ใครบอกหรือว่าอายาตเกี่ยวกับคุณลักษณะของอัลลอฮไม่มีใครรู้ความหมาย
มีคนบางส่วนอ้างว่า บรรดาคุณลักษณะของอัลลอฮที่ระบุในอัลกุรอ่านและหะดิษ ความหมายของคำที่มีมาตามตัวบท เป็นความหมายที่ไม่ต้องการ ไม่มีใครรู้ความหมายนอกจากอัลลอฮเท่านั้น
จึงทำเกิดอะกีดะฮแบบนกแก้วนกขุนทอง คือ สอนให้ท่อง ให้จำคุณลักษณะของอัลลอฮ ซึ่งเกี่ยวกับหลักความเชื่อ(อะกีดะฮ)ในอิสลาม แต่ห้ามแปลและห้ามรู้ความหมายเพราะเป็นความหมายที่อัลลอฮไม่ต้องการ
นี่คือความหายนะ....บอกได้คำเดียวว่าหายนะ เพราะเป็นการอ้างว่า อัลลอฮและท่านนบี ศ็อลฯ ได้สอนอะกีดะฮ หรือหลักศรัทธาในการรู้จักพระเจ้า ในสิ่งที่ไม่รู้ความหมาย ซึ่งขัดแย้งกับเจตนารมณ์ของอัลกุรอ่าน ดังที่อัลลอฮตาอาลาตรัสว่า
إِنَّا أَنزَلْنَاهُ قُرْآنًا عَرَبِيًّا لَّعَلَّكُمْ تَعْقِلُونَ
แท้จริงพวกเราได้ให้อัลกุรอานแก่เขาเป็นภาษาอาหรับ เพื่อพวกเจ้าจะใช้ปัญญาคิด-ยูซูฟ/2
......
1.อิบนุญะรีร อัฏเฏาะบะรีย์ (ร.ฮ)ปราชญ์นักตัฟสีรยุคสะลัฟอธิบายว่า
إِنَّا أَنْزَلْنَا هَذَا الْكِتَاب الْمُبِين قُرْآنًا عَرَبِيًّا عَلَى الْعَرَب ; لِأَنَّ لِسَانهمْ وَكَلَامهمْ عَرَبِيّ , فَأَنْزَلْنَا هَذَا الْكِتَاب بِلِسَانِهِمْ لِيَعْقِلُوهُ وَيَفْقَهُوا مِنْهُ , وَذَلِكَ قَوْله عَزَّ وَجَلَّ : { لَعَلَّكُمْ تَعْقِلُونَ }
แท้จริงเราได้ประทานคัมภีร์ที่ชัดเจนนี้ เป็นอัลกุรอ่านภาษาอาหรับ แก่ชาวอาหรับ เพราะแท้จริง คือภาษาและคำพูดของพวกเขา คือภาษาอาหรับ แล้วเราได้ประทานคัมภีร์นี้ ด้วยภาษาของพวกเขา เพือพวกเขาจะได้ รู้มันและทำความเข้าใจจากมัน และดังกล่าวนั้น คือคำตรัสของพระองค์อัซซาวะญัลลา ที่ว่า(เพื่อพวกเจ้าจะใช้ปัญญาคิด) -ดูตัฟสีรอัฏฏ็อบะรีย์ อรรถาธิบาย อายะฮที่ 2 ซูเราะฮยูซูฟ
2.อิหม่ามอัลกุรฏุบีย์(ร.ฮ) ได้อธิบายว่า
{ لعلكم تعقلون} أي لكي تعلموا معانيه، وتفهموا ما فيه
( เพื่อพวกเจ้าจะใช้ปัญญาคิด) หมายถึง เพื่อพวกเจ้าจะได้รู้บรรดาความหมายของมัน และพวกเจ้าทำความเข้าใจสิ่งที่อยู่ในมัน - ดู ตัฟสีรอัลกุฏุบีย์ อรรถาธิบาย อายะฮที่ 2 ซูเราะฮยูซูฟ
.......
