#พึงรู้เถิดว่าเตาฮีดแบ่งออกเป็น_3_ประเภท

#พึงรู้เถิดว่าเตาฮีดแบ่งออกเป็น_3_ประเภท

#เตาฮีด (การให้เอกภาพต่ออัลลอฮฺ)

① เตาฮีดรุบูบียะฮฺ
② เตาฮีดอุลูฮียะฮฺ
③ เตาฮีดอัซมาอฺวัศศิฟาต

เตาฮีดทั้งสามนี้ รวมกันใน 1 อายะฮฺ นั้นคือดำรัสของอัลลอฮฺ ที่ว่า :

‎رَبُّ السَّمَاوَاتِ وَالأَرْضِ وَمَا بَيْنَهُمَا فَاعْبُدْهُ وَاصْطَبِرْ }
{ ‎لِعِبَادَتِهِ هَلْ تَعْلَمُ لَهُ سَمِيّاً

"พระเจ้าแห่งบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดินและสิ่งที่อยู่ระหว่างทั้งสอง ดังนั้นจงเคารพภักดีต่อพระองค์ และจงอดทนต่อการเคารพภักดีพระองค์สูเจ้ารู้หรือว่ามีผู้ใดเสมอเหมือนพระองค์ ? "

🔹ประเภทที่ 1 : เตาฮีดรุบูบียะฮฺ

คือการให้เอกภาพต่ออัลลอฮฺองค์เดียวในเรื่องของการสร้าง การปกครอง และการบริหาร ดังที่อัลลอฮฺ ทรงตรัสว่า :

‎ { أَلا لَهُ الْخَلْقُ وَالأَمْر }

"พึงรู้เถิดว่า การสร้างและกิจการทั้งหลายนั้นเป็นสิทธิของพระองค์เท่านั้น"

🔹ประเภทที่ 2 : เตาฮีดอุลูฮียะฮฺ

คือการมอบการอิบาดะฮฺ(สักการะ) แด่พระองค์ องค์เดียวเท่านั้น และพระองค์คือผู้ควรแก่การอิบาดะฮฺเท่านั้น ดังที่พระองค์ตรัสว่า :

‎{ ذَلِكَ بِأَنَّ اللَّهَ هُوَ الْحَقُّ وَأَنَّ مَا يَدْعُونَ مِنْ دُونِهِ الْبَاطِل }

"นั่นเพราะว่าอัลลอฮฺนั้น พระองค์คือผู้ทรงสัจจะ และเพราะว่าสิ่งที่พวกเขาวิงวอนขออื่นจากพระองค์นั้นเป็นเท็จ"

คำว่า #อิบาดะฮฺ

ชัยคุลอิสลาม อิบนุ ตัยมียะฮฺ ได้ให้คำจำกัดความไว้ว่า : คือคำที่รวมทุก ๆ สิ่ง ที่อัลลอฮฺทรงรักและพอพระทัยเอาไว้ ทั้งจากคำพูด การกระทำ ทั้งที่เปิดเผยและอยู่ในใจ

ตัวอย่างเช่น : การวิงวอนขอต่อพระองค์ ความรักความกลัว และความหวังต่อพระองค์ การเชือดสัตว์พลีเพื่อพระองค์ เป็นต้น

🔹ประเภทที่ 3 : เตาฮีดอัซมาอฺวัศศิฟาต

คือการเชื่อว่า พระองค์มีพระนามและคุณลักษณะที่เหมาะสมต่อความยิ่งใหญ่ของพระองค์

#เรื่องนี้ จะต้องมี 2 สิ่งด้วยกัน :

1- การยืนยัน ، เราจะต้องยืนยันทุกๆพระนามและคุณลักษณะของพระองค์ที่พระองค์ระบุไว้ ในคำภีร์ของพระองค์และในคำพูดของรอซูลของพระองค์ ﷺ

2- ปฏิเสธการให้รูปร่างต่อพระองค์ ดังกล่าวนี้เราจะไม่พูดว่าพระองค์ทรงมีรูปร่าง ดังที่พระองค์ทรงตรัสว่า :

