วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

112016: ถ้าอีมามอ่านกูนูตในละหมาดฟัจร์(ซุบฮี) อย่างเงียบ,เขาควรกล่าวกูนูตหรือคงความเงียบ(อ่านในใจหรือไม่ได้อ่าน)?

112016: ถ้าอีมามอ่านกูนูตในละหมาดฟัจร์(ซุบฮี) อย่างเงียบ,เขาควรกล่าวกูนูตหรือคงความเงียบ(อ่านในใจหรือไม่ได้อ่าน)?
อีมามที่นำเราละหมาดฟัจร์(ซุบฮี),หลังอ่านฟาตีฮะห์และอีกซูเราะห์หนึ่งในรอกาอัตที่สอง, คงความเงียบสองสามนาที. มีรายงานใดจากท่านนบีมูฮัมมัดหรือไม่เกี่ยวกับเรื่องนั้น? อนุญาตต่อฉันหรือไม่ที่จะกล่าวดุอาช่วงเวลานั้น? เพราะเขาทำสิ่งนี้ทุกครั้งที่ละหมาด. หรือฉันควรเงียบในเวลานี้?
มวลการสรรเสริญเป็นของอัลลอฮ์.
สิ่งที่อีมามกระทำหลัง(บางที่มีทำก่อน)รูก๊วะ(โค้งคำนับ)ในรอกาอัตที่สองคือกูนูต, และอ่านเงียบหรืออ่านเบาตามมัซฮับมาลีกี. พวกเขาถือมันเป็นมุสตะฮาบ(ส่งเสริม)ให้ทำกูนูตในละหมาดฟัจร์เงียบๆ.และนี่เป็นหนึ่งในความเห็นทั้งสองของชาฟีอี.
หลักพื้นฐานที่เกี่ยวกับกูนูตซุบฮี(fajr)เป็นเรื่องความเห็นทางวิชาการที่แตกต่าง. บางส่วนของพวกเขา,เช่น มัซฮับมาลิกและชาฟีอี, คิดว่ามันถูกบัญญัติ,และบางส่วนของพวกเขา,เช่น มัซฮับฮานาฟีและฮัมบาลี,ไม่คิดว่าเป็นเช่นนั้น.
อิบนุ กุดามะห์(รอฮีมาฮุลลอฮ์)ได้กล่าวใน อัลมุกฮ์นี(1/449)(al-Mughni): มันไม่เป็นซุนนะห์ที่จะอ่านกูนูตในละหมาดซุบฮีหรือละหมาดอื่นๆ,นอกเหนือจากวีเตร์. นี่เป็นมุมมองของ อัลเทารี และอาบูฮานีฟะห์, และมันถูกรายงานจากอิบนุ อับบาส,อิบนุ อุมัร,อิบนุ มัสอู๊ด และอาบุล ดารดา.
มาลิก,อิบนุอาบี ลัยลา,อัลฮาซัน อิบนุ ซอและห์ และอัลชาฟีอีได้กล่าวว่า มันเป็นซุนนะห์ที่จะอ่านกูนูตในซุบฮีทุกครั้ง,เพราะอนัส ได้กล่าวว่า: ท่านรอซูลุลลอฮ์ ได้กล่าวกูนูตในซุบฮีจนกระทั่งท่านจากโลกนี้ไป.นี่เป็นรายงานจากอีมามอะห์มัดในอัลมุสนัด.'อุมัร ได้อ่านกูนูตในการมีอยู่ของซอฮาบัตและคนอื่นๆ.
และเรามีสิ่งที่ถูกรายงาน,ว่าท่านนบีมูฮัมมัด ﷺ ได้อ่านดุอากูนูตเป็นเวลา 1 เดือน,เพื่อการต่อต้านหนึ่งในเผ่าอาหรับ,หลังจากนั้นท่านก็หยุดทำมัน.รายงานโดยอีมามมุสลิม. และอาบู ฮูรอยเราะห์และอาบู มัสอู๊ด ได้รายงานบางสิ่งที่คล้ายกันจากท่านนบีﷺ.และมันถูกรายงานว่าอาบู มาลิก ได้กล่าว: ฉันพูดกับพ่อของฉัน: โอ้ พ่อของฉัน,ท่านละหมาดตามหลังท่านรอซูลุลลอฮ์ﷺ,และตามหลังอาบูบักร,อุมัรและอุสมาน,และอาลีที่นี่ในกูฟะห์เป็นเวลาประมาณ 5 ปี. พวกเขาอ่านดุอากูนูต(ซุบฮี)ไหม? เขาได้กล่าวว่า: นั่นมันเป็นอุตริกรรม(บิดอะห์). อัลตีรมีซี ได้กล่าวว่า: นี่เป็นฮาดิษสถานะฮาซันซอเฮียะ,และควรทำตามส่วนใหญ่ของนักวิชาการ. อิบรอฮีม อัลนาฆาอี ได้กล่าว: คนแรกที่กล่าวกูนูตในละหมาดซุบฮีคือ ท่านอาลี,เพราะเขาคือชายคนหนึ่งที่อยู่ ในสงครามซึ่งเป็น(หนึ่ง)ในผู้ที่ละหมาดสวดอ้อนวอนต่อต้านศัตรู. และมันถูกรายงานว่าอาบู ฮูรอยเราะห์(รอดียัลลอฮูอันฮู)ได้กล่าว: ท่านรอซูลุลลอฮ์ﷺ ไม่ได้อ่านกุนูตในละหมาดซุบฮียกเว้นเมื่อท่านละหมาดเพื่อประชาชนบางส่วน หรือต่อต้านประชาชนบางส่วน.รายงานโดย สะอีด.ฮาดิษของอนัสอาจเข้าใจว่าหมายถึงท่านนบียืนเป็นเวลานาน,เพราะสิ่งนั้นอาจถูกเรียกว่ากูนูต. และกุนูตของอุมัร อาจเข้าใจว่าเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติ,เพราะส่วนใหญ่ของรายงานจากเขาบ่งชี้ว่าเขาไม่ได้อ่านกุนูต,ซึ่งมีประชาชนจำนวนหนึ่งที่รายงานมาจากเขา,ซึ่งบ่งชี้ว่ากุนูตของเขากระทำเฉพาะมีเหตุภัยพิบัติเท่านั้น.จบอ้าง
ดู: อัลเมาซูอะห์ อัลฟิกียะห์,34/58
(al-Mawsoo’ah al-Fiqhiyyah, 34/58)

