วันพุธที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2563

ประเพณีทำบุญกุโบร์

ประเพณีทำบุญกุโบร์

ทางภาคใต้บางท้องที่ มีประเพณีหนึ่งที่บรรพบุรุษก่อนๆได้กำหนดขึ้นมา ของทุกปี เรียกประเพณีนี้ว่า "การทำบุญกุโบร์ "
ก็จะมีชาวบ้านลูกหลานผู้ตาย ทั้งที่อยู่ในหมู่บ้านและที่ไปตั้งภูมิลำเนาที่อื่น ก็จะกลับมารวมตัวกัน หุงหาอาหารไปทำบุญที่กูโบร์ โดยเชิญละแบมารับประทานอาหารและดุอาอุทิศบุญให้คนตาย บางคนก็เชิญละแบไปที่หลุมศพพ่อแม่หรือญาติของแต่ละคน เพื่ออ่าน ตะฮลิล และดุอาอุทิศให้ แล้วก็มอบเงินให้เป็นค่าอ่านดุอา บรรดาละแบที่ถูกเชิญมา เมื่อเสร็จพิธีแล้ว จะมีการแจก “จาด”(หมายถึง เงินและของกินที่ถูกบรรจุในภาชนะที่จัดไว้แจกโตะละแบที่เชิญมา)

ประเพณีนี้เป็นไปได้ว่า ประยุกต์มาจากประเพณีท้องถิ่นทางใต้บางแห่งของชาวพุทธ์ เรียกว่า "ประเพณีว่างป่าช้า"(บ้านๆเรียกว่า"ว่างเปลว) เมื่อถึงกำหนดวันที่นัดกันไว้แต่ละปี ชาวพุทธก็นำอาหารไปเลี้ยงพระ ที่ป่าช้าเพื่อสวดอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ตาย ในป่าช้านั้นๆ
สำหรับชาวจีน ที่นับถือศาสนาพุทธ เรียกประเพณีนี้ว่า "ประเพณีเช้งเม้ง" วันเช็งเม้ง ถือว่าเป็นประเพณีที่สำคัญมากที่สุดของของชาวจีน เนื่องจากเป็นประเพณีไหว้บรรพบุรุษที่สุสาน เพื่อแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ ในประเทศไทยเทศกาลเช็งเม้ง อยู่ในช่วงวันที่ 4-5 เมษายนของทุกปี

การกำหนดประเพณีหรือเทศกาลทำบุญกุโบร์ประจำปี นั้นไม่มีแบบอย่างจากอัสสุนนะฮนบี ศอ็ลฯ ไม่มีแบบอย่างมาจากบรรดาเคาะลิฟะฮรอชิดีน และบรรดาชาวสะลัฟผู้ทรงธรรม ไม่มีในคำสอนของอิหม่ามมัซฮับทั้งสี่

ส่วนการอ้างว่า "เป็นการเยี่ยมกุโบร์"นั้น การเยี่ยมกุโบร์ เป็นอิบาดะฮที่ไม่มีการจำกัดวัน และเวลา ใครสะดวกวันใหน เวลาใหน ก็ได้ การมากำหนดวันเวลา โดยถือว่าเป็นบทบัญญัติศาสนา นั้น ถือเป็นบิดอะฮ

อิหม่าม อบูชามะฮ (ร.ฮ) กล่าวว่า

"ولا ينبغي تخصيص العبادات بأوقات لم يخصصها بها الشرع ، بل يكون جميع أفعال البر مرسلة في جميع الأزمان ليس لبعضها على بعض فضل ، إلا ما فضله الشرع وخصه بنوع من العبادة ، فإن كان ذلك ، اختص بتلك الفضيلة تلك العبادة دون غيرها

ไม่สมควรเจาะจงอิบาดะฮ ด้วยบรรดาเวลา ซึ่ง ศาสนบัญญัติไม่ได้เฉพาะเจาะจงด้วยมัน แต่ทว่า บรรดาการกระทำความดีทั้งหมด ถูกปล่อยให้อยู่ในบรรดาเวลา โดยที่ส่วนหนึ่งไม่ได้มีความประเสริฐเหนืออีกส่วนหนึ่ง เว้นแต่ สิ่งที่ ศาสนบัญญัติได้ระบุความประเสริฐมันและได้เฉพาะเจาะจงมัน ด้วยชนิดอิบาดะฮ เพราะถ้าหากได้ปรากฏดังกล่าวนั้น อิบาดะฮดังกล่าวนั้นก็ได้ถูกเจาะจง ด้วยความประเสริฐดังกล่าว โดยไม่ได้เจาะจงอิบาดะฮอื่นจากมัน- อัลบาอิษ ลิอิงการิลบิดอิ วัลหะวาดิษ หน้า 48
..........