‎ { لَيْسَ كَمِثْلِهِ شَيْءٌ وَهُوَ السَّمِيعُ الْبَصِيرُ }

"ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือนพระองค์อัลลอฮฺ พระองค์คือผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงมองเห็น"

———————-🍃-

📖 อธิบายจากหนังสือกิตาบุตเตาฮีด โดย :
ชัยคฺ ซอแหละฮฺ อัลอุษัยมีน [รอฮิมะฮุลลอฮฺ]

#คนรักกันเท่านั้นที่จะขอดุอาอ์ให้กัน

#คนรักกันเท่านั้นที่จะขอดุอาอ์ให้กัน

ชัยคค์อัซซะอฺดีย์ [รอฮิมะฮุลลอฮ์] กล่าวว่า :

❝การ‎ขอดุอาอ์ให้ใครสักคน คือเครื่องหมายหนึ่งที่บ่งบอกถึงความรักที่มีต่อเขาคนนั้น เพราะจะไม่มีใครที่จะขอดุอาอ์ให้ใคร นอกจากจะขอให้แก่คนที่เขารักเท่านั้น❞
______________________

📖 ตัฟซีร อัซซะอฺดีย์ : (732)

#เงื่อนไขที่จะทำให้อิบาดะฮฺถูกตอบรับ :

#เงื่อนไขที่จะทำให้อิบาดะฮฺถูกตอบรับ :

การอิบาดะฮฺนั้นมีพื้นฐานอยู่ 2 พื้นฐาน (2เงื่อนไขที่การอิบาดะฮฺจะถูกตอบรับ) : ☟

☑️ ความบริสุทธิ์ใจต่ออัลลอฮฺ : คือการไม่สักการะต่อสิ่งอิ่นใดนอกจากอัลลอฮฺเท่านั้น หมายถึง การสักการะของเราที่มีต่อพระองค์เราไม่หวังสิ่งใดนอกจากความพอพระทัยของพระองค์เท่านั้น

☑️ การปฏิบัติตามซุนนะห์ (แนวทางของท่านนบี [ﷺ] ) : คือการที่เราไม่ปฎิบัติตามวิธีการอื่น นอกจากวิธีการหรือแนวทางที่อัลลอฮฺ ได้ทรงบัญญัติมาให้ปฎิบัติเท่านั้น

#ส่วนสิ่งที่เรียกว่าอุตริกรรมนั้น คือสิ่งที่ไม่ได้มีในอัลกุรอานและไม่ได้มีในซุนนะห์ (แนวทางของท่านนบี [ﷺ] )

#ถึงแม้จะพูดแบบที่อุตริกรรมพูด (พูดตามที่พวกเขาคิดว่าดีแต่ไม่ได้มีแบบแผนดั่งที่อัลลอฮฺและรอซูล [ﷺ] สั่งใช้)

#ทำแบบที่อุตริกรรมทำ (ทำตามที่พวกเขาคิดว่าดีแต่ไม่ได้มีแบบแผนดั่งที่อัลลอฮฺและรอซูล [ﷺ] สั่งใช้)

แต่นั้นก็ไม่ใช่บทบัญญัติของอัลลอฮฺและรอซูล [ﷺ] ดังนั้น อัลลอฮฺจะไม่รักการงานแบบนี้และท่านรอซูล [ﷺ] เองก็จะไม่รักด้วยเช่นกัน การทำอุตริกรรมในด้านศาสนาไม่ใช่สิ่งที่ดีเลย และมันก็ไม่ใช่การงานที่ดีด้วย (ถึงแม้ผู้คนจะมองว่ามันดีก็ตาม).

