#บิดอะฮเกี่ยวกับศาสนาและบิดอะฮเกี่ยวกับดุนยา
หะดิษผสมเกษรอินทผลัม
.
حَدَّثَنَا مُحَمَّدُ بْنُ يَحْيَى، حَدَّثَنَا عَفَّانُ، حَدَّثَنَا
حَمَّادٌ، حَدَّثَنَا ثَابِتٌ، عَنْ أَنَسِ بْنِ مَالِكٍ، وَهِشَامُ بْنُ
عُرْوَةَ، عَنْ أَبِيهِ، عَنْ عَائِشَةَ، أَنَّ النَّبِيَّ صلى الله عليه
وسلم سَمِعَ أَصْوَاتًا . فَقَالَ " مَا هَذَا الصَّوْتُ " .
قَالُوا النَّخْلُ يُؤَبِّرُونَهُ فَقَالَ " لَوْ لَمْ يَفْعَلُوا
لَصَلَحَ " . فَلَمْ يُؤَبِّرُوا عَامَئِذٍ فَصَارَ شِيصًا فَذَكَرُوا
لِلنَّبِيِّ صلى الله عليه وسلم فَقَالَ " إِنْ كَانَ شَيْئًا مِنْ
أَمْرِ دُنْيَاكُمْ فَشَأْنَكُمْ بِهِ وَإِنْ كَانَ شَيْئًا مِنْ أُمُورِ
دِينِكُمْ فَإِلَىَّ " .
.
จากท่านหญิงอาอิชะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา
เมื่อ ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ยินเสียงดังมาจากต้นอินผลัม ท่านได้กล่าวถามว่า " เสียงนี้คืออะไร? "
พวกเขา(ชาวสวนอินทผลัม)กล่าวตอบว่า
" พวกเรากำลังผสมเกสรอินทผลัม "
ท่านนบีฯจึงกล่าวว่า
" ถ้าพวกท่านไม่ทำอย่างนั้นมันอาจจะดีกว่านะ "
ในปีนั้นอินทผลัมก็ไม่ได้รับการผสมเกสร
และในปีนั้นอินทผลัมก็ไม่ติดผลอย่างที่เคย
ชาวสวนจึงนำเรื่องดังกล่าวไปบอกท่านนบีฯ
และท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม ได้กล่าวว่า ;
“หากว่ามีเรื่องใดก็ตามจากดุนยาของพวกเจ้า
มันก็เป็นหน้าที่ของพวกเจ้าในเรื่องนั้น
และแท้จริงหากมีเรื่องใดก็ตามจากของศาสนาของพวกเจ้า ก็จงกลับมาที่ฉัน”
เศาะฮีหฺ–อัลบานียฺ "เศาะฮีหฺ อิบนุ มาญะฮฺ" : 2019 , เศาะฮีหฺ–อัลบานียฺ "เศาะฮีหฺ อัลญามิอฺ" : 5601 ,
เศาะฮีหฺ อิบนุ หิบบาน : 22
.
ชัยค์อาลี บิน สุลฏอน มุหัมหมัด อัลกอรีย์ กล่าวว่า
مِنْ أَمْرِ دِينِكِمْ أَيْ مِمَّا يَنْفَعُكُمْ فِي أَمْرِ دِينِكُمْ (
فَخُذُوا بِهِ ) : أَيِ افْعَلُوهُ فَإِنِّي إِنَّمَا نَطَقْتُ بِهِ عَنِ
الْوَحْيِ ( وَإِذَا أَمَرْتُكُمْ بِشَيْءٍ مِنْ رَأْيِي ) . وَفِي
نُسْخَةٍ : مِنْ رَأْيٍ أَيْ مُتَعَلِّقٍ بِالدُّنْيَا الَّتِي لَا
ارْتِبَاطَ لَهَا بِالدِّينِ وَأَخْطَأْتُ فَلَا تَسْتَبْعِدُوا ، وَقِيلَ :
فَمَنْ شَاءَ فَعَلَهُ وَمَنْ شَاءَ لَمْ يَفْعَلْهُ ( فَإِنَّمَا أَنَا
بَشَرٌ ) ، أَيْ : فَإِنِّي بَشَرٌ أُخْطِئُ وَأُصِيبُ كَمَا جَاءَ فِي
خَبَرِ أَحْمَدَ
(เกี่ยวกับศาสนาของพวกท่าน) หมายถึง
จากสิ่งที่มีประโยชน์กับพวกท่าน ในเรื่องศาสนาของพวกท่าน(พวกท่านจงเอามัน)
หมายถึงพวกท่านจงปฏิบัติมัน เพราะความจริงฉัน พูดด้วยมันจากวะหยู (
และเมื่อฉันสั่งพวกท่านด้วยสิ่งใด เกี่ยวกับความเห็น ของฉัน)
และในสำเนาหนึ่ง ระบุว่า "จากความเห็น หมายถึง เกี่ยวกับทางดุนยา ที่
ไม่ผูกมัดมันกับเรื่องศาสนา และฉันผิดพลาด พวกท่านอย่าได้ออกห่าง
และถูกกล่าวว่า ผู้ใดประสงค์จะทำก็ทำ
ผู้ใดประสงค์(จะไม่ทำ)เขาก็ไม่ต้องทำมัน
(เพราะความจริงฉันคือมนุษย์ปุถุชนคนหนึ่ง )หมายถึง แท้จริงฉันเป็นมนุษย์
มีผิดพลาดและถูกต้อง ดังหะดิษที่มีมาในการบอกเล่าของอะหมัด
- มิรกอตุลมะฟาเตียะ ชัรหมิซกาติลมะศอเบียะ 1/346 อธิบายหะดิษหมายเลข 147 เรื่อง باب الاعتصام بالكتاب والسنة
_____
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้แยกระหว่างกิจการทางศาสนาและกิจการทางโลกไว้เรียกร้อยแล้ว คือ
ถ้าเป็นเรื่อง ศาสนา ก็จงปฏิบัติตามเพราะท่านนบีพูดมาจาก
วะหยู
แต่ถ้าเป็นความเห็นของท่านนบีเกี่ยวกับทางดุนยา
ที่ไม่ผูกมัดกับเรื่องศาสนา และ ผิดพลาด ก็อย่าออกห่าง หมายถึง ให้ปฏิบัติได้ แม้ท่านนบีจะไม่เห็นด้วย เช่น
กรณี การผสมเกสรอินทผลัม
.
