วันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2563

เชคร่อเบี๊ยอ์ อิบนุ ฮาดี อัลมัดค่อลี่ เมื่อผู้รู้ที่รู้จริงได้ตำหนิใครคนหนึ่ง /Ishak Phongmanee

เชคร่อเบี๊ยอ์ อิบนุ ฮาดี อัลมัดค่อลี่ กล่าวไว้ว่า
قال الشيخ ربيع بن هادي المدخلي حفظه الله .
فإذا جرح عالم بصير شخصاً بارك الله فيكم ؛ يجب قبول هذا الجرح ، فإذا عارضه عالم عدل متقِن ، فحينئذ يُدرَس ما قاله الطرفان ويُنظَر في هذا الجرح وهذا التعـديل فإن كان الجرح مفسَّراً مبيَّناً قُدِّم على التعديل، ولو كثر عدد المعدلين ؛ إذا جاء عالم بجرح مفسَّر ، وخالفه عشرون ، خمسون عالما ،ً ما عندهم أدلة ، ما عندهم إلا حسن الظن والأخذ بالظاهر ، وعنده الأدلة على جرح هذا الرجل فإنه يقدم الجرح؛ لأن الجارح معه حجة ، والحجة هي المقدَّمة، وأحياناً تقدم الحجة ولو خالفها ملء أهل الأرض، ملء الأرض خالفه والحجة معه فالحق معه ، الجماعة من كان على الحق ولو كان وحده .

เมื่อผู้รู้ที่รู้จริงได้ตำหนิใครคนหนึ่ง “ขออัลลอฮ์ประทานความจำเริญแก่พวกท่าน” จำเป็นต้องน้อมรับคำตำหนินั้น และหากมีผู้รู้ท่านอื่นที่เที่ยงธรรมแม่นยำค้าน ตรงนี้ก็ต้องศึกษาคำพูดของทั้งสองฝ่ายและพิจารณาทั้งการตำหนิและการรับรอง
หากการตำหนิมีการอธิบายชัดเจน(ด้วยหลักฐาน) ก็ยึดคำตำหนินั้นไว้เหนือกว่าการรับรอง แม้จะมีผู้รับรองมากมายแค่ไหนก็ตาม
หากผู้รู้ตำหนิ(โดยอ้างอิงหลักฐาน)โดยละเอียด จะมีผู้อื่นค้านยี่สิบคน ห้าสิบคนแต่ไม่มีหลักฐานใดๆ(ในการค้านนั้น) มีแต่เพียงคิดดีและยึดเอาตาม(สภาพ)ที่ปรากฏเห็นทั่วไป
ดังนั้นใครที่ตำหนิพร้อมมีหลักฐานยืนยัน ต้องยึดการตำหนินั้น เหตุเพราะผู้ตำหนิมีหลักฐาน หลักฐานต้องมาก่อน แมัหากเขานำเสนอหลักฐานแล้วมีคนเต็มโลกค้านเขา
หลักฐานและความจริงอยู่กับเขา คำว่า “ญะมาอะห์-ชนส่วนใหญ่” คือคนที่อยู่บนความจริงแม้จะยืนอยู่เพียงเดียวดายก็ตาม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น