#เสริม

قال عبد الله بنُ عمر بن الخطاب رضي الله عنهما:
(كلُ بدعةٍ ضلالةٍ، وإن رآها الناسُ حسنةً)

ท่านอับดุลลอฮฺ บิน อุมัร [รอฎิยัลลอฮุอันฮุมา] ได้กล่าวว่า :

"ทุก ๆ การอุตริกรรมในเรื่องศาสนานั้น คือความหลงผิด ถึงแม้ผู้คนจะมองว่าการอุตริกรรมนั้น เป็นสิ่งที่ดีก็ตาม"

عن ابن مسعود رضى الله عنه قال :
(الاقتصاد في السنة أحسن من الاجتهاد في البدعة)

ท่านอับดุลลอฮฺ อิบนุ มัสอู๊ด [รอฎิยัลลอฮุอันฮุ] ได้กล่าวว่า :

"การปฎิบัติซุนนะห์ (แนวทางของท่านนบี [ﷺ]) แค่เพียงน้อยนิด มันดียิ่งกว่าการขมักเขม้นในการทำบิดอะฮฺ(อุตริกรรม) ที่มากมาย"

———————🍃-

📖 ที่มา :
จากหนังสือ อัลอุบูดียะฮฺ หน้าที่ 41

#จงรู้จักความรักจากแววตาไม่ใช่คำพูดของเขา

#จงรู้จักความรักจากแววตาไม่ใช่คำพูดของเขา

❝จงทำความรู้จักคน ๆ หนึ่ง
จากการกระทำของเขา
ไม่ใช่จากคำพูดของเขา

และจงทำความรู้จักความรักของเขา
จากแววตาของเขา ไม่ใช่จากคำพูดของเขา❞

_______________________

📖 อะดะบุดดีน วัดดุนยา : (319)

#คำคน

#คำคน

❝ผู้ใดที่คิดว่าตัวเขาจะรอดพ้นจากการคำพูดของมนุษย์ เขาผู้นั้นคือคนบ้า

• เพราะขนาดอัลลอฮฺมนุษย์ยังกล่าวว่า พระองค์ทรงแบ่งภาคออกเป็นสามภาค (พระบิดา พระบุตร และพระจิตร)

• มนุษย์ยังกล่าวหาว่า ผู้ที่เป็นที่รักของเราท่านนบี [ﷺ] เป็นนักไสยศาสตร์และคนบ้าเลย

เเล้วท่านคิดหรือว่า คนอื่นจะรอดพ้น(จากการนินทา)?

คำพูดของมนุษย์ก็เหมือนกับก้อนหินใหญ่ หากท่านแบกรับมันไว้บนหลังของท่าน หลังของท่านก็จะหัก แต่หากว่าท่านไม่สนใจ เหยียบมันไว้ใต้เท้าของท่าน ท่านก็จะสูงส่ง และจะได้รับชัยชนะ❞

—————————-🍃-

✍️ คำปราชญ์ :
อีหม่ามอัชชาฟีอี [รอฮิมะฮุลลอฮฺ]

ประเด็นการรวมเหนียต(เจตนา) ระหว่างการถือศีลอดชดใช้ของรอมฎอนเข้ากับการถือศีลอดซุนนะฮฺ 6 วันเดือนเชาวาล อาจมีทัศนะของผู้รู้ที่แตกต่างกัน บ้างก็ว่าได้ บ้างก็ว่าไม่ได้ แต่ทั้งสองฝ่ายเห็นตรงกันว่าการถือศีลอดแบบแยกกันประเสริฐที่สุด และได้ผลบุญสมบูรณ์ที่สุด

ประเด็นการรวมเหนียต(เจตนา) ระหว่างการถือศีลอดชดใช้ของรอมฎอนเข้ากับการถือศีลอดซุนนะฮฺ 6 วันเดือนเชาวาล อาจมีทัศนะของผู้รู้ที่แตกต่างกัน บ้างก็ว่าได้ บ้างก็ว่าไม่ได้ แต่ทั้งสองฝ่ายเห็นตรงกันว่าการถือศีลอดแบบแยกกันประเสริฐที่สุด และได้ผลบุญสมบูรณ์ที่สุด

และคำตอบของประเด็นนี้ที่แอดมินจะนำเสนอต่อไปนี้เป็นทัศนะที่แอดมินยึดและมองว่ามีน้ำหนักสำหรับตัวแอดมิน ส่วนพี่น้องจะเห็นต่างไปจากนี้ก็ไม่ใช่ประเด็นอะไร

__________________________

❍ คำถาม :

อนุญาตหรือไม่ในการรวมเจตนาที่จะถือศีลอดรวมระหว่างการถือศีลอดชดใช้รอมฎอน กับการถือศีลอด 6 ในเดือนเชาวาล ?

