หลักการฐานในการร่วมซิกรุลเลาะฮ์แบบล้อมวง
حدثنا أبو بكر بن أبي شيبة. حدثنا مرحوم بن عبدالعزيز عن أبي نعامة السعدي، عن أبي عثمان، عن أبي سعيد الخدري، قال:
خرج معاوية على حلقة في المسجد. فقال: ما أجلسكم؟ قالوا: جلسنا نذكر الله. قال: آلله! ما أجلسكم إلا ذاك؟ قالوا: والله! ما أجلسنا إلا ذاك. قال: أما إني ما أستحلفكم تهمة لكم. وما كان أحد بمنزلتي من رسول الله صلى الله عليه وسلم أقل عنه حديثا مني وإن رسول الله صلى الله عليه وسلم خرج على حلقة من أصحابه. فقال "ما أجلسكم؟ قالوا: جلسنا نذكر الله ونحمده على ما هدانا للإسلام، ومن به علينا. قال "آلله! ما أجلسكم إلا ذاك؟" قالوا: والله! ما أجلسنا إلا ذاك. قال "أما إني لم أستحلفكم تهمة لكم. ولكنه أتاني جبريل فأخبرني؛ أن الله عز وجل يباهي بكم الملائكة
" เล่ากับเรา โดย อบูบักร บิน อบี ชัยบะฮ์ เล่ากับเราโดย มัรหูม บิน อับดุลอะซีซฺ จาก อบี นะอามะฮ์ อัลสะอฺอีย์ จาก อบีอุษมาน จากท่านอบีสะอีด อัลคุดรีย์ เขากล่าวว่า ท่านมุอาวิยะฮ์ได้ออกมาที่ กลุ่มคนวงหนึ่งในมัสยิด แล้วท่านมุอาวิยะฮ์กล่าวว่า อะไรที่ทำให้พวกท่านนั่งอยู่หรือ? พวกเขากล่าวว่า เรานั่งโดยที่เราทำการซิกรุลลอฮ์ ท่านมุอาวิยะฮ์กล่าวว่า อัลเลาะฮ์! ไม่มีอะไรทำให้พวกท่านนั่งนอกจาก ดังกล่าวนั้นดอกหรือ? พวกเขากล่าวว่า อัลเลาะฮ์! ไม่มีอะไรที่ทำให้เรานั่งอยู่เว้นแต่สิ่งดังกล่าวนั้น ท่านมุอาวิยะฮ์กล่าวว่า พึงทราบเถิด แท้จริง ฉันไม่เคยขอการสาบานกับพวกท่าน อันเนื่องจากความสงสัยแก่พวกท่าน โดยที่ด้วยฐานะ(ทางเครือญาติ)ของฉัน จากท่านร่อซูลุลเลาะฮ์(ซ.ล.)แล้ว ไม่มีผู้ใดที่จะเล่าหะดิษจากท่านร่อซูลน้อยไปกว่าฉัน และแท้จริงท่านร่อซูลุลเลาะฮ์(ซ.ล.) ได้เคยออกไปยัง วงหนึ่ง จากบรรดาซอฮาบะฮ์ของท่าน แล้วท่านร่อซูลุลเลาะฮ์กล่าวว่า อะไรที่ทำให้พวกท่านนั่งอยู่หรือ? บรรดาซอฮาบะฮ์กล่าวว่า เราได้นั่งเพื่อกล่าวซิกรุลเลาะฮ์ และทำการสรรญเสริญอัลเลาะฮ์ ต่อสิ่งที่พระองค์ทรงชี้นำกับเราไปยังอิสลาม และสิ่งที่พระองค์ทรงประทานความโปรดปรานแก่เรา ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์(ซ.ล.)กล่าวว่า อัลเลาะฮ์! ไม่มีอะไรทำให้พวกท่านนั่งนอกจาก ดังกล่าวนั้นดอกหรือ? พวกเขากล่าวว่า อัลเลาะฮ์! ไม่มีอะไรที่ทำให้เรานั่งอยู่เว้นแต่สิ่งดังกล่าวนั้น ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์กล่าวว่า พึงทราบเถิด แท้จริง ฉันไม่เคยขอการสาบานกับพวกท่าน อันเนื่องจากความสงสัยแก่พวกท่าน แต่ยิ่งไปกว่านั้น ท่านญิบรีลได้มาหาฉัน แล้วบอกกับฉันว่า แท้จริงอัลเลาะฮ์ทรงอวดยกย่องกับมะลาอิกะฮ์ด้วยกับพวกท่าน" ดู ซอฮิหฺมุสลิม หะดิษที่ 2701
