﴿زكاة النقدين﴾
] ไทย – Thai – تايلاندي [
มุหัมมัด บิน อิบรอฮีม
อัตตุวัยญิรีย์
แปลโดย :
อิสมาน จารง
ผู้ตรวจทาน : ซุฟอัม
อุษมาน
ที่มา : หนังสือมุคตะศ็อร
อัลฟิกฮิล อิสลามีย์
2011 -
1432
﴿زكاة النقدين﴾
«
باللغة التايلاندية »
الشيخ محمد بن إبراهيم التويجري
ترجمة: عثمان جارونج
مراجعة: صافي عثمان
المصدر: كتاب مختصر الفقه الإسلامي
2011 -
1432
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตา ปรานียิ่งเสมอ
2- ซะกาตทองและเงิน
หุก่มการจ่ายซะกาตทองและเงินบริสุทธิ์
จำเป็นต้องจ่ายซะกาตทองคำและเงินบริสุทธิ์
ไม่ว่าจะอยู่ในรูปของเหรียญ แท่ง เครื่องประดับ หรือเป็นก้อน เมื่อมีจำนวนครบพิกัดและครบรอบปี
1- อัลลอฮฺได้ตรัสว่า
ความว่า
“และบรรดาผู้ที่สะสมทองและเงิน และไม่จ่ายมันในทางของอัลลอฮฺนั้น
จงแจ้งข่าวดีแก่พวกเขาเถิดด้วยการลงโทษอันเจ็บปวด วันที่มันจะถูกเผาไฟนรกแห่งญะฮันนัม
แล้วหน้าผากของพวกเขาและสีข้างของพวกเขา และหลังของพวกเขาจะถูกนาบด้วยมัน นี่แหละคือสิ่งที่พวกเจ้าได้สะสมไว้เพื่อตัวของพวกเจ้าเอง ดังนั้นจงลิ้มรสสิ่งที่พวกเจ้าสะสมไว้เถิด” (อัต-เตาบะฮฺ 34-35)
2- จากอบู
สะอีด อัล-คุดรีย์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม
ได้กล่าวว่า
«لَيْسَ فِيمَا دُونَ خَمْسِ أَوَاقٍ صَدَقَةٌ، وَلَيْسَ فِيمَا دُونَ خَمْسِ
ذَوْدٍ صَدَقَةٌ، وَلَيْسَ فِيمَا دُونَ خَمْسِ أَوْسُقٍ صَدَقَةٌ»
ความว่า
“ทรัพย์สินที่ไม่ครบห้าอูกิยะฮฺ(หน่วยชั่งชนิดหนึ่ง)ไม่ต้องจ่ายซะกาต อูฐที่ไม่ครบห้าตัวไม่ต้องจ่ายซะกาต
ธัญญพืชที่ไม่ครบห้าวะสัก(หน่วยตวงชนิดหนึ่ง)ไม่ต้องจ่ายซะกาตเช่นกัน” (อัล-บุคอรีย์
1405 มุสลิม 979)
ปริมาณพิกัดทองคำ
- ทองหากถึงปริมาณยี่สิบดีนาร์หรือมากกว่านั้น
ถือว่าต้องจ่ายซะกาตจำนวนหนึ่งส่วนสี่ของหนึ่งส่วนสิบ (ร้อยละสองจุดห้า)
-
หนึ่งดีนาร์ของทองมีน้ำหนักเท่ากับหนึ่งมิษกอล
และหนึ่งมิษกอลเทียบกับมาตรวัดในปัจจุบันเท่ากับ 4.25 กรัม
- ยี่สิบดีนาร์เท่ากับ 85 กรัมทองคำ นั้นคือ 20 × 4.25 = 85 กรัมทองคำ ซึ่งถือเป็นค่าต่ำสุดของพิกัดทองคำ
ปริมาณพิกัดเงิน
- เงินหากถึงปริมาณสองร้อยดิรฮัม
หรือมากกว่านั้น หรือมีน้ำหนักห้าอูกิยะฮฺหรือเกินกว่านั้นถือว่าต้องจ่ายซะกาตจำนวนหนึ่งส่วนสี่ของหนึ่งส่วนสิบ(ร้อยละสองจุดห้า)
- สองร้อยดิรฮัมมีน้ำหนักเท่ากับ
595 กรัมหรือเท่ากับ 56 เหรียญเงินบริสุทธิ์ซาอุดิอาระเบีย
และหนึ่งเหรียญเงินบริสุทธิ์ซาอุดิอาระเบียปัจจุบันมีค่าเท่ากับ 7 ริยาลซาอุดิอาระเบีย
ดังนั้นจึงแสดงการคูณได้ดังนี้ 7 × 56 = 392 ริยาลซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นค่าต่ำสุดของพิกัดเงินธนบัตรซาอุดิอาระเบีย
ซึ่งต้องจ่ายหนึ่งส่วนสี่ของหนึ่งส่วนสิบ นั่นก็คือเท่ากับ 9.8 ริยาล หรือคิดเป็นร้อยละ
2.5
การทำรูปพรรณทองและเงินมีสามลักษณะคือ
1-
หากมีเจตนาในการทำเพื่อการค้าถือว่าต้องเสียซะกาตค้าขาย
หนึ่งส่วนสี่ของหนึ่งส่วนสิบ(ร้อยละสองจุดห้า)เพราะมันกลายเป็นสินค้าที่ค้าขายจึงต้องตีค่าเป็นสกุลเงินประเทศนั้นแล้วจึงจ่ายซะกาต
