#เอาข้อมูลมาให้อ่านครับ
#ทุ่งอารอฟะฮ์มีที่เดียวและวันอารอฟะฮฺมีวันเดียว
.
ทุ่งอารอฟะฮ์มีที่เดียว และวันอารอฟะฮฺมีวันเดียว
คือวันที่ 9 ซุลฮิจญะฮ์ เป็นวันที่ผู้ประกอบพิธีฮัจญ์
ประกอบพิธีที่ทำการวุกูฟ(หยุดอยู่) ณ ทุ่งอารอฟะฮ์
และเป็นวันที่มุสลิมทั่วโลกถือศิลอดสุนนะฮ์วันอารอฟะฮ์
(หะดิษระบุถือศิลอดในวันอาราฟะฮฺ ไม่ใช่ถือศิลอดวันที่ 9 ซุลฮิจญะฮ์ ดังนั้นวันที่ 9 ซุลฮิจญะฮ์ต้องกับวันอารอฟะฮ์) และวันที่ 10 เป็นวันอีดตามลำดับ
วันอาเราะฟะฮฺและวันอีดจึงต้องต้องตรงกันกับวันที่ผู้ประกอบบพิธีฮัจญ์ ณ ทุ่งอารอฟะฮฺ อาราเบีย
***เป็นไปไม่ได้ที่ผู้ประกอบพิธีฮัจญ์ประกอบพิธี ณ ทุ่งอารอฟะฮ์วันหนึ่ง
***และมุสลิมทั่วโลกที่ไม่ประกอบพิธีฮัจญ์ถือศิลอดสุนนะฮ์วันอารอฟะฮ์อีกวันหนึ่ง หรือผู้ประกอบพิธีฮัจญ์กับมุสลิมทั่วโลกกำหนดวันอารอฟะฮ์ตรงกันแต่วันอีดกลับคนละวันกันเช่นนี้
มันไม่ใช่สูตรของศาสนา
***วันอารอฟะฮ์กับวันอีด ต้องติดตามกันตามลำดับ คือวันที่ 9 และวันที่ 10 ซุลฮิจญะฮ์ และต้องเชื่อมต่อกันกับวันที่ผู้ประกอบพิธีฮัจญ์
***ถึงแม้เวลาแต่ละประเทศจะต่างกันไปบ้าง ก็ยังอยู่ในช่วงวันเวลาเดียวกัน
***เพราะวันตามปฏิทินอิสลามจะนับแต่เวลามักริบค่ำหนึ่งไปอีกเวลามักริบของอีกค่ำหนึ่งเป็นหนึ่งวัน และบางประเทศที่มีพื้นที่กว้างขวางอย่างประเทศจีนแคนาดา สหรัฐอเมริกา แต่ละพื้นที่เวลาอาจต่างกันแต่ก็กำหนดวันอีดพร้อมกันได้
.
ส่วนการดูจันทร์เสี้ยวมุสลิมทุกมุมโลกก็ต่างดูกัน
***หากมุสลิมที่ใดเห็นก่อนก็ถือว่าวันนั้นเห็นจันทร์เสี้ยวแล้ว หากประเทสไทยเห็นจันทร์เสียว ประเทศอื่นก็ต้องตามประเทศไทย ดั่งที่ท่านนบีกล่าวว่าเมื่อมุสลิมคนใดเห็นจันทร์เสี้ยว คือให้ถือว่าวันนั้นเป็นวันที่ 1 ของเดือนซุลฮิจญะฮ์
***หากประเทศไทยไม่เห็น ก็ให้ดูผลการดูจันทร์เสี้ยวประเทศอื่นต่อไป เช่น ดูผลการดูดวงจันทร์ของประเทศอิยิปต์ ประเทศซาอุดิอาราเบียเป็นต้น
***ซึ่งปัจจุบันการรับดูผลการดูดวงจันทร์ของต่างประเทศมันไม่ยากใดเลย ต่างกับเมื่อก่อนที่มีการสื่อสารไม่ดีเช่นปัจจุบัน จะทราบว่าวันที่ผู้ประกอบพิธีฮัจญ์ทำการวุกุฟ ณ ทุ่งอารอฟะฮ์วันใด ก็เมื่อผู้ประกอบพิธีฮัจญ์กลับมาหลังจากนั้นเป็นแรมเดือน
.