حدثنا محمد بن المثنى وابن بشار. قالا: حدثنا محمد بن جعفر. حدثنا شعبة. سمعت أبا إسحاق يحدث عن الأغر، أبي مسلم؛ أنه قال: أشهد على أبي هريرة وأبي سعيد الخدري أنهما شهدا على النبي صلى الله عليه وسلم؛
أنه قال "لا يقعد قوم يذكرون الله عز وجل إلا حفتهم الملائكة، وغشيتهم الرحمة، ونزلت عليهم السكينة، وذكرهم الله فيمن عنده
ท่านอิมามมุสลิม ได้รายงานว่า ได้เล่าวกับเราโดยมุหัมมัด บิน มุษันนา และ อิบนุ บัชชาร ทั้งสองกล่าวว่า ได้เล่ากับเราโดย มุหัมมัด บิน ญะฟัร ได้เล่ากับเราโดย ชัวะอฺบะฮ์ ฉันได้ยิน อะบาอิสฮาก ทำการเล่าจาก อัลอะฆ๊อรรฺ อบูมุสลิม เขากล่าวว่า ฉันขอเป็นพยานยืนยันว่า ท่านอบูฮุรอยเราะฮ์และท่านสะอีดอัลคุฏรีย์ ซึ่งทั้งสองเป็นพยานยืนยันว่า แท้จริง ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์(ซ.ล.) กล่าวว่า " ไม่มีคนกลุ่มหนึ่งกลุ่มได้ ได้นั่งทำการซิกรุลเลาะฮ์ นอกจากว่า บรรดามะลาอิกะฮ์จะห้อมล้อมพวกเขา และความเมตตาก็แผ่คลุมกับพวกเขา และความสงบสุขก็ได้ลงมาบนพวกเขา และอัลเลาะฮ์ก็ทรงกล่าวกับพวกเขา แก่ผู้ที่อยู่ ณ พระองค์" ดู ซอฮิหฺมุสลิม หะดิษที่ 2700
حدثنا محمد بن حاتم بن ميمون. حدثنا بهز. حدثنا وهيب. حدثنا سهيل عن أبيه، عن أبي هريرة،
عن النبي صلى الله عليه وسلم، قال "إن لله تبارك وتعالى ملائكة سيارة. فضلا. يتبعون مجالس الذكر. فإذا وجدوا مجلسا فيه ذكر قعدوا معهم. وحف بعضهم بعضا بأجنحتهم. حتى يملؤا ما بينهم وبين السماء الدنيا. فإذا تفرقوا عرجوا وصعدوا إلى السماء. قال فيسألهم الله عز وجل، وهو أعلم بهم: من أين جئتم؟ فيقولون: جئنا من عند عباد لك في الأرض، يسبحونك ويكبرونك ويهللونك ويحمدونك ويسألونك. قال: وماذا يسألوني؟ قالوا: يسألونك جنتك. قال: وهل رأوا جنتي؟ قالوا: لا. أي رب! قال: فكيف لو رأوا جنتي؟ قالوا: ويستجيرونك. قال: ومم يستجيرونني؟ قالوا: من نارك. يا رب! قال: وهل رأوا ناري؟ قالوا: لا. قال: فكيف لو رأوا ناري؟ قالوا: ويستغفرونك. قال فيقول: قد غفرت لهم. فأعطيتهم ما سألوا وأجرتهم مما استجاروا. قال فيقولون: رب! فيهم فلان. عبد خطاء. إنما مر فجلس معهم. قال فيقول: وله غفرت. هم القوم لا يشقى بهم جليسهم
ท่านอิมามมุสลิม ได้รายงานว่า ได้เล่ากับเรา โดยมุหัมมัด บิน หาติม บิน มัยมูน ได้เล่ากับเรา โดยบะฮฺซฺ ได้กล่าวกับเราโดยวุฮัยบฺ ได้เล่าวกับเราโดยซุฮัยล์ จากบิดาของเขา จากท่านอบูฮุรอยเราะฮ์ เล่าจากท่านนบี(ซ.