1.ไม่มีสักอายะฮเดียว และไม่มีสักหะดิษสักบทเดียวที่บอกว่า ความหมายของอายาตและหะดิษสิฟาต ตามตัวบทคือความหมายที่ไม่ต้องการ
2.ไม่มีสักอายะฮเดียว และไม่มีสักหะดิษสักบทเดียวที่บอกว่า ห้ามรู้และแปลความหมายในทางภาษาของอายาตและหะดิษสิฟาต ที่มีมาตามตัวบท
3.ไม่มีสักอายะฮเดียว และไม่มีสักหะดิษสักบทเดียวที่บอกว่า ความหมายของอายาตและหะดิษสิฟาต ตามตัวบทคือความหมายที่ไม่ต้องการ และให้ตีความ(ตะวี้ล)เปลี่ยนความหมายให้กินกับปัญญา
สำหรับทัศนะที่อ้างว่า อายาตสิฟาตคือ มุตะชาบิฮาต(อายาตที่มีข้อความเป็นนัย ) ที่ไม่มีใครรู้ความหมายนั้น ท่านชัยคุลอิสลาม อิบนุตัยมียะฮ (ร.ฮ)ได้กล่าวโต้แย้งว่า
فَنَقُولُ أَمَّا الدَّلِيلُ عَلَى [ بُطْلَانِ ] ذَلِكَ فَإِنِّي مَا أَعْلَمُ عَنْ أَحَدٍ مِنْ سَلَفِ الْأُمَّةِ وَلَا مِنْ الْأَئِمَّةِ لَا أَحْمَد بْنِ حَنْبَلٍ وَلَا غَيْرِهِ أَنَّهُ جَعَلَ ذَلِكَ مِنْ الْمُتَشَابِهِ الدَّاخِلِ فِي هَذِهِ الْآيَةِ وَنَفَى أَنْ يَعْلَمَ أَحَدٌ مَعْنَاهُ . وَجَعَلُوا أَسْمَاءَ اللَّهِ وَصِفَاتِهِ بِمَنْزِلَةِ الْكَلَامِ الْأَعْجَمِيِّ الَّذِي لَا يُفْهَمُ وَلَا قَالُوا : إنَّ اللَّهَ يُنْزِلُ كَلَامًا لَا يَفْهَمُ أَحَدٌ مَعْنَاهُ وَإِنَّمَا قَالُوا كَلِمَاتٍ لَهَا مَعَانٍ صَحِيحَةٌ . قَالُوا فِي أَحَادِيثِ الصِّفَاتِ : تَمُرُّ كَمَا جَاءَتْ . وَنَهَوْا عَنْ تَأْوِيلَاتِ الجهمية
เราจะกล่าวว่า สำหรับหลักฐานทีแสดงถึงความเป็นโมฆะ ของทัศนะดังกล่าวนั้นคือ แท้จริงข้าพเจ้า ไม่รู้เลยว่า คนใดจากสะสัฟแห่งอุมมะฮ , จากบรรดาอิหม่าม ,อะหมัด บิน หัมบัล และคนอื่นๆจากเขา ว่า เขาได้กำหนด(อายาตสิฟาต)ดังกล่าวนั้น ให้เป็นส่วนหนึ่งจาก มุตะชาบิฮาต ที่อยู่ในอายะฮนี้ (ในอายะอที่ 17 ซูเราะฮ์อาลิอิมรอน ) และปฏิเสธว่าไม่มีคนใดรุู้ ความหมายของมัน (ข้าพเจ้าไม่รู้เลยว่า)พวกเขา กำหนดให้บรรดาพระนามของอัลลอฮและคุณลัษณะของพระองค์ อยู่ในฐานะเช่นดียวกับภาษาต่างชาติที่ไม่ถูกเข้าใจ(ความหมาย) และพวกเขา(สะลัฟ)ไม่เคยกล่าวว่า “แท้จริง อัลลอฮประทานคำพูดลงมา ที่ไม่มีคนใดรู้ความหมายของมัน และความจริงพวกเขา(สะลัฟ)กล่าวว่า “ บรรดาถ้อยคำของมันนั้น มีบรรดาความหมายที่ถูกต้อง ,พวกเขา(สะลัฟ)กล่าวเกี่ยวกับบรรดาหะดิษสิฟาตว่า “ปล่อยให้ผ่านไปดังเช่นสิ่งที่มีมา” และพวกเขาห้ามตีความ(ตะวีล)ของบรรดาพวกญะฮมียะฮ – มัจญมัวะฟะตาวา 13/295
สรุปจากคำอิบายของอิบนุตัยมียะฮคือ
1. ไม่มีสะลัฟคนใดกำหนดให้อายาตสิฟาตเป็นส่วนหนึ่งจากอายาตมุตะชาบิฮาต ที่ไม่มีใครรู้ความหมาย
2. ไม่มีสะลัฟคนใดบอกว่า อัลลอฮได้ประทานคำพูดลงมา ไม่มีคนใดเข้าใจความหมาย
3. สะลัฟกล่าวว่า บรรดาถ้อยคำของอายาตสิฟาตนั้น มีบรรดาความหมายที่ถูกต้อง
4. สะลัฟจะกล่าวเกี่ยวกับบรรดาหะดิษสิฟาตว่า ให้ปล่อยมัน ตามที่มันได้มีมาตามตัวบท
5. สะลัฟห้ามตีความแบบญะฮมียะฮ
อะสัน หมัดอะดั้ม
2/2/63
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น