❍ คำตอบ :

การเจาะจงเจตนาในการถือศีลอดที่เป็นฟัรฎู เป็นเงื่อนไขหนึ่งที่จะทำให้การถือศีลอดนั้นใช้ได้ และเช่นกันมันเป็นสิ่งที่ถูกให้กระทำในการถือศีลอดที่เป็นซุนนะฮฺ โดยเฉพาะการถือศีลอดที่มีเป้าหมายในตัวของมันเอง เช่น ถือศีลอด 6 วันในเดือนเชาวาล และมันไม่สามารถรวมเอาการถือศีลอด 6 วันในเดือนเชาวาลมารวมกับการถือศีลอดในเดือนรอมฎอนได้ เพราะการถือศีลอด 6 วันในเดือนเชาวาลมันมีเป้าหมายของมันเอง และมันถือเป็นตัวเติมเต็มการถือศีลอดในรอมฎอน เพื่อจะให้มีความสมบูรณ์ เพราะการถือศีลอดในรอมฎอนได้(ผลบุญ) เท่ากับ 10 เดือน เนื่องจากความดีงามทบเท่าถึง 10 เท่า และการถือศีลอด 6 วัน เทียบได้ถึง 60 วัน ซึ่งจะเท่ากับ 2 เดือน และด้วยเหตุนี้ ใครที่ถือศีลอดรอมฎอน และตามด้วย 6 วันเดือนเชาวาล เท่ากับเขาได้ถือศีลอด 1 ปี

และคำพูดของนบีที่ว่า :

«أتبعه» ทำการติดตามมัน

[ บันทึกโดยมุสลิม : 1164 ]

มันเป็นหลักฐานว่า การถือศีอลด 6 วันในเดือนเชาวาล มันแยกคนละส่วนกันกับการถือศีลอดของเดือนรอมฎอน ดังนั้น จะได้รับผลบุญเท่ากับคนที่ถือศีลอด 1 ปีเต็ม ก็เนื่องด้วยการถือศีลอดของรอมฎอนที่ถือว่าได้(ผลบุญ)เท่ากับ 10 เดือน และการถือศีลอด 6 วันในเดือนเขาวาล ได้เท่ากับ 2 เดือน - ดังที่กล่าวมาแล้ว - มันคือ 12 เดือน และถือเป็น 1 ปีเต็ม และด้วยเหตุนี้ จึงไม่ให้รวมการถือศีลอดเชาวาลเข้ากับรอมฎอน และการถือศีลอดชดใช้รอมฎอนก็เช่นกัน

และมีกฎที่ผู้รู้ใช้ คือเมื่อมีอิบาดะฮฺสองอย่างจากประเภทเดียวกันมารวมกัน และพวกเขาจะวางเงื่อนไขว่า อย่างหนึ่งจะต้องไม่เป็นการชดใช้(กอฎออ์) และอีกอย่างหนึ่งเป็นสิ่งที่ทำในเวลา - ดังประเด็นนี้ - ดังนั้น มันจะไม่เกิดการรวมเข้าด้วยกันสำหรับสิ่งดังกล่าวนั้น

และด้วยเหตุนี้ให้มุกัลลัฟ(ผู้ที่ต้องปฏิบัติตามข้อบังคับของศาสนา) ถือศีลอดชดใช้ในวันที่ได้ขาดการถือศีลอดไปจะเนื่องด้วยอุปสรรคหรือไม่ก็ตาม - ตามทัศนะที่มีน้ำหนัก - และพร้อมกันนั้นจะถือว่าเป็นบาปใหญ่สำหรับคนที่ละทิ้งการถือศีลอดวันหนึ่งวันใดในรอมฎอนโดยไม่มีเหตุจำเป็น (ขออัลลอฮฺทรงปกป้อง) แล้วหลังจากนั้นเขาก็ถือศีลอด 6 วันเดือนเชาวาล

__________________________

✍️ ชัยค์อับดุลกะรีม อัลคุฎ็อร [หะฟิซอฮุลลอฮ์]
📖 ฟะตาวานูร อะลัดดัรบ์

#หุก่มของการไว้เล็บยาว.

