เชคมุฮัมมัด เป็นบุตรของอับดุลวะฮ์ฮาบ บุตรของสุไลมาน บุตรของอาลี
บุตรของมุฮัมมัด บุตรของอะห์มัด บุตรของรอชิด บุตรของบุรอยด์ อัตตะมีมีย์
อันนัจดีย์
.
ท่านเชคมุฮัมมัด
สืบเชื้อสายมาจากเผ่าตะมีมแห่งแค้วนนัจด์
บรรดานักประวัติทางสายพันธ์ต่างลงความเห็นว่า
ตระกูลตะมีมเป็นลูกหลานของอิสลาม บุตรมุฏ็อร
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เชื้อสายของท่านบรรจบลงกับเชื้อสายของท่านนะบีมุฮัมมัด
ที่ อิลยาส อิบนุมุฏ็อร ปู่ลำดับที่ 16 ของท่านนะบีมุฮัมมัด
เชคมุฮัมมัด อิบนุ อับดุลวะฮ์ฮาบ เกิดในปี ฮ.ศ.1115 / ค.ศ.1703 ณ
เมืองอุยัยนะฮ์ ในหุบเขาฮะนีฟะฮ์ ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของแค้วนนัจด์
และทิศตะวันตกเฉียงเหนือของอัรริยาฏ เมืองอุนัยยะฮ์ในสมัยนั้นมีสองตระกูล
ตระกูลที่มีอำนาจในการปกครองได้แก่ตระกูลมุอัมมัร
อีกตระกูลเป็นตระกูลทางด้านวิชาการและทางศาสนา คือ ตระกูลมุชัรรอฟ
ซึ่งเป็นตระกูลที่ เชคมุฮัมมัด อิบนุ อับดุลวะฮ์ฮาบ สังกัดอยู่
.
บิดาของท่านเป็นตุลาการของเมืองอุยัยนะฮ์ และเป็นนักฟิกฮ์
ตามแนวทางของอิหม่ามอะห์มัด อิบนุ ฮัมบัล ขณะเดียวกันท่านเชคมุฮัมมัด
ได้ทำการสอนวิชาฟิกฮ์และหะดิษให้แก่ผู้สนใจ ในเมืองอุนัยยะฮ์
ทั้งในมัสยิดและในบ้านของท่าน
ซึ่งการศึกษาในสมัยนั้นยังไม่เป็นระบบเช่นปัจจุบัน
เชคอับดุลวะฮ์ฮาบ
มีบุตร 2 คน คือ มุฮัมมัด และ สุไลมาน อัลลอฮ์ทรงเปิดหัวใจให้มุฮัมมัด
ได้มีความรู้แตกฉานจนได้รับฉายานามว่า "ชัยคุลอิสลาม"
เป็นผู้ฟื้นฟูการเผยแพร่ศาสนาอิสลามที่ถูกต้อง
และทำการปฏิรูปสังคมมุสลิมที่ยิ่งใหญ่ในแคว้นนัจด์
ซึ่งต่อมาได้แผ่ขยายออกไปยังทั่วคาบสมุทรอาหรับ และกลุ่มประเทศอิสลาม
การเผยแพร่อิสลามของเชคมุฮัมมัด อิบนุ อับดุลวะฮ์ฮาบ
เป็นการเผยแพร่ในแนวสลัฟ โดยยึดแนวทางมัซฮับ ฮัมบาลีย์ทางด้านฟิกซ์
และแนวทางอัลกุรอานและซุนนะฮ์ทางด้านอะกีดะฮ์ ส่วนสุไลมานเป็นนักวิชาการ
ดำรงตำแหน่งคุลาการในเมืองหุรอยมิลาอ์
.
การเจริญวัย
เชคมุฮัมมัด อิบนุ อับดุลวะฮ์ฮาบ เติบโตในบ้านแห่งวิชาการ
และมีความเคร่งครัดทางด้านศาสนา บิดาของท่านได้ทำหน้าที่อบรมและเลี้ยงดู
ทั้งยังได้สั่งสอนวิชาศาสนา และภาษาอาหรับให้กับท่าน
รวมทั้งฟิกฮ์ในแนวทางของอิหม่ามอะห์มัด อิบนุ ฮัมบัล
ท่านเป็นผู้ที่มีความเฉลียวฉลาด มีความจำเป็นเยี่ยม
โดยที่ท่านท่องจำอัลกุรอานได้จบเล่มเมื่ออายุได้ 10 ปี
.
ท่านอ่านหนังสือทุกชนิดที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือฟิกฮ์ ตัฟซีร หะดิษ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำราที่เขียนโดย เชคตะกียุดดีน อิบนุตัยมียะฮ์
และตำราของลูกศิษย์ของอิบนุตัยมียะฮ์ คือ อิบนุกอยยิม อัลเญาซียะฮ์
เตาฮีดที่ถูกต้อง และหลักการที่ตรงกันข้ามกับเตาฮีด
จึงทำให้ท่านเป็นผู้หนึ่งที่ได้รับการจารึกชื่อ ร่วมกับอิหม่ามทั้งสามท่าน
ซึ่งเรียกร้องให้ฟื้นฟู นามว่า "นาซิรุซซุนนะฮ์" (ผู้สนับสนุนซุนนะฮ์)
อิหม่ามชัยคุอิสลาม อิบนุตัยมียะฮ์ และอิหม่ามอิบนุกอยยิม อัลเญาซียะฮ์
ซึ่งอยู่ในบรรดานักฏิรูป และนักเผยแพร่ในประวัติศาสตร์อิสลาม
.
