187732 : มันอนุญาตสำหรับคนธรรมดาที่จะกล่าว"โอ้ อัลลอฮ์,ให้อภัยแก่ฉัน,ประทานความเมตตาบนฉันและรวมฉันกับบรรดาสหายผู้สูงกว่า(บรรดาคนดี เป็นต้น) หรือไม่
วันที่เผยแพร่ : 27-10-2014
คำถาม
ฉันกำลังประหลาดใจว่ามันอนุญาตสำหรับมุสลิมธรรมดาเช่นตัวฉันในการขอดุอาที่ท่านนบี(ﷺ)ได้ปฏิบัติตอนใกล้ความตายของท่าน:
( " اللَّهُمَّ اغْفِرْ لِي وَارْحَمْنِي وَأَلْحِقْنِي بِالرَّفِيقِ الأَعْلَى )
อัลลอฮุมมา อัฆฟิรลี วัรฮัมนี วา อัลฮิกนี บิรรอฟีกิล-อะลา.
ตอบ
มวลการสรรเสริญเป็นของอัลลอฮ์.
ประการที่หนึ่ง:
อัล-บุคอรี (5674) และมุสลิม (2191) ได้รายงานว่าอาอีชะห์(รอดียัลลอฮูอันฮา)ได้กล่าว: ฉันได้ยินท่านนบี(ﷺ) กล่าว,ขณะที่เขาพิงที่หน้าอกของฉัน:"โอ้ อัลลอฮ์,ยกโทษให้กับฉัน,ประทานความเมตตาบนฉันและนำฉันเข้าร่วมกับบรรดาสหายผู้ที่อยู่สูงกว่า."
สิ่งที่หมายถึงโดย "บรรดาสหายผู้ที่สูงกว่า" คือการได้อยู่กับบรรดาผู้ที่อัลลอฮ์ได้โปรดปรานจากบรรดานบีหรือรอซูล,ซิดดีก,ผู้ตายในหนทางของอัลลอฮ์(ชาฮีด)และเหล่าผู้ที่มีคุณธรรม,ในสวน(สวรรค์)แห่งความปลื้มปิติยินดีที่อยู่สูงสุด. เมื่อคนที่มีคุณธรรมคนหนึ่งถูกทำให้ร่วมวงกับบรรดาสหายผู้ที่สูงกว่า,เขาจะไปสู่ระดับของเขา,ดังนั้นท่านนบีจะอยู่กับบรรดานบีหรือรอซูล,ซิดดีกจะอยู่กับบรดาซิดดีก,ผู้มีคุณธรรมจะอยู่กับบรดาผู้ที่มีคุณธรรม.
มันถูกรายงานว่าอาอีชะห์(รอดียัลลอฮูอันฮู)ได้กล่าว: ฉันเคยได้ยินว่าไม่มีนบี(ﷺ)ที่เคยได้เสียชีวิตจนกว่าเขาถูกเสนอทางเลือกระหว่างโลกนี้และโลกหน้า. ฉันได้ยินท่านนบี,ในช่วงเวลาของการป่วยที่ซึ่งเขาได้เสียชีวิต,(เขา)พูดด้วยเสียงที่แหบ:"
ในกลุ่มของผู้ที่อัลลอฮ์ทรงประทานความโปรดปรานของพระองค์,จากบรรดานบีหรือรอซูล,บรรดาซิดดีกูน(บรรดาลูกศิษย์ของบรรดานบีหรือรอซูล ผู้เป็นคนแรกๆและดีเยี่ยมในความศรัธทากับพวกเขา(บรรดานบีหรือรอซูล),เช่น อาบู บักร์ อัซ-ซิดดีกิ(รอดียัลลอฮูอันฮู),ผู้ตายชาฮีด,และผู้มีคุณธรรม.และชนเหล่านี้แหละเป็นเพื่อนที่ดี!”[อัล-นิสาอฺ 4:69].
นางได้กล่าวว่า: และฉันคิดว่าเขา(นบี(ﷺ))ถูกมอบทางเลือกแล้ว ณ จุดนั้น.