#หุก่มของการไว้เล็บยาว

• คำตอบ : การไว้เล็บยาวนั้นเป็นสิ่งที่ต้องห้ามทั้งชายและหญิง ผู้ผญิงไม่สามารถไว้เล็บยาวได้ และผู้ชายก็ไม่สามารถไว้เล็บยาวได้เช่นกัน

#และระยะเวลาที่จะปล่อยให้เล็บยาวนั้น คือ 40 คืน หากว่าไว้ยาวเกิน 40 คืน จำเป็นจะต้องตัดออกด้วยที่ตัดเล็บทั้งหญิงและชาย การถอนขนรักแร้และขนในที่ลับและการขลิบหนวดให้สั้นก็เช่นเดียวกัน

ดังที่มีรายงานจากท่านอนัส [รอฎิยัลลอฮุอันฮุ] ว่า :

« وُقِّتَ لَنَا فِي قَصِّ الشَّارِبِ، وَتَقْلِيمِ الأَظْفَارِ، وَنَتْفِ الإِبِطِ، وَحَلْقِ الْعَانَةِ، أَنْ لَا نَتْرُكَ ذَلِكَ أَكْثَرَ مِنْ أَرْبَعِينَ لَيْلَةً »

“ระยะเวลาของเราในการตัดหนวด ตัดเล็บ ถอนขนรักแร้ และโกนขนในที่ลับ เราจะไม่ปล่อยให้ยาวเกิน 40 คืน”.

📖 [ บันทึกโดยมุสลิม ในหนังสือซอเฮียะของท่าน ]

ความหมายของคำว่า ( وقت لنا ) “ระยะเวลาของเรา” หมายถึง “ระยะเวลาของท่านนบี” และได้ถูกระบุในมุสนัดของอิหม่ามอะหมัด และอิหม่ามอันนะซาอี และท่านอื่น ๆ อีกว่า :

« ‎وقت لنا رسول الله ﷺ »

“ระยะเวลาที่ท่านรอซูล ﷺ กำหนดให้กับเรา”

ถ้อยคำนี้เป็นถ้อยคำที่ชัดเจนในการอ้างรายงานหะดีษว่ามาจากท่านนบี [ﷺ]

ดังนั้น จำเป็นแก่ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ที่จะไม่ให้เล็บยาวกว่าระยะเวลาที่กำหนด

#ส่วนระยะเวลาที่น้อยสุดนั้น อันนี้เป็นเรื่องที่กว้าง ไม่ได้ถูกกำหนดว่าเท่าใด แต่ทว่า อย่าให้นานเกินกว่า 40 คืน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเล็บ ขนรักแร้ ขนในร่มผ้า สำหรับผู้ชายนั้นก็เพิ่มในเรื่องของหนวดเข้ามา.

———————🍃-

✍️ ตอบโดย :
ชัยคฺ อับดุลอะซีซ บิน บาซ [รอฮิมะฮุลลอฮฺ]

https://binbaz.org.sa/fatwas/11252/%D8%AD%D9%83%D9%85-%D8%A7%D8%B7%D8%A7%D9%84%D8%A9-%D8%A7%D9%84%D9%85%D8%B1%D8%A7%D8%A9-%D8%A7%D9%84%D8%A7%D8%B8%D8%A7%D9%81%D8%B1?fbclid=IwAR0AHvw9ZTr0-naQs1cVGO_QI7cW2MhdiCNXH14PGGv7aVqaBEXjzmd0ML4

#วิธีลบล้างบาปจากการนินทา

#วิธีลบล้างบาปจากการนินทา

❝ที่ถูกต้องแล้ว ไม่ตัองแจ้งให้เขาทราบ
แค่ขออภัยโทษจากอัลลอฮ์ให้แก่เขา
และกล่าวถึงความดีของเขาที่เขามีอยู่
ในสถานที่ที่เราเคยกล่าวนินทาเขาไว้ก็พอ❞