เชคอับดุลวะฮ์ฮาบ ทราบดีถึงความต้องการของบุตรชาย คือเชคมุฮัมมัด
ในการแสวงหาวิชาความรู้เพิ่มเติม
ท่านจึงอนุญาตให้เชคมุฮัมมัดออกเดินทางไปเพื่อแสวงหาวิชาความรู้
โดยที่ท่านได้เดินทางไปยังมักกะฮ์เพื่อประกอบพิธีฮัจญ์
แล้วเดินทางต่อไปยังเมืองมะดีนะฮ์ และพำนักอยู่ที่นั่นเพื่อแสวงหาความรู้
อาจารย์คนสำคัญของท่านได้แก่ เชคมุฮัมมัด หะยาต์ อัซซินดีย์ อัลมะดะนีย์
ผู้เขียนคำอธิบายโดยสรุปในหนังสือซอเฮี๊ยะฮ์อิหม่ามอัลบุคคอรีย์
.
ต่อมาท่านได้เดินทางกลับเมืองอุยัยนะฮ์ และเดินทางไปยังเมืองบัศเราะฮ์
โดยได้ติดต่อกับนักวิชาการในเมืองนั้น
และได้มีการอภิปรายกันเกี่ยวกับรากฐานทางอะกีดะฮ์ และเตาฮีด
ในที่สุดท่านก็ได้จากเมืองนั้น โดยเดินทางไปยังเมืองอะห์ซาอ์
ซึ่งเป็นแหล่งชุมนุมของนักวิชาการและนักปราชญ์
ซึ่งท่านได้รับความรู้อย่างมากมายจากบรรดานักวิชาการเหล่านั้น
ต่อจากนั้นเดินทางต่อไปยังเมืองหุรอยมิลาอ์
ซึ่งบิดาของท่านได้อพยพไปอาศัยอยู่ในเมืองนี้
.
ระหว่างที่ท่านอยู่ในเมืองหุรอยมิลาอ์
ท่านได้พบปะกับผู้คนและได้เห็นขนบธรรมเนียมทางด้านสังคม
และหลักความเชื่อถือในศาสนาที่ผิดๆ ซึ่งไม่มีความแตกต่างกับเมืองอื่นๆ
ในแคว้นนัจด์ ท่านจึงตั้งใจที่จะแก้ไขหลักการศรัทธาของชาวเมืองให้ถูกต้อง
พร้อมกับให้ยึดมั่นในแนวทางคัมภีร์อัลกุรอานและซุนนะฮ์ของท่านเราะซูล
ท่านได้นำเสนอทัศนะ อภิปรายแลกเปลี่ยนความเห็นกับบรรดานักวิชาการ
ท่านคัดค้านท่าทีของนักวิชาการที่นิ่งเฉย
โดยไม่ต่อต้านการกระทำที่เป็นบิดอะฮ์ (อุตริกรรม)
และการกระทำชิริก(ตั้งภาคี) แต่พวกเขาไม่ตอบสนองคำเรียกร้องของเชคมุฮัมมัด
อิบนุ อับดุลวะฮ์ฮาบ เพราะเกรงกลัวการกลั่นแกล้งของบรรดาผู้ปกครองเมือง
ซึ่งพวกเขาต้องการที่จะรักษาประเพณีเดิมๆเอาไว้
โดยไม่ยอมรับการพัฒนาและแก้ไข
.
เชคมุฮัมมัด อิบนุ อับดุลวะฮ์ฮาบ
เป็นผู้ที่มีจรรยามารยาทที่ดีงาม มีความสนใจในการอ่านตำรา พูดจาฉะฉาน
เป็นผู้ที่มีเหตุผลและมีหลักการในการหาหลักฐานมายืนยันเมื่อมีการอภิปรายและโต้แย้งกัน
ท่านอุทิศชีวิตของท่านในการเผยแพร่ศาสนาอิสลามด้วยความบริสุทธิ์ใจ
และด้วยความจริงจัง ท่านมีความมั่นใจในความรู้ของท่าน
หลังจากที่ท่านได้ท่องจำอัลกุรอาน
ท่านได้ให้ความสนใจในการศึกษาตำราของบรรดานักวิชาการผู้ปฏิรูปจำนวนมาก
จึงทำให้ท่านมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาทางด้านความคิด
ขจัดสิ่งที่เป็นอุตริกรรม และสิ่งไร้สาระออกจากคาบสมุทรอาหรับ
ด้วยความกล้าหาญ มีความฉลาดและมีไหวพริบ
ทำให้บรรดานักวิชาการและผู้นำในสำนักต่างๆ
ไม่อาจจะเอาชนะท่านได้ในทุกครั้งที่มีการอภิปรายกัน
ทำให้นักศึกษาและผู้แสวงหาความรู้ตามแนวทางสลัฟให้การสนับสนุนท่าน
จึงทำให้ชื่อเสียงของท่านขจรขจายไปทั่วคาบสมุทรอาหรับและในโลกอิสลาม
ในฐานะเป็นผู้ปฏิรูปและเรียกร้องเชิญชวนบรรดามุสลิมให้กลับมายึดมั่นในคำสอนของอิสลามที่ถูกต้องจากอัลกุรอานและซุนนะฮ์ของท่านเราะซูล
.
Fakprasert Kosem
ญาซากั้ลลอฮฺ ค็อยร็อน
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับบัง
(รออัพเดท)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น