รายงานโดย อัล-บุคอรี (4435) และมุสลิม (2444)
อิบนุ อับดุลบาร์ (รอฮีมาฮุลลอฮ์)ได้กล่าว:
เกี่ยวกับสำนวน"นำฉันเข้าร่วมกับบรรดาสหายผู้ที่อยู่สูงกว่า",ในมุมมองของพวกเขามันเป็นคำอ้างอิงกับโองการที่อัลลอฮ์,ผู้ทรงรุ่งโรจน์และสูงส่ง,ตรัส:
กุรอานซูเราะห์อัน-นิสาอ์ โองการที่ 69
وَمَن يُطِعِ اللَّهَ وَالرَّسُولَ فَأُولَٰئِكَ مَعَ الَّذِينَ أَنْعَمَ اللَّهُ عَلَيْهِم مِّنَ النَّبِيِّينَ وَالصِّدِّيقِينَ وَالشُّهَدَاءِ وَالصَّالِحِينَ ۚ وَحَسُنَ أُولَٰئِكَ رَفِيقًا ( 69 )
"...กับบรรดาผู้ที่อัลลอฮฺทรงกรุณาเมตตาแก่พวกเขา อันได้แก่บรรดานะบี บรรดาผู้ที่เชื่อโดยดุษฏี บรรดาผู้ที่เสียชีวิตในสงคราม และบรรดาผู้ที่ประพฤติดี และชนเหล่านี้แหละเป็นเพื่อนที่ดี".
[อัน-นิสาอ์ 4:69].
จบอ้างจาก
"الاستذكار" (3 /85) .
อิบนุ กาษิร(รอฮีมาฮุลลอฮ์)ได้กล่าว:
นี่คือสิ่งที่ถูกให้ความหมายโดยสิ่งที่ท่านนบี(ﷺ)ได้กล่าวในฮาดิษบทอื่น:"โอ้ อัลลอฮ์,กับบรรดาสหายที่สูงกว่า"สามครั้ง.
จบอ้างจาก
"تفسير ابن كثير" (2 /353) .
อัล-ฮาฟิซ อิบนุ ฮาญาร์(รอฮีมาฮุลลอฮ์)ได้กล่าว:
ฉันเจอเนื้อหาเพิ่มเติมผ่านอะหมัด อิบนุ ฮาร์บ จากมุสลิม อิบนุ อิบรอฮีม,ชัยค์ ของ อัล-บุคอรี,หลังจากถ้อยคำ"ในช่วงเวลาการเจ็บป่วยที่เขา(ﷺ)ได้เสียชีวิต,(ท่านนบี)พูดด้วยเสียงที่แหบ":ฉันเริ่มได้ยินเขากล่าว,"กับบรรดาสหายผู้สูงกว่า,กับบรรดาผู้ที่อัลลอฮฺทรงกรุณาเมตตาแก่พวกเขา,อันได้แก่บรรดานบี..."
จบอ้างจาก
"فتح الباري" (8 /137) .
พื้นฐานต่อเรื่องนั้น,หลักการพื้นฐานคือว่าไม่มีสิ่งใดผิดกับคนๆหนึ่งกำลังขอพระเจ้าของเขาเพื่อให้เขาได้เข้าร่วมวงกับบรรดาสหายผู้สูงกว่าเมื่อเขาเสียชีวิต,และทำให้เขาได้ไปถึงระดับของผู้มีคุณธรรม; ดุอานั้นไม่ใช่สิ่งที่มีไว้สำหรับบรรดานบีหรือรอซูลเท่านั้น.
มันถูกรายงานว่าซัยด์ อิบนุ อัสลาม ได้กล่าว: อัล-มิสวาร์ อิบนุ มัฆรอมะห์ ไม่ได้สติหรือสลบไสล,จากนั้นเขาได้มาถึง(ฟื้น เป็นต้น)และได้พูดว่า:"ฉันถือการเป็นพยานว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใด(ที่ฉันเคารพสักการะ)ยกเว้นอัลลอฮ์และมุฮัมมัดเป็นศาสนฑูตของอัลลอฮ์.การอยู่ใกล้ชิดกับอัลลอฮ์เป็นที่รักต่อฉันมากกว่าโลกนี้และทุกสิ่งที่มีอยู่ในมัน.'อับดุรรอฮ์มาน อิบนุ เอาฟ์ อยู่ท่ามกลางเหล่าสหายที่สูงกว่า,"กับบรรดาผู้ที่อัลลอฮฺทรงเมตตากรุณาแก่พวกเขา อันได้แก่บรรดานะบี บรรดาผู้ที่เชื่อโดยดุษฏี บรรดาผู้ที่เสียชีวิตในสงคราม และบรรดาผู้ที่ประพฤติดี และชนเหล่านี้แหละเป็นเพื่อนที่ดี".