________________________

✍️ อิบนุล ก็อยยิม [รอฮิมะฮุลลอฮ์]
📖 อัลวาบิล อัศศัยยิบ : (389)

#ผลบุญจากการศอลาวาตเเก่ท่านนบี [ﷺ]

#ผลบุญจากการศอลาวาตเเก่ท่านนบี [ﷺ]

• แท้จริงท่านนบี [ﷺ] กล่าวว่า :

« مَنْ صَلَّى عَلَيَّ صَلَاةً وَاحِدَةً صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ عَشْرَ صَلَوَاتٍ، وَحُطَّتْ عَنْهُ عَشْرُ خَطِيئَاتٍ، وَرُفِعَتْ لَهُ عَشْرُ دَرَجَاتٍ ».

📖 [ رواه النسائي : ١٢٩٧ ]

❝ผู้ใดที่ศอลาวาตให้เเก่ฉันหนึ่งครั้ง
อัลลอฮ์จะทรงศอลาวาตให้แก่เขาสิบครั้ง
และลบล้างให้แก่เขาสิบความผิดบาป
และยกระดับให้แก่เขาสิบระดับขั้น❞

______________________

: « اللَّهُمَّ صَلِّ عَلَى مُحَمَّدٍ وَعَلَى آلِ مُحَمَّد »

#ความลับแห่งความสุขของสตรี

#ความลับแห่งความสุขของสตรี

• อัลลอฮ์ [ﷻ] ทรงตรัสว่า :

{ فَالصَّالِحَاتُ قَانِتَاتٌ حَافِظَاتٌ لِلْغَيْبِ بِمَا حَفِظَ اللَّهُ ۚ }

❝บรรดากุลสตรีนั้นคือผู้จงรักภักดี ผู้รักษาในทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นความลับของสามี เนื่องด้วยสิ่งที่อัลลอฮฺทรงรักษาไว้❞

• นี่คือหลักฐานที่พูดถึงหน้าที่ของ “ภรรยาที่ดี”
มี 2 คุณลักษณะด้วยกัน :

❶ นางเป็นผู้ที่รักษาหน้าที่ ที่อัลลอฮฺได้มอบหมายให้
❷ นางได้รักษาหน้าที่ ที่นางจะต้องปฏิบัติกับสามีและครอบครัวของนาง

คำว่า {صالحات} “สตรีที่ดี” คือผู้ที่รักษาความลับของสามี ดูแลทรัพย์สิน ครอบครัว ลูกหลานให้แก่สามี ไม่นำเรื่องบนเตียงไปเล่าให้ผู้อื่นฟัง รักษาสิทธิของสามีในทุก ๆ เรื่อง

#ลักษณะของภรรยาที่ดี

• คือนางจะต้องดูแลทุก ๆ เรื่องของครอบครัว ดูแลทุก ๆ เรื่องของลูก ๆ ความเป็นอยู่ในครอบครัว(ให้ดีตามแนวทางของศาสนา) แล้วนางจะมีความจำเริญในชีวิต

• คือนางพยายามป้องกันตัวของนางเเละครอบครัวให้พ้นจากเล่ห์กลของชัยฎอน การกระซิบกระซาบของชัยฎอน

• เมื่อสามีมองไปยังนาง เขาจะมีความสุขที่ได้มอง (เพราะว่านางรักษาไว้ซึ่ง มารยาทของนาง หน้าตาของนาง จะเเต่งตัวแต่งหน้าให้สวยงามเมื่ออยู่ต่อหน้าสามี ลักษณะนิสัยของนางที่ดี) และนางจะปฎิบัติตัวของนางให้เชื่อฟังต่อสามีไม่ปฏิเสธเขา (ตราบใดที่คำพูดของเขา ไม่ขัดกับบทบัญญัติ)

#จงบอกข่าวดีแก่ภรรยาที่ดี ว่า :

- เมื่อนางละหมาดครบ 5 เวลา
- ถือศีลอดในเดือนรอมฎอน
- และรักษาอวัยวะเพศให้ดี (ไม่ทำซินา ไม่นินทา)
- และเชื่อฟังสามี

