความรู้ที่เขากำลังแสวงหา "
(หะสัน : บันทึกโดยอะหมัด 4/239, อัฎเฎาะบะรอนีย์ ใน อัลกะบีร 8/64, อิบนุหิบบาน หมายเลข 85, 1322, หากิม 1/100 และกล่าวว่า เศราะฮิฮฺฺ และอัซซะฮะบีย์ก็เห็นด้วย (ดูเศาะฮิฺ อัตตัรฆีบ วัตตัรฮีบ 1/139)
.
ท่านรสูลไม่เพียงแต่ยกย่องผู้แสวงหาวิชาความรู้แต่เพียงผู้เดียว แต่ท่านยังได้สั่งเสียให้เหล่าเศาะหาบะฮฺของท่านและชนรุ่นหลังจากท่านเหล่านั้น ทำการยกย่อง ให้เกียรติ และเชิดชูบรรดาผู้แสวงหาความรู้อิสลามอีกด้วย
.
ความว่า จาก อบู สะอีด อัลคุดรีย (เราะฎิยัลลอฮุ อันฮุ) เล่าว่า
ท่านนบี(ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม) ได้กล่าวว่า "(ต่อไป) จะมีหมู่ชนหลายกลุ่มมาหาพวกท่านเพื่อแสวงหาวิชาความรู้ ดังนั้นเมื่อพวกท่านพบเห็นพวกเขา ก็จงกล่าวว่า : "ขอต้อนรับพวกท่านด้วยคำสั่งเสียของท่านรสูลลุลลอฮฺ(ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม) และจงให้คำชี้ขาด(ตัดสินปัญหา)แก่พวกเขา " ในอีกรายงานหนึ่งระบุว่า " จงสอนพวกเขา หรือทำให้พวกเขาพึงพอใจ และจงให้ความช่วยเหลือแก่พวกเขาในด้านการอบรมพร้อมทั้งสิ่งจำเป็นอื่นๆ สำหรับพวกเขา
(หะสัน : บันทึกโดย อัตตริมีซย์ หมายเลข 2651, อิบนุมาญะฮฺ หมายเลข 247 (ดูเศาะฮี) อัลญามิอฺ หมายเลข 3545)
.
ด้วยเหตุนี้ทำให้ทุกครั้งที่มีนักศึกษาหรือผู้แสวงหาวิชาความรู้มาหาท่าน อบูสะอีดจะกล่าวต้อนรับว่า " ขอต้อนรับการมาเยือนของพวกท่านด้วยคำสั่งเสียของท่านรสูล(ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม) เพราะท่านรสูลได้สั่งเสียพวกเราให้ยกย่องและให้เกียรติพวกท่าน
(เศาะฮิ " บันทึกโดย อัลหากิม 1/180 (ดู สิลสิละฮฺ เศาะฮีฮฺ หมายเลข 280)
_________
.
นั่นคือ...ท่าทีของบรรดาเศาะหาบะฮฺ (เราะฎิยัลลอฮุ อันฮุม) และเหล่า อัสสะลัฟ อัศศอลิหฺ (เราะหิมะฮุมุลลอฮฺ) ที่มีต่อผู้แสวงหาวิชาความรู้อิสลาม ซึ่งต่างยกย่อง ให้เกียรติ ให้ความช่วยเหลือ และมีวาทะกริยาที่สุภาพและอ่อนโยนต่อพวกเขา เพราะน้อมรับคำสั่งเสียของท่านรสูล(ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม) ให้ยกย่องและให้เกียรติแก่พวกเขา ไม่ใช่เหยียดหยามดูหมิ่น หรือ ปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างหยาบคายและแข็งกระด้าง
.
ทำไมผู้แสวงหาวิชาความรู้อิสลามถึงมีสถานภาพที่สูงส่งเพียงนั้นในทัศนะของท่านรสูล(ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม) !
เหตุผลก็เพราะว่า สารัตถะแก่งการแสวงหาความรู้อิสลามที่แท้จริงนั้น คือการแสวงหาวะหฺยู (วิวรณ์) ของอัลลอฮฺ แสวงหาศาสนาของอัลลอฮฺ แสวงหาแสงสว่างและวิทยปัญญาจากอัลลอฮฺ แสวงหาสุนนะฮฺของท่านรสูลุลลอฮฺ แสวงหาสัจธรรมของอัลลอฮฺยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นการแสวงหาความพึงพระทัยของอัลลอฮฺ และสวนสวรรค์ของพระองค์ ดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า การแสวงหาสิ่งต่างๆ ดังกล่าวเป็นการแสวงหาที่มีเกียรติและมีคุณค่ามากมายเพียงใด ...

______
ดร. อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา
ผู้แปล อุษมานอิดรีส
ผู้ตรวจ ซุฟอัม อุษมาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น