[อัน-นิสาอ์ 4:69].
รายงานโดย อิบนุ อาบี ดุนยะห์ ใน กีตาบ อัล-มุฮ์ตาดอรีน(หน้า 358); อิสนัดของมันซอเฮียะ
رواه ابن أبي الدنيا في "كتاب المحتضرين" (ص 358) بإسناد صحيح .
นักวิชาการคณะกรรมการอัล-ลัจนะห์ อัล-ดาอีมะห์(اللجنة الدائمة) ได้กล่าว:
อัลลอฮ์ได้ทรงห้ามแผ่นดินโลกผลาญกินร่างกายของบรรดานบีและศาสนฑูต,ดังนั้นพวกเขาจึงยังคงเหมือนเดิมดังที่เป็น, และพวกเขามีชีวิตอยู่ในหลุมฝังศพของพวกเขาในความหมายของชีวิตของอัล-บัรซาค,และอัลลอฮ์รู้ดีที่สุดว่ามันเป็นอย่างไร. มันไม่เป็นเหมือนชีวิตของพวกเขาในโลกนี้,และวิญญาณของพวกเขาอยู่ในสวรรค์.
เรื่องเดียวกันใช้กับวิญญาณของผู้ศรัธทาและวิญญาณของนบีมุฮัมมัดของเราท่ามกลางเหล่าสหายผู้สูงกว่าในสวรรค์.
จบอ้างจาก
"فتاوى اللجنة الدائمة" (2 /443) .
ประการที่สอง:
ดุอานี้ ไม่ควรถูกกล่าวยกเว้นในสองกรณี:
1. เมื่อความตายใกล้เข้ามาและบุคคลนั้นรู้ว่าเขากำลังจะตาย.ในกรณีนั้นไม่มีสิ่งใดผิดกับการกล่าวดุอานี้.
อัล-บุคอรี (5673) และมุสลิม (2682) ได้รายงานจากอาบู ฮูรอยเราะห์(รอดียัลลอฮูอันฮู)ว่าท่านรอซูลุลลอฮ์ได้กล่าว: "ไม่มีใครในหมู่พวกท่านที่ปรารถนาสำหรับความตายหรือวิงวอนขอสำหรับมันก่อนที่มันมาถึงเขา."
อัล-ฮาฟิซ(รอฮีมาฮุลลอฮ์)ได้กล่าว:
สิ่งที่เราเข้าใจจากฮาดิษนี้คือว่า เมื่อความตายใกล้เข้ามา,ไม่มีอะไรผิดกับการปรารถนาสำหรับมัน,จากความปรารถนาที่จะพบอัลลอฮ์. ด้วยเหตุผลนี้ อัล-บุคอรีได้ออกความเห็นฮาดิษของอาบู บักร์ โดยการอ้างฮาดิษของอาอีชะห์,"โอ้ อัลลอฮ์ ยกโทษให้กับฉัน,ประทานความเมตตาบนฉันและให้ฉันเข้าร่วมอยู่กับเหล่าสหายที่สูงกว่า", บ่งบอกว่าข้อห้ามมีผลบังคับใช้เฉพาะกับกรณีก่อนถึงความตาย.จบอ้าง.
2. เมื่อสิ่งที่แต่ละคนหมายถึงโดยการพูดว่า“ เมื่อความตายมาหาฉันจากนั้นนำฉันเข้าร่วมวงกับสหายที่สูงกว่า.”
นี่เป็นการวิงวอนขอของอิบรอฮีม อัลฆอลีล(อาลัยฮิสลาม):"
رَبِّ هَبْ لِي حُكْمًا وَأَلْحِقْنِي بِالصَّالِحِينَ ( 83 )
ข้าแต่พระเจ้าของฉัน! ขอพระองค์ทรงประทานความรู้(ทางศาสนาและการตัดสินที่ชอบธรรมของกิจการและความเป็นศาสนฑูต)และทรงให้ฉันอยู่รวมกับหมู่คนดีทั้งหลาย"
[อัช-ชุอะรออ์ 26:83].
