บิดอะฮฺในการอิบาดะฮฺ(ต่อจากข้อ 14)
บิดอะฮฺ ในที่นี้หมายถึง " กิจการที่ท่านนบีมุฮัมมัด (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) มิได้กระทำและไม่มีบันทึกใดที่รายงานว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เคยกระทำแม้จะเป็นเพียงครั้งเดียวก็ตาม "
_
มีบิดอะฮฺในอิบาดะฮฺที่มุสลิมบางส่วนเชื่อและปฏิบัติ เช่น
_
15. อะซานแบบอุสมานในวันศุกร์ โดยทำอย่างสม่ำเสมอ คือ อะซานครั้งแรกของนมาซวันศุกร์ที่นิยมทำกันในปัจจุบัน หลังจากที่ความจำเป็นอย่างในสมัยท่านอุสมานได้หมดไปแล้ว (ในสมัยท่านอุสมานนั้น อะซานครั้งแรกเขาทำกันบนที่สูงในใจกลางตลาด เนื่องจากการอะซานที่มัสญิดนั้น ผู้ที่อยู่ในตลาดไม่ได้ยิน) ตามสุนนะอะซานวันศุกร์มีเพียงครั้งเดียว ดังนี้แหละที่ท่านอิมามชาฟีอีเห็นชอบด้วยตามที่ได้เขียนไว้ใน "อัล-อุม" ของท่าน ฉะนั้น ถ้าเราจะทำตามแบบอย่างสุนนะฮฺ ก็ให้อะซานเพียงครั้งเดียว โดยอะซานที่ประตูมัสญิดหลังจาก ที่เคาะฎีบได้ให้สลามและนั่งลงบนมิมบัรแล้ว
_
16. อิมามเข้ามัสญิดก่อนเวลานมาซแล้วทำนมาซตะฮียะตุล-มัสญิดและนมาซสุนนะฮฺอื่นๆ ตามสุนนะฮฺ ผู้ที่จะเป็นอิมามนมาซวันศุกร์นั้นไปมุสญิดเข้าเวลานมาซแล้ว เมื่อไปถึงก็ให้เข้ามัศยิดทางประตูที่ใกล้กับมิมบัรมากที่สุดและเลยไปขึ้นบนมิมบัรโดยไม่ต้องนมาซตะฮียะตุล-มัสญิด การนมาซตะฮียะตุล-มัสญิดของเคาะฎีบในวันศุกร์นั้นเป็นการกระทำที่ขัดกับแบบอย่างของสุนนะฮฺ
_
17. กล่าว " อามีน " ตอนที่เคาะฎีบขอดุอาอฺ และกล่าว " เราะฎิยัลลอฮุ อันฮุ " ตอนที่เคาะฎีบกล่างถึงชื่อสาวกของทานนบี (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม)
_
18. นมาซสุนนะฮฺ " ก็อบลียะฮฺ ญุมอัด " อย่างสม่ำเสมอ คือนมาซ 2 ร็อกอะฮฺ หลังจากอะซานญุมอัตครั้งแรก
การนมาซก็อบลียะฮฺชนิดนี้ ไม่มีปรากฏในสุนนะฮฺ แม้ว่าในเวลานมาซซุฮฺรมีนมาซสุนนะฮฺก็อบลียะฮฺของซุฮฺรก็ตาม แต่ในเรื่องนี้จะเปรียบเทียบ(กิยาศ) นมาซซุฮฺรฺกับนมาซวันศุกร์ไม่ได้
_
19. ดุอาฮฺ ให้กับบรรดาผู้นำ ในขณะกล่าวคุฏบะฮฺ
_
20. กล่าว "เศาะลาตุต- ตะรอวีหฺ เราะหิมะกุมุลลอฮฺ " หรือ " อะษาบะกุมุลลอฮฺ " ก่อนที่จะนมาซตะรอวีหฺ และกล่าว "ตะหฺลีล" ทุกๆ สองร็อกกะอะฮฺของนมาซตะรอวีหฺ
_
21. อ่านสูเราะหฺ " อัน-นาส " ก่อนจะกล่าวตักบีรและการกล่าว " ร็อบ-บิจญ์อัลนี มุกีมัศ-เศาะลาติ วะ-มินซุรรียะตี..." จบจบอายะก็เป็นบิดอะอฺเช่นกัน