วัลลอฮุอะลัม
___
ท่านอบูฮุรอยเราะห์ ได้รายงานว่า
أَنَّ رَسُوْلَ اللهِ صَلى اللهُ عَليْهِ وَسَلَّمَ نَهَى عَنْ صِيَامِ يَوْمَيْنِ يَوْمِ الأضْحَى وَيَوْمِ الفِطْرِ
.
“แท้จริงท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ห้ามถือศีลอดสองวันนี้คือ วันอีดิ้ลอัฏฮา และวันอีดิ้ลฟิตร์” บันทึกโดยอิหม่ามมุสลิม ฮะดีษเลขที่ 1921
.
وَسُئِلَ عَنْ صَوْمِ يَوْمِ عَرَفَةَ فَقَالَ يُكَفِّرُ السَّنَةَ المَاضِيَّةَ وَاليَاقِيَّةَ
.
“ท่านนบีถูกถามเกี่ยวกับการถือศีลอดวันอะรอฟะห์ ท่านตอบว่า จะได้รับการอภัยโทษในปีที่ผ่านมาและปีถัดไป” (ศอเฮียะห์มุสลิม กิตาบุศศิยาม ฮะดีษเลขที่ 1977)
.
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
.
ما من يوم أكثر من أن يعتق فيه عبدا من النار من يوم عرفة
.
"ไม่มีวันใดที่อัลลอฮฺจะปลดปล่อยบ่าวของพระองค์จากไฟนรก ที่จะมากไปกว่าวันอะร่อฟะฮ์" (บันทึกหะดิษโดยมุสลิม)
.
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
.
صِيَامُ يَوْمِ عَرَفَةَ أحْتَسِبُ عَلى اللهِ أنْ يُكَفِّرَ السَنَةَ الَّتِي قَبْلَهُ وَالسَّنَةَ الَّتِي بَعْدَهُ
.
“การถือศีลอดวันอะรอฟะห์นั้น หวังว่าอัลลอฮ์จะอภัยโทษปีก่อนหน้านี้และปีถัดไป” (ศอเฮียะห์มุสลิม กิตาบุศศิยาม ฮะดีษเลขที่ 1976)
.
عَنْ أُمِّ الفَضْلِ بِنْتِ الحَارِثِ أنَّ نَاسًا تَمَارَوْا عِنْدَهَا يَوْمَ عَرَفَةَ فِي صِيَامِ رَسُوْلِ اللهِ صَلى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فَقَالَ بَعْضُهُمْ : هُوَ صَائِمٌ وَقَالَ بَعْضُهُمْ : لَيْسَ بِصَائِمٍ فَأرْسَلْتُ إلَيْهِ بِقَدَّحِ لَبَنٍ وَهُوَ وَاقِفٌ عَلى بَعِيْرِهِ بِعَرَفَةَ فَشَرِبَهُ
.
“รายงานจากอุมมุลฟัศล์ บินติลฮาริษ ว่า บรรดาผู้คน (หมายถึงศอฮาบะห์ที่ทำการวุกูฟอยู่ที่ทุ่งอะรอฟะห์) ต่างถกเถียงกัน ณที่เธอในวันอะรอฟะห์ เกี่ยวกับการถือศีลอดของท่านนบี ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม โดยที่บางคนกล่าวว่า ท่านนบีถือศีลอด และบางคนก็กล่าวว่า ท่านไม่ได้ถือศีลอด ดังนั้นฉันจึงส่งเหยือกนมให้แก่ท่าน ขณะที่ท่านวุกูฟอยู่บนอูฐของท่านที่ทุ่งอะรอฟะห์ แล้วท่านก็ดื่มมัน” (ศอเฮียะห์บุคอรี กิตาบุศเศาม์ ฮะดีษเลขที่ 1852)
.
***ท่านอิหม่ามนะวาวีย์ กล่าวไว้ในบทที่ว่าด้วยเรื่อง “สมควรงดถือศีลอดสำหรับผู้ทำฮัจญ์ ที่ทุ่งอะรอฟะห์ในวันอะรอฟะห์” ดังนี้
.
مذهب الشافعي ومالك وأبي حنيفة وجمهور العلماء استحباب فطر يوم عرفة بعرفة للحاج
.
***“มัซฮับชาฟีอี, มาลิกี, ฮานะฟีย์ และบรรดาญุมฮูรุ้ลอุลามาอ์ ถือว่าสมควรงดการถือศีลอดวันอะรอฟะฮฺที่ทุ่งอะรอฟะฮฺสำหรับผู้ทำฮัจญ์” อธิบายศอเฮียะห์มุสลิม โดยอิหม่ามนะวาวีย์ เล่มที่ 8 หน้าที่ 3
______
#ทุ่งอารอฟะฮ์มีที่เดียวและวันอารอฟะฮฺมีวันเดียว
.