ล.) ท่านกล่าวว่า " แท้จริง อัลเลาะฮ์(ตะบาร่อกะวะตะอาลา) ทรงมีบรรดามะลาอิเกาะฮ์ที่ท่องเดินทางอยู่บนผืนแผ่นเดิน เป็นมะลาอิกะฮ์ที่เพิ่มขึ้นมา(นอกจากบรรดามะลาอิกะฮ์หะฟะเซฺาะฮ์ที่ทำหน้าที่ปกปักษ์รักษา) ได้ทำการสืบเสาะแสวงหา สถานที่ต่างๆที่มีการซิกิร ดังนั้น เมื่อพวกเขาได้เจอสถานที่หนึ่ง ที่มีการซิกิร พวกเขาก็จะนั่งร่วมพร้อมกับพวกเขา(บรรดาผู้ที่ทำการซิกรุลเลาะฮ์) และบรรดามะลาอิกะฮ์ก็ต่างทำการห้อมล้อมด้วยปลีกของพวกเขา จนกระทั้งพวกเขาเต็ม(เพิ่มขึ้น)ในระหว่างพวกเขาและท้องฟ้า ดังนั้น เมื่อบรรดาผู้ทำากรซิกรุลเลาะฮ์ได้แยกย้าย บรรดามะลาอิกะฮ์จึงเดินทางขึ้นสู่ฟ้ากฟ้า" ท่านนบี(ซ.ล.)กล่าวว่า "แล้วอัลเลาะฮ์ก็ถามกับพวกเขา - โดยที่พระองค์ทรงรู้ดียิ่งกับพวกเขา- ว่า พวกเจ้ามาจากใหนกัน? บรรดามะลาอิกะฮ์กล่าวว่า เราได้มาจาก ณ ที่บรรดาบ่าวของพระองค์ ที่อยู่ในผืนแผ่นดิน โดยที่พวกเขาได้ทำการกล่าวตัสบีหฺ(กล่าวซุบหานัลเลาะฮ์) กล่าวตักบีร(อัลเลาะฮ์อักบัร) กล่าวตะฮ์ลีล(ลาอิลาฮ่าอิลลัลลอฮ์) กล่าวตะหฺมีด(อัลหัมดุลิลลาฮ์) และทำการวอนขอต่อพระองค์" อัลเลาะฮ์ทรงตรัสถามว่า "แล้วอะไรที่พวกเขาได้วอนขอกับฉัน? " บรรดามะลาอิกะฮ์ตอบว่า "พวกเขาได้ขอพระองค์ กับสรวงสวรรค์ของพระองค์" อัลเลาะฮ์ทรงตรัสถามว่า "แล้วพวกเขาเคยเห็นสรวงสวรรค์ของฉันหรือไม่ล่ะ?" มะลาอิกะฮ์ตอบว่า ไม่เคย โอ้ผู้อภิบาลแห่งเรา! " อัลเลาะฮ์ทรงตรัสถามต่อว่า "แล้วอย่างไรเล่า หากพวกเขาได้เห็นสรวงสวรรค์ของฉัน?" มะลาอิกะฮ์กล่าวว่า "และพวกเขาก็ทำการขอความคุ้มครองกับพระองค์" พระองค์ทรงตรัสถามว่า "พวกเขาขอความคุ้มครองฉันจากอะไร? มะลาอิกะฮ์กล่าวว่า "จากไฟนรกของพระองค์ โอ้ผู้อภิบาลแห่งเรา!" อัลเลาะฮ์ทรงตรัสถามว่า "แล้วพวกเขาเคยเห็นไฟนรกของฉันหรือไม่ล่ะ?" มะลาอิกะฮ์ตอบว่า ไม่เคย " อัลเลาะฮ์ทรงตรัสถามต่อว่า "แล้วอย่างไรเล่า หากพวกเขาได้เห็นไฟนรกของฉัน?" มะลาอิกะฮ์ตอบวา "พกเขาก็ทำการอิสติฆฟารต่อพระองค์" อัลเลาะฮ์ทรงตรัสว่า "ฉันได้อภัยแก่พวกเขาแล้ว แล้วฉันก็ได้ให้สิ่งที่พวกเขาได้ขอ และจะปกป้องสิ่งที่พวกเขาได้ขอความคุ้มครอง" ท่านนบี(ซ.ล.)กล่าวว่า "แล้วมะลาอิกะฮ์ได้กล่าวว่า โอ้ผู้อภิบาลแห่งเรา ในพวกเขา(ที่ทำการซิกิรุลเลาะฮ์)นั้น มีคนหนึ่งที่เป็นบ่าวผู้กระทำผิด โดยที่เขาได้เดินผ่านมา แล้วก็นั่งร่วมด้วยกับพวกเขา" ท่านนบี(ซ.ล.)กล่าวว่า "แล้วพระองค์ก็ทรงตรัสว่า ฉันอภัยให้แก่เขาแล้ว โดยที่บรรดาพวกที่ทำการซิกิรนั้น ผู้ที่นั่งร่วมด้วยก็จะไม่อับโชค ด้วยกับพวกเขา(ที่ทำการนั่งซิกิร) " ดู ซอฮิหฺมุสลิม หะดิษที่
....................
แล้วตรงใหนล่ะครับ ที่เป็นหลักฐาน การกินบุญคนตาย 3 วัน 7 วัน พร้อมกับซิกิรอุทิศผลบุญแก่มัยยิต ท่านนบี ศอลฯ ทำไว้หรือเปล่า และเศาะหาบะฮท่านใดที่ซิกีร ล้อมวง อุทิศส่วนบุญให้ผู้ตาย ที่บ้านมัยยิต หลอกชาวบ้านอีกแล้ว มุหัมหมัด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น