.
كفى بالمرء كذبا أن يحدث بكل ما سمع
.
"พอเพียงแล้วที่จะได้ชื่อว่า เป็นคนโกหก คือ การที่เขา รายงานด้วยทุกสิ่งที่ได้ยินมา"
– รายงานโดยมุสลิม
.
และอิบนุหิบบาน ได้กล่าวในหนังสือของท่านเล่มเดียวกัน หน้าที่ 9 ว่า
.
في هذا الخبر زجر للمرء أن يحدث بكل ما سمع حتى يعلم علم اليقين صحته
.
ในหะดิษนี้คือการสัมทับ(เตื่อนให้ระวัง) แก่บุคคล ว่าอย่ารายงานทุกสิ่งที่เขาได้ยินมา จนกว่าจะรู้อย่างแน่ใจว่า มันถูกต้อง(เศาะเฮียะ)
.
ท่านอัลลามะฮ อะหมัด ชากิร กล่าวว่า
.
لا فرقَ بين الأحكام وبين فضائل الأعمال ونحوها في عدم الأخذ بالرواية الضعيفة ، بل لا حجةَ لأحدٍ إلا بما صحَّ عن رسول الله صلى الله عليه وسلم من حديث صحيحٍ أو حسنٍ .
.
"ไม่มีการแบ่งแยก ระหว่างเรื่องหุกุม (ว่าด้วยกฎข้อบังคับของศาสนา) และ ระหว่าง เรื่อง ความประเสริฐ ของบรรดาการงาน (ฟะฏออิลุ้ลอะอฺม้าล)
และในทำนองนั้น ในการที่ไม่อนุญาตให้ยึดเอารายงานที่เฏาะอีฟแต่ตรงกันข้ามไม่อนุญาตให้บุคคลใด อ้างอิงหลักฐานนอกจากด้วย สิ่งที่เศาะเฮียะ จากท่าน
ร่อซูลุ้ลลอฮ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จากหะดิษเศาะเฮียะ หรือ หะดิษหะซัน
- อัลบาอิษุลหะษีษ เล่ม 1 หน้า 278
.
การนำหะดิษเฎาะอีฟมาอ้างนั้น หนีไม่พ้น การคาดเดา หรือ เดาสุ่มเอา การปฎิบัติในสิ่งที่ไม่แน่นอน หรือ คาดคะเนเอาเองนั้น ศาสนาห้าม ดังหลักฐานที่
ได้ระบุแล้วคือ
.
وَإِنَّ الظَّنَّ لَا يُغْنِي مِنَ الْحَقِّ شَيْئاً
.
"และแท้จริงการคาดคะเนนั้นจะไม่อำนวยประโยชน์อันใดแก่ความจริงได้"
.
ท่านนบี ศฮลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า
.
إياكم والظن فإن الظن أكذب الحديث
.
"พวกท่านพึงระวัง การคาดคะเน แท้จริงการคาดคะเนนั้น เป็นคำพูดที่โกหก"
– มุตตะฟักอะลัญฮิ
.
"และแท้จริงการคาดคะเนนั้นจะไม่อำนวยประโยชน์อันใดแก่ความจริงได้"
.
ท่านนบี ศฮลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า
.
إياكم والظن فإن الظن أكذب الحديث
.
"พวกท่านพึงระวัง การคาดคะเน แท้จริงการคาดคะเนนั้น เป็นคำพูดที่โกหก"
– มุตตะฟักอะลัญฮิ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น