ทุ่งอารอฟะฮ์มีที่เดียว และวันอารอฟะฮฺมีวันเดียว
คือวันที่ 9 ซุลฮิจญะฮ์ เป็นวันที่ผู้ประกอบพิธีฮัจญ์
ประกอบพิธีที่ทำการวุกูฟ(หยุดอยู่) ณ ทุ่งอารอฟะฮ์
และเป็นวันที่มุสลิมทั่วโลกถือศิลอดสุนนะฮ์วันอารอฟะฮ์
(หะดิษระบุถือศิลอดในวันอาราฟะฮฺ ไม่ใช่ถือศิลอดวันที่ 9 ซุลฮิจญะฮ์ ดังนั้นวันที่ 9 ซุลฮิจญะฮ์ต้องกับวันอารอฟะฮ์) และวันที่ 10 เป็นวันอีดตามลำดับ
วันอาเราะฟะฮฺและวันอีดจึงต้องต้องตรงกันกับวันที่ผู้ประกอบบพิธีฮัจญ์ ณ ทุ่งอารอฟะฮฺ อาราเบีย
***เป็นไปไม่ได้ที่ผู้ประกอบพิธีฮัจญ์ประกอบพิธี ณ ทุ่งอารอฟะฮ์วันหนึ่ง
***และมุสลิมทั่วโลกที่ไม่ประกอบพิธีฮัจญ์ถือศิลอดสุนนะฮ์วันอารอฟะฮ์อีกวันหนึ่ง หรือผู้ประกอบพิธีฮัจญ์กับมุสลิมทั่วโลกกำหนดวันอารอฟะฮ์ตรงกันแต่วันอีดกลับคนละวันกันเช่นนี้
มันไม่ใช่สูตรของศาสนา
***วันอารอฟะฮ์กับวันอีด ต้องติดตามกันตามลำดับ คือวันที่ 9 และวันที่ 10 ซุลฮิจญะฮ์ และต้องเชื่อมต่อกันกับวันที่ผู้ประกอบพิธีฮัจญ์
***ถึงแม้เวลาแต่ละประเทศจะต่างกันไปบ้าง ก็ยังอยู่ในช่วงวันเวลาเดียวกัน
***เพราะวันตามปฏิทินอิสลามจะนับแต่เวลามักริบค่ำหนึ่งไปอีกเวลามักริบของอีกค่ำหนึ่งเป็นหนึ่งวัน และบางประเทศที่มีพื้นที่กว้างขวางอย่างประเทศจีนแคนาดา สหรัฐอเมริกา แต่ละพื้นที่เวลาอาจต่างกันแต่ก็กำหนดวันอีดพร้อมกันได้
.
ส่วนการดูจันทร์เสี้ยวมุสลิมทุกมุมโลกก็ต่างดูกัน
***หากมุสลิมที่ใดเห็นก่อนก็ถือว่าวันนั้นเห็นจันทร์เสี้ยวแล้ว หากประเทสไทยเห็นจันทร์เสียว ประเทศอื่นก็ต้องตามประเทศไทย ดั่งที่ท่านนบีกล่าวว่าเมื่อมุสลิมคนใดเห็นจันทร์เสี้ยว คือให้ถือว่าวันนั้นเป็นวันที่ 1 ของเดือนซุลฮิจญะฮ์
***หากประเทศไทยไม่เห็น ก็ให้ดูผลการดูจันทร์เสี้ยวประเทศอื่นต่อไป เช่น ดูผลการดูดวงจันทร์ของประเทศอิยิปต์ ประเทศซาอุดิอาราเบียเป็นต้น
***ซึ่งปัจจุบันการรับดูผลการดูดวงจันทร์ของต่างประเทศมันไม่ยากใดเลย ต่างกับเมื่อก่อนที่มีการสื่อสารไม่ดีเช่นปัจจุบัน จะทราบว่าวันที่ผู้ประกอบพิธีฮัจญ์ทำการวุกุฟ ณ ทุ่งอารอฟะฮ์วันใด ก็เมื่อผู้ประกอบพิธีฮัจญ์กลับมาหลังจากนั้นเป็นแรมเดือน
.
วัลลอฮุอะลัม
___
ท่านอบูฮุรอยเราะห์ ได้รายงานว่า
أَنَّ رَسُوْلَ اللهِ صَلى اللهُ عَليْهِ وَسَلَّمَ نَهَى عَنْ صِيَامِ يَوْمَيْنِ يَوْمِ الأضْحَى وَيَوْمِ الفِطْرِ
.