จงเข้าสวนสวรรค์ทางประตูใดก็ได้ตามแต่นางปราถนาเถิด

• การที่นางปรนนิบัติดูแลสามีของนาง นั้นไม่ใช่หมายถึงแค่ว่านางได้เชื่อฟังต่อสามีของนางเท่านั้น แต่นางกำลังเชื่อฟังต่อพระผู้อภิบาลของนางด้วย

• ดังที่อัลลอฮ์ [ﷻ] ทรงตรัสว่า :

{ وَعَدَ اللَّهُ الْمُؤْمِنِينَ وَالْمُؤْمِنَاتِ جَنَّاتٍ تَجْرِي مِن تَحْتِهَا الْأَنْهَارُ خَالِدِينَ فِيهَا وَمَسَاكِنَ طَيِّبَةً فِي جَنَّاتِ عَدْنٍ ۚ وَرِضْوَانٌ مِّنَ اللَّهِ أَكْبَرُ ۚ ذَٰلِكَ هُوَ الْفَوْزُ الْعَظِيمُ }

❝อัลลอฮ์ได้ทรงสัญญาแก่บรรดาผู้ศรัทธาชายและบรรดาผู้ศรัทธาหญิง ซึ่งบรรดาสวนสวรรค์ที่มีแม่น้ำหลายสายไหลอยู่ภายใต้สวนสวรรค์เหล่านั้น โดยที่พวกเขาจะอยู่ในนั้นตลอดกาล และบรรดาสถานที่พำนักอันดีซึ่งอยู่ในบรรดาสวนสวรรค์แห่งความวัฒนาสถาพร และความปิติยินดีจากอัลลอฮฺนั้นใหญ่กว่า นั่นคือ ชัยชนะอันใหญ่หลวง❞

———————🍃-

✍️ โอวาทจาก :
ชัยคฺ อับดุรร็อซซาก บิน อับดุลมั๊วะซิน อัลอับบาด

#บททดสอบที่น่าประหลาดใจ

#บททดสอบที่น่าประหลาดใจ

❝ฉันได้เห็นหนึ่งจากบททดสอบที่น่าประหลาดใจ คือการที่ผู้ศรัทธาคนหนึ่งขอดุอาอ์แล้วดุอาอ์นั้นไม่ถูกตอบรับ

ซึ่งเขาก็ยังวอนขอดุอาอ์ซ้ำอยู่อย่างนั้น ผ่านระยะเวลานานขึ้น เขาก็ยังไม่เห็นวี่แววของการตอบรับดุอาอ์นั้นเลย

ดังนั้น สมควรที่เขาจะต้องรู้แล้วว่า นี้คือบททดสอบที่จะต้องอาศัยความอดทน❞

________________________

✍️ อิบนุล เญาซีย์ [รอฮิมะฮุลลอฮ์]
📖 ศัยดุล คอฏิร : (20)

#ความทุกข์ใจที่ไม่ทราบสาเหตุใด

#ความทุกข์ใจที่ไม่ทราบสาเหตุใด

• ท่านซุฟยาน บิน อุยัยนะฮ์ [รอฮิมะฮุลลอฮ์]
ถูกถามถึงความทุกข์ใจที่ไม่ทราบสาเหตุ ?

ท่านตอบว่า : มันคือบาปที่ท่านตั้งใจจะทำมันอย่างลับ ๆ แต่ยังไม่ได้ทำ ดังนั้น ท่านก็จะถูกตอบแทนความตั้งใจนั้นด้วยกับความทุกข์ใจ.

• ชัยคุลอิสลาม [รอฮิมะฮุลลอฮ์] อธิบายว่า :

❝ดังนั้น ทุก ๆ ความผิดจะมีการลงโทษสำหรับมัน ซึ่งความผิดอย่างลับ ๆ ก็จะถูกลงโทษอย่างลับ ๆ ความผิดอย่างเปิดเผย ก็จะถูกลงโทษอย่างเปิดเผย❞

________________________

📖 มัจมูอ์ อัลฟะตาวา : (14/111)