22. กล่าวตักบีร (ตักบีรเราะตุล-อิหฺรอม) โดยการลากเสียงให้ยาวจนถึง 12 หะเรากัต ในระหว่างนั้น ให้นึกถึงทุกอย่างที่เกี่ยวกับการนมาซ รวมทั้งการเกาะศ็อด , ตะอัรรุฎ , ตะอฺยินและอื่นๆ อีกให้พร้อมสรรพ
การกระทำอย่างนี้ ไม่ปรากฏในสุนนะ แม้ว่าจะมีหนังสือหลายเล่มที่แต่งขึ้นสมัยหลังๆ นี้ เขียนว่า : การกระทำอย่างนี้เป็นการดีเยี่ยมก็ตาม และการที่มะฮฺมูมกล่าวตักบีรเราะตุลอิหฮรอมเสียงดังกว่าอิมามก็เป็นบิดอะอฺเช่นกัน
_
23. ไม่กล่าวดุอาอฺ อิฟติตาหฺ หลังจากตักบีเราะตุล-อิหฺรอม ซึ่งบรรดาผู้ที่ตามมัซฮับมาลิกีนิยมทำกัน
_
24. ไม่ออกขณะยืนนมาซ โดยมือลงดังที่บรรดาที่ถือมัซฮับมาลิกีทำ มีหะดิษที่่เศาะฮีหฺหลายบทที่กล่าวถึงท่านนบี (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ได้กอดอกในขณะนมาซ แม้แต่ในหนังสือ " มุวัฎเฎาะอฺ " ของท่านอิมามมาลิกเองก็มีกล่าวถึงหะดิษที่แสดงถึงการกอดอกในขณะยืนนมาซด้วย
_
25. ทาบมือที่หน้าด้านซ้าย ตามสุนนะฮฺ ให้ทาบที่หน้าอก
_
26. การกล่าว " อัลลอฮุม-มัฆฟิรลี วะลิวาลิดัยยะ วะ-*ลิลมุสลิมีน " หลังจากอ่านฟาติหะฮฺจบแล้ว ก่อนที่จะกล่าว " อามีน "
ตามสุนนะฮฺให้มะอฺมูมกล่าว " อามีน " พร้อมๆกับอิมาม โดยไม่กล่าวคำอะไรก่อนหน้านั้น
_
27. อ่ายอายะส่วนใดส่วนหนึ่งจาก อัล-กุรอาน หลังจากอ่านฟาติหะฮฺแล้ว ตามสุนนะฮฺให้อ่านสูเราะฮฺจากต้นจนจบ หรือ ถึงกึ่งหนึ่งของสูเราะฮฺ มิใช่หยิบเอามาอ่ายอายะใดอายะฮฺหนึ่งของสูเราะฮฺ
ท่านนบี (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) เคยอ่านอายะฮฺเดียวหลังจากอ่าน " อัล-ฟาติหะฮฺ " ในนมาซสุนนะศุบหฺ เท่านั้น ที่ว่าผู้ใดอ่านสูเราะฮฺ " อัล-อินชิรอหฺ " และ สูเราะฮฺ อัล-ฟีล ในนมาซศุบหฺและมัฆริบ แล้วโรคภัยไข้เจ็บจะไม่เข้าใกล้เขานั้น เป็นหะดิษที่ไม่ถูกต้อง
_
28. อ่าน " กุนูต " ในนมาซศุบหฺ เป็นประจำ
หะดิษที่กล่าวถึงการกุนูตเป็นประจำนั้น เป็นหะดิษที่อ่อนหลักฐานที่สุด ไม่มีหะดิษเศาะฮีหฺบทใดที่กล่าวถึงท่านนบี (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ได้อ่านกุนูตเป็นประจำ ด้วยเหตุนี้ บรรดาสาวกส่วนหนึ่งได้กล่าวว่า การอ่านกุนูตเป็นประจำนั้น เป็นบิดอะอฺ และการคว่ำมือขณะที่อ่านถึงตอน " ลา ยะซิลลุ มัน วาลายต์" นั้นเป็นบิดอะอฺ อย่างหนึ่ง
_
29. การกล่าว " วะ-บิฮัมดิฮฺ " ในตัสบีหฺ รุกูอ และสุญุด
ในหะดีษเศาะฮีหฺและหะดีษหะสัน ไม่ได้ระบุถึงการกล่าวคำ " วะ-บิฮัมดิฮฺ " แต่อย่างใด
_
30. เพิ่มคำว่า " สัยยิดินา " ในเศาะละวาด หลังจากการกล่าวตะชะฮฺฮุดจบแล้ว การกล่าวเช่นนี้ไม่มีปรากฏในหะดิษจากท่านนบี (ศ้อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) เลย
