วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

เตาฮีดของท่านนบีมุฮัมมัด (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม)

 เตาฮีดของท่านนบีมุฮัมมัด (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม)

สถานะเตาฮีดเป็นหลักการยึดมั่นที่สำคัญสำหรับมวลมนุษย์และเป็นเป้าหมายหลักในการดะอฺวะฮ์ของบรรดารอซูลในแต่ละสมัยนับตั้งแต่นบีอาดัมจนถึงนบีท่านสุดท้ายมุฮัมมัด(ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม)
หลักการเตาฮีดของบรรดานบีมีหนึ่งเดียวเท่านั้นไม่มีการแตกแยก คือ เรียกร้องเชิญชวนสู่การเคารพภักดีต่ออัลลอฮฺ(ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) พระองค์เดียวและห้ามปรามจากการทำอิบาดะฮฺหรือสักระนอกอื่นจากอัลลอฮฺ(ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) ดังที่พระองค์ตรัสว่า
ความว่า : "และโดยแน่นอนเราได้ส่งเราะซูลมาในทุกประชาชาติ(โดยบัญชาว่า) พวกท่านจงเคารพภักดีอัลลอฮฺและจงหลีกหนีให้ห่างจากพวกเจว็ด"
(ซูเราะฮฺอันนะฮฺลฺ : ส่วนหนึ่งอายะ 36)
อัลลอฮฺ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) ได้ส่งเราะซูลให้แก่ทุกประชาชาติ ทุกศตวรรและทุกกลุ่มชาติพันธ์ ซึ่งพวกเขาทั้งหมดทำหน้าที่อันเดียวกันคือ การเชิญชวนและเรียกร้องให้มวลมนุษย์เคารพภักดีต่ออัลลอฮฺ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) พระองค์เดียวและห้ามปรามจากการทำอิบาดะฮฺหรือสักระนอกอื่นจากพระองค์ (Ibn Kathir, 1991 : 2/626)
ดังนั้นการเรียกร้องเตาฮีดจึงมีมาโดยตลอด โดยเฉพาะในสมัยท่านนบีมุฮัมมัด(ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม) อัลกุรอานที่ถูกประทานแก่ท่านในช่วงแรกนั้นล้วนกล่าวถึงเรื่องเตาฮีด สูเราะฮฺต่างๆ ที่ปรากฎอยู่ในอัลกุรอานส่วนใหญ่จะเกี่ยวพันธ์กับเตาฮีดเป็นหลัก และเตาฮีดที่ยึดถือโดยท่านนบีมุฮัมมัด (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม) นั้น มาจากแหล่งวะฮฺยู คือ อัลกุรอานและอัลหะดีษ
อัลกุรอานคือ แหล่งเตาฮีด ที่สำคัญของท่านนบีมุฮัมมัด (ศ็อลลัลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม) ดังที่อัลลอฮฺ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) ตรัสว่า :
ความว่า : "ผู้ศรัทธาทั้งหลายจงเชื่อฟังอัลลอฮฺ และเชื่อฟังเราะซูลเถิด และผู้ปกครองในหมู่พวกเจ้าด้วย แต่ถ้าพวกเจ้าขัดแย้งกันในสิ่งใดก็จงนำสิ่งนั้นกลับไปยังอัลลอฮฺและเราะซูลลุลลอฮฺ หากพวกเจ้าศรัทธาต่ออัลลอฮฺวันปรโลก นั่นแหละเป็นสิ่งที่ดียิ่ง และเป็นการกลับไปที่สวยงามยิ่ง "
(ซูเราะฮฺ อันนิสาอ์ : อายะฮฺ 59)
อัลลอฮฺ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) ได้เรียกร้องบรรดาผู้ศรัทธาให้เชื่อฟังและกลับไปหาพระองค์และเราะซูลของพระองค์ในทุกๆเรื่อง โดยเฉพาะกรณีมีการขัดแย้งไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุศูลหรือฟุรูอฺ วาญิบต้องกลับไปยังกิตาบุลลอฮฺและซุนนะฮฺของท่านนบีมุฮัมมัด (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม) และไม่อนุญาตใช้ตัดสินกับสิ่งที่นอกเหนือจากทั้งสอง (al-Shanqitiy 1995:1/244)
การเชื่อฟังหรือการกลับไปยังอัลลอฮฺ(ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) ในเรื่องเตาฮีดเป็นสิ่งจำเป็น เพราะไม่มีผู้ใดที่มีความรู้ในเรื่องของอัลลอฮฺ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) ยิ่งกว่าพระองค์เอง
ในบรรดาอายะฮฺอัลกุรอานที่กล่าวถึงเตาฮีดที่ยึดมั่นโดยท่านนบีมุฮัมมัด (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม) คือ
ความว่า : "จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) พระองค์คือ อัลลอฮฺผู้ทรงเอกะ อัลลอฮฺนั้นทรงเป็นที่พึ่ง พระองค์ไม่ประสูติและไม่ทรงถูกประสูติ และไม่มีผู้ใดเสมอเหมือนพระองค์" (ซูเราะฮฺ อัลอิคลาศ : 1-4 )