“แท้จริงท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ห้ามถือศีลอดสองวันนี้คือ วันอีดิ้ลอัฏฮา และวันอีดิ้ลฟิตร์” บันทึกโดยอิหม่ามมุสลิม ฮะดีษเลขที่ 1921
.
وَسُئِلَ عَنْ صَوْمِ يَوْمِ عَرَفَةَ فَقَالَ يُكَفِّرُ السَّنَةَ المَاضِيَّةَ وَاليَاقِيَّةَ
.
“ท่านนบีถูกถามเกี่ยวกับการถือศีลอดวันอะรอฟะห์ ท่านตอบว่า จะได้รับการอภัยโทษในปีที่ผ่านมาและปีถัดไป” (ศอเฮียะห์มุสลิม กิตาบุศศิยาม ฮะดีษเลขที่ 1977)
.
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
.
ما من يوم أكثر من أن يعتق فيه عبدا من النار من يوم عرفة
.
"ไม่มีวันใดที่อัลลอฮฺจะปลดปล่อยบ่าวของพระองค์จากไฟนรก ที่จะมากไปกว่าวันอะร่อฟะฮ์" (บันทึกหะดิษโดยมุสลิม)
.
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
.
صِيَامُ يَوْمِ عَرَفَةَ أحْتَسِبُ عَلى اللهِ أنْ يُكَفِّرَ السَنَةَ الَّتِي قَبْلَهُ وَالسَّنَةَ الَّتِي بَعْدَهُ
.
“การถือศีลอดวันอะรอฟะห์นั้น หวังว่าอัลลอฮ์จะอภัยโทษปีก่อนหน้านี้และปีถัดไป” (ศอเฮียะห์มุสลิม กิตาบุศศิยาม ฮะดีษเลขที่ 1976)
.
عَنْ أُمِّ الفَضْلِ بِنْتِ الحَارِثِ أنَّ نَاسًا تَمَارَوْا عِنْدَهَا يَوْمَ عَرَفَةَ فِي صِيَامِ رَسُوْلِ اللهِ صَلى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فَقَالَ بَعْضُهُمْ : هُوَ صَائِمٌ وَقَالَ بَعْضُهُمْ : لَيْسَ بِصَائِمٍ فَأرْسَلْتُ إلَيْهِ بِقَدَّحِ لَبَنٍ وَهُوَ وَاقِفٌ عَلى بَعِيْرِهِ بِعَرَفَةَ فَشَرِبَهُ
.
“รายงานจากอุมมุลฟัศล์ บินติลฮาริษ ว่า บรรดาผู้คน (หมายถึงศอฮาบะห์ที่ทำการวุกูฟอยู่ที่ทุ่งอะรอฟะห์) ต่างถกเถียงกัน ณที่เธอในวันอะรอฟะห์ เกี่ยวกับการถือศีลอดของท่านนบี ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม โดยที่บางคนกล่าวว่า ท่านนบีถือศีลอด และบางคนก็กล่าวว่า ท่านไม่ได้ถือศีลอด ดังนั้นฉันจึงส่งเหยือกนมให้แก่ท่าน ขณะที่ท่านวุกูฟอยู่บนอูฐของท่านที่ทุ่งอะรอฟะห์ แล้วท่านก็ดื่มมัน” (ศอเฮียะห์บุคอรี กิตาบุศเศาม์ ฮะดีษเลขที่ 1852)
.
***ท่านอิหม่ามนะวาวีย์ กล่าวไว้ในบทที่ว่าด้วยเรื่อง “สมควรงดถือศีลอดสำหรับผู้ทำฮัจญ์ ที่ทุ่งอะรอฟะห์ในวันอะรอฟะห์” ดังนี้
.
مذهب الشافعي ومالك وأبي حنيفة وجمهور العلماء استحباب فطر يوم عرفة بعرفة للحاج
.
***“มัซฮับชาฟีอี, มาลิกี, ฮานะฟีย์ และบรรดาญุมฮูรุ้ลอุลามาอ์ ถือว่าสมควรงดการถือศีลอดวันอะรอฟะฮฺที่ทุ่งอะรอฟะฮฺสำหรับผู้ทำฮัจญ์” อธิบายศอเฮียะห์มุสลิม โดยอิหม่ามนะวาวีย์ เล่มที่ 8 หน้าที่ 3
______
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น