(คือ แทนที่จะกล่าว "อัลลอฮุมมะ ศ็อลลิ อะลา มุฮัมมัด , วะ อะลาอาลิ มุฮัมมัด ) กลับเพิ่มเติม( อัลลอฮุมมะ ศ็อลลิ อะลา สัยยิดินา มุฮัมมัด , วะ อะลาอาลิ สัยยิดินา มุฮัมมัด )
_
31. การกล่าวอิสติฆฟารฺ พร้อมๆ กัน ด้วยเสียงดัง ๆ
ตามสุนนะฮฺให้ต่างคนต่างอ่านอย่างเบาๆ
_
32. การกล่าว "อัสอะลุกัล - เฟาซะ บิล-ญันนะฮฺ" หลังจากให้สลามข้างขวาและกล่าว " อะอูซุ บิกะมินัน-นารฺ" หลังจากให้สลามหันไปข้างซ้ายและการลูบหน้าด้วยมือ
_
33. อ่าน " สุบหานะ มัน ลา ยัสฮู วะลา ยะนามุ" ในสุญูด สะฮฺวี (สุญูด อันเนื่องจากลืมอย่างใดอย่างหนึ่งในนมาซ)
เรื่องนี้ไม่มีปรากฏในหะดีษของท่านนบีฯ นอกจากพบในฝันของนักศูฟีคนหนึ่งเท่านั้น
_
34. นมาซซุฮฺรฺหลังจากนมาซวันศุกร์ มีหลักฐานมากมายที่แสดงถึงความเป็นบิดอะฮฺของการนมาซซุฮฺรฺหลังจากนมาซวันศุกร์ แต่ก็มีผู้คนบางพวกยังพยายามทำ โดยพวกเขาถือว่า การนมาซซูฮุรฺหลังจากนมาซวันศุกร์นั้นเป้นการนมาซ "อิอาดฮฺ"
____________
ไว้ต่อที่เหลือครับ อินชา อัลลอฮฺ
_
จากหนังสือ นมาซของท่านนบี มุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม P 118-121
ครูอิสมาอีล อะหฺมัด
สมาคมญัมอียะตุลอิสลาม
บิดอะฮฺ ในที่นี้หมายถึง " กิจการที่ท่านนบีมุฮัมมัด (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) มิได้กระทำและไม่มีบันทึกใดที่รายงานว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เคยกระทำแม้จะเป็นเพียงครั้งเดียวก็ตาม "
_
มีบิดอะฮฺในอิบาดะฮฺที่มุสลิมบางส่วนเชื่อและปฏิบัติ เช่น
_
15. อะซานแบบอุสมานในวันศุกร์ โดยทำอย่างสม่ำเสมอ คือ อะซานครั้งแรกของนมาซวันศุกร์ที่นิยมทำกันในปัจจุบัน หลังจากที่ความจำเป็นอย่างในสมัยท่านอุสมานได้หมดไปแล้ว (ในสมัยท่านอุสมานนั้น อะซานครั้งแรกเขาทำกันบนที่สูงในใจกลางตลาด เนื่องจากการอะซานที่มัสญิดนั้น ผู้ที่อยู่ในตลาดไม่ได้ยิน) ตามสุนนะอะซานวันศุกร์มีเพียงครั้งเดียว ดังนี้แหละที่ท่านอิมามชาฟีอีเห็นชอบด้วยตามที่ได้เขียนไว้ใน "อัล-อุม" ของท่าน ฉะนั้น ถ้าเราจะทำตามแบบอย่างสุนนะฮฺ ก็ให้อะซานเพียงครั้งเดียว โดยอะซานที่ประตูมัสญิดหลังจาก ที่เคาะฎีบได้ให้สลามและนั่งลงบนมิมบัรแล้ว
_
16. อิมามเข้ามัสญิดก่อนเวลานมาซแล้วทำนมาซตะฮียะตุล-มัสญิดและนมาซสุนนะฮฺอื่นๆ ตามสุนนะฮฺ ผู้ที่จะเป็นอิมามนมาซวันศุกร์นั้นไปมุสญิดเข้าเวลานมาซแล้ว เมื่อไปถึงก็ให้เข้ามัศยิดทางประตูที่ใกล้กับมิมบัรมากที่สุดและเลยไปขึ้นบนมิมบัรโดยไม่ต้องนมาซตะฮียะตุล-มัสญิด การนมาซตะฮียะตุล-มัสญิดของเคาะฎีบในวันศุกร์นั้นเป็นการกระทำที่ขัดกับแบบอย่างของสุนนะฮฺ