ถึงแม้ว่าความเห็นที่ถูกต้องกว่าคือ ไม่ควรกูนูตในละหมาดซุบฮียกเว้นในเวลามีภัยพิบัติ,ไม่มีสิ่งใดผิดด้วยการละหมาดตามหลังคนที่อ่านดุอากูนูตในละหมาดซุบฮีและกล่าวอามีนในดุอาของเขา.
มัซฮับชาฟีอีกล่าวว่ามันเป็นที่อนุญาตที่จะละหมาดซูฮรีและอัสรีตามหลังคนที่กำลังละหมาดซุบฮีและมักริบ,และพวกเขากล่าวว่า มันไม่เป็นไรถ้าคนหนึ่งตามอีมามที่มีอ่านดุอากูนูตเมื่อเขากำลังละหมาดซุบฮี,และนั่งในตะชาฮูดที่สองเมื่ออีมามกำลังละหมาดมักริบ,เช่นเดียวกับในกรณีของผู้ที่เข้าร่วมละหมาดช้าและเขาอาจจะหยุดตามอีมาม,แต่การตามอีมามดีกว่าหยุดที่จะตามเขา.
ถ้ามันถูกกล่าวว่า: เป็นที่อนุญาตได้อย่างไรสำหรับคนผู้หนึ่งที่กำลังละหมาดตามหลังอีมามคนหนึ่ง ที่ต้องตามอีมามในกุนูตถึงแม้ว่ามันไม่ถูกบัญญัตสำหรับคนผู้หนึ่ง(คนนั้น)ที่กำลังละหมาดตามหลังเขา, คำตอบของฉันคือว่า สิ่งนี้ได้รับการอภัยเพราะเห็นแก่อีมาม.
แหล่งอ้างอิง 
มุกฮ์นี อัลมุฮ์ตาจ โดย ชาราบีนี,1/245
(Mughni al-Muhtaaj by al-Sharabeeni, 1/245)