คือ หมายถึงเจาะจงเวลา โดยเชื่อว่า ดีกว่าเวลาอื่นโดยที่ไม่มีหลักฐานทางศาสนาเจาะจงไว้ การกระทำแบบนี้ไม่สมควร
การเยี่ยมกุโบร์ ต่างคนต่างทำ สะดวกวันใหนไปวันนั้น ไม่มีพิธีกรรมชุมกันในรอบปี และเชิญผู้คนมาชุมนุมเพื่ออ่านตะฮลิลและดุอาอุทิศบุญคนตายในสุสาน

มีแต่ดุอาที่ท่านนบี ศ็อลฯไว้สำหรับเยียมกุโบร์คือ

السَّلامُ عَلَيْكُمْ أَهْلَ الدِّيَارِ مِنَ الْـمُؤْمِنِينَ وَالْـمُسْلِـمِينَ، وَإنَّا إَنْ شَاءَ الله بِكُمْ لَاحِقُوْنَ، نَسْأَلُ اللهَ لَنَا وَلَكُمُ العَافِيَةَ
อ่านว่า:
อัซซ่าลามุ อะลัยกุม อะฮฺลัดดิยารี่ มินัลมุอฺมินีน่า วัลมุสลิมีน่า วะอินนาอินชาอัลลอฮฺ บิกุมลาฮิกูน นัสอะลุ้ลลอฮ่าละนา ว่าล่ากุมุลอาฟียะฮฺ
คำแปล
ความสันติจงประสบแด่พวกท่าน โอ้ชาวสุสานเอ๋ย ทั้งมุอฺมิน และมุสลิมทั้งหลาย และแท้จริงเรา หากอัลลอฮฺทรงประสงค์เราก็จะตามพวกท่านไป เราขอต่ออัลลอฮฺให้ทั้งพวกเราและพวกท่านให้รอดพ้น(จากการลงโทษ)
................

ส่วนการเจาะจงวันหนึ่งวันใดในรอบปี นั้น มาดูฟัตวาของสภาอุลามาอฺประเทศซาอุดีย์ ระบุไว้ดังนี้
السؤال:
في رجب أول يوم وآخر يوم يزورون المقبرة، هل هذا جائز أم لا؟ .
คำถาม
ในเดือนเราะญับ วันแรกและวันสุดท้าย พวกเขาเยี่ยมสุสาน ในกรณีนี้อนุญาตหรือไม่?
الجواب :
لا يجوز تخصيص يوم معين من السّنة لا الجمعة ولا أول يوم من رجب ولا آخر يوم في زيارة المقابر؛ لعدم الدليل على ذلك وإنما المشروع أن تزار متى تيسر ذلك من غير تخصيص يوم معين للزيارة؛ لقول النبي صلى الله عليه وسلم: ( زوروا القبور فإنها تذكركم الآخرة ) صحيح مسلم الجنائز (976).
คำตอบ
ไม่อนุญาตให้เจาะจงวันที่เฉพาะ ของปี ไม่ว่าจะเป็นวันศุกร์ และไม่ว่าจะเป็นวันแรก ของเดือนเราะญับ และไม่ว่าวันสุดท้าย ในการเยี่ยมบรรดาสุสาน(กุโบร์) เพราะไม่มีหลักฐาน บนดังกล่าวนั้น และความจริง สิ่งที่ถูกบัญญัติไว้คือ การที่ท่านเยี่ยม เวลาใดก็ได้ที่สะดวก ดังกล่าวนั้น โดยไม่เจาะจงวันที่เฉพาะสำหรับการเยี่ยม เพราะท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า (พวกท่านจงเยี่ยมบรรดากุโบร์ เพราะแท้จริง มันทำให้พวกท่านระลึกถึงวันอาคีเราะฮ – ดูเศาะเฮียะมุสลิม กิตาบอัลญะนาอิซ หมายเลข 976- ฟะตาวาอัลลุจญนะฮ อัดดาอิมะฮ ลิลบุหูษอัลอิลมียะฮ วัลอิฟตาหฺ ยุซที่ 9 หน้า 113-114 เรื่อง ญะนาอิซ ฟัตวาหมายเลข 8818
....
แม้แต่กุโบร์ของท่านนบี ศ็อลฯ ท่านนบี ศ็อลฯสั่งห้ามไม่ให้จัดเทศกาลชุมนุมกันเพื่อมาทำการเยี่ยมหรืออิบาดะฮที่หลุมศพของท่าน โดยท่านนบี ศ็อลฯกล่าวว่า

وَلَا تَجْعَلُوا قَبْرِي عِيدًا

และอย่ากำหนดให้หลุมศพ(กุโบร์)ของฉัน เป็นเทศกาลชุมชุม -รายงานโดยอบูดาวูด

อิหม่ามอัชชาฏิบีย์ (ร.ฮ) กล่าวถึงตัวอย่างของบิดอะฮว่า

ومنها التزام العبادات المعينة، في أوقات معينة ، لم يوجد لها ذلك التعيين في الشريعة ، كالتزام صيام يوم النصف من شعبان ، وقيام ليلته

ส่วนหนึ่งจากมันคือ การยึดติดกับการปฏิบัติบรรดาอิบาดะฮที่เฉพาะ ในบรรดาเวลาที่เฉพาะ ,การเจาะจงดังกล่าวนั้น ไม่พบสำหรับมัน ในศาสนบัญญัติ เช่น การยึดติดกับการถือศีลอด นิสฟูชะอบาน และการละหมาดในคำคืนนั้น - อัลเอียะติศอม 1/37-39
.............
คือ การเจาะจงอิบาดะฮที่เฉพาะ หรือเวลาที่เฉพาะ โดยศาสนาบัญญัติ ไม่ได้เจาะจงไว้ มันคือบิดอะฮ

อนึ่ง ทั้งหมดข้างต้นคือข้อมูลทางวิชาการที่ให้พี่น้องผู้อ่านและพิจารณา เท่านั้น ไม่ประสงค์จะบังคับหรือดูหมิ่นดูแคลน แต่ให้ทุกท่านทำอิบาดะฮที่มีหลักคำสอนโดยดำเนินตามแบบอย่างนบีเท่านั้น มิได้เจตนาอย่างอื่น หากพี่น้องไม่ถูกใจ ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
16/6/62

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น