#การประดิษฐ์สิ่งใหม่ในทางดุนยานั้น
ท่านอิบนุอับดิลบัร(ร.ฎ)ได้ชี้แจงชัดเจนว่า
وَأَمَّا ابْتِدَاعُ الْأَشْيَاءِ مِنْ أَعْمَالِ الدُّنْيَا فَهَذَا لَا حَرَجَ فِيهِ وَلَا عَيْبَ عَلَى فَاعِلِهِ
สำหรับ การประดิษฐสิ่งต่างๆ ขึ้นมาใหม่ ที่เกี่ยวกับบรรดาการกระทำ
ทางดุนยา(หรือทางโลก)นั้น ไม่มีความผิดใดๆ ในมัน
และไม่มีการตำหนิใดๆแก่ผู้ที่กระทำมัน
- ดู อัลอิสติซกาซ เล่ม 2 หน้า 67
.
ชัยค์มุหัมหมัด รอชีดริฎอ(ร.ฮ) กล่าวว่า
كل ما أحدثه الناس في أمر الدين ولم يأخذوه من كتاب الله أو سنة
رسوله المبينة لكتابه فهو بدعة سيئة وضلالة يستحق متبعها العقوبة في النار
، وإن لم يصح في الحديث زيادة : ( وكل ضلالة في النار ) فقد أتم الله
الدين وأكمله فمن
زاد فيه كمن نقص منه كلاهما جان عليه وغير راض بما شرعه الله ، وأعني
بالدين هنا : مسائل العقائد والعبادات والحلال والحرام دون الأحكام الدنيوية التي
فوض الشرع أمرها إلى أولي الأمر ليقيسوها على الأصول العامة التي وضعها
لها
ทุกๆสิ่งที่บรรดามนุษย์ประดิษฐ์ขึ้นใหม่ในกิจการศาสนา
และพวกเขาไม่ได้เอามันมาจากกิตาบุลลอฮ และสุนนะฮของรอซูลของพระองค์
ที่เป็นผู้อธิบายคัมภีร์ของพระองค์
มันคือ บิดอะฮที่เลวและหลงผิด
ที่ผู้ที่ปฏิบัติตามมันสมควรที่จะได้รับการลงโทษ ในนรก แม้ว่า
สำนวนหะดิษที่มีข้อความเพิ่มเติมที่ว่า(และทุกๆบิดอะฮอยู่ในนรก)จะไม่เศาะเฮียะก็ตาม
เพราะแท้จริง อัลลอฮได้ให้ศาสนาครบถ้วนและทรงให้มันสมบูรณ์แล้ว
ดังนั้น ผู้ใด เพิ่มเติม ในศาสนา ก็เหมือนกับผู้ที่ทำให้บกพร่องจากมัน
,ทั้งสองนั้น คือ ผู้ก่ออาชญากรรม ต่อ ศาสนา
และไม่ยอมรับด้วยสิ่งที่อัลลอฮได้ทรงบัญญัติมัน และ
ที่ข้าพเจ้าหมายถึง คำว่า ศาสนาในที่นี้ หมายถึง
บรรดาประเด็นเกี่ยวกับอะกีดะฮและอิบาดะฮ ,หะลาล และ หะรอม
อื่นจากบรรดาหุกุมต่างๆเกี่ยวกับทางโลก ที่ศาสนามอบหมายกิจการของมัน
ให้เป็นหน้าที่ของอุลิลอัมริ (หมายถึงอุลามาอฺ)
เพือพวกเขาจะได้เทียบเคียง(ทำการกิยาส)
บนบรรดารากฐานทั่วไป(ที่ระบุไว้กว้างๆ)ที่มันถูกวางเอาไว้
- ดูมัจญละฮอันมะนาร เล่ม 7 หน้า 58
หัวข้อ บิดอะฮเกี่ยวกับศาสนาและบิดอะฮเกี่ยวกับดุนยา
_____
สรุปคือ
.
1.บิดอะฮเกี่ยวกับกิจการศาสนาเป็นสิ่งที่เลวและหลงผิด
2. คำว่า "บิดอะฮในทางศาสนา หมายถึงประเด็น เกี่ยวกับอะกีดะฮและอิบาดะฮ,
เรื่อง หะลาล หะรอม ที่ไม่เกี่ยวกับบรรดาหุกุมทางดุนยา(ทางโลก)
2.
หุกุมต่างๆที่เกี่ยวกับทางโลกนั้น
ศาสนาได้มอบหมายให้บรรดาผู้รู้(อุลุลอัมริ)ทำการการกิยาส กับรากฐาน
ที่ระบุเอาไว้กว้างๆ ที่ศาสนาได้วางไว้แล้ว
4. ผู้ที่อุตริบิดอะฮในทางศาสนาคือ ผู้ก่ออาชญากรรมต่อศาสนา
_____
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
24/7/60
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น