ชัยคุลอิสลาม อิบนุ ตัยมียะห์(รอฮีมาฮุลลอฮ์)ได้กล่าวว่า:
ถ้าคนที่กำลังละหมาดตามหลังอีมามคนหนึ่งที่เป็นผู้ทำดุอากูนูตในซุบฮีหรือวีเตร์,เขาควรอ่านกูนูตไปกับเขา(อีมาม),ไม่ว่าเขาอ่านกูนูตก่อนหรือหลังรูก๊วะ(ก้มศรีษะ),แต่ถ้าปกติเขาไม่ได้อ่านดุอากุนูต เขาไม่ควรอ่านดุอากุนูตกับเขา(อีมาม).
ถ้าอีมามคิดว่าบางสิ่งเป็นมุสตะฮาบ(ส่งเสริม)และประชาชนที่กำลังละหมาดตามหลังเขาไม่ได้คิดว่ามันเป็นมุสตะฮาบ,และเขาละเว้นจากมันเพื่อเห็นแก่ความสมานฉันท์และความปรองดอง,ถ้างั้นเขาได้ทำดีแล้ว.
จบอ้าง. มัจมุอฺ อัลฟัตวา,22/268.
ดูเช่นเดียวกันกับคำถามหมายเลข 20031, 5459, 59925.
เกี่ยวกับสิ่งที่เรากล่าวถึงเกี่ยวกับการตามอีมาม, ไม่ทำให้มีข้อแตกต่างไม่ว่าอีมามอ่านกุนูตด้วยเสียงดังหรือเสียงค่อย,ด้วยเหตุนี้คนที่กำลังละหมาดตามหลังเขา ควรกล่าวอามีนตอบสนองดุอาของเขา,และถ้าเขาอ่านค่อย(เบา),ตามที่อ้างในคำถาม,ถ้าอย่างนั้นคนที่กำลังละหมาดตามหลังเขาควรอ่านกุนูตด้วยตัวเอง,จนกว่าอีมามจะอ่านจบ.
อิบนุ มุฟลิฮฺ กล่าวอ้างใน อัลฟุรู(al-Furoo’),1/542, รายงานชิ้นหนึ่งจากอีมามอะห์มัด ว่าถ้าเขาไม่ได้ยินเสียงของอีมาม,เขาควรกล่าวดุอา(กุนูต)(อ่านดุอาเอง),ถึงแม้ว่ามันเป็นกุนูตในละหมาดวีเตร์. มันถูกกล่าวถึงเรื่องที่เกี่ยวกับคนผู้หนึ่งที่กำลังละหมาดตามหลังอีมามคนหนึ่งที่กล่าวกุนูต(อ่านดุอากุนูต)ในละหมาดซุบฮี, มีสองรายงาน: มีผู้กล่าวว่าเขาควรเงียบและอีกคนกล่าวว่าเขาควรทำตามเขา(อีมาม)เหมือนละหมาดในวีเตร์.
อัลมัรดาวี ได้กล่าวใน ตัชเฮียะห์ของเขา(Tasheeh): มุมมองที่ถูกต้องคือ เขาควรทำตามเขา(อีมาม),ดังนั้นเขาควรกล่าวอามีนและขอดุอา. จบอ้าง.

ด้วยเหตุนี้ ชัยคฺ อิบนุ คอซิม(รอฮีมาฮุลลอฮ์)ได้กล่าวในฮาชียัต อัลร๊อด(Haashiyat al-Rawd) ว่าเขาควรทำตามเขา(อีมาม)ในที่นี้,
และเขาได้ให้ความเห็นในประโยคหนึ่งใน อัลร๊อด,"ใครก็ตามที่ตามอีมามผู้หนึ่งที่ทำดุอากุนูตในละหมาดซุบฮี ควรตามเขาและกล่าวอามีน"ด้วยการสังเกต(2/199):

เขาควรทำตามอีมามในดุอาของเขา,เพราะมีฮาดิษ: "อีมามถูกแต่งตั้งเพื่อให้ถูกตาม,ดังนั้นอย่าได้ต่างกันจากเขา."เช่นเดียวกับผู้ที่กำลังละหมาดตามหลังอีมามคนหนึ่ง ควรกล่าวอามีนเพื่อตอบสนองอีมามดุอาของเขา ถ้าเขาได้ยินเสียงกุนูต,และถ้าเขาไม่ได้ยินเสียงกุนูต เขาควรกล่าวดุอากุนูต(อ่านดุอากุนูตเอง). จบอ้าง
และอัลลอฮ์รู้ดีที่สุด.
@@@@@
Islam Q&A
เขียนโดย ชัยคฺ ซอและห์ อัลมุนัจจิด
แปลโดย Firdaus Msd

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น