_
17. กล่าว " อามีน " ตอนที่เคาะฎีบขอดุอาอฺ และกล่าว " เราะฎิยัลลอฮุ อันฮุ " ตอนที่เคาะฎีบกล่างถึงชื่อสาวกของทานนบี (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม)
_
18. นมาซสุนนะฮฺ " ก็อบลียะฮฺ ญุมอัด " อย่างสม่ำเสมอ คือนมาซ 2 ร็อกอะฮฺ หลังจากอะซานญุมอัตครั้งแรก
การนมาซก็อบลียะฮฺชนิดนี้ ไม่มีปรากฏในสุนนะฮฺ แม้ว่าในเวลานมาซซุฮฺรมีนมาซสุนนะฮฺก็อบลียะฮฺของซุฮฺรก็ตาม แต่ในเรื่องนี้จะเปรียบเทียบ(กิยาศ) นมาซซุฮฺรฺกับนมาซวันศุกร์ไม่ได้
_
19. ดุอาฮฺ ให้กับบรรดาผู้นำ ในขณะกล่าวคุฏบะฮฺ
_
20. กล่าว "เศาะลาตุต- ตะรอวีหฺ เราะหิมะกุมุลลอฮฺ " หรือ " อะษาบะกุมุลลอฮฺ " ก่อนที่จะนมาซตะรอวีหฺ และกล่าว "ตะหฺลีล" ทุกๆ สองร็อกกะอะฮฺของนมาซตะรอวีหฺ
_
21. อ่านสูเราะหฺ " อัน-นาส " ก่อนจะกล่าวตักบีรและการกล่าว " ร็อบ-บิจญ์อัลนี มุกีมัศ-เศาะลาติ วะ-มินซุรรียะตี..." จบจบอายะก็เป็นบิดอะอฺเช่นกัน
22. กล่าวตักบีร (ตักบีรเราะตุล-อิหฺรอม) โดยการลากเสียงให้ยาวจนถึง 12 หะเรากัต ในระหว่างนั้น ให้นึกถึงทุกอย่างที่เกี่ยวกับการนมาซ รวมทั้งการเกาะศ็อด , ตะอัรรุฎ , ตะอฺยินและอื่นๆ อีกให้พร้อมสรรพ
การกระทำอย่างนี้ ไม่ปรากฏในสุนนะ แม้ว่าจะมีหนังสือหลายเล่มที่แต่งขึ้นสมัยหลังๆ นี้ เขียนว่า : การกระทำอย่างนี้เป็นการดีเยี่ยมก็ตาม และการที่มะฮฺมูมกล่าวตักบีรเราะตุลอิหฮรอมเสียงดังกว่าอิมามก็เป็นบิดอะอฺเช่นกัน
_
23. ไม่กล่าวดุอาอฺ อิฟติตาหฺ หลังจากตักบีเราะตุล-อิหฺรอม ซึ่งบรรดาผู้ที่ตามมัซฮับมาลิกีนิยมทำกัน
_
24. ไม่ออกขณะยืนนมาซ โดยมือลงดังที่บรรดาที่ถือมัซฮับมาลิกีทำ มีหะดิษที่่เศาะฮีหฺหลายบทที่กล่าวถึงท่านนบี (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ได้กอดอกในขณะนมาซ แม้แต่ในหนังสือ " มุวัฎเฎาะอฺ " ของท่านอิมามมาลิกเองก็มีกล่าวถึงหะดิษที่แสดงถึงการกอดอกในขณะยืนนมาซด้วย
_
25. ทาบมือที่หน้าด้านซ้าย ตามสุนนะฮฺ ให้ทาบที่หน้าอก
_
26. การกล่าว " อัลลอฮุม-มัฆฟิรลี วะลิวาลิดัยยะ วะ-*ลิลมุสลิมีน " หลังจากอ่านฟาติหะฮฺจบแล้ว ก่อนที่จะกล่าว " อามีน "
ตามสุนนะฮฺให้มะอฺมูมกล่าว " อามีน " พร้อมๆกับอิมาม โดยไม่กล่าวคำอะไรก่อนหน้านั้น
_
27. อ่ายอายะส่วนใดส่วนหนึ่งจาก อัล-กุรอาน หลังจากอ่านฟาติหะฮฺแล้ว ตามสุนนะฮฺให้อ่านสูเราะฮฺจากต้นจนจบ หรือ ถึงกึ่งหนึ่งของสูเราะฮฺ มิใช่หยิบเอามาอ่ายอายะใดอายะฮฺหนึ่งของสูเราะฮฺ