2-
หากมีเจตนาในการทำดังกล่าวเพื่อเป็นของมีค่า
เช่นภาชนะเครื่องใช้ อย่างมีด ช้อน กาน้ำ เป็นต้น
ถือว่าหะรอมแต่ต้องจ่ายซะกาตหากครบพิกัดเป็นจำนวนหนึ่งส่วนสี่ของหนึ่งส่วนสิบ
3-
หากมีเจตนาในการทำเพื่อใช้สอยในสิ่งมุบาหฺ(ศาสนาอนุญาต)
หรือให้ยืม ถือว่าต้องจ่ายซะกาต จำนวนหนึ่งส่วนสี่ของหนึ่งส่วนสิบหากถึงพิกัดและครบรอบปี
ซะกาตเงินธนบัตรต่างๆ
(เงินตราสกุลต่างๆ ในปัจจุบัน)
เงินตราต่างๆ ในปัจจุบันเช่น
ริยาล ดอลลาร์ บาท เป็นต้น หุก่มของมันเหมือนกับทองและเงิน ต้องตีค่าตามราคาของมัน
หากถึงพิกัดทองหรือเงิน ถือว่าต้องจ่ายซะกาตจำนวนหนึ่งส่วนสี่ของหนึ่งส่วนสิบ(ร้อยละสองจุดห้า)เมื่อครบรอบปี
วิธีการคิดพิกัดซะกาตธนบัตร(เงินตราในปัจจุบัน)
ให้ตีค่าธนบัตรเป็นพิกัดทองหรือเงิน
ดังนั้นเมื่อค่าต่ำสุดของพิกัดทองคือ 85 กรัม และสมมุติว่าราคาทองหนึ่งกรัมเท่ากับ 40 ริยาลซาอุดิอารเบีย ให้เราคูณค่าพิกัดทองเข้ากับราคาต่อกรัม ดังนี้ 85 × 40 = 3400 ริยาล
นี้คือค่าต่ำสุดของพิกัดธนบัตร(เงินตราปัจจุบัน)
ซึ่งต้องจ่ายหนึ่งส่วนสี่ของหนึ่งส่วนสิบ นั้นคือเท่ากับ 85 ริยาลซาอุดิอาระเบีย
หรือเท่ากับ ร้อยละสองจุดห้า เป็นต้น
ในการคิดจำนวนซะกาตธนบัตร(เงินตราปัจจุบัน)มีหลายวิธี
1-
แบ่งทรัพย์สินเป็น 40 ส่วน แล้วเอาออกหนึ่งส่วนสี่ของหนึ่งส่วนสิบ (2.5%)ซึ่งเป็นส่วนที่วาญิบสำหรับซะกาตทองและเงินและสิ่งที่อยู่ในลักษณะเดียวกับทั้งสองประเภทนี้ ตัวอย่างเช่น หากบุคคลมีเงิน 80,000 ริยาล คิดได้ดังนี้ 80,000 ÷ 40 = 2,000 ริยาล และนี่คือจำนวนซะกาตของเงิน 80,000 ริยาล นั้นคือคิดเป็นส่วนสี่ของหนึ่งส่วนสิบ
2-
หรือแบ่งทรัพย์สินเป็น 10 ส่วน หนึ่งส่วนจากจำนวนนั้นแบ่งออกเป็นสี่ส่วน
ผลที่ได้คือจำนวนซะกาตที่วาญิบ ตัวอย่างเช่น หากเงินมีจำนวน 100,000 คิดดังนี้ 100,000 ÷ 10 = 10,000 แล้วนำมาแบ่งสี่
ดังนี้ 10,000 ÷ 4 = 2,500
จำนวน 2,500 นี้คือซะกาตที่วาญิบของเงิน
100,000 เป็นต้น
หุก่มซะกาตเครื่องประดับ(ทองและเงิน)ที่เก็บไว้ใช้
อนุญาตให้สุภาพสตรีสวมใส่ตามธรรมเนียมทั่วไปของสตรีโดยไม่ฟุ่มเฟือยไม่ว่าจะเป็นทองหรือเงิน
และนางต้องจ่ายซะกาตหากครบพิกัดและครบรอบปี แต่หากนางไม่รู้หุก่มให้จ่ายทันทีที่รู้
และปีผ่านๆ มาก่อนที่จะรู้ถือว่าไม่ต้องจ่าย
เพราะบทบัญญัติศาสนาถือว่าไม่ต้องปฏิบัติจนกว่านางจะรู้ (แต่ถ้านางอยู่ในสภาพที่จะเรียนรู้ได้แต่ไม่ยอมเรียนรู้ถือว่าไม่พ้นผิดและต้องชดเชยสิ่งที่ผ่านมา
- ผู้แปล)
หุก่มซะกาตเครื่องเพชรและไข่มุก
เพชร ไข่มุก
หินมีค่า(อัญมณี)และสิ่งอื่นๆ ที่คล้ายกัน หากมีไว้เพื่อใช้สวมใส่
ถือว่าไม่ต้องจ่ายซะกาต แต่หากมีไว้เพื่อการค้าก็ให้เทียบค่ากับพิกัดของทองและเงิน
หากครบพิกัดและครบรอบปีต้องจ่ายซะกาตจำนวนหนึ่งส่วนสี่ของหนึ่งส่วนสิบ(ร้อยละสองจุดห้า)
- จะไม่ต้องนำทองไปรวมกับเงินเพื่อให้ครบพิกัด แต่ในส่วนของราคาสินค้านั้นจะต้องรวมเข้ากับทั้งทองหรือเงินเพื่อคำนวนให้ครบพิกัดซะกาต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น