ห้ามการอิจฉา
] ไทย – Thai – تايلاندي [
ดร.รอชิด บิน หุเสน อัล-อับดุลกะรีม
แปลโดย : สะอัด วารีย์
ตรวจทานโดย : ฟัยซอล อับดุลฮาดี
ที่มา : หนังสือ อัด-ดุรูส อัล-เยามียะฮฺ มิน อัส-สุนัน วะ อัล-อะห์กาม อัช-ชัรอียะฮฺ,
เว็บ al-islam.com
2014 - 1435
النهي عن الحسد
« باللغة
التايلاندية »
د. راشد بن حسين
العبد الكريم
ترجمة: سعد واري
مراجعة:
فيصل عبدالهادي
المصدر: كتاب الدروس اليومية من السنن والأحكام الشرعية
موقع الإسلام www.al-islam.com
2014 - 1435
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ
ผู้ทรงเมตตา ปรานียิ่งเสมอ
ห้ามการอิจฉา
ท่านอนัส เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้รายงานว่าท่านนบี
ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า
»لَا تَبَاغَضوا وَلا تَحَاسَدوا وَلَا تَدَابَروا وَلا تَقَاطَعوا
وَكُونُوا عِبَادَ اللهِ إِخْوانا، لَا يَحِل لِمُسْلِمٍ أَن يَهْجُرَ أَخَاه فَوْقَ
ثَلَاث» [متفق عليه[
“พวกท่านจงอย่าโกรธกัน อย่าอิจฉากัน อย่าหันหลังให้กัน อย่าตัดสัมพันธ์กัน
และจงเป็นบ่าวของอัลลอฮฺฉันท์พี่น้อง
ไม่อนุญาตให้มุสลิมคนใดหมางเมินพี่น้องของเขาเกินกว่าสาม(วัน)” บันทึกโดยอัล-บุคอรียฺ
และมุสลิม
ท่านอบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวว่า ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า
»لَا تَحَاسَدوا وَلَا تَنَاجَشوا وَلَا تَبَاغَضوا وَلَا تَدَابَروا
وَلَا يَبِعْ بَعْضُكم عَلى بَيْعِ بَعْض، وَكُوْنُوا عِبَادَ اللهِ إِخْوانا، المُسْلِم
أَخو المسلم: لَا يُظْلِمه وَلَا يَخْذِلُه وَلَا يَكْذِبُه وَلَا يَحْقِرُه، التَقْوَى
ههنا - يُشِيْر إِلى صَدْرِه، ثَلَاثَ مَرّاتٍ- بِحَسْبِ امْرِيءٍ مِن الشّر أَن يَحْقِرَ
أَخاه المسلم، كُلّ المسلم على المسلم حرامٌ دَمُهُ وَمَالُهُ وَعِرْضُهُ» [أخرجه
مسلم[
“พวกท่านจงอย่าอิจฉากัน จงอย่าล่อลวงกัน
จงอย่าจงหันหลังให้กัน และบางคนจงอย่าขายตัดหน้าของอีกบางคน
และจงเป็นบ่าวของอัลลอฮฺฉันท์พี่น้อง มุสลิมเป็นพี่น้องของมุสลิม ไม่อธรรมเขา
ไม่เหยียบย่ำเขา ไม่โกหกใส่เขา และไม่เหยียดหยามเขา
และความยำเกรง(ตักวา)อยู่ตรงนี้ –ท่านได้ชี้ตรงหน้าอกของท่าน 3 ครั้ง-
คนๆหนึ่งทำบาปมากพอแล้วกับการดูแคลนพี่น้องมุสลิมของเขา
บรรดามุสลิมกับมุสลิมนั้นที่เป็นต้องห้ามกัน ทั้งเลือดเนื้อของเขา ทรัพย์สินของเขา
และเกียรติของเขา” บันทึกโดยมุสลิม
ท่านอิบนุ มัสอูด เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวว่า ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า
»لَا حَسَدَ إِلّا فِي اثْنَتَيْنِ: رَجُلٌ آتاهُ اللهُ مَالًا فَسَلَّطَه
عَلى هَلَكَتِهِ بِالحَقّ (أي: إِنفَاقُه) ، وَرَجُلٌ آتاهُ اللهُ الحِكْمَةَ فَهُوَ
يَقْضِي بِها وَيُعَلِّمُها» [متفق عليه[
“ไม่มีการอิจฉาใด(อนุญาตให้ทำได้)เว้นแต่สองประการ คือ
คนๆหนึ่ง อัลลอฮฺให้เขามีทรัพย์สิน(มากมาย)
แล้วเขาก็จัดการมันให้หมดไปในทางอันชอบ(คือใช้ในหนทางของอัลลอฮฺ)
และคนๆหนึ่งที่อัลลอฮฺให้เขามี ฮิกมะฮฺ (คือรู้จักใช้ปัญญา)
แล้วเขาก็ใช้มัน(กับตัวเอง) และสอนมัน(ให้ผู้อื่น)” บันทึกโดยอัล-บุคอรียฺ และมุสลิม
(คำว่า
ไม่มีการอิจฉา คือ ไม่ควรที่คนใดจะถูกอิจฉา
เว้นแต่เขามีข้อใดข้อหนึ่งในสองลักษณะนี้)
อธิบาย
ความอิจฉา คือ
ความไม่อยากเห็นสิ่งดีงามเกิดขึ้นกับผู้อื่น และหวังให้มันมลายสิ้นไป มันเป็นลักษณะที่น่ารังเกียจที่ท่านเราะสูลุลลอฮฺ
ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะสัลลัม
ได้ห้ามเอาไว้เพราะมันเป็นบ่อเกิดความเสียหายในระหว่างมุสลิม
และเกิดความไม่พอใจต่อกัน และยังเป็นเหตุให้เกิดการทำร้ายกันได้ และท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะสัลลัม ได้บอกอีกว่า
การหวังอยากมีเหมือนคนอื่นเพื่อจะได้แข่งขันทำความดีในเรื่องศาสนานั้นไม่ถือเป็นการอิจฉาที่น่าตำหนิ
ประโยชน์ที่ได้รับ
·
ห้ามการอิจฉาระหว่างมุสลิม
·
การอยากได้ทำดีเหมือนคนอื่นไม่ใช่เป็นการอิจฉา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น