ท่านนบี (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) เคยอ่านอายะฮฺเดียวหลังจากอ่าน " อัล-ฟาติหะฮฺ " ในนมาซสุนนะศุบหฺ เท่านั้น ที่ว่าผู้ใดอ่านสูเราะฮฺ " อัล-อินชิรอหฺ " และ สูเราะฮฺ อัล-ฟีล ในนมาซศุบหฺและมัฆริบ แล้วโรคภัยไข้เจ็บจะไม่เข้าใกล้เขานั้น เป็นหะดิษที่ไม่ถูกต้อง
_
28. อ่าน " กุนูต " ในนมาซศุบหฺ เป็นประจำ
หะดิษที่กล่าวถึงการกุนูตเป็นประจำนั้น เป็นหะดิษที่อ่อนหลักฐานที่สุด ไม่มีหะดิษเศาะฮีหฺบทใดที่กล่าวถึงท่านนบี (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ได้อ่านกุนูตเป็นประจำ ด้วยเหตุนี้ บรรดาสาวกส่วนหนึ่งได้กล่าวว่า การอ่านกุนูตเป็นประจำนั้น เป็นบิดอะอฺ และการคว่ำมือขณะที่อ่านถึงตอน " ลา ยะซิลลุ มัน วาลายต์" นั้นเป็นบิดอะอฺ อย่างหนึ่ง
_
29. การกล่าว " วะ-บิฮัมดิฮฺ " ในตัสบีหฺ รุกูอ และสุญุด
ในหะดีษเศาะฮีหฺและหะดีษหะสัน ไม่ได้ระบุถึงการกล่าวคำ " วะ-บิฮัมดิฮฺ " แต่อย่างใด
_
30. เพิ่มคำว่า " สัยยิดินา " ในเศาะละวาด หลังจากการกล่าวตะชะฮฺฮุดจบแล้ว การกล่าวเช่นนี้ไม่มีปรากฏในหะดิษจากท่านนบี (ศ้อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) เลย
(คือ แทนที่จะกล่าว "อัลลอฮุมมะ ศ็อลลิ อะลา มุฮัมมัด , วะ อะลาอาลิ มุฮัมมัด ) กลับเพิ่มเติม( อัลลอฮุมมะ ศ็อลลิ อะลา สัยยิดินา มุฮัมมัด , วะ อะลาอาลิ สัยยิดินา มุฮัมมัด )
_
31. การกล่าวอิสติฆฟารฺ พร้อมๆ กัน ด้วยเสียงดัง ๆ
ตามสุนนะฮฺให้ต่างคนต่างอ่านอย่างเบาๆ
_
32. การกล่าว "อัสอะลุกัล - เฟาซะ บิล-ญันนะฮฺ" หลังจากให้สลามข้างขวาและกล่าว " อะอูซุ บิกะมินัน-นารฺ" หลังจากให้สลามหันไปข้างซ้ายและการลูบหน้าด้วยมือ
_
33. อ่าน " สุบหานะ มัน ลา ยัสฮู วะลา ยะนามุ" ในสุญูด สะฮฺวี (สุญูด อันเนื่องจากลืมอย่างใดอย่างหนึ่งในนมาซ)
เรื่องนี้ไม่มีปรากฏในหะดีษของท่านนบีฯ นอกจากพบในฝันของนักศูฟีคนหนึ่งเท่านั้น
_
34. นมาซซุฮฺรฺหลังจากนมาซวันศุกร์ มีหลักฐานมากมายที่แสดงถึงความเป็นบิดอะฮฺของการนมาซซุฮฺรฺหลังจากนมาซวันศุกร์ แต่ก็มีผู้คนบางพวกยังพยายามทำ โดยพวกเขาถือว่า การนมาซซูฮุรฺหลังจากนมาซวันศุกร์นั้นเป้นการนมาซ "อิอาดฮฺ"
____________
ไว้ต่อที่เหลือครับ อินชา อัลลอฮฺ
_
จากหนังสือ นมาซของท่านนบี มุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม P 118-121
ครูอิสมาอีล อะหฺมัด
สมาคมญัมอียะตุลอิสลาม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น