หะดีษที่กล่าวถึงความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้นในเดือนรอมฎอน เมื่อวันที่ ๑๕ ตรงกับวันศุกร์ เป็นหะดีษปลอมหรืออยู่ในสถานะอ่อนมากๆ
ใครผู้ใดเผยแพร่และตัดสินว่าศอเฮี้ยะ หลังจากรู้ว่ามันเป็นหะดีษอยู่ในกลุ่มหะดีษฎออีฟมากๆ เขาผู้นั้นได้กระทำบาปและละเมิดคำสั่งของอัลลอฮฺและท่านรอซูล ศ็อลลัลเลาะห์อะลัยฮิวะสัลลัม
หะดีษตัวบทนี้จะมาในสองสำนวนหลัก ๑.สำนวนทีกล่าวว่า النصف من رمضان ليلة جمعة และ๒.สำนวนที่ไม่ได้กำหนดวันที่ ๑๕ ของรอมฎอน ซึ่งทั้งสองสำนวนนี้ เป็นหะดีษที่อุลามาอฺตัดสินสถานะว่าอ่อนมากๆหรือเมาเฎาะ
อัลอุกัยลีย์กล่าวในหนังสืออัฎฎูอะฟาอฺอัลกะบีร เล่ม ๓ หน้า ๕๒ ว่า
ليس له أصل من حديث ثقة ولا من وجه يثبت
ความว่า ไม่มีสำหรับตัวบทหะดีษนี้ (รายงาน) จากหะดีษของผู้รายงานที่น่าเชื่อถือ และไม่มี (การรายงานด้วย) สายรายงานใดๆที่ถูกต้อง
อัลเญารอกอนีย์ได้รายงานหะดีษนี้ด้วยสองสายรายงานในหนังสืออัลอะบาตีลวัลมะนากีร เล่ม๒ หน้า ๑๐๘-๑๐๙ แล้วท่านกล่าวตัดสินสายรายงานหนึ่งว่า มีผู้รายงานที่ชื่อมัสละมะห์ บิน อะลี (มีสถานะ) ฎออีฟ และท่านกล่าวตัดสินอีกสายรายงานว่า มีผู้รายงานที่ชื่ออิสมาอีล ลัยษ์ และชะหัร (บุคคลเหล่านี้มีสถานะ) มัตรูก
อิบนฺอัลเญาซีย์ได้รายงานหะดีษนี้ในหนังสือเมาฎูอาตของท่าน เล่ม ๓ หน้า ๔๖๑ แล้วตัดสินหะดีษว่าเป็นเมาเฎาะอฺ
อัซซะฮะบีย์ได้คัดลอกหะดีษลงในหนังสือตัรตีบอัลเมาฎอาต หน้า ๒๘๗ และตัดสินหะดีษนี้ว่า มีผู้รายงานชื่อมัสละมะห์ บิน อะลี (มีสถานะ) มัตรูก
ท่านได้กล่าวในหนังสือมีซานอัลอิติดาล เล่ม ๒ หน้า ๖๗๕ ว่า มันเป็นการโกหกต่อท่านอัลเอาซาอีย์
และในหนังสือเดี่ยวกัน เล่ม ๔ หน้า ๑๑๑ ท่านได้ตัดสินหะดีษนี้ว่าเป็นหะดีษมุนกัร
อิบนฺอัลกัยยิมได้ตัดสินในหนังสืออัลมะนารอัลมุนีฟ หน้า ๘๗ ว่าเป็นการโกหกต่อท่านนบี (เมาเฎาะอฺ) ซึ่งท่านได้ระบุหะดีษนี้ในกลุ่มหะดีษเมาเฎาะอฺที่มีการระบุวันเวลา
อุลามาอฺร่วมสมัยอย่างอิบนฺบาซ ก็ได้ตัดสินในหนังสือมัจมูอฺฟะตาวาเชคอิบนฺบาซ เล่ม ๒๖ หน้า ๓๔๔ ว่าเป็นหะดีษที่ไม่มีพื้นฐานใดๆของความถูกต้อง ทว่ามันเป็นหะดิษบาติลและปลอม
เช่นเดี่ยวกันกับเชคอัลอัลบาบีย์ ที่ได้ประสบกับเหตุการณ์การเผยแพร่หะดีษนี้ผ่านการคุตบะห์วันศุกร์ อันเนื่องจากปีนั้น (๑๔๑๔ ฮศ.) วันที่ ๑๕ ของเดือนรอมฎอนได้เกิดขึ้นตรงกับวันศุกร์ ทำให้นักคุตบะห์บางคนนำหะดีษนี้เตือนผู้ร่วมละหมาดวันศุกร์ แล้วท่านก็ได้ตัดสินหะดีษว่าเป็นหะดีษปลอม และบอกถึงเหตุของการตัครีชหะดีษนี้ในหนังสือสิลสิละตุลอะหาดีษอัฏฏออีฟะห์วัลเมาฎูอะห์ เล่ม ๑๓ หน้า ๑๐๕๘ ถึงหน้า ๑๐๖๑ แล้วท่านก็กล่าวว่า
وها نحن الآن في يوم السبت التالي ليوم الجمعة المشار إليه، ولم يقع فيه
أي شيء مما ذكر الحديث
ความว่า และพวกเราตอนนี้อยู่ในวันเสาร์ถัดจากวันศุกร์ที่ได้มีการชี้ถึงมัน (สิ่งที่จะเกิดขึ้น) และไม่มีสิ่งใดๆเกิดขึ้นเลยจากสิ่งที่หะดีษได้กล่าวมา
จึงสรุปได้ว่า หะดีษนี้อยู่ในกลุ่มหะดีษที่อ่อนมากๆ ระหว่างหะดีษเมาเฎาะอฺ หะดีษมุนกัร หะดีษฎออีฟญิดดัน ซึ่งตามหลักวิชาการหะดีษ หะดีษที่มีสถานะดังกล่าวนั้น มิอาจนำมาใช้ปฏิบัตในเรื่องความประเสริฐ ไม่สามารถนำมาใช้ในการตัรฆีบตัรฮีบได้
ดังนั้น พี่น้องมุสลิมอย่าได้โง่ตามผู้บรรยายบางคนที่ขาดความรู้ทางวิชาการหะดีษ อ้างว่าเป็นหะดีษศอเฮี้ยะ ทั้งๆที่อุลามาอฺได้ตัดสินอย่างชัดเจนแล้ว วัลลอฮูอะลัม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น