อัลลอฮฺ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) ได้แจ้งถึงความบริสุทธิ์พระนามและคุณลักษณะของพระองค์จากสิ่งบกพร่องทั้งหลาย โดยที่พระองค์นั้นเป็นผู้ทรงเอกกะในเรื่องซาต พระนาม คุณลักษณะและการกระทำและซูเราะฮฺอัลอิคลาศนี้เทียบเท่ากับหนึ่งในสามของอัลกุรอาน เนื่องได้มีการเจาะจงเป็นการเฉพาะเกียวกับสิทธิของอัลลอฮฺ(ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) ในเรื่องซาตและคุณลักษณะต่างๆ ของพระองค์ที่เป็นเอกะปละเป็นที่พึ่งพร้อมปฏิเสธการถูกกำเนิด การมีบุตและความเหมือน ซึ่งทั้งหมดเป็นคุณลักษณะแห่งความเป็นเอกะของอัลลอฮฺ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) (a;-Shanqitiy,1995: 9/148)
การรู้จักอัลลอฮฺ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) ด้วนพระนามและคุณลักษณะของพระองค์พร้อมยอมรับในความเป็นเอกะของพระองค์แล้ว จำเป็นต้องเคารพภักดีต่ออัลลอฮฺ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) พระองค์เดียวโดยไม่มีภาคีใดๆ ทั้งสิ้น
อัลลอฮฺ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) ตรัสว่า :
ความว่า : " พระองค์คืออัลลอฮฺ ซึ่งไม่มีพระเจ้าอื่นใดอีก นอกจากพระองค์ผู้ทรงรอบรู้สิ่งเร้นลับและสิ่งเปิดเผย พระองค์คือผู้ทรงกรุณาปรานี ผู้ทรงเมตตาเสมอ พระองค์คืออัลลอฮฺ ซึ่งไม่มีพระเจ้าอื่นใด (ที่ถูกเคารพภักดีโยยเที่ยงแท้) นอกจากพระองค์ผู้ทรงอำนาจสูงสุด ผู้ทรงบริสุทธิ์ ผู้ทรงความศานติสุข ผู้ทรงคุ้มครองการศรัทธา ผู้ปกปักรักษาความปลอดภัย ผู้ทรงอำนาจยิ่ง ผู้ทรงปราบให้เรียบร้อย ผู้ทรงความยิ่งใหญ่ มหาบริสุทธิ์แด่ อัลลอฮฺให้พ้นจากสิ่งที่พวกเขาตั้งภาคีต่อพระองค์ "
(ซูเราะฮฺ อัลฮัซรฺ อายะฮฺ 22-23)
อัลลอฮฺ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) ได้กล่าวถึงกะลิมะฮฺเตาฮีดสองครั้งพร้อมกับมีการตัสบีฮฺ และได้กล่าวถึงพระนามอันวิจิตรและคุณลักษณะอันสูงส่งของพระองค์ ซึ่งเป็นประเด็นปัญหาสำคัญที่สุดของทุกประชาชาติและบรรดาเราะซูลของพวกเขา เพราะการเรียกร้องเชิญชวนของบรรดาเราะซูลต่อประชาชาติทั้งหมดคือ การให้ความเป็นเอกะต่ออัลลอฮฺ(ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) ในเรื่องซาต พระนามและคุณลักษณะของพระองค์ พร้อมกับให้ความบริสุทธิ์ต่อพระองค์ในทุกด้านของการภาคี(al-Shanqitiy, 1995: 8/67)
การให้ความสำคัญกับเตาฮีดและการยอมรับในพระนามและคุณลักษณะของอัลลอฮฺ(ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) เป็นสิ่งจำเป็นกับมนุษย์ทั้งหลายที่จะต้องเรียนรู้และปฏิบัติ
นี่คือส่วนหนึ่งของเตาฮีดที่ยึดมั่นโดยท่านนบีมุฮัมมัด (ศ้อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม) ในอัลกุรอาน และอัลลอฮฺ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) ทรงสั่งใช้ให้ปฏิบัติตามเตาฮีดของท่านนบีมุฮัมมัด(ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม)
ดังที่พระองค์ตรัสว่า :
ความว่า : "และอันใดที่เราะสูลได้นำมายังพวกเจ้าก็จงยึดเอาไว้ และอันใดที่ท่านได้ห้ามพวกเจ้าก็จงละเว้นเสีย" (ซูเราะฮฺอัลฮัซรฺ ส่วนหนึ่งจากอายะฮฺ 7)
อัลลอฮฺ(ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) ได้สั่งใช้ให้บ่าวของพระองค์ทั้งหลายปฏิบัติตามเราะซูลของพระองค์ในทุกกรณีโดยไม่มีการจำกัด (al-Shanqitiy, 1995 :8/40)
การปฏิบัติตามเราะซูลุลลอฮฺ(ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม) เป็นสิ่งที่วาญิบกับบรรดามุอ์มินทั้งหลายเพราะท่านเราะซูลุลลอฮฺ(ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม) จะไม่สั่งหรือห้ามสิ่งใดเว้นแต่เป็นสิ่งที่โปรดปรานจากอัลลอฮฺ(ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) เท่านั้น
อัลลอฮฺ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) ตรัสว่า :
ความว่า : "ฉันจะไม่ปฏิบัติตามเว้นแต่สิ่งที่ถูกประทานมาให้แก่ฉันเท่านั้น"
(ซูเราะฮฺยูนุส : ส่วนหนึ่งจากอายะฮฺ 15)
อัลลอฮ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) สั่งให้ท่านนบีมุฮัมมัด(ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม) กล่าวกับประชาชาติของเขาว่า ฉันจะไม่ปฏิบัติในทุกสิ่งที่ฉันสั่งใช้และสั่งห้ามกับท่านเว้นแต่สิ่งที่พระเจ้าของฉันทรงประทานให้กับฉันเท่านั้น
(al-Tabariy, 2000 : 15/40)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น