อิบนุ กาษิร ได้กล่าวว่า:
นั่นคือ,ให้ฉันอยู่รวมกับหมู่คนดีในโลกนี้และโลกหน้า,ดังที่ท่านนบี(ﷺ)ได้กล่าวเมื่อตอนที่ท่านกำลังจะเสียชีวิต,"โอ้ อัลลอฮ์,บรรดาสหายที่สูงกว่า(หรือหมู่คนดีทั้งหลาย)."เขาได้กล่าวมันสามครั้ง.
จบอ้างจากตัฟซีร อิบนุ กาษิร (6/147)
"تفسير ابن كثير" (6 /147) .
ถ้าคนหนึ่งขอสำหรับสิ่งนี้,เขาต้องมุ่งมั่นอย่างหนักในการปฏิบัติการกระทำที่ชอบธรรมเพื่อที่ว่าอัลลอฮ์จะช่วยเขาอยู่รวมกับบรรดาสหายที่สูงกว่า(หรือหมู่คนดีทั้งหลาย),ในตอนที่พระองค์(อัลลอฮ์)เอาวิญญาณของเขา,สำหรับอัลลอฮ์,ผู้ทรงสูงส่ง,ได้กำหนดเพื่อที่จะให้ได้บรรลุสถานะที่สูง,บุคคลนั้นต้องทำตามคำมั่นสัญญาที่จะเชื่อฟังอัลลอฮ์ ผู้ทรงสูงส่ง และศาสนฑูตของพระองค์,ดังที่พระองค์ ผู้ทีงสูงส่ง ตรัส:
يُطِعِ اللَّهَ وَالرَّسُولَ فَأُولَٰئِكَ مَعَ الَّذِينَ أَنْعَمَ اللَّهُ عَلَيْهِم مِّنَ النَّبِيِّينَ وَالصِّدِّيقِينَ وَالشُّهَدَاءِ وَالصَّالِحِينَ ۚ وَحَسُنَ أُولَٰئِكَ رَفِيقًا ( 69 )
และผู้ใดที่เชื่อฟังอัลลอฮฺ และร่อซูลแล้วชนเหล่านี้จะอยู่ร่วมกับบรรดาผู้ที่อัลลอฮฺทรงกรุณาเมตตาแก่พวกเขา อันได้แก่บรรดานะบี บรรดาผู้ที่เชื่อโดยดุษฏี บรรดาผู้ที่เสียชีวิตในสงคราม และบรรดาผู้ที่ประพฤติดี และชนเหล่านี้แหละเป็นเพื่อนที่ดี
ذَٰلِكَ الْفَضْلُ مِنَ اللَّهِ ۚ وَكَفَىٰ بِاللَّهِ عَلِيمًا ( 70 )
ความกรุณาดังกล่าวนั้นมาจากอัลลอฮฺและพอเพียงแล้วที่อัลลอฮฺเป็นผู้ทรงรอบรู้
[อัน-นิสาอ์ 4:69-70].
อิบนุ กาษิร(รอฮีมาฮุลลอฮ์)ได้กล่าว:
นั่นคือ ทุกคนผู้ที่เชื่อฟังอัลลอฮ์และศาสนฑูตของพระองค์ตามกำลังความสามารถของเขาและกระทำสิ่งที่เขาถูกกำชับให้กระทำ,ชายหรือหญิง,เยาว์วัยหรือสูงวัย,"จากนั้นพวกเขาจะอยู่ในกลุ่มของบรรดาผู้ที่อัลลอฮ์ได้ประทานความเมตตากรุณาของพระองค์"กล่าวคือพรอันยิ่งใหญ่ซึ่งแสดงถึงความสมบูรณ์แบบ,ความสำเร็จและความสุข.
จบอ้างจาก
"تفسير ابن كثير" (1/185) .
รายละเอียดมากกว่านี้ กรุณาอ่านคำตอบจากคำถามหมายเลข
45841, 46592 และ 145721.
และอัลลอฮ์รู้ดีที่สุด.
Source: Islam Q&A
แปลโดย Firdaus MSD
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น